ทริปเห่อกล้อง แบกเป้ แอ่วเหนือ นอนเต้นท์ พ.ย.62 ep.4

กระทู้สนทนา
เดินทางต่อจากที่อยู่พะเยานั้น เช้าวันต่อมา 14/11/62 เตรียมตัวเดินทางไป อ.เชียงคำ เดินลงมาทานอาหารเช้า ที่จริงแค่กาแฟก็เดินทางต่อได้ล่ะ แต่ทางที่พัก ซึ่งได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า ห้องพักไม่ค่อยประทับใจ แต่ต้องยอมเพราะอาหารเช้านี่แหละ ต้องยอมเค้าจริงๆ พอทานเสร็จ ก็แบกเป้ สะพายกล้องเดินทางต่อ สถานีขนส่งพะเยาคือจุดหมาย เพื่อ ต่อรถไป อ.เชียงคำ แต่ก่อนนั้นต้องแวะทำธุระที่ อ.ดอกคำใต้ และ เดินทางต่อไปพักที่เชียงคำ เพราะว่าต้องรอรถโดยสารไปภูลังกาในตอนสายๆอีกวัน เนื่องจากรถมีวันละรอบเท่านั้น  ระหว่างเดินไปขนส่งก็เก็บภาพได้บ้าง แต่อาการเมาค้างทำให้สายตา ถ่ายอะไรก็ไม่ดี ไม่สวยเลย hahaเอาละขึ้นไปรอรถที่ไปเชียงคำ จะได้แวะลงทำธุระก่อน หลังจากทำธุระเสร็จก็รอดักรถเมล์ไปเชียงคำอีก 40กว่าโล และพอถีงขนส่งเชียงคำ ก็เดินไปสอบถามรถที่จะไป ภูลังกาตอนสายวันพรุ่งนี้ให้แน่ใจ ดูที่พักแล้วต้องเหมารถไปอีก 6กิโล (แน่ใจแล้วว่าทริปนี้หาที่พักไกลทุกที่ ถ้าไม่มีรถไปเอง 555) หลังจากเข้าที่พัก ก็เดินตลาดใกล้ๆ พักเอาแรง เช้าวันที่15 /11/62  หลังจากซดกาแฟ ก็โทรเรียกรถคันเดิมมารับ เข้าเมือง และรถคันนี้แหละที่จะพาเราไปที่หมาย เวลายังเหลือเพราะตั้งใจจะไป  วัดนันตาราม ก็เลยฝากเป้ไว้ที่รับฝากตรงขนส่งแล้วเดินชมเมืองเชียงคำ อย่างที่เคยบอกไว้ พอเราจับกล้องถ่าย เวลายิ่งไม่พอให้เก็บภาพ เดินไปก็เก็บรูปตลาดเช้า พอสายมาเก็บหายไปหมดเลย และก็เดินมาถึงวัด นันตาราม อ.เชียงคำ เหลือบมองเวลา ต้องรีบกลับไปที่ขนส่งล่ะ เด่วรถมาจะไม่ทัน ยิ่งมีวันละเที่ยวเท่านั้น กลับมารอรถอีกกว่าชั่วโมง รถบัสเด่วนี้ใช้ไมโครบัสหมดล่ะ เต็มครับ ที่นั่งเต็ม มีน้องๆที่รออีกขึ้นภูอีก 3 คน อาจจะเป็นเพราะคนเยอะเลยไม่อยากรับไปหมด ก็เลยคุยกับน้องๆเหมารถไปไหม ที่นั้นเค้าคิด 600 ตกลงกันได้ก้โทรหารถคันเดิม ไปครับยังไงก็ต้องไป มันคือ ไฮไลท์ของทริปนี้ จะมาถ่าย รูปทะเลหมอก และตามล่าช้าง smilesmilesmile มาถีงแล้วภูลังกา เพี้ยนลอยเพี้ยนลอย  สวยไหมเห็นทีแรก ก็ไม่น่ะ มันก็เขาเขียวๆ อ่ะนะ เอาเป้โยนเข้าเต้นท์ออกไปหาข้าวกินสิครับ   คือเรานอนเต็นท์ ราคาอยู่ที่600/คืน ก็เลยไม่สามารถอยู่ในเต็นท์ตอนกลางวัน เลยถือกล้องเดินเก็บภาพไปเรื่อย ข้างบนมีร้านกาแฟและมีรถพาทัวร์ เอ้ยพาขึ้นยอดภูลังกา ต้องชี้แจงว่าที่เราพักและถ่ายรูปนั้นเขาเรียกว่าผาช้างน้อย ราคาเหมารถขึ้นยอดภูลังกา 1700 บาท วันนั้นเราได้ผู้ร่วมทริป 7คน และถึงเวลา3โมงนิดๆ ก็ล้อหมุน เดินทางเกือบๆ 20 นาทีก็มาถึงทางเข้าอุทยาน ถ้ำสะเกิ้น และเสียค่าเข้าอุทยาน เรียบร้อย ก็ล้อหมุนใช้ 4wd ไต่ขึ้นไปอีก คนขับบอกถ้าเดินเสียเวลานานโข เชื่อเถอะเค้าพูดจริง เพี้ยนเสียงสูง แล้วก็มาถึงต้องเดินขี้นกันล่ะทีนี้ คนขับบอกว่านิดเดียว  พวกเราก็เบาใจ แต่ก็เล่นเอาหอบ และหยุดหายใจเป็นระยะๆ เพี้ยนเบลอระหว่างทางก็เก็บรูปแต่สุดท้ายยิ่งถ่ายก็ไม่ได้รูป ยิ่งหอบแล้วหายใจ รูปถ่ายก็เลยเบลอ มือไม่สั่นแต่มันสั่นทั้งตัว555.    อาศัยหยุดแวะถ่ายรูปและสูดอากาศเข้าปอด และเดินต่อจนสุดท้ายก็มาถึงยอดภู ก็ต่างแยกย้ายกันถ่ายรูป ข้างบนยอดภูเนี่ย ต้องขอบอกว่าสัณญาน aisชัดมากครับ เผลออีกทีหมอกลงเต็มยอดภูมองข้างล่างไม่เห็นอากาศก็เย็นลง มองหาคนขับรถ ไปนั่งห้อยขาตรงชะง่อนหินซะล่ะ ดูเวลาก็จะหกโมงล่ะ เลยพากันลงมา ฟ้ามืดเร็วมาก อากาศก็เย็นแต่ไม่หนาวมาก ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มมากที่ขึ้นมายอดภู  ถ้าใครได้มาภูลังกา อย่าลืมขึ้นมายอดภูน่ะครับ กลับถึงที่พักก็เตรียมตัวอาบน้ำ  กลัวน้ำมันเย็น
ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ต้องรีบอาบ ปรากฎน้ำไม่เย็นมากน่ะ เสร้จแล้วมื้อเย็นเนี่ยต้องขอบอกหมูกระทะครับ มานั่งกับน้องที่ร่วมกันไปพิชิตยอดภูมา หลังจากนั้นเตรียมตัว ตั้งกล้องถ่ายรูป ตอนหัวค่ำมืดดีมากแต่ผ่านไปสักพัก โอ้วจันทราเจ้าส่องสว่างเหลือเกิน  เล่นกลบดาวดวงอื่นมิดเลย   จนต้องยอมแพ้ในการล่าช้างเผือก ก็หันมาเก็บภาพรอบตัว     มีหมอกปกคลุมตามพื้น รอบๆผาช้างน้อย นับเป็นเรื่องที่ดี ก่อนหน้านี้ไม่มีหมอกเลยเพราะลมมันพัดแรง ทำให้ไม่มีทะเลหมอก และเราก็ต้องลุ้นกันต่อ สักพักก็เก็บกล้องเข้านอน ตอนสักเกือบตี 1มีเสียงเต็นท์ตี  เพราะลมแรงใจคอไม่ดีเลย กลัวอดเห็นทะเลหมอกอ่ะ  ตื่นมาตี4กว่าๆก็เตรียมกล้อง มองลงไป หมอกไม่เต็ม แต่พอเช้าหัวรุ่งกลับมีหมอกเต็มพื้นที่ โชคดีมากเลย น้องที่มาเมื่อคราวที่แล้วก็บอกว่าได้เจอกันล่ะ                                                                                   สวยงามครับ ปีหน้าไม่ต้องแวะมาเก็บที่นี้ล่ะ หาดอยลูกใหม่ได้เลย หลังจากสายๆเตรียมเก็บของคืนเต็นท์ ก็มานั่งกินกาแฟรอรถบัสไปสถานีต่อไป จ.น่าน  นั่งรอนานมากเกือบบ่ายครึ่งรถถึงมา วิ่งสิครับคันเดียวต่อวัน ( หลังจากนี้ทริปต่อไปต้องมีรถครับ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น รวมๆเวลาที่หายไปกับการรอ เยอะน่ะ) มาถึงบขส.น่านราวห้าโมง ก็ตรงไปที่ร้านเช่ามอไซค์ เพราะหลังจากนี้ใช้มอไซค์เป็นพาหนะแล้ว และ จ.น่านเคยมาครั้งนึงเมื่อเดิอนมีนาที่ผ่านมา สบายเรา ขี่ไปหาที่พัก อีกเช่นเคยอยู่นอกเมืองอีกแล้ว หลังจากเก็บเป้ เตรียมกล้อง แล้วแผนการแรกเลยคือเก็บบรรยากาศในเมือง ข่วงเมืองน่าน ( ข่วง แปลได้ว่า ลานใหญ่)                       มีต่อep.5
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่