สวัสดีคะ ใกล้สิ้นปีกันแล้ว มีเงินเก็บตามเป้าหมายกันรึยัง ถ้ายัง เรามีวิธีมาแบ่งปัน ทำตามได้ไม่ยากเลยจร้า
มาทำให้ปี 2020 เป็นการเริ่มต้นในการมีเงินเก็บ เงินออม เงินลงทุน ของคุณกัน มีวิธีอย่างไรบ้าง มาเริ่มกันเลย
1.ตั้งเป้าหมาย
มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเราสามารถตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจนได้ง่ายๆ
ด้วยคำว่า "อะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่"
เขียนความต้องการและเหตุผลเรื่องการเงินออกมา
เพื่อจะได้เห็นภาพรวม ว่าควรวางแผนทางการเงินอย่างไร
มาดูตัวอย่างกันดีกว่า
ตัวอย่างที่ 1
ในอีก 5 ปี ต้องการมีเงิน 1,000,000 บาท
เราจะต้องเก็บเงินให้ได้ปีละ 200,000 บาท
1 ปี มี 12 เดือน แต่ละเดือนจึงต้องเก็บเงินให้ได้ 16,666 บาท หรือประมาน 20,000 บาท
1 เดือน มี 30 วัน
หารเราจะใช้เวลาเก็บเงินเพียง 20 วัน เพราะอาจจะมีธุระด่วน ป่วย ไม่สบาย หรือออกไปท่องเที่ยว
ในวันที่เราต้องการเก็บเงิน ต้องเก็บเงินให้ได้วันละ 1000 บาท
แต่ถ้าใครคิดว่า สะดวกทุกวัน เพื่อลดจำนวนเงินในแต่ละวันลง ไม่เป็นการกดดันตัวเองมากจนเกินไป
ต้องเก็บเงินให้ได้วันละ 666 บาท หรือ 700 บาท นั่นเอง
ตัวอย่างที่ 2
ในอีก 2 ปี
วางแผนการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เรียนรู้วัฒนธรรม
เพิ่มมุมมองความคิด ต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยตั้งงบไว้ที่ 40,000 บาท
เราจะต้องเก็บเงินให้ได้ปีละ 20,000 บาท
1 ปี มี 12 เดือน แต่ละเดือนจึงต้องเก็บเงินให้ได้ 1,666 บาท หรือประมาน 2,000 บาท
ถ้าจะเก็บ 20 วัน ต้องเก็บเงินให้ได้ 100 บาท
ถ้าต้องการเก็บทุกวัน ต้องเก็บเงินให้ได้ 66 บาท หรือประมาน 70 บาท หรือมากกว่าก็เป็นเรื่องดี
แล้วเงินที่เราต้องการเก็บในแต่ละวัน มีวิธีการอย่างไรบ้าง
มาดูข้อต่อไปกันเลย
2. ค้นหาตนเอง เพื่อหารายได้เพิ่ม
ในยุคนี้ ต้องมีรายได้หลายทาง
จงอย่าออมจากเงินเดือน การเก็บก่อนใช้จากเงินเดือน ควรเป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน
Grant Cardone บอกว่า สมัยนี้ความรวยจากการออมทำได้ยากและใช้เวลานาน
วิธีเร่งอัตราความมั่งคั่ง คือ จงโฟกัสที่การหาเงินเพิ่ม
แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการหาเงินเพิ่ม คุณต้องค้นหาตนเอง ค้นหาทักษะที่ตัวคุณมี
หรือ พัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่คุณสนใจ
คุณคิดว่าจะทำมันได้ดี มีความสุข สนุกกับมัน
และที่สำคัญ มีความเป็นไปได้ ที่คุณจะทำมันอย่างสม่ำเสมอ
หากใครมีทักษะการทำอาหาร ทำขนม อาจหาร้านค้าสหกรณ์ ที่หน่วยงานของคุณเพื่อจำหน่าย
เมื่อคุณบวกราคาเพิ่มไป ก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง
ขอเลือกยกตัวอย่างเป็นการเก็บเงินเพียง 20 วัน ต่อเดือนนะคะ
ถ้ากำไรของขนม ตกชิ้นละ 2 บาท
แต่ละวัน จะต้องขายให้ได้ 500 ชิ้น จึงจะได้ 1000 บาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ในตัวอย่างที่ 1
และ
แต่ละวัน จะต้องขายให้ได้ 50 ชิ้น จึงจะได้ 100 บาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ในตัวอย่างที่ 2
หรือใครชอบการขายของออนไลน์ ที่มีทั้งสต๊อกสินค้าหรือเป็นตัวแทนจำหน่าย
การเลือกสินค้าที่จะนำมาขาย ต้องเป็นสินค้าที่เรารู้จักดี ให้ข้อมูลกับลูกค้าได้
อาจจะลงขายใน facebook instramgram shopee หรือ lazada แล้วแต่ถนัดเลย
ถ้าของชิ้นนั้น ได้กำไร ชิ้นละ 50 บาท
แต่ละวัน จะต้องขายให้ได้ 20 ชิ้น จะได้ 1000 บาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ในตัวอย่างที่ 1
และ
แต่ละวัน จะต้องขายให้ได้เพียง 2 ชิ้น จะได้ 100 บาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ในตัวอย่างที่ 2
หรือจะเป็น Youtuber Blogger ก็เป็นอีกช่องทางหารายได้ที่น่าสนใจ แต่ต้องใช้เวลา
เมื่อคุณมีเงินเก็บ แล้ว จะทำอย่างไรต่อดี
มาดูข้อต่อไปกันคะ
3. ลงทุนความรู้
การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนกับความรู้
นอกจากการใส่ใจการใช้จ่าย
ควรศึกษาวิธีการบริหารการเงินและการลงทุน
หาความรู้จากแหล่งต่างๆ เช่น อ่านหนังสือหรือบทความบนอินเตอร์เน็ต
พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มีความรู้ ดูรายการด้านการเงิน หรือการลงคอร์สการเงินต่างๆ
หากคุณมีความรู้เรื่องการลงทุนดีพอแล้ว จงลงมือทำ
4. ใช้เงินทำงาน
ใช้เงินทำงาน ไม่ใช่เอาแต่ ใช้แรงทำงาน
การที่เราได้เงินมา เราต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย พลังใจและมันสมอง
อย่าลืม! นำเงินที่เราทุ่มเท มาทำงานต่อด้วยการลงทุน
นำเงินไปลงทุนต่อเงิน ไม่ใช่นำเงิน ซื้อของฟุ่มเฟื่อย
เพราะการลงทุน (ระยะยาว) ดีกว่าการฝากเงินเป็นไหนๆ
แต่ไม่ว่าจะลงทุนอย่างไร ต้องไม่ลืมกระจายการลงทุน
เลือกการออมและการลงทุนที่เหมาะสมกับการยอมรับความเสี่ยงของตนเอง
โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุน ที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน
- กองทุนรวม : ความเสี่ยงน้อยถึงสูง แล้วแต่ชนิดกองทุน
- สลาก (ออมสิน/ธกส) : ความเสี่ยงต่ำ หากถูกรางวัล ลำดับต้นๆ สามารถเพิ่มยอดเงินตามเป้าโดยไม่ต้องรอเวลา
- เงินฝากออมทรัพย์ : ความเสี่ยงต่ำ (สภาพคล่อง ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือท่องเที่ยวพักผ่อน)
ขอแนะนำตัวอย่างพอร์ตการออมและการลงทุนให้เห็นภาพ ดังนี้
กองทุนรวมความเสี่ยงปานกลาง 20%
กองทุนรวมความเสี่ยงสูง 20%
สลากออมสินดิจิทัล 40%
เงินฝากออมทรัพย์ 20%
สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากขึ้น
อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน จะช่วยร่นระยะเวลาในการมีเงินเก็บ
ทำให้คุณมีเวลาเพิ่มอยู่กับคนที่คุณรัก สิ่งที่คุณสนใจ
แถมทำให้คุณเหนื่อยน้อยลงอีกด้วยนะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ 4 เทคนิคง่ายๆ ที่นำมาฝากกัน
ขอเพียงแค่เราปรับวิธีคิด ทัศนคติ มุมมอง ลองเปลี่ยนวิธีการเก็บเงิน มองหาวิธีเพิ่มรายได้ และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากขึ้น
ที่สำคัญคือ ต้องเริ่มต้นลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทำเป็นประจำสม่ำเสมอ
สุดท้ายนี้
You are what you think
เราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราคิด
ใครมีวิธีคิด เทคนิคดีๆ อยากจะบอก อยากจะแชร์ บอกกันได้เลยนะคะ
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
ติดตาม MINEMINDSET ผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Youtube : MINEMINDSET
สร้าง Mindset พร้อมวิธีเก็บเงิน (ภาคปฏิบัติ) ปี 2020