เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เราไม่รู้จะระบายกับใคร
ในบ้านของเรา เพดานห้องน้ำมีรูใหญ่พอที่จะเอาหน้าสอดได้ประมาณสี่รู
จะมีรูอันเดียวที่ต่ออยู่กับห้องในเพดาน ทำให้ใครจะเอาอะไรเข้าไปวางก็ได้ หรือไปนั่งในนั้น
คืนหนึ่งเราจะอาบน้ำ เราก็ไม่ได้คิดอะไร แค่ถอดเสื้อผ้าใต้รูอันนั้นพอดี
เราไม่ได้ระวังตัวหรืออะไร เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนมานั่งดูหรือทำอะไรไม่ดี
แล้วพอเรามองขึ้นไป เราเห็นมือกับหน้าของพ่อบุญธรรม เราก็เห็นแบบนั้น เราโวยวายเลย
เราวิ่งออกไปใส่แค่ผ้าขนหนูไปหาแม่บุญธรรม เราสองคนก็เดินไปหาพ่อบุญธรรมที่นั่งกุมกางเกงอยู่
หน้าเค้ากริ่มมาก มือจับตรงเป้ากางเกง เค้าเห็นเราใส่แค่ผ้าขนหนูก็จะมากอด แม่บุญธรรมก็ไม่ได้ทำอะไร
เรารู้ว่าเค้าเมา เรารีบวิ่งลงไปหาลุงของเรา ลุงของเราได้ยินก็โมโหมาก ทำร้ายข้าวของบอกจะฟ้องตำรวจ
แม่บุญธรรมก็ได้แต่บอกให้ลุงเราเงียบ เพราะเค้าอาย เค้าไม่อยากให้เพื่อนบ้านมานินทา แล้วเค้าก็ถามเราเรื่องตำรวจ
เค้าถามว่าอยากจะบอกตำรวจมั้ย เราไม่รู้ เรายังเด็กอยู่ เราจะต้องทำอะไรบ้าง แม่บุญธรรมก็เลยบอกว่า แจ้งได้นะ
"แต่ถ้าแจ้ง เราจะไม่มีอะไรกิน แม่จะไม่มีเงินซื้อของ บ้านเราจะจน มันน่าอับอาย อยากนอนข้างถนนเหรอ"
เราก็เงิยบ แล้วส่ายหัวว่าไม่แจ้งก็ได้ แม่บุญธรรมก็พาเราเดินไปหาพ่อบุญธรรม
แม่บุญธรรมก็บอกให้เรากอดพ่อบุญธรรมที่กำลังนั่งเมาแล้วมองแต่ชายล่างของผ้าขนหนู พยายามจะลูบขา
เราก็ได้แต่รู้สึกอีดอัดกับชีวิต บอกใครไม่ได้เพราะเค้าห้ามไม่ให้บอก
เค้ากลัวว่าบ้านจะขายหน้าเอา คนจะนินทา เรายังเด็กเราเลยไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปหลายปี เราก็ถามแม่บุญธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าทำไมไม่แจ้งตำรวจ ทำไมไม่ปกป้องเรา
เค้าบอกว่าเป็นความผิดของเราเอง เค้าถามแล้วว่าจะแจ้งมั้ย แต่เราบอกว่าไม่
เค้าก็เลยถามว่าแล้วจะมานั่งคิดอะไรอีก เราก็จำได้สนิทใจเลยว่า เราไม่ได้แจ้งเพราะไม่อยากให้บ้านขาดเงิน
แต่แม่บุญธรรมของเราเค้าไม่ได้จนนะ เงินเดือนของเค้าเยอะว่าพ่อบุญธรรมซะอีก
บ้านก็ไม่ได้เช่าแค่ต้องจ่ายค่าน่ำค่าไฟซึ่งไม่ได้แพงมากเลยตอนนั้น
แต่เค้ามีหนี้บัตรเครดิตจากการซื่อกระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม ใช้เงินฟุ่มเฟื่อยมาก
พอตอนนี้เราย้ายมาอยู่ที่ประเทศอื่น ก็ยังจะขอให้เราถ่ายวิดิโอลูกของเราอาบน้ำด้วย เพราะเค้าอยากเห็นอวัยวะเพศของลูกสาว
เราไม่ถ่ายให้ เราบอกไปเลยว่าไม่มีทาง เค้าก็ตะโกนใส่เราบนโทรศัพท์ว่าเนรคุณ ทำแค่นี้ก็ไม่ได้ ไม่เห็นหัวพ่อแม่
ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร แต่พอเรานึกไปนึกมา เฮ้ย มันไม่ใช่เลยนะ จะมาขออะไรแบบนั้น ทุเรศมาก
บวกกับสื่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่ใว้ใจเค้าแน่นอน มันยังดีที่เราอยู่ในประเทศที่เด็กมีความสำคัญมาก
เราปลอดภัยกับลูกที่นี่ เรามีความสุขกับครอบครัวเล็กๆ ของเรา ที่แม่บุญธรรมพยายามจะทำลายเพื่อให้ได้เงินของเรา
สรุปคือ เค้าเห็นแก่เงินจริงๆ เค้าพยายามให้เราเลิกกับสามี เราจะได้กลับไปบ้าน ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น เพื่อให้เงินกับเค้า
เค้าบอกเลย เค้าพูดมาแบบตรงๆ เลยว่า สามีกับลูกของเราไม่ควรได้เงินจากเรา เราช่วยสามีจ่ายค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าอาหาร แล้วก็เก็บเงินให้ลูก
แต่ไม่เลย เค้าด่าว่าเราไม่มีความเป็นไทยเพราะไม่ให้เงินกับเค้า ไม่เห็นคุณค่าของเค้า
มีการบอกให้สามีเราช่วยเค้าด้วย ให้สมัครบัตรเครดิตให้เค้าในชื่อเราชื่อสามีเรา แต่เค้าไม่ได้เห็นคุณค่าของครอบครัวเราเลย
เค้าปล่อยให้เราอยู่กับพ่อบุญธรรมคนเดียวหลายครั้งหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น เค้าไม่เห็นว่ามันจะเสียหายอะไร
"เพราะแม่ยังได้เงินของเค้า หนูก็ช่วยแม่หน่อยนะ อย่าไปแจ้งตำรวจหรืออะไรล่ะ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนเค้าหน่อย ดีกว่าเค้าไปหาเมียน้อยที่อื่นแล้วเอาเงินให้มัน"
แม่บุญธรรมปกป้องพ่อบุญธรรมเพราะเงิน
ในบ้านของเรา เพดานห้องน้ำมีรูใหญ่พอที่จะเอาหน้าสอดได้ประมาณสี่รู
จะมีรูอันเดียวที่ต่ออยู่กับห้องในเพดาน ทำให้ใครจะเอาอะไรเข้าไปวางก็ได้ หรือไปนั่งในนั้น
คืนหนึ่งเราจะอาบน้ำ เราก็ไม่ได้คิดอะไร แค่ถอดเสื้อผ้าใต้รูอันนั้นพอดี
เราไม่ได้ระวังตัวหรืออะไร เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนมานั่งดูหรือทำอะไรไม่ดี
แล้วพอเรามองขึ้นไป เราเห็นมือกับหน้าของพ่อบุญธรรม เราก็เห็นแบบนั้น เราโวยวายเลย
เราวิ่งออกไปใส่แค่ผ้าขนหนูไปหาแม่บุญธรรม เราสองคนก็เดินไปหาพ่อบุญธรรมที่นั่งกุมกางเกงอยู่
หน้าเค้ากริ่มมาก มือจับตรงเป้ากางเกง เค้าเห็นเราใส่แค่ผ้าขนหนูก็จะมากอด แม่บุญธรรมก็ไม่ได้ทำอะไร
เรารู้ว่าเค้าเมา เรารีบวิ่งลงไปหาลุงของเรา ลุงของเราได้ยินก็โมโหมาก ทำร้ายข้าวของบอกจะฟ้องตำรวจ
แม่บุญธรรมก็ได้แต่บอกให้ลุงเราเงียบ เพราะเค้าอาย เค้าไม่อยากให้เพื่อนบ้านมานินทา แล้วเค้าก็ถามเราเรื่องตำรวจ
เค้าถามว่าอยากจะบอกตำรวจมั้ย เราไม่รู้ เรายังเด็กอยู่ เราจะต้องทำอะไรบ้าง แม่บุญธรรมก็เลยบอกว่า แจ้งได้นะ
"แต่ถ้าแจ้ง เราจะไม่มีอะไรกิน แม่จะไม่มีเงินซื้อของ บ้านเราจะจน มันน่าอับอาย อยากนอนข้างถนนเหรอ"
เราก็เงิยบ แล้วส่ายหัวว่าไม่แจ้งก็ได้ แม่บุญธรรมก็พาเราเดินไปหาพ่อบุญธรรม
แม่บุญธรรมก็บอกให้เรากอดพ่อบุญธรรมที่กำลังนั่งเมาแล้วมองแต่ชายล่างของผ้าขนหนู พยายามจะลูบขา
เราก็ได้แต่รู้สึกอีดอัดกับชีวิต บอกใครไม่ได้เพราะเค้าห้ามไม่ให้บอก
เค้ากลัวว่าบ้านจะขายหน้าเอา คนจะนินทา เรายังเด็กเราเลยไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปหลายปี เราก็ถามแม่บุญธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าทำไมไม่แจ้งตำรวจ ทำไมไม่ปกป้องเรา
เค้าบอกว่าเป็นความผิดของเราเอง เค้าถามแล้วว่าจะแจ้งมั้ย แต่เราบอกว่าไม่
เค้าก็เลยถามว่าแล้วจะมานั่งคิดอะไรอีก เราก็จำได้สนิทใจเลยว่า เราไม่ได้แจ้งเพราะไม่อยากให้บ้านขาดเงิน
แต่แม่บุญธรรมของเราเค้าไม่ได้จนนะ เงินเดือนของเค้าเยอะว่าพ่อบุญธรรมซะอีก
บ้านก็ไม่ได้เช่าแค่ต้องจ่ายค่าน่ำค่าไฟซึ่งไม่ได้แพงมากเลยตอนนั้น
แต่เค้ามีหนี้บัตรเครดิตจากการซื่อกระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม ใช้เงินฟุ่มเฟื่อยมาก
พอตอนนี้เราย้ายมาอยู่ที่ประเทศอื่น ก็ยังจะขอให้เราถ่ายวิดิโอลูกของเราอาบน้ำด้วย เพราะเค้าอยากเห็นอวัยวะเพศของลูกสาว
เราไม่ถ่ายให้ เราบอกไปเลยว่าไม่มีทาง เค้าก็ตะโกนใส่เราบนโทรศัพท์ว่าเนรคุณ ทำแค่นี้ก็ไม่ได้ ไม่เห็นหัวพ่อแม่
ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร แต่พอเรานึกไปนึกมา เฮ้ย มันไม่ใช่เลยนะ จะมาขออะไรแบบนั้น ทุเรศมาก
บวกกับสื่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่ใว้ใจเค้าแน่นอน มันยังดีที่เราอยู่ในประเทศที่เด็กมีความสำคัญมาก
เราปลอดภัยกับลูกที่นี่ เรามีความสุขกับครอบครัวเล็กๆ ของเรา ที่แม่บุญธรรมพยายามจะทำลายเพื่อให้ได้เงินของเรา
สรุปคือ เค้าเห็นแก่เงินจริงๆ เค้าพยายามให้เราเลิกกับสามี เราจะได้กลับไปบ้าน ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น เพื่อให้เงินกับเค้า
เค้าบอกเลย เค้าพูดมาแบบตรงๆ เลยว่า สามีกับลูกของเราไม่ควรได้เงินจากเรา เราช่วยสามีจ่ายค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าอาหาร แล้วก็เก็บเงินให้ลูก
แต่ไม่เลย เค้าด่าว่าเราไม่มีความเป็นไทยเพราะไม่ให้เงินกับเค้า ไม่เห็นคุณค่าของเค้า
มีการบอกให้สามีเราช่วยเค้าด้วย ให้สมัครบัตรเครดิตให้เค้าในชื่อเราชื่อสามีเรา แต่เค้าไม่ได้เห็นคุณค่าของครอบครัวเราเลย
เค้าปล่อยให้เราอยู่กับพ่อบุญธรรมคนเดียวหลายครั้งหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น เค้าไม่เห็นว่ามันจะเสียหายอะไร
"เพราะแม่ยังได้เงินของเค้า หนูก็ช่วยแม่หน่อยนะ อย่าไปแจ้งตำรวจหรืออะไรล่ะ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนเค้าหน่อย ดีกว่าเค้าไปหาเมียน้อยที่อื่นแล้วเอาเงินให้มัน"