-เรื่องย่อ-
ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นน้องรหัสของผม ผมทักว่าชอบเธอสุดท้ายเธอก็ปฏิเสธผมเเละตอนนี้เธอกำลังมีเเฟนเเล้ว
-เนื้อเรื่อง+ความรู้สึก-
ในข้อความเมสเสจของผม ผมทักเขาไปว่า
“ผมชอบเธอ”
จากนั้นเธอผมก็ไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้อีกเลย
วันเวลาได้ผ่านรวดเร็วจนผมเเทบจำอะไรไม่ได้ ผมต้องขอบคุณกลไกสมองที่ทำให้ผมลืมเรื่องก่อนหน้านี้ เเต่เเล้วโชคชะตาก็เล่นตลก
วันหนึ่งผมกำลังซื้อโจ๊กในอาการเหม๋อลอย ผมต้องสะดุดกับเสียงอันเเผวเบา
“พี่รหัส รุ้ยังว่ามีหลานรหัสชื่อว่า โอณา”
เสียงเเว้บเเรกที่เข้ามาหัวหลานรหัสต้องชื่อ โลมาเเน่ๆ
“โลมา ใช่โลมาใช่ไหม”
พร้อมกับทำท่าทางที่โลมากระโดนบนผิวน้ำ
น้องรหัสยืนยันคำเดิมว่า
“หลานรหัสชื่อว่าโลมาต่างหาก”
จนในที่สุดผมก็เรียกชื่อถูกว่า โอณา
ผมกลับเดินไปที่โต๊ะสภาพเหม๋อลอย ความรู้สึกดีๆนั้นเริ่มมีต่อเธอพร้อมกับความคิดที่ผุดราวอย่างกับดอกเห็ด จนความคิดในหัวดังขึ้นมาว่า
“เธอหน้าคุ้นๆเหมือนเรากับเธอเคยทำอะไรกันก่อนหน้านี้”
ผมเคลิ้มภาพจินตนาการหนึ่งที่ผุดมาในหัว ผมสัมผัสกายเธอ จมูกของผมได้ดมหน้าจรดขา เธอทำให้หัวใจผมอ่อนไหวดั่งสายลม
จนกระทั่งมีวันที่ผมมีโอกาสส่องเฟสเธอ ในภาพหนึ่งหน้าของเธอสละสลวย รูปร่างของเธอชั่งเบาะบางเสียจริงๆ ผมได้เข้าในเมสเสจเเละพบว่าไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้ทั้งสิ้น
ผมได้ไปคอมเม้นท์ใต้โพสต์ของเธอว่า
“นี้พี่รหัสเองปลดบล็อคให้หน่อย”
“ได้ๆ เดียวปลดบล็อคให้”
จริงๆเขาเป็นด่างด้าวมักพิมผิดพิมถูกมันขัดหูขัดตามาก
หลังจากที่เขาปลดบล็อคเสร็จผมก็จู่โจมด้วยคำพูดทันทีว่า
“ผมไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไงเเละผมไม่ทราบ ไม่ว่าผลจะเป็นออกมาเป็นเเบบไหนหรืออย่างไร ผลลัพธ์อาจลบหรือบวก ผมมิทราบ ผมเพียงพูดเพียงคำว่า อาจ ผมอาจพูดไม่ถูกใจคุณหรือถูกใจ ผมหวังว่าจะถูกใจคุณนะ มันถึงเวลาเเล้วที่จะผมนั้นหลงรักคุณ ผมไม่รู้คุณได้ยินคำนี้จะรู้สึกอย่างไร ผมไม่ทราบผมเห็นเพียงเเค่ตัวอักษรโปรดตอบด้วย”
ในความคิดผมมันต้องดีเลิศเเน่ๆ ปรากฏว่า
“งง ไม่เข้าใจ”
หลังจากนั้นเขาวงกลมในภาพที่เขาถ่ายสิ่งที่ผมเขียนตรงคำว่าหลงรักเเล้วก็พูดต่อว่า
“พี่พูดตรงๆมาดิ”
“พี่รักเธอ”
เธอเงียบไปสักพักผมรอเธอด้วยผมรอด้วยความหวังอันโง่เขลา จนเธอได้ตอกกลับ
“เป็นพี่รหัสดีเเล้ว”
“หนูมีเเฟนเเล้วล่ะ”
“อย่ามายุ่งอีก”
หลังจากนั้นผมก็บ่นยาว
“โธ่ๆ ทำไมไม่บอกตั้งเเต่เเรกว่ามีเเฟนเเล้ว”
“ผมเห็นว่าโสด”
เธอเงียบในขณะผมบ่นเรื่อยๆ
ในคาบเเรกวิชาดนตรีเมสเสจของผมขึ้นเเจ้งเตือนว่าเป็นข้อความของเธอพร้อมความหวังในใจของผม เธอทักมาว่า
“หนูได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูเเละพ่อเเม่เเล้ว ตอนนี้พ่อเเม่รับรู้เรื่องนี้เเล้ว หนูปวดตับกับปัญหาของพี่มาก”
“หนูไม่อยากเสียพี่รหัสเเค่นั้นหรอก”
*จากบทสนทนานี้ผมเริ่มกลายตัวร้ายเเล้วใช่ไหม คำตอบสำหรับในมุมมองของผมคือ ไม่ใช่ทีเดียว
“ผมไม่คิดว่าปัญหาระหว่างคุณกับผมจะต้องให้คนอื่นร่วมตัดสิน คุณควรตัดสินใจเองเสียมากกว่า”
*ย้อนกลับมาเหตุผลนี้โจมตีผมเหมือนที่ผมกำลังเขียนกระทู้อยู่เลย
-ผมจะข้ามตอนในเเชทเพราะความทรงจำเลือนเเละไม่อยากระลึกถึงมันอีก-
ตั้งเเต่วันนั้นสมองผมก็จดจ่อเพียงเเต่เธอ จนกระทั่งในวันที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษา เเต่เเล้วน้องรหัสหลานรหัสขอถ่ายรูปพร้อมกันสามคนผมพยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเเล้วผมก็ได้ถ่ายรูปจนได้ เหมือนถ่ายเสร็จผมขอดูรูปปรากฏว่าทุเรศมากผมเลยกล่าวเหมือนมุขตลกว่า
“ไม่เห็นหล่อเลย”
ตอนขณะที่ผมกินข้าวเสร็จ เเต่ความรู้สึกมันสัมผัสได้ถึงเธอที่อยู่ใกล้ๆ จนผมกินข้าวเสร็จเเละยืนขึ้น นำกล่องไปทิ้งขยะมีเพื่อนบอกว่า “มอง มอง” ปรากฏว่าเธอจ้องผม ผมหันหลังให้เเล้วกินไอติมที่เพื่อนซื้อให้
*นี้ถือเป็นสาเหตุหลักในเชิงเข้าข้างตัวเอง เเต่ความหมายจริงๆมันกว้างขนาดนั้น เเต่ผมกลับทำให้ความเเคบลงเพื่อเข้าข้างตัวเอง
หลังจากเหตุการณ์นั้นผมได้นอนหลับ ทันใดนั้นความทรงจำผมเเทบจำไม่ได้ผุดขึ้นมาเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ใกล้ชิดเธอครั้งเเรก ซึ่งเป็นวันที่น้องรหัสต้องหาพี่รหัสว่าคือใคร
เธอเดินมาที่ผมเเล้วถามผมว่า
“พี่ชื่อพี่พีชหรือเปล่า”
“ใช่ๆ ผมชื่อพีช”( จริงๆเขาห้ามบอกชื่อตัวเอง )
ผมปั่นเธอสักพักเเละจำได้ว่าผมกระหายน้ำเเละฟันออกเหลืองหน่อยๆ
“เห้ยไม่ใช่พี่ชื่อ เจลลี่”
“ผมชื่อพีชจริงๆเเหละ”
“อืมหรือ ไม่เเน่พี่อาจจะหลอกก็ได้น่ะ”
“ผมอาจชื่อพีชหรือไม่ชื่อพีช”
เดินไปที่ห้องสมุดในขณะที่ผมกำลังคุยกับน้อง เเต่น้องขอเเยกตัวเพราะสงสัยว่าชื่อพี่รหัสคืออะไรกันเเน่ ผมเดินที่ห้องสมุดโดยไม่คิดอะไร เมื่อเข้าไปถึงก้นยังเเตะเก้าอี้มีคนเคราะกระจกเรียกผมให้ออกมา ผมได้ออกมาเพื่อพบน้องรหัส
“หนูเเน่ใจเเล้วว่าพี่คือพี่รหัสหนู”
“อ่าา งั้นรายงานมาพี่อาจใช่หรือไม่ใช่”
น้องเกิดความลังเลใจหันไปปรึกษาเพื่อนๆ เเต่เพื่อนๆของพวกเขามั่นใจว่าผมใช่
“สรุปได้ยังเนี่ยน้อง”
“โอ๊ยยยย พวกพี่ชอบปั่นอ่ะ”
“ไม่ชอบเลยพี่ เดียวก็โดนบทลงโทษอีก”
ผมอารมณ์ไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆอยากตามใจน้อง สงสัยไงไม่รู้
“เออพี่ชื่อพีช พี่พูดจริงๆ”
น้องลังเลใจอีกครั้ง
“เอ๋ หรือว่าพี่อาจจะโกหกหนูน่ะ”
พูดวนไปเเบบนี้จนสุดท้ายน้องก็รายงานตัวว่าผมชื่อพีช เเต่ก่อนที่จะรายงานตัวเธอให้ผมนิ้วก้อยเกี่ยวสัญญาว่าจะไม่โกหก
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ภาพความทรงจำนั้นนึกไปยังข้อความในเฟสบุ๊กว่า
“พี่อย่างปั่นเลย”
*ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปความหวังในรักของเธอมันสนับสนุนผมให้คงรักเธอเพราะสองเหตุการณ์นี้ จนเเล้วจนรอดอาการความรักที่รักเธอมากที่สุดเกิดในช่วงเวลาหนึ่ง เธอให้ความหวังโดยการนำข้อความหนึ่งไปลงสตอรี่ให้คนอื่นรับรู้เเต่เหมือนเธอกั่นไม่ให้ผมรู้ ซึ่งผมรู้ที่หลังตอนเพื่อนำมาบอกเเละก็รู้กันทั้งห้อง มีใจความดั่งนี้
“ผมต้องขออภัยผมรบกวน สิ่งที่ผมทำไปมันผิดจริงๆครับ ขออภัยที่ล่วงเกิน ต้องขอโทษหมานะครับที่มันไม่ว่าง ต้องขอโทษหมาด้วยจริงๆ”
* ผมส่งข้อความไปอีกมากมายถึง เเม้ถึงเธอไม่อ่านเเต่ก็ยอมส่งไปเรื่อยๆ ผมส่งข้อความในรูปเเบบต่างๆไม่ว่าเป็นกลอนที่ไม่ถูกหลักภาษาไทย ตัดต่อรูปของเธอเพื่อเรียกความสนใจซึ่งพิกเซลเเตก ในเมื่อคนไม่ใช่ก็คือคนไม่ใช่ ผมเหมือนถูกสารเคมีในสมองครอบงำ ผมทำเลยที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือ ผมรอเธอหลังเลิกเรียน เเต่เธอก็บอกเวลาที่เเน่นอนว่าเธอจะกลับบ้านตอนไหน เเต่ผมเพียงเเค่รอไม่ไหว อาการของผมน่าเป็นห่วงเหมือนสมองถูกรัฐประหารด้วยการกระทำเพียงเพราะความรัก ผมเคยคิดฆ่าตัวตายก่อนหน้าเเละครั้งนี้มันก็กลับมาเเละร่างเเผนเรียบร้อย เเต่โชคดีมีสมองกบฏได้ต่อสู้เซลาโทนิน เเละเรียกโดพามีนกับชุดความคิดอื่นให้รับรู้ว่าความคิดของชุดนี้มีความคิดที่จะคิดฆ่าตัวตาย ทำให้พวกเขาโหวตให้ความคิดอื่นคุมทันที เกมสุดท้ายต้องดำเนินไปผมเดินหมากครั้งสุดท้าย ความรู้สึกไม่จางหายเสมือนชุดความคิดที่โหวตกันเป็นเพียงจินตนาการลอยๆ ผมทักไปว่าเหมือนเธอเหมือนที่รักอย่างที่ทุกคนรู้ว่าเธอจะตอบว่า
“รำคาญ”
“ไม่นับถือเป็นพี่รหัส

เเหละ”
เเละผมพยามไม่มองเธอเพื่อลบความจำโดยสมบูรณ์ปิดกั้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมด เเต่เหมือนเพื้อนมันกวนตีนเน้นย้ำความทรงจำที่มีต่อเธอ
-ผมไม่ทราบว่าผมอาจมโนหรือความจริง เพราะสมองมีหลากหลายกลไก ผมหวังว่าจะได้รับความคิดเเตกออกไปนั้นคือพวกคุณ-
เรื่องราวของเธอจะเลือนหายตามกาลเวลา
บอกรักน้องรหัสเเละตอนนี้เธอมีเเฟนเเล้ว ( เรื่องจริง )
“ผมชอบเธอ”
จากนั้นเธอผมก็ไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้อีกเลย
วันเวลาได้ผ่านรวดเร็วจนผมเเทบจำอะไรไม่ได้ ผมต้องขอบคุณกลไกสมองที่ทำให้ผมลืมเรื่องก่อนหน้านี้ เเต่เเล้วโชคชะตาก็เล่นตลก
วันหนึ่งผมกำลังซื้อโจ๊กในอาการเหม๋อลอย ผมต้องสะดุดกับเสียงอันเเผวเบา
“พี่รหัส รุ้ยังว่ามีหลานรหัสชื่อว่า โอณา”
เสียงเเว้บเเรกที่เข้ามาหัวหลานรหัสต้องชื่อ โลมาเเน่ๆ
“โลมา ใช่โลมาใช่ไหม”
พร้อมกับทำท่าทางที่โลมากระโดนบนผิวน้ำ
น้องรหัสยืนยันคำเดิมว่า
“หลานรหัสชื่อว่าโลมาต่างหาก”
จนในที่สุดผมก็เรียกชื่อถูกว่า โอณา
ผมกลับเดินไปที่โต๊ะสภาพเหม๋อลอย ความรู้สึกดีๆนั้นเริ่มมีต่อเธอพร้อมกับความคิดที่ผุดราวอย่างกับดอกเห็ด จนความคิดในหัวดังขึ้นมาว่า
“เธอหน้าคุ้นๆเหมือนเรากับเธอเคยทำอะไรกันก่อนหน้านี้”
ผมเคลิ้มภาพจินตนาการหนึ่งที่ผุดมาในหัว ผมสัมผัสกายเธอ จมูกของผมได้ดมหน้าจรดขา เธอทำให้หัวใจผมอ่อนไหวดั่งสายลม
จนกระทั่งมีวันที่ผมมีโอกาสส่องเฟสเธอ ในภาพหนึ่งหน้าของเธอสละสลวย รูปร่างของเธอชั่งเบาะบางเสียจริงๆ ผมได้เข้าในเมสเสจเเละพบว่าไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้ทั้งสิ้น
ผมได้ไปคอมเม้นท์ใต้โพสต์ของเธอว่า
“นี้พี่รหัสเองปลดบล็อคให้หน่อย”
“ได้ๆ เดียวปลดบล็อคให้”
จริงๆเขาเป็นด่างด้าวมักพิมผิดพิมถูกมันขัดหูขัดตามาก
หลังจากที่เขาปลดบล็อคเสร็จผมก็จู่โจมด้วยคำพูดทันทีว่า
“ผมไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไงเเละผมไม่ทราบ ไม่ว่าผลจะเป็นออกมาเป็นเเบบไหนหรืออย่างไร ผลลัพธ์อาจลบหรือบวก ผมมิทราบ ผมเพียงพูดเพียงคำว่า อาจ ผมอาจพูดไม่ถูกใจคุณหรือถูกใจ ผมหวังว่าจะถูกใจคุณนะ มันถึงเวลาเเล้วที่จะผมนั้นหลงรักคุณ ผมไม่รู้คุณได้ยินคำนี้จะรู้สึกอย่างไร ผมไม่ทราบผมเห็นเพียงเเค่ตัวอักษรโปรดตอบด้วย”
ในความคิดผมมันต้องดีเลิศเเน่ๆ ปรากฏว่า
“งง ไม่เข้าใจ”
หลังจากนั้นเขาวงกลมในภาพที่เขาถ่ายสิ่งที่ผมเขียนตรงคำว่าหลงรักเเล้วก็พูดต่อว่า
“พี่พูดตรงๆมาดิ”
“พี่รักเธอ”
เธอเงียบไปสักพักผมรอเธอด้วยผมรอด้วยความหวังอันโง่เขลา จนเธอได้ตอกกลับ
“เป็นพี่รหัสดีเเล้ว”
“หนูมีเเฟนเเล้วล่ะ”
“อย่ามายุ่งอีก”
หลังจากนั้นผมก็บ่นยาว
“โธ่ๆ ทำไมไม่บอกตั้งเเต่เเรกว่ามีเเฟนเเล้ว”
“ผมเห็นว่าโสด”
เธอเงียบในขณะผมบ่นเรื่อยๆ
ในคาบเเรกวิชาดนตรีเมสเสจของผมขึ้นเเจ้งเตือนว่าเป็นข้อความของเธอพร้อมความหวังในใจของผม เธอทักมาว่า
“หนูได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูเเละพ่อเเม่เเล้ว ตอนนี้พ่อเเม่รับรู้เรื่องนี้เเล้ว หนูปวดตับกับปัญหาของพี่มาก”
“หนูไม่อยากเสียพี่รหัสเเค่นั้นหรอก”
*จากบทสนทนานี้ผมเริ่มกลายตัวร้ายเเล้วใช่ไหม คำตอบสำหรับในมุมมองของผมคือ ไม่ใช่ทีเดียว
“ผมไม่คิดว่าปัญหาระหว่างคุณกับผมจะต้องให้คนอื่นร่วมตัดสิน คุณควรตัดสินใจเองเสียมากกว่า”
*ย้อนกลับมาเหตุผลนี้โจมตีผมเหมือนที่ผมกำลังเขียนกระทู้อยู่เลย
-ผมจะข้ามตอนในเเชทเพราะความทรงจำเลือนเเละไม่อยากระลึกถึงมันอีก-
ตั้งเเต่วันนั้นสมองผมก็จดจ่อเพียงเเต่เธอ จนกระทั่งในวันที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษา เเต่เเล้วน้องรหัสหลานรหัสขอถ่ายรูปพร้อมกันสามคนผมพยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเเล้วผมก็ได้ถ่ายรูปจนได้ เหมือนถ่ายเสร็จผมขอดูรูปปรากฏว่าทุเรศมากผมเลยกล่าวเหมือนมุขตลกว่า
“ไม่เห็นหล่อเลย”
ตอนขณะที่ผมกินข้าวเสร็จ เเต่ความรู้สึกมันสัมผัสได้ถึงเธอที่อยู่ใกล้ๆ จนผมกินข้าวเสร็จเเละยืนขึ้น นำกล่องไปทิ้งขยะมีเพื่อนบอกว่า “มอง มอง” ปรากฏว่าเธอจ้องผม ผมหันหลังให้เเล้วกินไอติมที่เพื่อนซื้อให้
*นี้ถือเป็นสาเหตุหลักในเชิงเข้าข้างตัวเอง เเต่ความหมายจริงๆมันกว้างขนาดนั้น เเต่ผมกลับทำให้ความเเคบลงเพื่อเข้าข้างตัวเอง
หลังจากเหตุการณ์นั้นผมได้นอนหลับ ทันใดนั้นความทรงจำผมเเทบจำไม่ได้ผุดขึ้นมาเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ใกล้ชิดเธอครั้งเเรก ซึ่งเป็นวันที่น้องรหัสต้องหาพี่รหัสว่าคือใคร
เธอเดินมาที่ผมเเล้วถามผมว่า
“พี่ชื่อพี่พีชหรือเปล่า”
“ใช่ๆ ผมชื่อพีช”( จริงๆเขาห้ามบอกชื่อตัวเอง )
ผมปั่นเธอสักพักเเละจำได้ว่าผมกระหายน้ำเเละฟันออกเหลืองหน่อยๆ
“เห้ยไม่ใช่พี่ชื่อ เจลลี่”
“ผมชื่อพีชจริงๆเเหละ”
“อืมหรือ ไม่เเน่พี่อาจจะหลอกก็ได้น่ะ”
“ผมอาจชื่อพีชหรือไม่ชื่อพีช”
เดินไปที่ห้องสมุดในขณะที่ผมกำลังคุยกับน้อง เเต่น้องขอเเยกตัวเพราะสงสัยว่าชื่อพี่รหัสคืออะไรกันเเน่ ผมเดินที่ห้องสมุดโดยไม่คิดอะไร เมื่อเข้าไปถึงก้นยังเเตะเก้าอี้มีคนเคราะกระจกเรียกผมให้ออกมา ผมได้ออกมาเพื่อพบน้องรหัส
“หนูเเน่ใจเเล้วว่าพี่คือพี่รหัสหนู”
“อ่าา งั้นรายงานมาพี่อาจใช่หรือไม่ใช่”
น้องเกิดความลังเลใจหันไปปรึกษาเพื่อนๆ เเต่เพื่อนๆของพวกเขามั่นใจว่าผมใช่
“สรุปได้ยังเนี่ยน้อง”
“โอ๊ยยยย พวกพี่ชอบปั่นอ่ะ”
“ไม่ชอบเลยพี่ เดียวก็โดนบทลงโทษอีก”
ผมอารมณ์ไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆอยากตามใจน้อง สงสัยไงไม่รู้
“เออพี่ชื่อพีช พี่พูดจริงๆ”
น้องลังเลใจอีกครั้ง
“เอ๋ หรือว่าพี่อาจจะโกหกหนูน่ะ”
พูดวนไปเเบบนี้จนสุดท้ายน้องก็รายงานตัวว่าผมชื่อพีช เเต่ก่อนที่จะรายงานตัวเธอให้ผมนิ้วก้อยเกี่ยวสัญญาว่าจะไม่โกหก
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ภาพความทรงจำนั้นนึกไปยังข้อความในเฟสบุ๊กว่า
“พี่อย่างปั่นเลย”
*ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปความหวังในรักของเธอมันสนับสนุนผมให้คงรักเธอเพราะสองเหตุการณ์นี้ จนเเล้วจนรอดอาการความรักที่รักเธอมากที่สุดเกิดในช่วงเวลาหนึ่ง เธอให้ความหวังโดยการนำข้อความหนึ่งไปลงสตอรี่ให้คนอื่นรับรู้เเต่เหมือนเธอกั่นไม่ให้ผมรู้ ซึ่งผมรู้ที่หลังตอนเพื่อนำมาบอกเเละก็รู้กันทั้งห้อง มีใจความดั่งนี้
“ผมต้องขออภัยผมรบกวน สิ่งที่ผมทำไปมันผิดจริงๆครับ ขออภัยที่ล่วงเกิน ต้องขอโทษหมานะครับที่มันไม่ว่าง ต้องขอโทษหมาด้วยจริงๆ”
* ผมส่งข้อความไปอีกมากมายถึง เเม้ถึงเธอไม่อ่านเเต่ก็ยอมส่งไปเรื่อยๆ ผมส่งข้อความในรูปเเบบต่างๆไม่ว่าเป็นกลอนที่ไม่ถูกหลักภาษาไทย ตัดต่อรูปของเธอเพื่อเรียกความสนใจซึ่งพิกเซลเเตก ในเมื่อคนไม่ใช่ก็คือคนไม่ใช่ ผมเหมือนถูกสารเคมีในสมองครอบงำ ผมทำเลยที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือ ผมรอเธอหลังเลิกเรียน เเต่เธอก็บอกเวลาที่เเน่นอนว่าเธอจะกลับบ้านตอนไหน เเต่ผมเพียงเเค่รอไม่ไหว อาการของผมน่าเป็นห่วงเหมือนสมองถูกรัฐประหารด้วยการกระทำเพียงเพราะความรัก ผมเคยคิดฆ่าตัวตายก่อนหน้าเเละครั้งนี้มันก็กลับมาเเละร่างเเผนเรียบร้อย เเต่โชคดีมีสมองกบฏได้ต่อสู้เซลาโทนิน เเละเรียกโดพามีนกับชุดความคิดอื่นให้รับรู้ว่าความคิดของชุดนี้มีความคิดที่จะคิดฆ่าตัวตาย ทำให้พวกเขาโหวตให้ความคิดอื่นคุมทันที เกมสุดท้ายต้องดำเนินไปผมเดินหมากครั้งสุดท้าย ความรู้สึกไม่จางหายเสมือนชุดความคิดที่โหวตกันเป็นเพียงจินตนาการลอยๆ ผมทักไปว่าเหมือนเธอเหมือนที่รักอย่างที่ทุกคนรู้ว่าเธอจะตอบว่า
“รำคาญ”
“ไม่นับถือเป็นพี่รหัส
เเละผมพยามไม่มองเธอเพื่อลบความจำโดยสมบูรณ์ปิดกั้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมด เเต่เหมือนเพื้อนมันกวนตีนเน้นย้ำความทรงจำที่มีต่อเธอ
-ผมไม่ทราบว่าผมอาจมโนหรือความจริง เพราะสมองมีหลากหลายกลไก ผมหวังว่าจะได้รับความคิดเเตกออกไปนั้นคือพวกคุณ-
เรื่องราวของเธอจะเลือนหายตามกาลเวลา