เรื่องสั้น: รูปถ่ายรูปหนึ่งถูกแชร์กันในโลกออนไลน์

มันเริ่มจากผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งเมื่อช่วงประมาณต้นเดือน เขาได้ลงรูปๆหนึ่งพร้อมกับแคปชั่นว่า

“มีใครเห็นเหมือนผมบ้าง?”

ช่วงนั้นรูปดังกล่าวยังไม่เป็นกระแส ไม่มีการแชร์ จะมีก็แต่เพื่อนๆของเขาเองที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ส่วนมากก็ออกแนวขำขันปนสงสัย แต่บางคนก็บอกว่ารู้สึกแปลกๆเวลามองรูปนั้นนานๆ

แล้วทุกอย่างก็เริ่มขึ้น

โพสต์นั้นกลายเป็นโพสต์สุดท้ายของเขา เมื่อเพียงแค่สองวันหลังจากมันได้ถูกเผยแพร่ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเขาและเพื่อนๆระหว่างเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนที่โพสต์และคนที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นในโพสต์นั้นทั้งสิ้น

แหล่งข่าวทุกสำนักรายงานข่าวนี้แบบเดียวกัน นั่นก็คือเกิดจากการที่คนขับมีอาการหลับในเนื่องจากเดินทางในยามวิกาล ทำให้รถเสียหลักพลัดตกจากถนนแล้วไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง และทุกคนในรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวมถึงตัวเขาเองที่เป็นคนขับ

แต่อย่างไรก็ตาม รูปถ่ายดังกล่าวก็ยังคงไม่เป็นที่สนใจ

จนกระทั่งหนึ่งสัปดาห์ต่อจากนั้น มีผู้ใช้เฟสบุ๊คอีกรายได้นำรูปนั้นไปแชร์ พร้อมกับแคปชั่นว่า

“มีใครเห็นเหมือนผมบ้าง?”

แล้วในวันเดียวกันนั้นเอง เขาก็ได้กระโดดลงจากดาดฟ้าของคอนโดมิเนียมที่เขาพักอาศัยอยู่ ซึ่งการฆ่าตัวตายครั้งนี้สร้างความงวยงงสงสัยให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนั้นไม่เคยมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อาการอยากฆ่าตัวตาย หรือภาวะเครียดเลยแม้แต่น้อย 

และนั่นก็ทำให้รูปภาพดังกลาว โด่งดังเป็นพลุแตกแค่เพียงชั่วข้ามคืน

ยอดแชร์พุ่งทะลุ 10,000 ครั้งเมื่อผ่านไปเพียงแค่หนึ่งวัน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดมาจากผู้คนที่สงสัยว่ารูปนั้นมันคือรูปของอะไรกันแน่ มีคนมากมายเริ่มตั้งข้อสังเกตถึงการเชื่อมโยงกันของกรณีการฆ่าตัวตายดังกล่าวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศและติดเทรนด์อันดับหนึ่งของทวิตเตอร์ภายในแค่วันสองวันเท่านั้น

จากความคิดเห็นของชาวเน็ตและสำนักข่าวต่างๆ ได้ให้คำอธิบายรูปภาพดังกล่าวว่าเป็นภาพถ่ายขาวดำที่แสดงให้เห็นถึงเศษซากปรักหักพังของบางสิ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเคยเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกไฟไหม้จนเหลือเพียงแค่เสาหลักกับเศษไม้กระดานวางกระจัดกระจายอยู่บนพื้น โดยทั้งหมดล้วนแล้วแต่โดนไฟไหม้จนกลายเป็นถ่าน แต่ด้วยความที่ภาพถูกทำให้มีความละเอียดต่ำ ทำให้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นสถานที่ใด 

นอกจากนี้ยังมีผู้คนนำรูปถ่ายนั้นไปสืบค้นประวัติเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่สามารถระบุที่มาได้ โดนทราบแค่เพียงว่าได้ถูกโพสต์ลงเฟสบุ๊คครั้งแรกโดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนั้น 

หลายคนได้แสดงความเห็นว่าเป็นเพียงรูปถ่ายธรรมดาๆรูปหนึ่ง ไม่สิ่งผิดปกติใดๆในรูปถ้าดูเผินๆ แต่ด้วยความที่ผู้เสียชีวิตจากทั้งสองเหตุการณ์ได้เขียนแคปชั่นเหมือนกับว่าได้เห็นอะไรบางอย่างในรูปนั้น เลยส่งผลให้หลายคนตั้งข้อสังเกตถึงจุดๆหนึ่งตรงบริเวณมุมบนขวาของภาพ ซึ่งถ้าเพ่งมองดีๆจะเห็นลักษณะคล้ายกับใบหน้าของคน 

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้คนบางส่วนออกมาให้ความเห็นโต้แย้ง ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาจากการออกแบบลวดลายของเสา ซึ่งบังเอิญไปคล้ายกับใบหน้าของคนเมื่อภาพมีความละเอียดต่ำมากๆ บวกกับการที่จินตนาการไปเอง ทำให้มองเห็นเป็นลักษณะดังกล่าวได้

อีกประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันก็คือ ภายใต้โพสต์ของสำนักข่าวหนึ่งที่ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับภาพนี้ ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งมาแสดงความคิดเห็นด้วยข้อความที่ว่า “มีใครเห็นเหมือนผมบ้าง?” พร้อมกับแนบรูปภาพต้นฉบับที่มีวงกลมสีแดงขนาดใหญ่ถูกวาดเอาไว้บริเวณตรงกลางภาพ เยื้องๆไปทางซ้าย โดยความคิดเห็นดังกล่าวมีผู้ใช้เฟสบุ๊คหลายรายเข้ามาตอบกลับว่าไม่พบความผิดปกติใดๆภายในวงกลมนั้น และคาดว่าคนที่แสดงความคิดเห็นน่าจะแค่แกล้งอำเล่นเฉยๆ

แต่กลับมีผู้ใช้เฟสบุ๊กอีกนับสิบที่มาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกัน โดยอ้างว่าบริเวณตรงกลางภาพเยื้องๆไปทางซ้ายจะประกฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนอนสีขาวยืนหันหน้ามาที่กล้อง และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยแทบจะไม่ต้องเพ่งหรือสังเกตเลย ซึ่งทุกความเห็นที่ออกไปแนวทางนี้จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทำไมคนอื่นๆถึงมองไม่เห็น ทั้งๆที่หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยืนอยู่ตรงนั้น จนเกิดเป็นข้อถกเถียงและได้แพร่สะพัดออกไปยังสื่อออนไลน์ต่างๆ

ไม่นานความเห็นจำนวนนับไม่ถ้วนก็พรั่งพรูเข้ามา ซึ่งทั้งหมดล้วนพยายามหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่ตนเห็น ฝ่ายที่มองเห็นหญิงสาวคนนั้นก็ได้นำรูปภาพของหญิงสาวอีกคนที่มีลักษณะคล้ายกันจากอินเทอร์เน็ตมาให้ดูเปรียบเทียบ แต่ฝ่ายที่มองไม่เห็นก็ยังคงยืนยันว่าภาพนั้นเป็นเพียงภาพธรรมดา ไม่มีใครอยู่ในภาพ 

เสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย ได้มีการสร้างโพลล์สำรวจความคิดเห็นขึ้น แล้วจึงได้พบว่ามีผู้คนที่มองเห็นร่างของหญิงสาวคนนั้นจำนวนมากถึง 40% และที่น่าตกใจคือทุกคนที่เห็นเป็นผู้ชายทั้งหมด 

ไม่มีใครทราบได้ว่าหญิงสาวปริศนาคนนั้นเป็นใคร

กรณีดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั้งประเทศ มีนักวิชาการบางส่วนออกมาให้ความเห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงอุปทานหมู่ ไม่มีภาพของหญิงสาวคนนั้นอยู่จริง ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายก็ได้ทำการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือชั้นสูง แต่ก็ไม่พบร่องรอยของการตัดต่อ รวมถึงสิ่งผิดปกติอื่นใดที่อาจเกี่ยวข้องเลย 

การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป

จนกระทั่งกลางดึกเมื่อคืน มีผู้รายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้หอพักนักศึกษาชื่อดังใจกลางเมือง โดยต้นตอของไฟเริ่มมาจากห้องของนักศึกษาชายคนหนึ่ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุเขาได้แชร์รูปภาพนั้นพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า

“มีใครเห็นเหมือนผมบ้าง?”

สภาพห้องถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด พบศพของผู้ตายนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว จากการสืบสวนพบว่าเขาได้ราดน้ำมันเบนซินลงบนเตียงและพื้นห้อง จากนั้นจึงขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วจุดไฟ จนท.ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่มูลเหตุและแรงจูงใจนั้นยังคงเป็นปริศนา

เพียงแต่มีบางสิ่งที่ผิดปกติ โดยในรายงานข่าวสดจากสถานที่เกิดเหตุ มีผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสำรวจที่เกิดเหตุรวมถึงนักดับเพลิงที่ถูกเรียกมา

หลังจากดับไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่เข้าไปในห้องนั้นล้วนกลับออกมาด้วยท่าทีตื่นตระหนก บางคนถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวจนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไม่ได้

สำหรับคนที่ยังพอมีสติ ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าระหว่างที่เข้าไปสำรวจต้นเพลิง ทั้งๆที่อพยพคนอื่นๆออกจากหอพักจนหมดแล้ว แต่กลับยังมีเสียงๆหนึ่งดังมาจากห้องๆนั้น

พอเข้าไปดูในห้อง ก็ไม่พบใครนอกจากศพบนเตียง แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังอยู่ และดังขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ทุกคนทนไม่ไหวแล้วรีบวิ่งออกจากตึกทันที

ทุกคนบอกกับผู้สื่อข่าวเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเสียงที่ได้ยินนั้น

เป็นเสียงของผู้หญิง

กำลังหัวเราะ

อย่างบ้าคลั่ง

จบ…
---

ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับเรื่องสั้นเรื่องที่สิบเอ็ดของผม คิดเห็นติชมอย่างไรสามารถคอมเมนต์ได้เลยนะครับ ขอบคุณทุกท่านจริงๆที่เข้ามาอ่านกัน สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่