[CR] ตะลุยทีลอซู แวะชมหมู่บ้านม้ง (ไม่มีรถก็เที่ยวได้)



จุดเริ่มต้นของการเดินทาง...
การเดินทางครั้งนี้เกิดจากการที่เราอยากไปเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้ และได้เรียนรู้วิถีของชาวบ้าน เราเลยหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แล้วไปเจอกับหัวข้อที่สะดุดตา “ป่า สายน้ำ และ กาแฟ บ้านแม่กลองน้อย” ในเว็บไซต์ของมูลนิธิสืบนาคะสเถียร เลยคลิกเข้าไปดูข้อมูลเพื่อศึกษาลายระเอียด ก็พบว่าหมู่บ้านแม่กลองน้อย ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับใครหลายๆคน เนื่องด้วยหมู่บ้านแม่กลองน้อยไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดัง เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ระหว่างทางไปน้ำตกทีลอซู นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนอำเภออุ้มผาง ต่างก็มุ่งไปยังน้ำตกทีลอซู แต่ใครบ้างจะรู้ว่าหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เราเลยคิดว่าไหนๆหมู่บ้านแม่กลองน้อยก็เป็นทางผ่านไปทีลอซู เราเลยคิดว่าจะแวะเที่ยวหมู่บ้านก่อน แล้วค่อยไปต่อกันที่ทีลอซู...

ออกเดินทาง...
วันที่ 17 ตุลาคม 2562 เวลา 22.20 น.
เราเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯหมอชิต 2(จัตุจักร) มุ่งหน้าไปสู่อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก มีผู้เดินทางทั้งหมด 2 คน คือเรา และเพื่อนผู้หญิงอีกหนึ่งคน เราที่เลือกเดินทางกันในตอนกลางคืนเพื่อจะไปถึงแม่สอดกันในตอนเช้า...

เราเลือกใช้บริการรถทัวร์ของ บขส. ชั้น ม.1ก(VIP) ราคา 630 บาท ของที่ให้มามีขนมปังสองชิ้น กาแฟซองน้ำปลา 1 ขวด พร้อมกับคูปองอาหารไว้แลกรับบริการอาหารที่จุดจอด

เวลา 06.50 น. วันที่ 18 ตุลาคม 2562
เราเดินทางกันมาถึงสถานีขนส่งแม่สอด จังหวัดตากจากขนส่งแม่สอด เราจะต้องต่อรถสองแถวเพื่อไปยังอำเภออุ้มผาง เราเลยพากันสอดส่ายสายตา หารถที่เขียนว่าอุ้มผาง เลยไปเจอเข้ากับรถสองแถว แม่สอด-อุ้มผาง เราสองคนมองไปลังเลใจเพราะในรถที่นั่งเหมือนจะเกือบเต็มแล้ว แต่แล้วพี่คนขับสองแถวก็เข้ามาจัดที่จัดทางให้นั่ง จากรถแน่นๆก็ปรากฏที่ว่างสองที่ให้เรากับเพื่อนได้เข้าไปนั่ง เราบอกกับพี่คนขับว่าจะลงที่หมู่บ้านแม่กลองน้อย

รถสองแถวที่เรานั่งเต็มตั้งแต่ออกจากขนส่งแม่สอด ระหว่างทางที่จากแม่สอดไปยังอุ้มผาง ก็มีคนโบกรถให้เห็นอยู่ตลอดทาง ถึงแม้รถสองแถวจะเต็มแต่คนขับก็จอดรับตลอดทุกครั้งที่มีคนโบก ผู้โดยสารชายหลายๆคนเลือกปีนขึ้นไปนั่งบนหลังคารถเป็นอะไรที่ดูแปลกตา และน่าหวาดเสียว พอรถวิ่งไปสักระยะนึงก็ถึงจุดที่เริ่มขึ้นภูเขา มีป้ายบอกถึงโค้งที่เราต้องเผชิญตลอดเส้นทาง ทั้งหมดถึง 1219 โค้ง

พอรถขับไปสักพักทางก็เริ่มชัน และสูงขึ้น เผยให้เห็นวิวภูเขาเขียวชอุ่มดูสวยงาม พอรถวิ่งมาประมาณเกือบสองชั่วโมงก็ถึงจุดพักรถให้เราได้ออกมายืดเส้นยืดสายหลัง ตรงนี้มีร้านข้าว ร้านขายของ ไว้คอยให้บริการ ระหว่างที่รถจอดพักเราเลยเดินเก็บภาพบรรยากาศวิวข้างทางซึ่งเป็นภาพบ้านหลังน้อยที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา มองดูแล้วแล้วรู้สึกหายจากอาการเหนื่อยล้า ประกอบกับอากาศเย็นสบายราวกับเปิดแอร์อยู่ตลอดเวลา...

รถก็มาจอดลงตรงหน้าสาธารสุขชุมชนร่มเกล้า 5 มีป้ายโรงเรียนบ้านแม่กลองน้อย ทำให้เรารู้ทันทีว่าถึงที่หมายแล้ว เราก็จัดแจงรับสัมภาระที่อยู่บนหลังคารถจากพี่คนขับ การเดินทางมายังหมู่บ้านแม่กลองน้อยโดยรถสองแถว มีค่าใช้คนล่ะ 100 บาท เนื่องด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างชัน และระยะทางก็ไกล ก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล

นี้คือสภาพรถสองแถวที่เรานั่งมาลงที่หมู่บ้านแม่กลองน้อย

พอพวกเรามาถึง ก็ตรงเข้าไปที่หน้าสาธารณะสุขเพื่อสอบถามข้อมูลจากคุณน้าท่านหนึ่ง เพื่อถามทางไปร้านกาแฟ Teelorsu coffee กาแฟรักษ์ป่าต้นน้ำของพี่ซ้ง(ณรงค์ศักดิ์ มาลีศรีโสภา) เจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ตามที่เราอ่านข้อมูลจากในเว็บ เมื่อไปถึงควรไปติดต่อกับพี่ซ้งที่นั่นก่อน เมื่อเราไปถึงร้านกาแฟ Teelorsu coffee พี่ซ้งมีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยว่ามาถึงนี้กันได้ไง เราก็อธิบายว่าเห็นข้อมูลมาจากเว็บไซต์ สืบนาคะเสถียร แล้วเกิดความสนใจเลยลองมาดู อยากจะมาเที่ยวชมและขอเก็บข้อมูลในครั้งนี้ ซึ่งทางพี่ซ้งก็ยินดี และให้เราพักอยู่กับครอบครัวของพี่ซ้ง พี่ซ้งได้ทำกาแฟดริปมาต้อนรับพวกเรา ทำให้พวกเราได้เห็นขั้นตอนการทำกาแฟที่แสนสดใหม่ ส่วนเรื่องรสชาติกาแฟก็ไม่ต้องพูดถึงให้ความรู้สึกไม่เหมือนกาแฟทั่วไป ที่เราเคยทานมีความหอมกรุ่นแต่ยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติกาแฟอาราบิก้า ที่รสชาติละมุนไม่ขมบาดปาก ให้ความรู้สึกว่าสามารถจิบได้เรื่อยๆ เสมือนจิบชาร้อนๆท่ามกลางวิวภูเขา

ขณะที่เราก็นั่งจิบกาแฟไป พี่ซ้งก็บอกว่ากับเราว่าเดี๋ยวเวลาบ่ายสองโมงกว่า จะพาพวกเราไปเที่ยวชมสวนกาแฟ และเที่ยวชมการทำสวนผสมผสานโดยปลอดการใช้สารเคมี เป็นการทำสวนควบคู่กับการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเวลาสี่โมงเย็นจะพาพวกเราไปเที่ยวชมวังปลา ทั้งหมดคือกำหนดการของวันนี้

สวนบ้านสวนรัฐและภู (สวนเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริของพี่รัฐบาล)
นั่งกันไปเพลินๆก็ได้เวลาบ่ายสองโมงกว่าถึงเวลาไปเที่ยวชมสวน ซึ่งทางพี่ซ้งก็พาเรานั่งกระบะไปที่สวน ไม่กี่อึดใจก็มาถึง เรามองเข้าไปในสวนมีสภาพร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นเขียวขจีอยู่ทั่วทั้งสวน ผิดกับสวนเกษตรที่เราเคยเห็นที่จะมีแค่พืชชนิดเดียว ปลูกในที่โล่งๆ

แล้วพี่ซ้งก็พอเราเดินดูนู่นนี้กันอย่างเพลิดเพลิน และพาเราไปรู้จักกับพี่รัฐบาล และพาเดินเที่ยวชมสวนของพี่รัฐบาล

ซึ่งสวนของพี่รัฐบาลก็มีต้นหม่อน หรือมัลเบอรี่ คอยต้นรับเราอยู่หน้าสวนพี่รัฐบาลก็ให้เราหยิบชิมฟรีได้อย่างไม่มีท่าทีว่าจะหวงแต่อย่างใด พี่รัฐบาลบอกให้เราหยิบชิมฟรีเยอะๆเลย ไม่เสียตัง ฮ่าๆ ลาภปากแล้วเรา

เมื่อเที่ยวชมสวนกินผลหม่อนกันอย่างเอร็ดอร่อย พี่รัฐบาลก็เล่าความเป็นมาของสวนนี้ให้เราได้เพลิดเพลินกันไปด้วย แต่มีข้อความนึงที่น่าสนใจที่พี่รัฐบาลและชาวหลายๆคนหันมาทำเกษตรอินทรีย์ เพราะบริเวณหมู่บ้านแม่กลองน้อย เป็นป่าต้นน้ำถ้าชาวบ้านเกษตรกรทำการเกษตรโดยพึ่งสารเคมี จะทำให้สารเคมีไหลลงสู่แม่น้ำเจือปนและไหลลงไปสู่คนปลายน้ำอาจจะได้รับผลกระทบ แต่การปลูกป่าผสมการทำเกษตรที่พี่รัฐบาลทำอยู่เป็นการคืนพื้นที่ป่าให้กับป่าต้นน้ำ และเป็นการทำเกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9


จากนั่นพี่รัฐบาลก็แนะนำให้เรารู้จักกับต้นกาแฟ และบอกว่าลองชิมผลกาแฟได้น่ะ เราก็แปลกใจว่าผลกาแฟสดๆกินได้ด้วยหรอ? พี่รัฐบาลก็บอกว่ากินได้ ลองชิมดู เมื่อเราลองชิมผลกาแฟสุกๆดู ก็พบว่ามีรสหวานเหมือนผลไม้ แล้วเมล็ดข้างในก็ค่อนข้างใหญ่ นั่นคือเมล็ดกาแฟที่เอามาทำกาแฟให้เราดื่มนั่นเอง

หลังจากชมสวนของพี่รัฐบาลเสร็จ พี่ซ้งก็พาเราไปเที่ยวชมวังปลากันต่อ ซึ่งวังปลานี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก ประมาณ 3-5 กิโลเมตร พี่ซ้งก็พาเรานั่งรถกระบะออกไปยังวังปลา

วังปลา
เมื่อรถจอดลงเราก็เห็นคล้ายซุ้มขายสินค้า พี่ซ้งก็บอกว่านี้คือตลาดขายสินค้าที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรของชาวเขามีผักผลไม้ชนิดต่างๆให้เราได้เลือกซื้อ แต่พวกเราไม่ได้มีรถส่วนตัวมาเลยได้แต่เดินชม


พอเดินชมตลาดจนทั่ว เราก็ไปเดินชมวังปลากันต่อ โดยวังปลาจะอยู่ด้านหลังตลาดจะมีทางเดินเล็กๆเดินลงไป หากหาไม่เจอสามารถสอบถามพี่ป้าน้าอาแม่ค้าที่ขายของอยู่แถวนั่นได้ ว่าวังปลาเดินไปทางไหน

หากจะพูดถึงวังปลา แล้วให้คิดต่อว่าวังปลาคืออะไร? คงตอบในใจว่าวังปลาน่าจะเป็นที่อยู่ของปลาจำนวนมาก แต่มันก็น่าจะมีอะไรมากกว่านั่น เราเลยถามพี่ซ้งว่าวังปลาคืออะไร ก็ได้คำตอบกลับมาว่าวังปลา คือแหล่งเพาะพันธุ์ปลา คือห้ามให้ชาวบ้านจับปลาบริเวณวังปลา เพื่อให้ปลาไปวางไข่ขยายพันธุ์

จากที่เราเดินชมวังปลาก็พบว่าวังปลา นั่นเป็นสถานที่ที่มีความร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำในลำธารก็ใสสะอาด พืชพรรณก็เขียวขจี อากาศรอบบริเวณวังปลานั่นก็เย็นสดชื่น มีเสียงจากน้ำไหลสลับกับเสียงนกร้องฟังดูแล้วไพเราะ เพราะวังปลายังไม่ได้เป็นที่ท่องเที่ยวที่คนรู้จักมากนักความอุดมสมบูรณ์ยังมีให้ได้ชม หากเพื่อนๆคนไหนจะแวะมาที่วังปลาโปรดช่วยกันรักษาความสะอาด และรักษาธรรมชาติให้คงอยู่แบบนี้ให้คนที่มาเยี่ยมชมต่อๆไปได้เห็นความงดงามของวังปลา

หลังจากที่ชมวังปลากันเรียบร้อย พี่ซ้งก็พาเรากลับบ้านเพื่อเตรียมตัวทานอาหารค่ำและพักผ่อนกัน ซึ่งอาหารที่เราทานกันในเย็นวันนี้นั่นดูจะเป็นอาหารที่เรียบง่าย แต่รสชาตินั่นแสนอร่อย เราทานอาหารร่วมโต๊ะกับครอบครัวพี่ซ้งเลยทำให้อาหารมื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่แสนอบอุ่น

ท้องฟ้าหมู่บ้านแม่กลองน้อย​ยามค่ำคืน
พอทานอาหารกันเสร็จ เราก็วางแผนที่จะถ่ายรูปดวงดาวในค่ำคืนนี้กัน พี่ซ้งบอกกับเราว่าหน้าบ้านพี่ซ้งสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้น่ะ พวกเราก็พากันตื่นเต้นยกใหญ่ที่จะได้เห็นทางช้างเผือก โดยเฉพาะเพื่อนเราที่มาด้วยกันนางไม่เคยเห็นทางช้างเผือกมาก่อน...

นี้เป็นภาพทางช้างเผือกที่เราถ่ายได้ กว่าที่เราจะถ่ายได้สักภาพก็เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว ซึ่งตอนที่ออกมาถ่ายรูปทางช้างเผือกพี่ซ้งก็ออกมาถ่ายด้วย ถ่ายเสร็จก็มาดูกันว่าถ่ายมุมไหนสวย เลยกลายเป็นคลาสเรียนถ่ายรูปให้ได้สนุกสนานกัน เราถ่ายรูปเล่นกันสักพักก็เป็นเวลาสามทุ่มถึงเวลาที่ต้องนอนพักผ่อนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ เป็นการเดินป่าซึ่งต้องใช้แรงกายพอสมควร...

เช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2562
ตอนเช้าหลังจากล้างหน้าแปรงฟัน เราก็พากันออกไปเดินยืดเส้นสาย รับสายลมแสงแดดยามเช้าเลยพากันเดินออกไปตามทางของหมู่บ้าน เดินมาได้สักหน่อยก็เห็นทุ่งกว้างอยู่ทางซ้ายมือ มีชาวบ้านจูงน้องวัวออกมาเล็มกันหญ้า เราเลยขอเก็บภาพไว้สักหน่อย

ภาพดอกไม้สีชมพูมีให้ชมอยู่ทั่ว...

เดินเล่นกันมาสักพักก็ได้เวลาเดินกลับไปเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ก่อนออกเดินทางก็ต้องเติมกำลังกันด้วยมื้ออาหารเช้าเพื่อให้มีแรง เช้านี้ก็ยังเป็นมื้ออาหารเลิศรสฝีมือภรรยาพี่ซ้งอีกเช่นเคย พี่ซ้งพาเราขึ้นรถกระบะไปส่งที่จุดเดินศึกษาธรรมชาติ วันนี้เรามีผู้นำทางคือพี่รัฐบาล และครอบครัวน่ารักๆ พาเราออกเดินทางผจญภัยในเส้นทางธรรมชาติแม่กลองน้อย

เส้นทางศึกษาธรรมชาติแม่กลองน้อย
พี่ซ้งพาเรามาส่งเสร็จแล้วก็กลับไปดูร้านกาแฟต่อ ให้พี่รัฐบาลเป็นคนนำทาง จุดแรกที่พี่รัฐบาลจะพาเราไปคือน้ำตกแม่กลองน้อยเป็นต้นน้ำแม่กลอง การเดินทางเพื่อชมน้ำตกแม่กลองน้อย ค่อนข้างจะมีความชันและลื่นมาก ต้องใช้ความระมัดะวังในการเดิน แต่พวกเราต่างพากันลื่นไปหลายที


ชื่อสินค้า:   ทีลอซู อุ้งผาง ตาก และแม่กลองน้อง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่