
Busan ปูซานนนค่ะทุกคน และเราก็ได้ย้ายมาทางตอนใต้ของเกาหลี เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจาก โซล โดยเรานั่ง KTXจากโซลแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นบัตรขึ้นรถไฟความเร็วสูงของเกาหลีได้ทุกประเภท KTX ราคาก็เริ่มต้นที่ 59,800 วอนต่อคน อันนี้เป็นแบบนั่ง แบบยืนก็จะอีกราคานึงค่ะ จะพบกับเมืองริมทะเลเกาหลีสุดชิว โอปป้างานดี และทีเด็ดคงหนีไม่พ้นอาหารทะเลสดๆ ส่วนแลนด์มาร์ดดังๆ ก็มีเพียบ เรียกได้ว่าเก๋ไก๋ไม่แพ้โซลเลยค่ะ

ที่พักของเราอยู่ที่ Nampo-dong เพราะสะดวกในการเดินทางทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถเมล์และของกินค่ะ Nampodong Shopping Stree แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองของปูซานเลย ร้านดัง แบรนด์ฮิตต่างมารวมตัวที่นี่กันหมด ทั้งเครื่องสำอางค์ รองเท้า ร้านของกิน สตรีทฟู้ด ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกเพียบ

Korea Street Food สิ่งนี้แหละที่เราสนใจ กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องจริงๆ ทั้งโอเด้ง ต็อกป๊อกกี แป้งทอด และขนมขึ้นชื่ออย่าง

โฮต็อก (호떡) ภายนอกอาจจะดูธรรมดา แต่ขอบอกว่าอร่อยมาก ทีเด็ดจะอยู่ที่ ตัวแป้งจะนุ่มๆ เอาไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เสร็จแล้วจะเอากรรไกรมาตัดแป้งผ่าออกทีเด็ดมันอยู่ที่ การสอดไส้เมล็ดทานตะวันน้ำตาล อบเชย ไปอยู่ท่ามกลางแป้งร้อนๆ กินกันเพลินๆ ยิ่งกินตอนหนาวๆ ขอบอกเลยว่าฟินมากกกกกค่ะ ราคาก็อยู่ที่ชิ้นละ 1,000 ถึง 1,300 แล้วแต่ที่ แฟนประทับใจสิ่งนี้มากนางกินวันละ 3-4 ชิ้นเลยทีเดียว 55555
***ในส่วนของรูปขนมโฮต๊อก ขออนุญาติ Google นะคะ ไม่ได้ถ่ายไว้จริงๆ***

Songdo Skywalk ที่นี่จะเป็นสะพานไม้ แล้วตรงกลางเค้าจะ Temper glass จะเหมือนฟีลเดินบนทะเล มองเห็นด้านล่างได้เลย สูงจากทะเลประมาณ 5–6 เมตรสร้างเป็นแบบลักษณะโค้งไปมาคล้ายกับมังกรที่บินอยู่บนทะเล แถมมีระยะทางความยาวถึง 365 เมตรเลยทีเดียว ใครชอบถ่ายรูปต้องแวะมาถ่ายวิวนี้นะ มีเส้นนำสายตา ชิคมากกก

และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ กระเช้า Busan Air Cruise ส่วนระยะทางของ Busan Air Cruise ยาวถึง 1.62 กิโลเมตร สามารถย่อระยะเวลาข้ามฝั่งตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก จาก Songnim Park มา Amnam Park ได้ภายใน 8 นาทีเท่านั้น และมีความสูงจากพื้นถึง 86 เมตร ทำให้มองเห็นวิวของหาดซองโดไปถึงเกาะยองโดได้เลยทีเดียว

ราคา
กระเช้าธรรมดาเที่ยวละ 12,000 วอน ไปกลับ 15,000 วอน
กระเช้าคริสตัล เที่ยวละ 16,000 วอน ไปกลับ 20,000 วอน
เวลาเปิดทำการ
09.00–22.00 น. เสาร์อาทิตย์เปิดถึง 23.00 น.
Gamcheon Culture Village หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ที่นี่คือหนึ่งใน List ของนักท่องเที่ยวชาวฮิปสเตอร์ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Machu Picchu of Busan ด้วยวิวหมู่บ้านสีลูกกวาดที่โคตรน่าร้าก เรียงสลับสีไปมา

ไฮไลท์ของที่นี่คือ ป้ายปลาไม้ยักษ์ค่ะ ทำจากไม้หลากสีหลายๆ แผ่นต่อกันให้เป็นรูปร่างปลายักษ์ แต่ตรงนี้คนเยอะเอาการ อยากถ่ายสวยๆ ต้องอดใจรอนิสนึง ใครชอบเสพงานศิลปะ สตรีทอาร์ต มาที่นี่ฟินแน่นอน มีให้ชมกันเกือบทุกซอกทุกมุมเลย

และใครที่เป็นแฟน “เจ้าชายน้อย” ห้ามพลาด!! เพราะมีจุดถ่ายรูปสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่อแถวกันยาวเหยียด หรือใครเป็นแฟนๆ 2PM ก็มาตามรอยกันได้เลย

เวลาเปิดทำการ
มีนาคม — พฤศจิกายน ตั้งแต่ 09:00–18:00 น.
ธันวาคม — กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 09:00–17:00 น.
Oryukdo Skywalk ออยุคโด เที่ยวปูซาน ต้องไม่พลาดชม ออยุคโด (Oryukdo Skywalk) ทางเดินลอยฟ้าพื้นกระจกใส สถานที่ท่องเที่ยวของปูซานที่ใครๆก็ต้องมา เพราะเดินทางสะดวก Oryukdo Skywalk ทางเดินลอยฟ้าพื้นกระจกแห่งนี้ ตั้งอยู่บนหน้าผา ยื่นออกไปกลางทะเล มีความยาว 35 เมตร พื้นปูด้วยกระจกหนา 50 มม. เคลือบสารกันกระสุนเพื่อเสริมความแข็งแรง เพื่อนๆที่กลัวความสูง งานนี้มีเสียวแน่ๆ แต่มาถึงปูซานแล้วก็อยากให้แวะมาชมความงามของสถานที่แห่งนี้กัน แต่ถ้าหากทุกคนมีเวลาน้อย ไอซ์แนะนำให้ไปที่ Songdo Skywalk ดีกว่าเพราะจุดถ่ายรูปเยอะกว่าที่นี่ค่ะ

ที่จริงมีตรงสวนด้วยนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ToT
Haedong Yonggungsa Temple ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่สวยสุดในปูซาน เป็นวัดที่มีความเก๋ตรงที่สร้างอยู่บนโขดหินริมทะเล มาตั้งแต่ปี 1376 และได้ทำการบูรณะอีกครั้งในปี 1970 จนมาถึงปัจจุบัน โดยจะมีเจดีย์สามชั้น และสิงโตสี่ตัว หันหน้าออกไปทางทะเล ซึ่งสิงโตทั้งสี่ตัวนี้ คือสัญลักษณ์ของความยินดี ความโกรธ ความเศร้า และความสุข ส่วนช่วงพีคของที่นี่จะ 2ช่วงคือ ตอนปีใหม่ คนจะมาชมพระอาทิตย์แรกของปีและไหว้พระขอพร / ตอนเมษาที่ดอกซากุระบาน วัดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่งสวยงามเต็มพื้นที่บริเวณวัด และถ้าใครอยากมีน้อง มาขอที่นี่ได้ ให้เดินทางลงบันไดด้านขวามือ จะมีรูปปั้นหินพระอ้วน ถ้าลูบท้องจะโชคดีเรื่องได้ลูกชายค่ะ ส่วนตรงกลางวัดเค้าจะมีเหมือนถ้ำเล็กๆ ให้เดินลงไป แต่ตอนที่ไอซ์ไปเหมือนเขาปิดปรับปรุงค่ะเลยไม่ได้เข้าไป ส่วนตัวไอซ์ถือว่าคุ้มเพราะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยมีในไทย อีกทั้งไอซ์ก็นับถือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากที่ได้ไปกราบไหว้ท่าน แม้จะนั่งรถนานหน่อยเกือบ 2 ชั่วโมงแหนะ (ระยะทางแล้วแต่ที่พัก)
Jagalchi Market มาปูซานทั้งทีจะพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับอาหารทะเลที่สดๆทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา และที่สำคัญคือมีปู Alaska King Crab ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 85,000 วอน ซึ่งถ่อว่าไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับที่ไทย และก็ไม่ได้ชิมเพราะงบไม่พอ แป่ว!!5555 แต่ก็ได้ลองทานเซตปลาย่าง และ sashimi ราคาเริ่มที่ 10,000 วอนขึ้นไป ขอบอกว่าคุ้มมากเพาะเซตนึงมาเกือบ10 กว่าจาน กินจนพุงกางเลยก็ว่าได้
Jeongbang Waterfall น้ำตก Jeongbang ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเชจูเป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเชจู น้ำตกนี้มีความสูงถึง 23 เมตรเป็นน้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่ตกลงสู่มหาสมุทรโดยตรง หลังจากซื้อบัตรผ่านประตูมาที่ Jeongbang คุณจะต้องเดินลงบันไดเพื่อไปยังน้ำตก ค่าเข้าอยู่ที่คนละ 2,000 วอนค่ะ แม้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการเดินจากลานจอดรถไปจนถึงน้ำตก แต่คุณอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการหยุดเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามระยะทาง เมื่อถึงนํ้าตกแล้วก็หาที่จับจองถ่ายรูปได้เลย ขอบอกว่าคนเยอะมากเลยทีเดียว ไอซ์ไปช่วงที่เกาะเจจูฝนตกพอดี ทำให้ได้เที่ยวแค่ที่นี่ที่เดียวเอง เสียดายมาก หากได้มีโอกาสจะกลับไปที่เกาะแห่งนี้อีกแน่นอนค่ะ

Tips
อย่าลืมใส่รองเท้าที่สบายในการเดินทางนะคะ เนื่องจากหินที่อยู่ใกล้กับน้ำตกนั้นลื่นมาก ไอซ์ไปที่นั่นในตอนเช้าและเต็มไปด้วยผู้คน หากทุกคนต้องการสัมผัสกับบรรยากาศและไม่อยากได้คนอื่นติดเฟรมมา ก็ตื่นก่อนและไปที่นั่นโดยประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ
ส่วนไอซ์ก็มีแฟนเพจเป็นของตัวเองด้วยน้าาาา
https://www.facebook.com/ptorpanya/
และช่อง Youtube Channel อย่าลืมกดLike กดShare และ กดSubscribed เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
สำหรับความคิดเห็นในทริปนี้ ไอซ์ว่าคุ้มนะที่ได้ไปเพราะมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากไทยเรามาก เมื่อเปรียบเทียบกับทริปกัมพูชาและบาหลีที่ผ่านมา อีกทั้งเกาหลีใต้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นกรุง New York ของเอเชียแล้ว และแน่นอนของที่นั่นแพงมาก โดยเฉพาะอาหาร เพื่อนที่อยู่เมกายังบอกว่า บางอย่างแพงกว่าที่โน่นเยอะ อย่างอาหารในร้านอาหารก็จะอยู่ที่ 5,000 วอนขึ้น ซึ่งถือว่าแพงกว่าไทยมาก แต่อย่างว่า ค่าครองชีพเค้าแพงจริง แต่รายได้ก็ได้เยอะเช่นกัน จึงมีคนไทยจำนวนมากไปทำงานที่นั่นแบบผิดกฎหมาย
ปล.หากได้ไปเกาหลีแล้วไม่ต้องกลัวตม.นะคะ ถ้าหากเราบริสุทธิ์ใจว่ามาเที่ยวจริงๆ ให้เตรียมตัวและเอกสารให้ครบก็พอ เดี๋ยวไอซ์จะมาโพสว่าการเตรียมตัวยังไงให้ผ่านตม.เกาหลี แต่เอาจริงๆตม. เขาก็โหดจริงนะ ไม่ถามเราสักคำ บางทีเตรียมตัวพร้อมมากเพื่อจะตอบคำถาม แต่ไม่ถามเราเฉยเลย5555
ปล.2 เตรียมเงินให้เยอะๆค่ะ ใครที่ชอบช้อบกับกินนี่เน้นๆเลยค่าาาาาาา ไอซ์ถือคติที่ว่า work hard play hard เที่ยวทั้งทีเอาให้คุ้มค่ะ เมื่อได้เที่ยวแล้วอย่าคิดเล็กคิดน้อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงกลับมาคุณต้องกินมาม่ากับผักต้มนะคะ ใช้จ่ายก็ระวังกันด้วยนะคะ ไอซ์ขอฝากไว้(เตือนตัวเองเหมือนกัน5555)
**********************************
อันยองปูซาน!! เที่ยวให้ครบ ไม่จบไม่ต้องกลับบ้านนน Busan South Korea
Busan ปูซานนนค่ะทุกคน และเราก็ได้ย้ายมาทางตอนใต้ของเกาหลี เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจาก โซล โดยเรานั่ง KTXจากโซลแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นบัตรขึ้นรถไฟความเร็วสูงของเกาหลีได้ทุกประเภท KTX ราคาก็เริ่มต้นที่ 59,800 วอนต่อคน อันนี้เป็นแบบนั่ง แบบยืนก็จะอีกราคานึงค่ะ จะพบกับเมืองริมทะเลเกาหลีสุดชิว โอปป้างานดี และทีเด็ดคงหนีไม่พ้นอาหารทะเลสดๆ ส่วนแลนด์มาร์ดดังๆ ก็มีเพียบ เรียกได้ว่าเก๋ไก๋ไม่แพ้โซลเลยค่ะ
ที่พักของเราอยู่ที่ Nampo-dong เพราะสะดวกในการเดินทางทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถเมล์และของกินค่ะ Nampodong Shopping Stree แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองของปูซานเลย ร้านดัง แบรนด์ฮิตต่างมารวมตัวที่นี่กันหมด ทั้งเครื่องสำอางค์ รองเท้า ร้านของกิน สตรีทฟู้ด ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกเพียบ
Korea Street Food สิ่งนี้แหละที่เราสนใจ กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องจริงๆ ทั้งโอเด้ง ต็อกป๊อกกี แป้งทอด และขนมขึ้นชื่ออย่าง
โฮต็อก (호떡) ภายนอกอาจจะดูธรรมดา แต่ขอบอกว่าอร่อยมาก ทีเด็ดจะอยู่ที่ ตัวแป้งจะนุ่มๆ เอาไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เสร็จแล้วจะเอากรรไกรมาตัดแป้งผ่าออกทีเด็ดมันอยู่ที่ การสอดไส้เมล็ดทานตะวันน้ำตาล อบเชย ไปอยู่ท่ามกลางแป้งร้อนๆ กินกันเพลินๆ ยิ่งกินตอนหนาวๆ ขอบอกเลยว่าฟินมากกกกกค่ะ ราคาก็อยู่ที่ชิ้นละ 1,000 ถึง 1,300 แล้วแต่ที่ แฟนประทับใจสิ่งนี้มากนางกินวันละ 3-4 ชิ้นเลยทีเดียว 55555
***ในส่วนของรูปขนมโฮต๊อก ขออนุญาติ Google นะคะ ไม่ได้ถ่ายไว้จริงๆ***
Songdo Skywalk ที่นี่จะเป็นสะพานไม้ แล้วตรงกลางเค้าจะ Temper glass จะเหมือนฟีลเดินบนทะเล มองเห็นด้านล่างได้เลย สูงจากทะเลประมาณ 5–6 เมตรสร้างเป็นแบบลักษณะโค้งไปมาคล้ายกับมังกรที่บินอยู่บนทะเล แถมมีระยะทางความยาวถึง 365 เมตรเลยทีเดียว ใครชอบถ่ายรูปต้องแวะมาถ่ายวิวนี้นะ มีเส้นนำสายตา ชิคมากกก
และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ กระเช้า Busan Air Cruise ส่วนระยะทางของ Busan Air Cruise ยาวถึง 1.62 กิโลเมตร สามารถย่อระยะเวลาข้ามฝั่งตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก จาก Songnim Park มา Amnam Park ได้ภายใน 8 นาทีเท่านั้น และมีความสูงจากพื้นถึง 86 เมตร ทำให้มองเห็นวิวของหาดซองโดไปถึงเกาะยองโดได้เลยทีเดียว
ราคา
กระเช้าธรรมดาเที่ยวละ 12,000 วอน ไปกลับ 15,000 วอน
กระเช้าคริสตัล เที่ยวละ 16,000 วอน ไปกลับ 20,000 วอน
เวลาเปิดทำการ
09.00–22.00 น. เสาร์อาทิตย์เปิดถึง 23.00 น.
Gamcheon Culture Village หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ที่นี่คือหนึ่งใน List ของนักท่องเที่ยวชาวฮิปสเตอร์ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Machu Picchu of Busan ด้วยวิวหมู่บ้านสีลูกกวาดที่โคตรน่าร้าก เรียงสลับสีไปมา
ไฮไลท์ของที่นี่คือ ป้ายปลาไม้ยักษ์ค่ะ ทำจากไม้หลากสีหลายๆ แผ่นต่อกันให้เป็นรูปร่างปลายักษ์ แต่ตรงนี้คนเยอะเอาการ อยากถ่ายสวยๆ ต้องอดใจรอนิสนึง ใครชอบเสพงานศิลปะ สตรีทอาร์ต มาที่นี่ฟินแน่นอน มีให้ชมกันเกือบทุกซอกทุกมุมเลย
และใครที่เป็นแฟน “เจ้าชายน้อย” ห้ามพลาด!! เพราะมีจุดถ่ายรูปสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่อแถวกันยาวเหยียด หรือใครเป็นแฟนๆ 2PM ก็มาตามรอยกันได้เลย
เวลาเปิดทำการ
มีนาคม — พฤศจิกายน ตั้งแต่ 09:00–18:00 น.
ธันวาคม — กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 09:00–17:00 น.
Oryukdo Skywalk ออยุคโด เที่ยวปูซาน ต้องไม่พลาดชม ออยุคโด (Oryukdo Skywalk) ทางเดินลอยฟ้าพื้นกระจกใส สถานที่ท่องเที่ยวของปูซานที่ใครๆก็ต้องมา เพราะเดินทางสะดวก Oryukdo Skywalk ทางเดินลอยฟ้าพื้นกระจกแห่งนี้ ตั้งอยู่บนหน้าผา ยื่นออกไปกลางทะเล มีความยาว 35 เมตร พื้นปูด้วยกระจกหนา 50 มม. เคลือบสารกันกระสุนเพื่อเสริมความแข็งแรง เพื่อนๆที่กลัวความสูง งานนี้มีเสียวแน่ๆ แต่มาถึงปูซานแล้วก็อยากให้แวะมาชมความงามของสถานที่แห่งนี้กัน แต่ถ้าหากทุกคนมีเวลาน้อย ไอซ์แนะนำให้ไปที่ Songdo Skywalk ดีกว่าเพราะจุดถ่ายรูปเยอะกว่าที่นี่ค่ะ
ที่จริงมีตรงสวนด้วยนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ToT
Haedong Yonggungsa Temple ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่สวยสุดในปูซาน เป็นวัดที่มีความเก๋ตรงที่สร้างอยู่บนโขดหินริมทะเล มาตั้งแต่ปี 1376 และได้ทำการบูรณะอีกครั้งในปี 1970 จนมาถึงปัจจุบัน โดยจะมีเจดีย์สามชั้น และสิงโตสี่ตัว หันหน้าออกไปทางทะเล ซึ่งสิงโตทั้งสี่ตัวนี้ คือสัญลักษณ์ของความยินดี ความโกรธ ความเศร้า และความสุข ส่วนช่วงพีคของที่นี่จะ 2ช่วงคือ ตอนปีใหม่ คนจะมาชมพระอาทิตย์แรกของปีและไหว้พระขอพร / ตอนเมษาที่ดอกซากุระบาน วัดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่งสวยงามเต็มพื้นที่บริเวณวัด และถ้าใครอยากมีน้อง มาขอที่นี่ได้ ให้เดินทางลงบันไดด้านขวามือ จะมีรูปปั้นหินพระอ้วน ถ้าลูบท้องจะโชคดีเรื่องได้ลูกชายค่ะ ส่วนตรงกลางวัดเค้าจะมีเหมือนถ้ำเล็กๆ ให้เดินลงไป แต่ตอนที่ไอซ์ไปเหมือนเขาปิดปรับปรุงค่ะเลยไม่ได้เข้าไป ส่วนตัวไอซ์ถือว่าคุ้มเพราะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยมีในไทย อีกทั้งไอซ์ก็นับถือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากที่ได้ไปกราบไหว้ท่าน แม้จะนั่งรถนานหน่อยเกือบ 2 ชั่วโมงแหนะ (ระยะทางแล้วแต่ที่พัก)
Jagalchi Market มาปูซานทั้งทีจะพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับอาหารทะเลที่สดๆทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา และที่สำคัญคือมีปู Alaska King Crab ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 85,000 วอน ซึ่งถ่อว่าไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับที่ไทย และก็ไม่ได้ชิมเพราะงบไม่พอ แป่ว!!5555 แต่ก็ได้ลองทานเซตปลาย่าง และ sashimi ราคาเริ่มที่ 10,000 วอนขึ้นไป ขอบอกว่าคุ้มมากเพาะเซตนึงมาเกือบ10 กว่าจาน กินจนพุงกางเลยก็ว่าได้
Jeongbang Waterfall น้ำตก Jeongbang ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเชจูเป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเชจู น้ำตกนี้มีความสูงถึง 23 เมตรเป็นน้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่ตกลงสู่มหาสมุทรโดยตรง หลังจากซื้อบัตรผ่านประตูมาที่ Jeongbang คุณจะต้องเดินลงบันไดเพื่อไปยังน้ำตก ค่าเข้าอยู่ที่คนละ 2,000 วอนค่ะ แม้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการเดินจากลานจอดรถไปจนถึงน้ำตก แต่คุณอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการหยุดเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามระยะทาง เมื่อถึงนํ้าตกแล้วก็หาที่จับจองถ่ายรูปได้เลย ขอบอกว่าคนเยอะมากเลยทีเดียว ไอซ์ไปช่วงที่เกาะเจจูฝนตกพอดี ทำให้ได้เที่ยวแค่ที่นี่ที่เดียวเอง เสียดายมาก หากได้มีโอกาสจะกลับไปที่เกาะแห่งนี้อีกแน่นอนค่ะ
Tips
อย่าลืมใส่รองเท้าที่สบายในการเดินทางนะคะ เนื่องจากหินที่อยู่ใกล้กับน้ำตกนั้นลื่นมาก ไอซ์ไปที่นั่นในตอนเช้าและเต็มไปด้วยผู้คน หากทุกคนต้องการสัมผัสกับบรรยากาศและไม่อยากได้คนอื่นติดเฟรมมา ก็ตื่นก่อนและไปที่นั่นโดยประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ
ส่วนไอซ์ก็มีแฟนเพจเป็นของตัวเองด้วยน้าาาา
https://www.facebook.com/ptorpanya/
และช่อง Youtube Channel อย่าลืมกดLike กดShare และ กดSubscribed เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
สำหรับความคิดเห็นในทริปนี้ ไอซ์ว่าคุ้มนะที่ได้ไปเพราะมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากไทยเรามาก เมื่อเปรียบเทียบกับทริปกัมพูชาและบาหลีที่ผ่านมา อีกทั้งเกาหลีใต้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นกรุง New York ของเอเชียแล้ว และแน่นอนของที่นั่นแพงมาก โดยเฉพาะอาหาร เพื่อนที่อยู่เมกายังบอกว่า บางอย่างแพงกว่าที่โน่นเยอะ อย่างอาหารในร้านอาหารก็จะอยู่ที่ 5,000 วอนขึ้น ซึ่งถือว่าแพงกว่าไทยมาก แต่อย่างว่า ค่าครองชีพเค้าแพงจริง แต่รายได้ก็ได้เยอะเช่นกัน จึงมีคนไทยจำนวนมากไปทำงานที่นั่นแบบผิดกฎหมาย
ปล.หากได้ไปเกาหลีแล้วไม่ต้องกลัวตม.นะคะ ถ้าหากเราบริสุทธิ์ใจว่ามาเที่ยวจริงๆ ให้เตรียมตัวและเอกสารให้ครบก็พอ เดี๋ยวไอซ์จะมาโพสว่าการเตรียมตัวยังไงให้ผ่านตม.เกาหลี แต่เอาจริงๆตม. เขาก็โหดจริงนะ ไม่ถามเราสักคำ บางทีเตรียมตัวพร้อมมากเพื่อจะตอบคำถาม แต่ไม่ถามเราเฉยเลย5555
ปล.2 เตรียมเงินให้เยอะๆค่ะ ใครที่ชอบช้อบกับกินนี่เน้นๆเลยค่าาาาาาา ไอซ์ถือคติที่ว่า work hard play hard เที่ยวทั้งทีเอาให้คุ้มค่ะ เมื่อได้เที่ยวแล้วอย่าคิดเล็กคิดน้อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงกลับมาคุณต้องกินมาม่ากับผักต้มนะคะ ใช้จ่ายก็ระวังกันด้วยนะคะ ไอซ์ขอฝากไว้(เตือนตัวเองเหมือนกัน5555)
**********************************