สวัสดีคะ คือมีเรื่องอยากจะถามความคิดเห็นจากหลายๆคนคะว่า นิยามคำว่าสะใภ้ของคุณเป็นยังไง ?
เรื่องของเรื่องก็คือเราเลี้ยงลูกวัย11เดือนอยู่บ้านแฟน ซึ่งยายและแม่แฟนของเราชอบบ่นเรื่องที่เราติดโทรศัพท์ ใช่เราติดเราไม่เถียง แต่ที่เราต้องหยิบจับบ่อยๆเพราะเราขายของออนไลน์ในเฟส บางทีก็คุยกับลูกค้าค้างไว้ตอนกำลังจะกินข้าว บางทีก็เคลียร์ออร์เดอร์ให้ลูกค้าไม่เสร็จตอนจะเดินไปไหน คือมันมีหลายๆอย่างที่เราต้องคอยเช็คคอยดูอยู่ตลอดเวลาคนเป็นแม่ค้าออนไลน์คงจะเข้าใจ และถึงแม้ว่าเราจะติดโทรศัพท์แต่เราไม่เคยบกพร่องในหน้าที่แม่ของลูก หน้าที่ที่เราต้องทำงานบ้าน ล้างจาน กวาดบ้าน แต่ไม่ได้ทำกับข้าวหุงหาอาหารเพราะเราทำไม่เป็นพวกเค้าก็รู้ แต่เวลาที่ยายเค้าเรียกใช้ให้เราไปหยิบจับนู้นนี่นั้นในครัวเราก็ไป บางทีเราก็ดูหนัง ดูซีรี่ย์ บางทีเราก็หาวิธีหรือเรียนรู้วิธีเพิ่มยอดขายให้ตัวเอง ซึ่งเราจะใช้เวลาลูกหลับในการขายของ หรือบางทีลูกไม่ได้หลับ แต่เราต้องแชทกับลูกค้าลูกก็นั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆเราในคอก ส่วนน้องสาวของแฟนนอนดึก ตื่นสาย ไปเที่ยวกินเหล้าทุกวัน เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ก็เปิดบ้างไม่เปิดบ้าง เวลาเค้าอยู่บ้านเค้าก็เห็นพี่แกเล่นตลอดเหมือนกัน แต่ไม่เคยโดนบ่นเลยสักนิด ส่วนเรื่องค่าไฟอาจจะคิดว่าเล่นเยอะชาร์ตแบตบ่อยจะทำให้เปลืองไฟ คือต้องบอกก่อนว่าครอบครัวแฟนเราเป็นครอบครัวใหญ่ ค่าไฟก็ประมาณเดือนละ 900-1000 บาท ซึ่งแฟนเราเองก็ออกทุกเดือนอยู่แล้วเดือนละ 1000 บาท เราไม่รู้ว่าคนอื่นๆในบ้านโดยเฉพาะน้องสาวของแฟนที่นอนห้องแอร์ออกกันคนละกี่บาท แล้วเราเองก็ป่วยซึมเศร้าด้วยเลยทำให้เราไม่อยากพูดเรื่องนี้กับแฟนได้แต่เก็บไว้คนเดียวแล้วก็ร้องไห้ ส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ว่าใครจะว่าเรายังไงจะว่าเราดี เราร้าย เราเลวยังไง เราไม่เคยไปโต้ตอบหรือแก้ตัวว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด เราก็เอาแต่เงียบไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งแรกที่พวกเค้าพูดว่าเรา ทั้งต่อหน้าและลับหลังเราได้ยินแต่ทุกครั้งที่ผ่านมาเราก็เฉยตลอด แต่ถ้าครั้งนี้เราจะเงียบไม่ยอมพูดคุยกับพวกเค้าอีก มันอาจจะยากสำหรับหลายๆคนที่คนอยู่บ้านเดียวกันจะไม่คุยกัน แต่เราว่าเราทำได้ แต่อีกใจนึงก็สงสารแฟนถ้าต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ระหว่างเรากับครอบครัวของเค้า
นิยามของคำว่าสะใภ้
เรื่องของเรื่องก็คือเราเลี้ยงลูกวัย11เดือนอยู่บ้านแฟน ซึ่งยายและแม่แฟนของเราชอบบ่นเรื่องที่เราติดโทรศัพท์ ใช่เราติดเราไม่เถียง แต่ที่เราต้องหยิบจับบ่อยๆเพราะเราขายของออนไลน์ในเฟส บางทีก็คุยกับลูกค้าค้างไว้ตอนกำลังจะกินข้าว บางทีก็เคลียร์ออร์เดอร์ให้ลูกค้าไม่เสร็จตอนจะเดินไปไหน คือมันมีหลายๆอย่างที่เราต้องคอยเช็คคอยดูอยู่ตลอดเวลาคนเป็นแม่ค้าออนไลน์คงจะเข้าใจ และถึงแม้ว่าเราจะติดโทรศัพท์แต่เราไม่เคยบกพร่องในหน้าที่แม่ของลูก หน้าที่ที่เราต้องทำงานบ้าน ล้างจาน กวาดบ้าน แต่ไม่ได้ทำกับข้าวหุงหาอาหารเพราะเราทำไม่เป็นพวกเค้าก็รู้ แต่เวลาที่ยายเค้าเรียกใช้ให้เราไปหยิบจับนู้นนี่นั้นในครัวเราก็ไป บางทีเราก็ดูหนัง ดูซีรี่ย์ บางทีเราก็หาวิธีหรือเรียนรู้วิธีเพิ่มยอดขายให้ตัวเอง ซึ่งเราจะใช้เวลาลูกหลับในการขายของ หรือบางทีลูกไม่ได้หลับ แต่เราต้องแชทกับลูกค้าลูกก็นั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆเราในคอก ส่วนน้องสาวของแฟนนอนดึก ตื่นสาย ไปเที่ยวกินเหล้าทุกวัน เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ก็เปิดบ้างไม่เปิดบ้าง เวลาเค้าอยู่บ้านเค้าก็เห็นพี่แกเล่นตลอดเหมือนกัน แต่ไม่เคยโดนบ่นเลยสักนิด ส่วนเรื่องค่าไฟอาจจะคิดว่าเล่นเยอะชาร์ตแบตบ่อยจะทำให้เปลืองไฟ คือต้องบอกก่อนว่าครอบครัวแฟนเราเป็นครอบครัวใหญ่ ค่าไฟก็ประมาณเดือนละ 900-1000 บาท ซึ่งแฟนเราเองก็ออกทุกเดือนอยู่แล้วเดือนละ 1000 บาท เราไม่รู้ว่าคนอื่นๆในบ้านโดยเฉพาะน้องสาวของแฟนที่นอนห้องแอร์ออกกันคนละกี่บาท แล้วเราเองก็ป่วยซึมเศร้าด้วยเลยทำให้เราไม่อยากพูดเรื่องนี้กับแฟนได้แต่เก็บไว้คนเดียวแล้วก็ร้องไห้ ส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ว่าใครจะว่าเรายังไงจะว่าเราดี เราร้าย เราเลวยังไง เราไม่เคยไปโต้ตอบหรือแก้ตัวว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด เราก็เอาแต่เงียบไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งแรกที่พวกเค้าพูดว่าเรา ทั้งต่อหน้าและลับหลังเราได้ยินแต่ทุกครั้งที่ผ่านมาเราก็เฉยตลอด แต่ถ้าครั้งนี้เราจะเงียบไม่ยอมพูดคุยกับพวกเค้าอีก มันอาจจะยากสำหรับหลายๆคนที่คนอยู่บ้านเดียวกันจะไม่คุยกัน แต่เราว่าเราทำได้ แต่อีกใจนึงก็สงสารแฟนถ้าต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ระหว่างเรากับครอบครัวของเค้า