ถ้าบริษัทจ่ายเงินเดือนล่าช้า เรียกร้องไปก็ไม่เป็นผล ควรทำอย่างไรดี

ปัญหาเรื่องเงินเดือน ในยุคนี้คงมีมากมายหลายอย่าง ทั้งที่มาจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจ การเมือง สภาพสังคม เเต่ที่หนักไปกว่านั้นคือมุมมองเเละทัศนคติของนายจ้าง ผมทำงานอยู่ในบริษัทฯ เอกชนแห่งหนึเป็นอุตสาหกรรมผลิตยางเเท่ง STR 20 และยางผสม ส่งออกไปที่ประเทศจีน ซึ่งเจ้าของเป็นชาวจีน จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่ค่อนข้างมีผลกระทบกับการส่งออกของบริษัทฯ เเต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ปริมาณในการส่งออกของบริษัทฯ ลดลงเลย ตรงกันข้ามยอดการส่งออกของปีนี้พุ่งสูงกว่าปีที่เเล้วหลายพันตัน ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนมานี้ สภาพคล่องของบริษัทฯ เริ่มฝืดเคือง พอเวลาน้ำลด ก็เริ่มเห็นตอโผล่ขึ้นการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เริ่มชะลอ การติดต่อประสานงานการส่งออก เริ่มมีปัญหาทางเจ้าของ Shipping มีหนังสือเรียกเก็บพอกพูนขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับแผนบ่ายเบี่ยง เเล้วก็จัดหา Shipping เจ้าใหม่ เพราะเจ้าเดิมยังไม่ชำระยอดเรียกเก็บ ในมุมมองของพนักงานด้วยกันเริ่มสงสัย จากการบันทึกปริมาณวัตถุดิบเเละ จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ส่งออก เพิ่มขึ้นบริษัทฯ กลับมีสภาพลุ่มๆ ดอนๆ ไม่นานนัก เริ่มกระทบกับการนำวัตถุดิบเข้ามา ปัญหาเริ่มเพิ่มมากขึ้นจากการใช้สินเชื่อ เเละ Due date มาถึง ต้องสลับสันเปลี่ยน บ่ายเบี่ยงเริ่มสะสมมากยิ่งขึ้น เเละเเล้วสิ่งที่พนักงานคิดไว้ก็เกิดขึ้น ผลกระทบที่หนักหน่วงนี้ตกมาอยู่ที่พนักงาน เมื่อเงินเดือนที่ควรจะออกตรงวันทุกเดือน กลับมีประกาศเเจ้งว่า ขอเลื่อนกำหนดวันจ่ายเงินเดือนพนักงานออกไป ซึ่งวันที่นั้นยังไม่กำหนด ส่วนเเรกที่ผู้บริหารรายนี้เลือกที่จะทำคือ 1. เลื่อนการจ่ายการ เงินเดือนพนักงาน 2. การขอขยายระยะเวลาจ่ายเงินกับ Supplier ซึ่งเลยกำหนดจ่ายมาเเล้ว และ 3. ซึ่งตำตอบนี้ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากของผู้บริหารเลย นั่นก็คือ ตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่ายให้ Shipping ขอขยายระยะเวลาให้ก่อน เดี๋ยวถ้าส่งออก Lot นั่น นู่น นี่ ไปแล้วจะเคลียร์ให้ ซึ่งการส่งออกสินค้าเเต่ละ Lot ลูกค้าต้องชำระค่าสินค้ามาก่อนอยู่เเล้วเพื่อเป็นหลักประกัน เเล้วในวันที่ส่งสินค้า เอกสารประกอบครบ เรื่ออกจากท่า ลูกค้าต้องจ่ายส่วนที่เหลือ ความสงสัยเริ่มมากขึ้นเมื่อเงินเดือนออกช้าบ้าง เลื่อนจ่ายจนพนักงานต้องเสียเครดิตไปหลายคน เเละหนักสุด คือรวมจ่ายเงินเดือนพร้อมกัน 2 เดือนโดยไม่มีการชดเชยหรือคำอธิบายใดๆ ต่อการที่ลูกจ้างต้องเสียดอกเบี้ยรายวันบ้าง โดนปรับ เรียกเก็บค่าติดตามทวงถามจากนายจ้างเเต่อย่างใด เเละยิ่งไปกว่านั้น มีการสั่งหยุด เพราะการจัดหาวัตถุดิบที่ไม่ตรงตามเป้า เเล้วจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานรายวันฝ่ายผลิต ในอัตราเเค่ 50% ของรายได้ พนักงานรายวันตาดำๆ ที่ไม่ค่อยสนใจรายละเอียดของกฎหมาย เเละไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากวุ่นวาย ก็ก้มหน้าก้มตารับค่าเเรงกันไป ยิ่งไปกว่านั้นกฎระเบียบของบริษัทฯ ก็กำหนดในเรื่องของการมาสายที่ต้องโดนหักเงิน โดยฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร หนำซ้ำยังระบุใน Slip เงินเดือนของพนักงานชัดเจนโดยไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายเเรงงานเลยเเต่อย่างใด เมื่อเหตุการณ์ยังไม่บรรเทาลง พนักงานบางคนก็เเจ้งเข้าไปที่สวัสดิการเเละคุ้มครองเเรงงานจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่รับเรื่องเเละจะประสานงานต่อให้ สักพักมีสายเรียกเข้าที่โต๊ะหัวหน้าฝ่ายบุคคล เเละเเล้วก็มีการเรียกประชุมลับ โดยทีมคนเก่าคนแก่ของที่นี่ 2-3 คน หลังจากประชุมเสร็จมีเสียงกระเเหนะ กระแหนจากหัวหน้าฝ่ายบุคคลเปรยออกมาว่า รู้นะว่าใครโทรไปแจ้งสวัสดิการฯ ด้วยความอวดโอ้ โฆษณาตนว่าตัวเองสนิทสนมกัน ผ่านไปวันที่ 2 หัวหน้าฝ่ายบุคคล คนเดิมเข้าไปพบสวัสดิการฯ เเละกลับมาโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ เเละยิ้มเเย้มเเจ่มใส พร้อมกับยืดอกบอกว่าเคลียร์ได้เเล้ว หลายวันผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเลยสงสัยว่าการบริหารจัดการกับเรื่องร้องเรียน ทางรัฐฯ มีเเนวทางในการจัดการอย่างไรบ้าง ขั้นตอนตั้งเเต่การรับเรื่อง ไปจนถึงเรื่องยุติไม่ยุติ มีการเเจ้งกลับต่อผู้เรื่องเรียนหรือไม่ เเล้วการดำเนินการในการให้ได้มาซึ่งข้อมูล เขาเเค่เรียกตัวเเทนนายจ้างเข้าไปเเล้วก็จบ ? จนถึงตอนนี้นายจ้างเข้ามาบริษัทฯ เเค่สัปดาห์ละครั้ง 2 ครั้ง เเละเดินทางไปที่ประเทศลาวบ่อยครั้ง ครั้งละหลายวัน มีการนำตัวอย่างยางก้อนถ้วยที่ประเทศลาวกลับมาทดสอบมีาห้องปฏิบัติการของบริษัทฯ การส่งออก หรือออร์เดอร์จากลูกค้ายังมีเข้ามาไม่ขาดสาย เเล้วเม็ดเงินที่เข้ามาเขาบริหารยังไง แล้วการเลี่ยงกฎหมายมาได้ถึงขนาดนี้ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาตรวจสอบเลยหรือ ? หรือเพราะกระเช้าของขวัญที่ส่งให้ หรือซองผ้าป่าที่ช่วยกันทำบุญ ? หรือเหตุผลอะไรบ้างครับทีทำให้คนที่เอาเปรียบพนักงานทุกอย่างแบบนี้ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขแบบนี้