[CR] ดูอะไร...ที่โอมาน

เนื่องด้วยตอนนี้โอมานกําลังบุกเรื่องการเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเป็นอย่างมาก การเปิดสนามบินใหม่ที่ยิ่งใหญ่ และสวยงาม (สวยจริงๆ!!!) การให้ Visa on arrival แก่คนไทย ที่ราคาวีซ่าแค่ 500 บาท การโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และธรรมชาติที่เห็นตามสื่อบ่อยๆ.....ทําให้นักท่องเที่ยวไทยตื่นตัวที่จะไปเที่ยวโอมานกันเยอะขึ้นมาก



สนามบินใหม่ (เพิ่งเปิดใช้ปี 2018)

วันนี้มิ้นท์เลยจะมารีวิวสําหรับคนที่จะแวะ transit ที่โอมาน.....หากมีเวลาสัก 8 ชั่วโมง....ก็สามารถออกมาจากสนามบินเพื่อมาเรียนรู้วัฒนธรรมอาหรับในเมืองหลวง "กรุงมัสกัต" กับ 3 สถานที่ ที่มิ้นท์จะมาเเนะนํา ที่คุณเที่ยวเองได้ เที่ยวง่ายเเน่นอน!!!
 
ก่อนอื่น หากคุณสนใจจะมาเที่ยวโอมานเเล้ว ก็ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ชื่อว่า "OTaxi" เพราะถ้าคุณขึ้นแท็กซี่ธรรมดาเเล้วหล่ะก็!!! ราคาแพงหูฉี่!!! เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะขอรับ!!!

1. มัสยิดหลวง Sultan Qaboos Grand Mosque





มัสยิดหลวง "ซุลตอน คาบูซ"  ตั้งตามชื่อของผู้นําประเทศโอมาน เป็นมัสยิดที่สวยงาม และใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มก่อสร้างในปี 1994 สร้างเสร็จในปี 2001 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 6 ปี 7 เดือนด้วยกัน
 
มัสยิดแห่งนี้ได้ถูกบันทึกว่าใช้พรมผืนใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีนํ้าหนักกว่า 21 ตัน แต่ในปัจจุบันได้ถูกทําลายสถิติจากพรมที่ใช้ในมัสยิด Sheikh Zayed Grand Mosque ในยูเออี
 
ไฮไลต์ของที่นี่คือห้องโถงสําหรับการปฏิบัติศาสนกิจ ที่มีโคมไฟระย้าที่ผลิต และนําเข้ามาจากประเทศอิตาลี แค่นํ้าหนักของโคมไฟอย่างเดียวก็ประมาณ 8.5 ตัน และใช้คริสตัลกว่า 600,000 ชิ้น!!!....
 
เเน่นอนว่าโคมไฟนี้เคยเป็นโคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกเเต่ปัจจุบันก็ถูกทําลายสถิติโดยโคมไฟในมัสยิด Sheikh Zayed Grand Mosque อีกเช่นกัน......แต่อย่างไรก็ตาม ถึงความใหญ่ของโคมไฟจะถูกทําลาสถิติ แต่ในเรื่องความสวยงาม มิ้นท์คิดว่าโคมไฟทั้งสองมีเอกลักษณ์ และความสวยงามที่เเตกต่างกัน.....ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาชมความงามของโคมไฟทั้งสองมัสยิดเลยจ้าาาาาาา

***สิ่งที่ควรทราบคือ*** : สําหรับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม มัสยิดจะเปิดให้เข้าชมเเค่ วันเสาร์ - วันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 8.00 น. - 11.00 น. (เเปดโมงเช้า ถึงสิบเอ็ดโมงเช้าเท่านั้น!!!) และไม่ให้เข้าชมในวันศุกร์ สําหรับผู้หญิง ต้องสวมชุดยาว ไม่รัดรูป เเละมีผ้าคลุมศรีษะ (ถ้าไม่ได้เตรียมไว้ ไปเช่าได้ ราคา 200 - 500 บาท) ส่วนผู้ชายต้องสวมกาเกงขายาวเท่านั้น

2. Muscat Royal Opera House




"มัสกัต โอเปร่าเฮ้าส์" เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เราจะได้เห็นวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมสุดอลังกาลของโอมาน สถานที่เเห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เนื่องจากผู้นําประเทศ "ซุลต่าน ซุนตอน คาบูซ" ท่านทรงชื่นชอบเพลงคลาสสิค เเละการเเสดงศิลปะ วัฒนธรรมเป็นอย่างมาก จึงมีพระประสงค์ให้สร้างสถานที่เเห่งนี้ขึ้นในปี 2007 และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2011
 
สถาปัตยกรรมของตัวอาคาร จะเป็นสถาปัตยกรรมอาหรับ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมอิตาลี ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นตําหรับการเเสดงโอเปร่าของโลก
 
ในบริเวณของ "มัสกัตโอเปร่าเฮ้าส์" นอกจากจะเป็นสถานที่มาชมศิลปะวัฒนธรรม การเเสดงจากทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศเเล้ว ก็ยังมีบริเวณห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารน่านั่ง อยู่ในโซนอาคาร Opera Galleria ที่อยู่ติดกันกับอาคาร Opera House และมีร้านอาหารฝรั่งเศษ Fauchon ที่มีความชิค โดยการนําของหวานเช่น ช็อคโกแลต มาสื่อสารในรูปแบบคล้ายเครื่องสําอางอีกด้วย

เนื่องจากเวลาที่มิ้นท์ไปยังไม่มีโชว์ที่จะมาจัดเเสดง เลยยังไม่ได้รับชมโอเปร่า แต่เราสามารถซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมสถาปัตยกรรมภายในได้ในราคา 3 รียัล (200 กว่าบาท) โดยจะมีไกด์ชาวอาหรับพาเดิน และอธิบายโซนจัดเเสดงงานศิลปะ ประวัติความเป็นมา และการเเสดงที่ผ่านมาในโอเปร่าเฮ้าส์



***สิ่งที่ควรทราบคือ*** : 
1) หากอยากชมโอเปร่า หรือโชว์ต่างๆ ให้เช็คตารางการเเสดงล่วงหน้าที่ https://www.rohmuscat.org.om/en/performance/upcoming-performance ราคาของเเต่ละโชว์เเตกต่างกันไปตามประเภทของการเเสดง และที่นั่ง โปรดเช็คก่อนเพื่อความชัวร์
2) หากอยากเข้าชมเฉพาะตัวอาคารด้านนอก หรือรับประทานอาหาร สามารถไปเดินเล่นใน Opera Galleria หรือร้านอาหาร Fauchon ได้เวลา 10.00 น. - 22.00 น.
3) หากอยากเข้าชมตัวอาคารภายในโอเปร่าเฮ้าส์ เค้าเปิดทุกวันช่วง 8.30น. - 17.00 น. ใช้เวลาการเดินชมภายในพร้อมไกด์ ประมาณ 30 นาที ราคา 3 รียัล (เเนะนําให้ไปช่วงเช้า เพราะบางครั้งหากมีโชว์ในตอนเย็น จะไม่ให้เข้าชมเพราะต้องเตรียมการเเสดงจ้าาาาาา)

3. Mattrah Souq




ตลาด "มัตตร้า" เป็นตลาดโบราณที่สุดเเห่งหนึ่งของประเทศในแถบอาหรับ ย่านมัตตร้านั้น มีมาตั้งเเต่ก่อนสมัยค้นพบนํ้ามัน ด้านหน้าทางเข้าตลาดเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดของโอมาน เเละเป็นแหล่งขนส่งสินค้าจากประเทศอินเดียเเละจีนอีกด้วย
 
ตรงทางเข้าตลาด มิ้นท์ขอบอกว่าโลเคชั่นเหมือนอยู่ในนิยายอาหรับ เพราะวิวด้านหลังคือภูเขาหินสีนํ้าตาลเข้ม ตัดกับตึกอาคารเตี้ยๆ และมัสยิดสีขาว ส่วนด้านหน้าตลาดคือทะเลสีนํ้าเงินเข้ม มีเรือสําราญ เเละเรือขนส่งสินค้าจอดเรียงราย....เป็นโลเคชั่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
 
พอเข้ามาในตลาดก็จะพบสินค้าทั้งพื้นเมือง ของฝาก และสินค้าเเฟชั่นทั่วไป ราคาไม่แพงมาก หากจะซื้อของฝากแนะนําให้มาตลาดนี้เลยค่ะ.....ต่อราคาได้ด้วย อิอิ

สินค้ายอดฮิตของที่นี่คือ สินค้าประเภทนํ้าหอม และ "กํายาน" หรือ "ลูบัน" ในภาษาอาหรับ หรือ "Frankincense" ในภาษาอังกฤษ ที่กําลังได้รับความนิยมจากทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งกํายานของประเทศโอมานได้ชื่อว่าเป็นกํายานที่ดีที่สุดในโลก สามารถผสมกินกับนํ้าดื่มเพื่อสุขภาพ นํ้ามันกํายานใช้เป็นเครื่องประทินผิว หรือใช้จุดเพื่อความหอมก็ได้!!! นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทเครื่องเงิน และชุดคนพื้นเมืองที่มีให้เห็น และเลือกซื้ออยู่มากมาย
 
สิ่งที่ควรทราบคือ : ตลาดนี้เปิดทุกวัน แต่เปิดเฉพาะเวลา 8.00 - 13.30 น. และ 16.00 - 22.00 น. ดังนั้นห้ามไปช่วง 13.30 - 16.00 น. เด็ดขาด เพราะร้านต่างๆจะปิด!!!.....เวลาที่มิ้นท์เเนะนําให้ไปคือช่วงเย็นๆ เพราะอากาศกําลังดี วิวตอนใกล้ๆพระอาทิตย์ตกแถวริมทะเลก็สวยงามมากจ้าาาาา
 
และสุดท้ายนี้ หากใครยังพอมีเวลาว่างๆ ก็ไปเดินเล่นที่ห้าง Avenue Mall หรือ Muscat Grand Mall ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในโอมาน โดยสองห้างนี้มีบริเวณติดกัน หรือจะไปแวะทานอาหารพื้นเมืองร้านเด็ดที่มิ้นท์แนะนําไว้ในเพจฯ เช่น ร้าน Old Turkish  หรือร้าน Aleef Restaurant ก็ย่อมได้ค่าาาาา
 
เเต่โอมานไม่ได้มีเเค่นี้!!! ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ถ้าอยากเที่ยวเเบบเก็บหมดทั้งโอมาน 1 อาทิตย์ก็ยังไม่พอเลยจ้าาาาาาา!!!!
 
#ดูอะไรที่โอมาน
#WhattoseeinOman

Website: whattoseeindubai.com
Email: whattoseeindubai@gmail.com
FB: https://goo.gl/CSlbMF
IG: whattoseeindubai
ชื่อสินค้า:   โอมาน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่