[SR] รีวิว VIVO S1 PRO หน้าจอสวย กล้องหลัง 4 ตัว 48 MP ดีไซน์เด่น !


 
Vivo ได้เปิดตัว S1 Pro แล้วไม่นานมานี้เป็นการอัพเกรดอีกครั้ง ต่อยอดจากรุ่น S1 และมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุดทั้งเรื่องของการออกแบบ สเปค และรวมถึงฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาครับ และในตระกูลนี้เด่นๆคงจะเป็นเรื่องของหน้าจอเลยแหละ ในรุ่นนี้ยังคงทำได้ดีและใช้หน้าจอที่ดีมากๆอีกรุ่น ส่วนการออกแบบต้องบอกว่าเป็นการออกแบบที่แปลกตาอีกครั้งแน่นอนว่าเราจะเริ่มเห็นทาง Vivo เริ่มออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆไม่เหมือนใครแล้ว อาจจะเป็นข้อดีเลยแหละที่เริ่มมีการออกแบบดีไซน์ของตัวเอง และ ในส่วนของกล้องนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว โดยที่ตัวหลักเป็น 48MP แล้วด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจจากทาง Vivo
 

 

 

 
Vivo S1 Pro นั้นจะเน้นไปที่หน้าจอ กล้องเป็นหลักใครที่สายสเปคแรงๆอาจจะไม่ตอบโจทย์ครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080 x 2340) ขนาด 6.38 นิ้ว พร้อมรองรับการสแกนนิ้วใต้หน้าจอ มาพร้อมการออกแบบแบบติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ ทางด้านสเปคนั้นใช้งาน Snapdragon 665 Octa-core พร้อมกับ RAM 8GB Storage 128GB EMMC 5.1 และ แบตนั้นให้มาที่ 4,500 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charge(9V2A) หรือ 18W นั้นเอง ในเรื่องของกล้องหลังนั้นให้มา 4 ตัว เป็นตัว กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, f/1.8 และ กล้องมุมกว้างพิเศษ Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 อีกทั้งยังมี Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 และ เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 สำหรับจับระยะ ส่วนในกล้องหน้านั้น จัดเต็มมากๆให้มาที่ 32MP และมีรูรับแสง f/2.0 ถือว่าเรื่องกล้องสเปคมาให้ดีพอสมควรครับในรุ่นนี้
 

 

 

 
ในไทยนั้น Vivo S1 Pro เปิดมา ทั้งหมด 2 สี : Knight Black (ดำ), Fancy Sky (ฟ้า-ชมพู)
ในราคา 9,999 บาท 
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องนั้นจะเป็นการออกแบบคล้ายๆกับรุ่นก่อนหน้าแต่ขยายตัว S ให้ใหญ่ขึ้นเต็มตามากขึ้นและมีลวดลายแตกต่างกันพอสมควร ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นค่ายนี้ยังคงให้มาครบๆ ทั้งหูฟัง เคส และ ฟิล์มกันรอยครับ ปกติจะไม่เจอหูฟังเท่าไรแล้วในราคานี้รุ่นอื่นๆ ในบรรดามือถือคู่แข่งบางตัวไม่ได้เน้นในเรื่องของหูฟังครับ แต่รุ่นนี้มีแถมมากให้ด้วย
 
- ตัวเครื่อง VIVO S1 Pro
- อะแดปเตอร์ 9V/2A 18W
- สาย USB-C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- หูฟัง
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้เเล้ว
 

 

 
เคสที่แถมมานั้นจะเป็นแบบ TPU ใสนิ่มความหนาระดับกลางๆครับไม่ได้แข็งหรือหนามากนัก ครอบรอบเครื่องได้ดี มีจุกกผิดกันฝุ่นในด้านล่างที่เป็นช่องชาร์จไฟ ส่วนการป้องกันนั้นรองรับได้ระดับนึงในส่วนของด้านหน้าและด้านหลังเวลาวางนั้นไม่โดนตัวเลนส์กล้องหรือหน้าจอ แต่ก็ไม่ได้ป้องกันได้เยอะมากนักเพราะไม่ได้นูนออกมาเยอะ และไม่ได้หนามากครับเรียกได้ว่าอาจจะพอดีๆกับเลนส์กล้องเลย ส่วนวัสดุนั้นเป็นแบบสีใสใช้งานนานๆก็มีเหลืองได้ปกติครับในส่วนของด้านหน้านั้นจะเป็นเคสที่นูนออกมาทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นจะช่วยให้ไม่โดนหน้าจอ และป้องกันเวลาตกได้นิดหน่อย ถือว่าดีกว่าเรียบๆไปเลยครับ ส่วนในด้านหลังนั้นจะเห็นว่าเคสเกือบจะพอดีกับเลนส์กล้องเลยอันนี้ต้องระวังกันนิดนึงเพราะไม่ได้หนาและนูนออกมาป้องกันมากเท่าไรเวลาวางพื้นไม่เรียบก็อาจจะโดนได้ง่ายพอสมควร
 

 

 
DESIGN
 
การออกแบบนั้นพัฒนาขึ้นในเรื่องของความเรียบหรูดูลงตัวมากกว่าเดิม แม้จะไม่ได้มีลวดลายตรงฝาหลังแล้วแต่รูปทรงเพชรนั้นก็ไม่ได้หนีไปไหนครับเพราะมันย้ายไปตรงส่วนกล้องหลังแทนแล้ว เป็นการออกแบบที่ค่อนข้างแปลกใหม่พอสมควรเลยไม่ค่อยเห็นมือถือออกแบบในแนวทางนี้เท่าไรนัก และฝาหลังเรียบๆสีดำแต่ก็มีส่วนเล่นกับแสงได้ดีเช่นกัน วัสดุงานประกอบนั้นใช้งานกระจกครับในส่วนของฝาหลังรุ่นนี้ ผสานการออกแบบ Diamond Design ได้ลงตัวขึ้น
 

 
หน้าจอนั้นมาพร้อมกับ ติ่งทรงหยดน้ำแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.38 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนหน้าจอต่อเครื่องที่ 83.4% และ รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ และ Always On ครับ
 

 
ในส่วนด้านบนนั้นเราจะเห็นติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ มาพร้อมกับขอบลำโพง และเซนเซอร์ รวมถึงกล้องหน้า 32MP F2.0 ก็ใส่เข้ามาได้ในพื้นที่นี้ แต่ไม่สามารถปิดติ่งหน้าจออะไรได้นะครับในรุ่นนี้
 

 
ขอบด้านล่างนั้นยังคงมีพื้นที่อยู่พอสมควรเลย มาพร้อมปุ่มควบคุมในหน้าจอ และสามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้ครับ
 

 
ในด้านซ้ายนั้นจะเป็นแค่ ถาดซิมเท่านั้นครับเป็นถาดแบบ Hybrid Slot รองรับใช้งานได้ปกติ มีซีลกันฝุ่น กันน้ำมาให้ แต่ตัวเครื่องไม่รองรับ IP Rating นะครับ
 

 
ด้านล่างนั้นจะเป็น รูลำโพงหลัก พร้อม USB-C และ รูไมค์สำหรับ สนทนาครับ จะเห็นฝาหลังโค้งลงมานิดหน่อย
 

 
ในส่วนขอบด้านบนนั้นจะเป็น รูหูฟัง 3.5มม. ยังคงอยู่ไม่ได้ตัดไปไหน และ ที่สำคัญ มีไมค์ตัดเสียงมาให้แล้ว !! อันนี้สำคัญเลยเพราะรุ่นก่อนหน้าไม่มีมาให้และคนบ่นกันเยอะพอสมควรเลยนั้นเองครับ
 

 
ในด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power สีแดงสดใส และ ปุ่มเพิ่ม ลดเสียงครับ บอดี้เป็นสีดำทั้งหมด วัสดุเงาแบบเดียวกับฝาหลังครับ และฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่ามันจะโค้งลงมาเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
 

 
ฝาหลังเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด ออกแบบมาในแนวหรูหรามากขึ้นเรียบร้อยมากขึ้น แต่รูปทรงเพชรไม่ได้ไปไหน โดนปรับเปลี่ยนไปเป็นรุปทรงของกล้องหลังแทนครับ พร้อมกับโลโก้วางแนวนอน เขียนชื่อแบรนด์และ Camera&Music  เป็นคำที่ใช้กับ Vivo รุ่นใหม่ๆทั้งหมด และกล้องหลังวางในกรอบ 4 เหลี่ยมสวยงามพอสมควร ในสีดำ แต่ถ้าสีขาวอาจจะดูแปลกๆนิดหน่อย เพราะตัวกล้องนั้นจะเห็นเป็นวงกลมสีดำๆ วางตามมุมครับ อันนี้แล้วแต่คนชอบเลย
 

 
ทางด้านกล้องหลังนั้นยังคงใช้ดีไซน์แบบรูปทรง เพชร แต่ปรับเปลี่ยนให้สวยและลงตัวขึ้นครับ วางกล้อง 3 มุม และตรงกลาง รวมถึงมีลูกเล่นขีดสีแดงเล็กน้อย ในรุ่นนี้ถ้าสีดำมันก็ดูกลืนไปสวยงามเหมือนกันครับ มาพร้อมกล้องหลัง กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์  กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล,Samsung GM1  f/1.8 / Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 / Super Macro 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 / เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4 และ ไฟแฟลช 1 ดวงแยกออกมาด้านล่างนะครับ กล้องนูนขึ้นมาเล็กน้อย
 

 
SPEC
 
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
- Qualcomm Snapdragon 665 Octa-core
- RAM 8GB
- STORAGE 128GB
- ระบบปฎิบัติการ Funtouch OS 9.2 based on Android 9 Pie
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์  กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล,Samsung GM1 f/1.8 / Super wide-angle 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 / Super Macro 2 - ล้านพิกเซล, f/2.4 / เลนส์ bokeh 2 ล้านพิกเซล, f/2.4
- กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- รองรับ 2 ซิมการ์ด และช่อง MicroSD ได้สูงสุด 256GB Hybrid Slot
- ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth5.0, GPS, USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Dual Engine Fast Charge(9V2A) 18W
- สี : Knight Black (ดำ), Fancy Sky (ฟ้า-ชมพู)
- ราคา : 9,999 บาท
 

 
PERFORMANCE
 
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Snapdragon 665 ซึ่งถือว่าใช้งานระดับกลางไปสูงได้ แต่สายเกมเล่นโหดๆอาจจะไม่แนะนำ แต่ใช้งานทั่วไปลื่นไหล และ แบตอึดพอสมควรเลย ทำคะแนนไปได้ Antutu ทำได้คะแนนที่ 178878 และ Geekbench ทำคะแนนได้ 314 / 1368 ส่วนทางด้านหน่วยความจำนั้นใช้งาน UFS ครับ และเรื่องความปลอดภัยทำได้ Divevine L1 ปกติสำหรับค่ายนี้สามารถดู Netflix HD ได้ครับ
 

 
SYSTEM UI
 
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 9.2 based บนตัว Android 9 Pie อยู่นะครับหน้าตายังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักยังคงความเป็น Vivo อยู่พอสมควรและยังมีแอปติดเครื่องมาเยอะอยู่ การใช้งานมีเลขแจ้งเตือนมุมแอพอะไรปกติครับ และไม่มี App Drawer ในการใช้งานทั่วไปครับ แอพจะวางเรียงกันปกติเลย
 

 
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ แต่ที่แตกต่างนั้นจะเป็นส่วน Quick Setting ที่ค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่างแตกต่างกับค่ายอื่นๆตรงนี้แหละครับ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ
 

 
Storage 128GB จะว่างให้ใช้งาน 112 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 8 GB นั้นใช้งานไป 2 GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
 

 
ในส่วนของหน้า Always On นั้นมีให้เลือกปรับแต่งเยอะมากๆ ทั้งหน้าตา สี ละการใช้งานถือว่าปรับแต่งได้เยอะสุดแล้วในบรรดามือถือสมัยนี้ที่เรทราคานี้ครับ และยังปรับ Effect ได้ด้วยว่าจะเคลื่อนไหวแบบไหนในแต่ละส่วนเช่น หน้าตอนชาร์จ ตอนปลดล็อค หรือ ปัดแอพไปมาก็สามารถปรับได้หมดเลย หลายๆค่ายเริ่มไม่ให้ปรับตรงนี้กันแล้ว ส่วนการนำทางนั้นสามารถใช้งานได้หมดไม่ว่าจะเป็นปุ่ม หรือ การนำทางแบบไร้ปุ่ม สามารถใช้ปัดไปมาได้ครับ
 

 
โหมดเกมนั้นมีมาให้เช่นเดิมหน้าตาแบบเดียวกับเรือธงของค่ายและสายเกมแบบ iQOO ครับสามารถปรับแต่งได้เยอะพอสมควรเลย และ Gesture นั้นมีให้ใช้งานเยอะเช่นเดิมเลยทั้งแบบหน้าจอปิด หรือจะเป็นการวาดรูปอักษรต่างๆก็มีมาให้ครบๆเลยครับ และ การโคลนแอปอะไรก็มีให้ใช้งานได้ปกติเลย
 
ชื่อสินค้า:   VIVO S1 PRO
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่