ไม่ได้เปลี่ยนรถมาเกือบสองปี เลยไม่ได้ เขียนรีวิวฝากเพื่อนๆกัน
ช่วงนี้ หารถ ขับเล่นวันหยุด ได้ตัวถูกใจ มา เลยเก็บมาเล่า รีวิวสู่กันฟัง
ใครอยากทราบข้อมูลตรงไหน เพิ่มถามได้ ครับ
-----------------------------------------------------
จั่วหัวอย่างหัวข้อกระทู้
แน่นอน คงเดาได้ว่า นาทีนี้ สำหรับผมเอง เอาเรื่องราคาขายต่อ และ ความคุ้มค่า Porsche บางตัว เหมือนจะเริ่มคุ้มกว่า เบ๊นซ์ โดยเฉพาะ เวลาขายต่อ
ตัวเองไม่เคยใช้ รถ Porsche มาก่อน ความรู้สึก คิดว่ามันคงแพง แล้ว เมนเทนแน้นซ์คงสูงจุกจิก ราคาขายต่อคงตกมาก
แต่พอไปอยู่กับน้องๆที่เล่น Porsche กัน พบว่า ปอร์เช่ โดยเฉพาะตัวเล็ก อย่าง Cayman และ boxter กลับพบว่า รถมันอึดกว่าที่คิด จุกจิกน้อยกว่า และค่าเมนเทนแน้นซ์ ก็ไม่ได้ แพงกว่ามากมาย และที่สำคัญ ราคาขายต่อ Porsche กับ ตกน้อยกว่า เบ็นซ์ พอสมควร
โดยเฉพาะพวกมือสองปีกลางๆ
ถ้าไล่ไปตั้งแต่ตัวแรกๆ Boxter และ Cayman รุ่นแรกสุด หรือตัว 986 ปี 1996 -2004 รถเก่าขนาดนี้ ราคา ก็ยังอยู่กันแถวสองล้าน
หรือตัวถัดมา 987 ปี 2005-2012 นี่ ราคา ยังอยู่แถวสามล้านกว่า แถว สองสามปีที่ผ่าน ใครซื้อมือสอง นี่ราคา มันอยู่แถวนี้ ไม่ค่อยตกลง เท่าไร
ส่วนตัวก่อนโฉมปัจจุบัน 981 ปี 2012-2016 รถใหม่ ราคาราวๆหกล้านกว่า ๆแต่รถพวกนี้ จะราคาอยู่แถว 3 ล้านปลายถึง 4 ล้าน ต้นๆแล้ว แต่สภาพตกน้อยมาก
แต่ถ้าเป็นพวก Benz จะตกลงมากกว่า โดยเฉพาะ พวก S Class หรือ รถ Hybrid
ช่วงนี้ เริ่มว่าง มากขึ้นขับรถเที่ยวเยอะขึ้น และ ทะเบียน กฉ 1 ที่ ใช้ติดรถ ที่ใช้ขับเล่นประจำตัว ว่างมา ปีกว่า หลังจาก ถอดออกจาก SLK ไป ใส่ RCZ และพอ RCZ ขายไป ก็ ว่างมาตลอด เลยอยากหา Weekend car มาขับเล่นบ้าง
ตัวเลือก ตอนแรก มีสามตัว SLC300 และ 43AMG และ C 43AMG Coupe กับ Porche มือสองราคาใกล้ๆกัน
ช่วงเดือนที่แล้ว ไปเจอ SLC รถปี 2018 รถศูนย์ ไมล์ไม่ถึงหมื่น ฝากขายเต็นต์ไว้ 2.49 ล้าน ราคาดีเลย เลยแวะไปดู รถก็สวยพอใช้ แต่ดูไปมันคล้าย SLK ที่เคยใช้แล้ว วันไปดูดันเหลือบไปเห็น 718 Cayman จอดข้างๆ โห เคยเห็นแต่ในรูป พอดูตัวจริงมัน ทำไม ออร่ามันออกเยอะจัง สวย ทั้งไฟ และรูปทรง เรียกว่า พาอารมณ์ ว่า SLC ขี้เหร่เลย หมดอารมย์อยากได้ จากคิดในใจ จะต่อ 2.45 ล้าน เลย ต่อ แค่ 2.4แบบว่า ได้ก็เอามาขับเล่น แต่ไม่ค่อยอยากได้แล้ว เลยกดราคา สุดท้ายเค้า ให้แค่ 2.45 ราคาในใจรอบแรก เลยไม่เอามา
ตอนนี้เริ่มเบนมาทาง Porsche แต่ว่ารถใหม่ 718 อ๊อปชั่นกลางๆ มันก็ จะ 7 ล้านกว่า เกินงบที่กะจะใช้ แค่ 4 ล้านกว่าๆไปพอสมควร
เลยเล็งไปที่ ซึ่งเล็งๆ 981 ปีราวๆ 2014 ขึ้นมาไว้ และมีรถเพื่อนปี 2013 แต่งสวย เป็น GT แต่งไปหกแสน รถสวย บอกขายอยู่ราวๆ 4.3 แต่ต่อรองได้ เลยนัดจะไปดูไว้
แต่ก่อนจะไปดู แวะไปลอง Test Drive และดูตัวจริง C43 AMG ใกล้ๆชัดๆอีกที
ตามโพสต์นี้
https://www.facebook.com/Dr.JfkThai/posts/2641445275898783
ตอนนั้นได่ข้อ เสนอลดจากราคาตั้ง 4.22 ล้าน ลงมาสองแสนในเบื้องต้น ถือว่า ราคาอยู่ในงบ
และยอมรับว่ามันเป็นรถที่ขับสนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บน Toll way ว่างๆกดแว๊บเดียวทะลุ 250 เต็มเพดานที่ล้อคไว้เลย ภายในแว๊บเดียว เบรคคม ช่วงล่างหนึบ ชอบเลย แหละ
แต่พอ มองอีกครั้ง มันก็เหมือน เหมือน ยังหล่อไม่สุด ไม่ตอบโจทก์ ที่อยากได้รถสวย ขับเล่นมากว่ารถแรง
สุดท้ายเลย ตัดสินใจแระ ไป Porsche Cayman หรือ Boxter อย่างเดียว
ระหว่างรอนัดเจ้าของ ดูตัว 981 GT4 ปี 2013 แต่งหล่อๆ ที่เปิดไว้ 4.3
น้องๆกลุ่มไลน์ที่เล่นรถด้วยกันรู้ว่า หาอยู่ ไปเจอ 718 Boxter ปี 2018 รถศูนย์ AAS ประกันยังเหลืออีก 8 ปี ไมล์ใช่ไปแค่ 1500 โล เหมือนป้ายแดงเลย
เพื่อนคงทราบว่า รถ Porsche จาก AAS เวลาสั่งคนซื้อ เข้าไปกดเลือกอ๊อปชั่นที่ต้องการได้ตามชอบ แล้ว เพิ่มเงินจากตัวพื้นฐานขึ้นมาจนตัวเองพอใจ รวมทั้งเลือกสี ทั้งภายในและภายนอกเอง
คันนี้ เจ้าของอยู่ต่างจังหวัดทางใต้ ถอยออกไปพร้อมอ๊อปชั่นกลางๆราคา 7.2 ล้าน แต่เอาไปจอดไว้เกือบปี เช็คกับทางศูนย์ AAS ก่อนซื้อ
ทาง AAS บอกว่า รถแทบไม่ได้วิ่ง เพิ่งยกขึ้นเทรลเลอร์ จากใต้มาถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อครบปี ไมล์ 1500 และเปลี่ยนใส่ล้อ 20 นิ้วใหม่ จ่ายไปอีกราวๆ 3 แสน แล้วเอากลับไปจอด สุดท้ายคงนึกว่า ไม่ได้ขับ ด้วยเหตุผลไร เลยฝากขาย ออกมา และ ในที่สุดผมให้เพื่อน ตัดออกมาให้ ที่ ราคารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5.1 ล้านถูกกว่ารถใหม่ ราวๆ 2.4 ล้าน แม้เกินงบไปนิด แต่ได้รถปีใหม่ ประกันเหลือเพียบ และ ไมล์แค่ 1.5 พันโลเอง ก็เลย หันมาจับคันนี้ไว้แทน
คันนี้อยู่กับเจ้าของเก่า ปีกว่า เค้าขับไป 1.5 พันโล
มาอยู่กับผม หนึ่งสัปดาห์ผมใช้ไปแล้ว 2600 โล ไมล์เลย 4000 โลไปแล้ว คราวนี้ คงได้ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ 2 หมื่นกว่าโลครั้ง ตามระยะใช้งานไม่ใช่ครบปี ต้องถ่ายทิ้ง ตามเดิมแล้ว 55555555
ดูหน้าตา ของ 718 Boxter กัน คันนี้เป้นสีขาวมุก หลังคาผ้าใบสี Burgandy Red
ส่วนสีภายใน เบาะดำ ตัดกับ Burgandy Red ตอนดูในรูปคิดว่ามันจะแดงไป แต่สีจริงมันออกเข้มแบบสีไวน์แดง และ มี Texture สวยดี
หลังคา เปิดปิด ด้วย ปุ่มที่คอนโซลกลาง หรือใช้ รีโมทจากนอกรถก็ได้
เปิดปิดได้ค่อนข้างไวมาก จาก SLK ที่เคยใช้เวลา ราวๆ 20 วินาที ตัวนี้เหลือแค่ ไม่ถึง 10 วินาที จับได้ราวๆ 7 วินาที
และปิดขณะวิ่งได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 60-70 กม.ชั่วโมง
ชือรุ่น 718นี่ ตั้งชื่อตาม รถแข่งเครื่องวางกลางที่สร้างชื่อ ให้ Porsche ในอดีต รหัสตัวถังมันจริง คือ 982 ต่อจาก 981 ตัวก่อน
ถามว่าเครื่องวางกลางดีอย่างไร วิศวกรพอร์ช เค้าตอบคำถามนี้ โดยให้คนลองหาบถังน้ำ ใหญ่ใบ นึงเล็กใบนึง สลับ หน้า หลัง แล้วลองวิ่ง Slalom แทนรถวางเครื่องหน้า และหลัง
และหาบ แบบถังขนาดเท่ากัน หน้าหลัง (แทนเครื่องวางกลาง)อย่าง 718
เมื่อวิ่ง Slalom จะเห็นว่ารถที่ วางน้ำหนัก บาล้านซ์ไว้ ระหว่างล้อหน้า และหลัง อย่างเครื่องวางกลาง ควบคุมง่ายกว่า(ลองเองก็ขับง่ายจริงๆ)
ผลของการเอาเครื่องวางกลางไว้หลังเบาะทำให้ ต้องมีช่องลมขนาดใหญ่ด้านข้างส่งลมเข้าไปช่วยระบายความร้อนเครื่อง
และ เมื่อไม่มีเครื่องข้างหน้าเหมือนรถทั่วไป หรือ เครื่องอยู่ท้าย เหมือนโฟล์คเต่า หรือ พอร์ช 911 รุ่นเก่าๆ ผลก็คือ มีที่ว่างให้ทำเป็น ห้องเก็บของได้ ทั้งหน้าและหลัง
หลายคนคงคิดว่า รถเล็กอย่างนี้ จะเก็บกระเป๋าได้แค่ไหน ดูตามภาพ
ช่องด้านหลัง แคบและตื้นหน่อย เลยต้องวางกระเป๋าแนวราบ ด้านกว่างพอสำหรับเคบินไซซ์ ความยาวเหลือ ใส่อย่างอื่นได้พอสมควร แต่ใส่กระเป๋า เดินทางขนาดกลางหรือใหญ่ไม่ได้
ช่องด้านหน้า นี่ กว้างพอประมาณและค่อนข้างลึก ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ได้
หรือเอา Cabin Size ใส่ไป สองใบ ยังมีที่เหลือ ใส่ของ อีก พอสมควร
ฝากระโปรง ทั้งหน้าหลัง เปิดได้ ด้วยปุ่มข้างประตูคนขับ หรือใช่ รีโมทก็ได้
พูดถึงกุญแจรีโมท กุญแจ ของ Porche จะเป็นรูปรถ เกือบทั้งหมด
สำหรับคันนี้มี Option Keyless Go คือ พกกุญแจในกระเป๋าไว้ เปิดล้อค หรือ ปิดล้อคประตูได้ โดยการแตะมือจับ
และสตาร์ทเครื่องยนต์โดนการหมุมบิดปุ่มที่ติดไว้ตรงช่องกุญแจ คล้ายปุ่ม Push Start ในรถทั่วไป แต่ Porsche ใช้ บิดเหมือนกกุญแจธรรมดา แทนการกด
ภายในเรียบง่าย แอร์เป็น Auto แยกส่วน( เป็นอ๊อปชั่นอีกนั่นแหละ) พร้อมทั้งมีปุ่มเร่งความเย็นให้เย็นเร็วแรง อย่างรวดเร็วด้วย
พวงมาลัย มัลติฟังชั่น ปุ่มใช้งาน ใช้หมุน scroll ด้วยปลายนิ้วแทนการกดขึ้นลง (อ๊อปชั่นอีกเช่นกัน)
ระบบเครื่องเสียง ใช้ต่อกับ Apple Car Play ได้ทังฟังเพลง และใช้ google นำทาง ตลอดจน เล่น Jookbox
บนพวงมาลัย แถว 5 น.มีปุ่มกลม หมุนปรับโหมดการขับขี่ ธรรมดา Sport Sport+ และ Individual คือปรับตั้งเองตามความชอบ ในโหมด Sport Sport+ จะแรงขึ้น โดยเปลี่ยนเกียร์ไว ช่วงล่างแข็งขึ้นหนึบขึ้น และ เสียงท่อดังขึ้น แต่บอกได้เลยว่า แค่โหมดธรรมดา ก็แรงเกินพอแล้ว 5555555
แต่สำหรับคนอยากแรงสุดขีด มันมีปุ่มตรงกลางให้กด อารมณ์คล้ายยิงไนตรัส แต่ อันนี้มันใช้คำนวนหาเกียร์ และ สั่งเครื่องยนต์ให้ทำงาน แรงสุดรับกับเกียร์ เพื่อให้ได้อัตราเร่ง ที่ดีสุดในขณะนั้น ถ้าอยากอัดกับใคร หรือ แซงใคร แบบกระชาก หรือ จะแดรก ประมาณนั้น โดยกดแล้ว จะปล่อยพลังงนี้ให้ ใข้ 20 วินาที โดยจะนับถอยหลัง 20 วินาที แต่ถ้าอยากหยุดก่อนก็กดซ้ำได้
== คุยกันเล่นๆ ลงทุนกับตัวไหน คุ้ม (เจ็บตัวน้อยกว่า)กว่ากัน Porsche กับ Benz พร้อม Mini Review 718 Boxter ==
ช่วงนี้ หารถ ขับเล่นวันหยุด ได้ตัวถูกใจ มา เลยเก็บมาเล่า รีวิวสู่กันฟัง
ใครอยากทราบข้อมูลตรงไหน เพิ่มถามได้ ครับ
-----------------------------------------------------
จั่วหัวอย่างหัวข้อกระทู้
แน่นอน คงเดาได้ว่า นาทีนี้ สำหรับผมเอง เอาเรื่องราคาขายต่อ และ ความคุ้มค่า Porsche บางตัว เหมือนจะเริ่มคุ้มกว่า เบ๊นซ์ โดยเฉพาะ เวลาขายต่อ
ตัวเองไม่เคยใช้ รถ Porsche มาก่อน ความรู้สึก คิดว่ามันคงแพง แล้ว เมนเทนแน้นซ์คงสูงจุกจิก ราคาขายต่อคงตกมาก
แต่พอไปอยู่กับน้องๆที่เล่น Porsche กัน พบว่า ปอร์เช่ โดยเฉพาะตัวเล็ก อย่าง Cayman และ boxter กลับพบว่า รถมันอึดกว่าที่คิด จุกจิกน้อยกว่า และค่าเมนเทนแน้นซ์ ก็ไม่ได้ แพงกว่ามากมาย และที่สำคัญ ราคาขายต่อ Porsche กับ ตกน้อยกว่า เบ็นซ์ พอสมควร
โดยเฉพาะพวกมือสองปีกลางๆ
ถ้าไล่ไปตั้งแต่ตัวแรกๆ Boxter และ Cayman รุ่นแรกสุด หรือตัว 986 ปี 1996 -2004 รถเก่าขนาดนี้ ราคา ก็ยังอยู่กันแถวสองล้าน
หรือตัวถัดมา 987 ปี 2005-2012 นี่ ราคา ยังอยู่แถวสามล้านกว่า แถว สองสามปีที่ผ่าน ใครซื้อมือสอง นี่ราคา มันอยู่แถวนี้ ไม่ค่อยตกลง เท่าไร
ส่วนตัวก่อนโฉมปัจจุบัน 981 ปี 2012-2016 รถใหม่ ราคาราวๆหกล้านกว่า ๆแต่รถพวกนี้ จะราคาอยู่แถว 3 ล้านปลายถึง 4 ล้าน ต้นๆแล้ว แต่สภาพตกน้อยมาก
แต่ถ้าเป็นพวก Benz จะตกลงมากกว่า โดยเฉพาะ พวก S Class หรือ รถ Hybrid
ช่วงนี้ เริ่มว่าง มากขึ้นขับรถเที่ยวเยอะขึ้น และ ทะเบียน กฉ 1 ที่ ใช้ติดรถ ที่ใช้ขับเล่นประจำตัว ว่างมา ปีกว่า หลังจาก ถอดออกจาก SLK ไป ใส่ RCZ และพอ RCZ ขายไป ก็ ว่างมาตลอด เลยอยากหา Weekend car มาขับเล่นบ้าง
ตัวเลือก ตอนแรก มีสามตัว SLC300 และ 43AMG และ C 43AMG Coupe กับ Porche มือสองราคาใกล้ๆกัน
ช่วงเดือนที่แล้ว ไปเจอ SLC รถปี 2018 รถศูนย์ ไมล์ไม่ถึงหมื่น ฝากขายเต็นต์ไว้ 2.49 ล้าน ราคาดีเลย เลยแวะไปดู รถก็สวยพอใช้ แต่ดูไปมันคล้าย SLK ที่เคยใช้แล้ว วันไปดูดันเหลือบไปเห็น 718 Cayman จอดข้างๆ โห เคยเห็นแต่ในรูป พอดูตัวจริงมัน ทำไม ออร่ามันออกเยอะจัง สวย ทั้งไฟ และรูปทรง เรียกว่า พาอารมณ์ ว่า SLC ขี้เหร่เลย หมดอารมย์อยากได้ จากคิดในใจ จะต่อ 2.45 ล้าน เลย ต่อ แค่ 2.4แบบว่า ได้ก็เอามาขับเล่น แต่ไม่ค่อยอยากได้แล้ว เลยกดราคา สุดท้ายเค้า ให้แค่ 2.45 ราคาในใจรอบแรก เลยไม่เอามา
ตอนนี้เริ่มเบนมาทาง Porsche แต่ว่ารถใหม่ 718 อ๊อปชั่นกลางๆ มันก็ จะ 7 ล้านกว่า เกินงบที่กะจะใช้ แค่ 4 ล้านกว่าๆไปพอสมควร
เลยเล็งไปที่ ซึ่งเล็งๆ 981 ปีราวๆ 2014 ขึ้นมาไว้ และมีรถเพื่อนปี 2013 แต่งสวย เป็น GT แต่งไปหกแสน รถสวย บอกขายอยู่ราวๆ 4.3 แต่ต่อรองได้ เลยนัดจะไปดูไว้
แต่ก่อนจะไปดู แวะไปลอง Test Drive และดูตัวจริง C43 AMG ใกล้ๆชัดๆอีกที
ตามโพสต์นี้
https://www.facebook.com/Dr.JfkThai/posts/2641445275898783
ตอนนั้นได่ข้อ เสนอลดจากราคาตั้ง 4.22 ล้าน ลงมาสองแสนในเบื้องต้น ถือว่า ราคาอยู่ในงบ
และยอมรับว่ามันเป็นรถที่ขับสนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บน Toll way ว่างๆกดแว๊บเดียวทะลุ 250 เต็มเพดานที่ล้อคไว้เลย ภายในแว๊บเดียว เบรคคม ช่วงล่างหนึบ ชอบเลย แหละ
แต่พอ มองอีกครั้ง มันก็เหมือน เหมือน ยังหล่อไม่สุด ไม่ตอบโจทก์ ที่อยากได้รถสวย ขับเล่นมากว่ารถแรง
สุดท้ายเลย ตัดสินใจแระ ไป Porsche Cayman หรือ Boxter อย่างเดียว
ระหว่างรอนัดเจ้าของ ดูตัว 981 GT4 ปี 2013 แต่งหล่อๆ ที่เปิดไว้ 4.3
น้องๆกลุ่มไลน์ที่เล่นรถด้วยกันรู้ว่า หาอยู่ ไปเจอ 718 Boxter ปี 2018 รถศูนย์ AAS ประกันยังเหลืออีก 8 ปี ไมล์ใช่ไปแค่ 1500 โล เหมือนป้ายแดงเลย
เพื่อนคงทราบว่า รถ Porsche จาก AAS เวลาสั่งคนซื้อ เข้าไปกดเลือกอ๊อปชั่นที่ต้องการได้ตามชอบ แล้ว เพิ่มเงินจากตัวพื้นฐานขึ้นมาจนตัวเองพอใจ รวมทั้งเลือกสี ทั้งภายในและภายนอกเอง
คันนี้ เจ้าของอยู่ต่างจังหวัดทางใต้ ถอยออกไปพร้อมอ๊อปชั่นกลางๆราคา 7.2 ล้าน แต่เอาไปจอดไว้เกือบปี เช็คกับทางศูนย์ AAS ก่อนซื้อ
ทาง AAS บอกว่า รถแทบไม่ได้วิ่ง เพิ่งยกขึ้นเทรลเลอร์ จากใต้มาถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อครบปี ไมล์ 1500 และเปลี่ยนใส่ล้อ 20 นิ้วใหม่ จ่ายไปอีกราวๆ 3 แสน แล้วเอากลับไปจอด สุดท้ายคงนึกว่า ไม่ได้ขับ ด้วยเหตุผลไร เลยฝากขาย ออกมา และ ในที่สุดผมให้เพื่อน ตัดออกมาให้ ที่ ราคารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5.1 ล้านถูกกว่ารถใหม่ ราวๆ 2.4 ล้าน แม้เกินงบไปนิด แต่ได้รถปีใหม่ ประกันเหลือเพียบ และ ไมล์แค่ 1.5 พันโลเอง ก็เลย หันมาจับคันนี้ไว้แทน
คันนี้อยู่กับเจ้าของเก่า ปีกว่า เค้าขับไป 1.5 พันโล
มาอยู่กับผม หนึ่งสัปดาห์ผมใช้ไปแล้ว 2600 โล ไมล์เลย 4000 โลไปแล้ว คราวนี้ คงได้ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ 2 หมื่นกว่าโลครั้ง ตามระยะใช้งานไม่ใช่ครบปี ต้องถ่ายทิ้ง ตามเดิมแล้ว 55555555
ดูหน้าตา ของ 718 Boxter กัน คันนี้เป้นสีขาวมุก หลังคาผ้าใบสี Burgandy Red
ส่วนสีภายใน เบาะดำ ตัดกับ Burgandy Red ตอนดูในรูปคิดว่ามันจะแดงไป แต่สีจริงมันออกเข้มแบบสีไวน์แดง และ มี Texture สวยดี
หลังคา เปิดปิด ด้วย ปุ่มที่คอนโซลกลาง หรือใช้ รีโมทจากนอกรถก็ได้
เปิดปิดได้ค่อนข้างไวมาก จาก SLK ที่เคยใช้เวลา ราวๆ 20 วินาที ตัวนี้เหลือแค่ ไม่ถึง 10 วินาที จับได้ราวๆ 7 วินาที
และปิดขณะวิ่งได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 60-70 กม.ชั่วโมง
ชือรุ่น 718นี่ ตั้งชื่อตาม รถแข่งเครื่องวางกลางที่สร้างชื่อ ให้ Porsche ในอดีต รหัสตัวถังมันจริง คือ 982 ต่อจาก 981 ตัวก่อน
ถามว่าเครื่องวางกลางดีอย่างไร วิศวกรพอร์ช เค้าตอบคำถามนี้ โดยให้คนลองหาบถังน้ำ ใหญ่ใบ นึงเล็กใบนึง สลับ หน้า หลัง แล้วลองวิ่ง Slalom แทนรถวางเครื่องหน้า และหลัง
และหาบ แบบถังขนาดเท่ากัน หน้าหลัง (แทนเครื่องวางกลาง)อย่าง 718
เมื่อวิ่ง Slalom จะเห็นว่ารถที่ วางน้ำหนัก บาล้านซ์ไว้ ระหว่างล้อหน้า และหลัง อย่างเครื่องวางกลาง ควบคุมง่ายกว่า(ลองเองก็ขับง่ายจริงๆ)
ผลของการเอาเครื่องวางกลางไว้หลังเบาะทำให้ ต้องมีช่องลมขนาดใหญ่ด้านข้างส่งลมเข้าไปช่วยระบายความร้อนเครื่อง
และ เมื่อไม่มีเครื่องข้างหน้าเหมือนรถทั่วไป หรือ เครื่องอยู่ท้าย เหมือนโฟล์คเต่า หรือ พอร์ช 911 รุ่นเก่าๆ ผลก็คือ มีที่ว่างให้ทำเป็น ห้องเก็บของได้ ทั้งหน้าและหลัง
หลายคนคงคิดว่า รถเล็กอย่างนี้ จะเก็บกระเป๋าได้แค่ไหน ดูตามภาพ
ช่องด้านหลัง แคบและตื้นหน่อย เลยต้องวางกระเป๋าแนวราบ ด้านกว่างพอสำหรับเคบินไซซ์ ความยาวเหลือ ใส่อย่างอื่นได้พอสมควร แต่ใส่กระเป๋า เดินทางขนาดกลางหรือใหญ่ไม่ได้
ช่องด้านหน้า นี่ กว้างพอประมาณและค่อนข้างลึก ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ได้
หรือเอา Cabin Size ใส่ไป สองใบ ยังมีที่เหลือ ใส่ของ อีก พอสมควร
ฝากระโปรง ทั้งหน้าหลัง เปิดได้ ด้วยปุ่มข้างประตูคนขับ หรือใช่ รีโมทก็ได้
พูดถึงกุญแจรีโมท กุญแจ ของ Porche จะเป็นรูปรถ เกือบทั้งหมด
สำหรับคันนี้มี Option Keyless Go คือ พกกุญแจในกระเป๋าไว้ เปิดล้อค หรือ ปิดล้อคประตูได้ โดยการแตะมือจับ
และสตาร์ทเครื่องยนต์โดนการหมุมบิดปุ่มที่ติดไว้ตรงช่องกุญแจ คล้ายปุ่ม Push Start ในรถทั่วไป แต่ Porsche ใช้ บิดเหมือนกกุญแจธรรมดา แทนการกด
ภายในเรียบง่าย แอร์เป็น Auto แยกส่วน( เป็นอ๊อปชั่นอีกนั่นแหละ) พร้อมทั้งมีปุ่มเร่งความเย็นให้เย็นเร็วแรง อย่างรวดเร็วด้วย
พวงมาลัย มัลติฟังชั่น ปุ่มใช้งาน ใช้หมุน scroll ด้วยปลายนิ้วแทนการกดขึ้นลง (อ๊อปชั่นอีกเช่นกัน)
ระบบเครื่องเสียง ใช้ต่อกับ Apple Car Play ได้ทังฟังเพลง และใช้ google นำทาง ตลอดจน เล่น Jookbox
บนพวงมาลัย แถว 5 น.มีปุ่มกลม หมุนปรับโหมดการขับขี่ ธรรมดา Sport Sport+ และ Individual คือปรับตั้งเองตามความชอบ ในโหมด Sport Sport+ จะแรงขึ้น โดยเปลี่ยนเกียร์ไว ช่วงล่างแข็งขึ้นหนึบขึ้น และ เสียงท่อดังขึ้น แต่บอกได้เลยว่า แค่โหมดธรรมดา ก็แรงเกินพอแล้ว 5555555
แต่สำหรับคนอยากแรงสุดขีด มันมีปุ่มตรงกลางให้กด อารมณ์คล้ายยิงไนตรัส แต่ อันนี้มันใช้คำนวนหาเกียร์ และ สั่งเครื่องยนต์ให้ทำงาน แรงสุดรับกับเกียร์ เพื่อให้ได้อัตราเร่ง ที่ดีสุดในขณะนั้น ถ้าอยากอัดกับใคร หรือ แซงใคร แบบกระชาก หรือ จะแดรก ประมาณนั้น โดยกดแล้ว จะปล่อยพลังงนี้ให้ ใข้ 20 วินาที โดยจะนับถอยหลัง 20 วินาที แต่ถ้าอยากหยุดก่อนก็กดซ้ำได้