บอกรักน้องรหัสเเละตอนนี้เธอมีเเฟนเเล้ว ( เรื่องจริง )

-เรื่องย่อ-
 ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นน้องรหัสของผม ผมทักว่าชอบเธอสุดท้ายเธอก็ปฏิเสธผมเเละตอนนี้เธอกำลังมีเเฟนเเล้ว

-เนื้อเรื่อง+ความรู้สึก-

ในข้อความเมสเสจของผม ผมทักเขาไปว่า

“ผมชอบเธอ”

จากนั้นเธอผมก็ไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้อีกเลย

วันเวลาได้ผ่านรวดเร็วจนผมเเทบจำอะไรไม่ได้ ผมต้องขอบคุณกลไกสมองที่ทำให้ผมลืมเรื่องก่อนหน้านี้ เเต่เเล้วโชคชะตาก็เล่นตลก

วันหนึ่งผมกำลังซื้อโจ๊กในอาการเหม๋อลอย ผมต้องสะดุดกับเสียงอันเเผวเบา

“พี่รหัส รุ้ยังว่ามีหลานรหัสชื่อว่า โอณา”

เสียงเเว้บเเรกที่เข้ามาหัวหลานรหัสต้องชื่อ โลมาเเน่ๆ

“โลมา ใช่โลมาใช่ไหม”

พร้อมกับทำท่าทางที่โลมากระโดนบนผิวน้ำ
น้องรหัสยืนยันคำเดิมว่า

“หลานรหัสชื่อว่าโลมาต่างหาก”

จนในที่สุดผมก็เรียกชื่อถูกว่า โอณา 
ผมกลับเดินไปที่โต๊ะสภาพเหม๋อลอย ความรู้สึกดีๆนั้นเริ่มมีต่อเธอพร้อมกับความคิดที่ผุดราวอย่างกับดอกเห็ด จนความคิดในหัวดังขึ้นมาว่า

“เธอหน้าคุ้นๆเหมือนเรากับเธอเคยทำอะไรกันก่อนหน้านี้”

ผมเคลิ้มภาพจินตนาการหนึ่งที่ผุดมาในหัว ผมสัมผัสกายเธอ จมูกของผมได้ดมหน้าจรดขา เธอทำให้หัวใจผมอ่อนไหวดั่งสายลม

จนกระทั่งมีวันที่ผมมีโอกาสส่องเฟสเธอ ในภาพหนึ่งหน้าของเธอสละสลวย รูปร่างของเธอชั่งเบาะบางเสียจริงๆ ผมได้เข้าในเมสเสจเเละพบว่าไม่สามารถส่งข้อความอะไรได้ทั้งสิ้น 

ผมได้ไปคอมเม้นท์ใต้โพสต์ของเธอว่า
“นี้พี่รหัสเองปลดบล็อคให้หน่อย” 

“ได้ๆ เดียวปลดบล็อคให้”
จริงๆเขาเป็นด่างด้าวมักพิมผิดพิมถูกมันขัดหูขัดตามาก 

หลังจากที่เขาปลดบล็อคเสร็จผมก็จู่โจมด้วยคำพูดทันทีว่า

“ผมไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไงเเละผมไม่ทราบ ไม่ว่าผลจะเป็นออกมาเป็นเเบบไหนหรืออย่างไร ผลลัพธ์อาจลบหรือบวก ผมมิทราบ ผมเพียงพูดเพียงคำว่า อาจ ผมอาจพูดไม่ถูกใจคุณหรือถูกใจ ผมหวังว่าจะถูกใจคุณนะ มันถึงเวลาเเล้วที่จะผมนั้นหลงรักคุณ ผมไม่รู้คุณได้ยินคำนี้จะรู้สึกอย่างไร ผมไม่ทราบผมเห็นเพียงเเค่ตัวอักษรโปรดตอบด้วย”

ในความคิดผมมันต้องดีเลิศเเน่ๆ ปรากฏว่า

“งง ไม่เข้าใจ”

หลังจากนั้นเขาวงกลมในภาพที่เขาถ่ายสิ่งที่ผมเขียนตรงคำว่าหลงรักเเล้วก็พูดต่อว่า

“พี่พูดตรงๆมาดิ”

“พี่รักเธอ”

เธอเงียบไปสักพักผมรอเธอด้วยผมรอด้วยความหวังอันโง่เขลา จนเธอได้ตอกกลับ

“เป็นพี่รหัสดีเเล้ว”

“หนูมีเเฟนเเล้วล่ะ”

“อย่ามายุ่งอีก”

หลังจากนั้นผมก็บ่นยาว

“โธ่ๆ ทำไมไม่บอกตั้งเเต่เเรกว่ามีเเฟนเเล้ว”

“ผมเห็นว่าโสด”

เธอเงียบในขณะผมบ่นเรื่อยๆ
ในคาบเเรกวิชาดนตรีเมสเสจของผมขึ้นเเจ้งเตือนว่าเป็นข้อความของเธอพร้อมความหวังในใจของผม เธอทักมาว่า 

“หนูได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูเเละพ่อเเม่เเล้ว ตอนนี้พ่อเเม่รับรู้เรื่องนี้เเล้ว หนูปวดตับกับปัญหาของพี่มาก”

“หนูไม่อยากเสียพี่รหัสเเค่นั้นหรอก”

*จากบทสนทนานี้ผมเริ่มกลายตัวร้ายเเล้วใช่ไหม คำตอบสำหรับในมุมมองของผมคือ ไม่ใช่ทีเดียว

“ผมไม่คิดว่าปัญหาระหว่างคุณกับผมจะต้องให้คนอื่นร่วมตัดสิน คุณควรตัดสินใจเองเสียมากกว่า”

*ย้อนกลับมาเหตุผลนี้โจมตีผมเหมือนที่ผมกำลังเขียนกระทู้อยู่เลย

-ผมจะข้ามตอนในเเชทเพราะความทรงจำเลือนเเละไม่อยากระลึกถึงมันอีก-

ตั้งเเต่วันนั้นสมองผมก็จดจ่อเพียงเเต่เธอ จนกระทั่งในวันที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษา เเต่เเล้วน้องรหัสหลานรหัสขอถ่ายรูปพร้อมกันสามคนผมพยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเเล้วผมก็ได้ถ่ายรูปจนได้ เหมือนถ่ายเสร็จผมขอดูรูปปรากฏว่าทุเรศมากผมเลยกล่าวเหมือนมุขตลกว่า

“ไม่เห็นหล่อเลย”

 ตอนขณะที่ผมกินข้าวเสร็จ เเต่ความรู้สึกมันสัมผัสได้ถึงเธอที่อยู่ใกล้ๆ จนผมกินข้าวเสร็จเเละยืนขึ้น นำกล่องไปทิ้งขยะมีเพื่อนบอกว่า “มอง มอง” ปรากฏว่าเธอจ้องผม ผมหันหลังให้เเล้วกินไอติมที่เพื่อนซื้อให้

*นี้ถือเป็นสาเหตุหลักในเชิงเข้าข้างตัวเอง เเต่ความหมายจริงๆมันกว้างขนาดนั้น เเต่ผมกลับทำให้ความเเคบลงเพื่อเข้าข้างตัวเอง

หลังจากเหตุการณ์นั้นผมได้นอนหลับ ทันใดนั้นความทรงจำผมเเทบจำไม่ได้ผุดขึ้นมาเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ใกล้ชิดเธอครั้งเเรก ซึ่งเป็นวันที่น้องรหัสต้องหาพี่รหัสว่าคือใคร

 เธอเดินมาที่ผมเเล้วถามผมว่า

“พี่ชื่อพี่พีชหรือเปล่า”

“ใช่ๆ ผมชื่อพีช”( จริงๆเขาห้ามบอกชื่อตัวเอง )

ผมปั่นเธอสักพักเเละจำได้ว่าผมกระหายน้ำเเละฟันออกเหลืองหน่อยๆ

“เห้ยไม่ใช่พี่ชื่อ เจลลี่” 

“ผมชื่อพีชจริงๆเเหละ”

“อืมหรือ ไม่เเน่พี่อาจจะหลอกก็ได้น่ะ”

“ผมอาจชื่อพีชหรือไม่ชื่อพีช”

เดินไปที่ห้องสมุดในขณะที่ผมกำลังคุยกับน้อง เเต่น้องขอเเยกตัวเพราะสงสัยว่าชื่อพี่รหัสคืออะไรกันเเน่ ผมเดินที่ห้องสมุดโดยไม่คิดอะไร เมื่อเข้าไปถึงก้นยังเเตะเก้าอี้มีคนเคราะกระจกเรียกผมให้ออกมา ผมได้ออกมาเพื่อพบน้องรหัส

“หนูเเน่ใจเเล้วว่าพี่คือพี่รหัสหนู”

“อ่าา งั้นรายงานมาพี่อาจใช่หรือไม่ใช่”

น้องเกิดความลังเลใจหันไปปรึกษาเพื่อนๆ เเต่เพื่อนๆของพวกเขามั่นใจว่าผมใช่ 

“สรุปได้ยังเนี่ยน้อง”

“โอ๊ยยยย พวกพี่ชอบปั่นอ่ะ”

“ไม่ชอบเลยพี่ เดียวก็โดนบทลงโทษอีก”

ผมอารมณ์ไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆอยากตามใจน้อง สงสัยไงไม่รู้ 

“เออพี่ชื่อพีช พี่พูดจริงๆ”

น้องลังเลใจอีกครั้ง

“เอ๋ หรือว่าพี่อาจจะโกหกหนูน่ะ”

พูดวนไปเเบบนี้จนสุดท้ายน้องก็รายงานตัวว่าผมชื่อพีช เเต่ก่อนที่จะรายงานตัวเธอให้ผมนิ้วก้อยเกี่ยวสัญญาว่าจะไม่โกหก

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ภาพความทรงจำนั้นนึกไปยังข้อความในเฟสบุ๊กว่า 

“พี่อย่างปั่นเลย”

*ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปความหวังในรักของเธอมันสนับสนุนผมให้คงรักเธอเพราะสองเหตุการณ์นี้ จนเเล้วจนรอดอาการความรักที่รักเธอมากที่สุดเกิดในช่วงเวลาหนึ่ง เธอให้ความหวังโดยการนำข้อความหนึ่งไปลงสตอรี่ให้คนอื่นรับรู้เเต่เหมือนเธอกั่นไม่ให้ผมรู้ ซึ่งผมรู้ที่หลังตอนเพื่อนำมาบอกเเละก็รู้กันทั้งห้อง มีใจความดั่งนี้

“ผมต้องขออภัยผมรบกวน สิ่งที่ผมทำไปมันผิดจริงๆครับ ขออภัยที่ล่วงเกิน ต้องขอโทษหมานะครับที่มันไม่ว่าง ต้องขอโทษหมาด้วยจริงๆ”

* ผมส่งข้อความไปอีกมากมายถึง เเม้ถึงเธอไม่อ่านเเต่ก็ยอมส่งไปเรื่อยๆ ผมส่งข้อความในรูปเเบบต่างๆไม่ว่าเป็นกลอนที่ไม่ถูกหลักภาษาไทย ตัดต่อรูปของเธอเพื่อเรียกความสนใจซึ่งพิกเซลเเตก ในเมื่อคนไม่ใช่ก็คือคนไม่ใช่ ผมเหมือนถูกสารเคมีในสมองครอบงำ ผมทำเลยที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือ ผมรอเธอหลังเลิกเรียน เเต่เธอก็บอกเวลาที่เเน่นอนว่าเธอจะกลับบ้านตอนไหน เเต่ผมเพียงเเค่รอไม่ไหว อาการของผมน่าเป็นห่วงเหมือนสมองถูกรัฐประหารด้วยการกระทำเพียงเพราะความรัก ผมเคยคิดฆ่าตัวตายก่อนหน้าเเละครั้งนี้มันก็กลับมาเเละร่างเเผนเรียบร้อย เเต่โชคดีมีสมองกบฏได้ต่อสู้เซลาโทนิน เเละเรียกโดพามีนกับชุดความคิดอื่นให้รับรู้ว่าความคิดของชุดนี้มีความคิดที่จะคิดฆ่าตัวตาย ทำให้พวกเขาโหวตให้ความคิดอื่นคุมทันที เกมสุดท้ายต้องดำเนินไปผมเดินหมากครั้งสุดท้าย ความรู้สึกไม่จางหายเสมือนชุดความคิดที่โหวตกันเป็นเพียงจินตนาการลอยๆ ผมทักไปว่าเหมือนเธอเหมือนที่รักอย่างที่ทุกคนรู้ว่าเธอจะตอบว่า

“รำคาญ”

“ไม่นับถือเป็นพี่รหัสยิ้มเเหละ”

เเละผมพยามไม่มองเธอเพื่อลบความจำโดยสมบูรณ์ปิดกั้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมด เเต่เหมือนเพื้อนมันกวนตีนเน้นย้ำความทรงจำที่มีต่อเธอ

-ผมไม่ทราบว่าผมอาจมโนหรือความจริง เพราะสมองมีหลากหลายกลไก ผมหวังว่าจะได้รับความคิดเเตกออกไปนั้นคือพวกคุณ-

เรื่องราวของเธอจะเลือนหายตามกาลเวลา
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สมองคนเรามีกลไกปกป้องตัวเองเสมอ คุณต้องมองโลกด้วยความจริงได้แล้ว ผมรู้ว่ามันยากมาก แต่เป็นทางเดียวที่คุณต้องยอมรับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่