เรื่องราวของเราเริ่มต้นเมื่อจำความได้ พ่อและแม่เราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เปิดร้านขายของชำ พ่อเรารับงานข้างนอกด้วย
เป็นผู้จัดการขนส่งสินค้า บ้านเราถือว่ามีฐานะพอสมควร
และเรื่องราวเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อการขนส่งพัฒนาขึ้น มีคู่แข่งมากขึ้น งานน้อยลง พ่อเราเลยคิดจะออกจากงานมาขายของ พ่อเราออกมาทำร้านเต็มตัว รวมถึงขายของชำไปด้วย พ่อเราเป็นคนชอบพวกต้นไม้ที่เลี้ยงไว้ตกแต่ง ช่วงนั้นกำลังเป็นที่นิยม พ่อเราเลยลงทุนเพาะขาย ไม่นานก็เจ๊ง เพราะมันเป็นต้นไม้ที่แพง และเลี้ยงดูยาก คนซื้อไปก็ไม่กลับมาซื้ออีก ตอนนั้นครอบครัวของเราจากที่มีกินมีใช้ ก็ต้องประหยัด ขายของก็ไม่ได้ทุนคืน เงินหมุนไม่ทัน เพราะชาวบ้านชอบมาเครสินค้า ไว้จะมาจ่าย แล้วก็ไม่มา หรือไม่ก็มาช้ามาก ไม่นานร้านก็เจ๊ง ค่าเทอมของเราก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง จ่ายช้ามาก จนที่โรงเรียนทวงจนถึงที่สุด พ่อจึงตัดสินใจไปทำงานในเมืองหลวง บริษัทที่รับพ่อทำงานก็รับเพราะรู้จัก ตอนนั้นที่พ่อจะไป เราร้องไห้หนักมาก เพราะเราติดพ่อ จนพ่อไปทำงาน ส่งเงินกลับบ้านมาทุกเดือน เดือนละหลายพัน เราไม่รู้จำนวนที่แน่นอน เพราะแม่เป็นคนจัดการทุกอย่าง
พอหลังๆ พวกเราพี่น้องโตขึ้น ต้องใช้เงินเยอะเกี่ยวกับการเรียนทั้งหลาย แม่เราก็จะหางานทำ ด้วยการไปเรียนการอาชีพ เราก็ไม่รู้อีกว่าอะไร แต่ไปทุกวันกลับบ้านเที่ยงคืน ตีสอง เราเป็นห่วงมาก นั่งรอหน้าบ้านทุกวัน ไม่กลับมานอนไม่หลับ หรือลึกๆเรากลัวจะโดนทิ้ง กลัวแม่ทิ้งพวกเราไป เพราะตอนนั้น บ้านเราไม่มีโทรศัทพ์ อยู่ในยุคที่ 3310 กำลังจะวางขาย การนั่งรถจากโรงเรียนกลับบ้าน แล้วแม่อยู่บ้านเป็นอะไรที่มีความสุขมาก แต่พักหลังๆ แม่ไม่ค่อยอยู่ ไปไหนบางทีก็เขียนโน๊ตติดตู้เย็นไว้ บางทีไม่เขียน เรานี่ใจไม่ดี เพราะเราไม่รู้ว่าแม่ไปไหน จากนั้นแม่เราเริ่มสั่งปิ่นโต แล้วหายไปทีละหลายวัน ไปกับเพื่อนบข้าง อ้างว่าไปสัมมนาจะเป็นตัวแทนขาย และอีกมากมาย แล้วก็หายไปทีละหลายๆวัน จนเราเริ่มชิน หรือเพราะเราโตขึ้นก็ไม่รู้ เป็นแบบนี้เรื่อยๆ แต่ช่วงที่พ่อเรากลับมา แม่เราอยู่บ้าน และจะชอบชวนพ่อไปซื้อของเข้าบ้าน ซื้อเยอะมาก โดนที่เราไม่รู้ว่าพ่อเรามีเงินเยอะแค่ไหน แต่พ่อก็ไป และก่อนพ่อจะกลับจะให้เงินลูกๆไว้ทุกครั้ง แต่แม่เห็น แม่จะยึดไว้หมด แล้วบอกฝากแม่ไว้ แต่พวกเราไม่เคยได้ใช้เลย แม่อ้างว่าเก็บไว้ยามฉุกเฉิน แต่เราเห็นว่ามันไม่สมควรมั้ย พ่อก็ให้เงินแม่นะ แล้วจะมาเอากับพวกเราอีก ไม่ใช่แต่พ่อคนเดียว เวลาญาติไม่ว่าฝ่ายไหนมาเยี่ยม โดนยึดหมด จากนั้นเราก็เรียนจบมัธยมต้นและต้องย้ายไปเรียนมัธยมปลายโรงเรียนใหม่ ช่วงนั้นเป็นสมัยที่มี กยศ เข้ามา แม่เราก็ได้ทำการกู้เรียนให้เรา แบบเต็มรูปแบบทั้งค่าเรียน ค่ากิน ค่าอะไรที่กู้ได้กู้หมด จนเราเรียนจบปริญญาตรี ถึงเราจะกู้แต่เงินที่ได้เป็นค่าใช้จ่ายทุกเดือนตั้งแต่กู้มา เราไม่เคยได้ใช้ซักบาท มีแค่เงินอาทิตย์ไปเรียนวันละ 100 บาทเท่านั้น ปิดเทอมเราจะไม่ได้เงินเลย ช่วงที่เรียนมัธยมปลายจนถึงปริญญาตรี เราทำงานตลอด หาเงินค่ากิจกรรมทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่พอแค่นั้น แม่เรารู้ว่าเราทำงาน ยังมาขอเงินเราอีก เราก็ให้นะ เพราะเราทำงาน3-4จ็อปต่อวัน ทั้งเด็กเสริ์ฟ ขายกาแฟ เคเอฟซี พิซซ่า ออกบู้ท ทำทุกอย่างที่ได้เงิน
พอเรียนจบเราทำงานต่อกับริษัทที่เราทำงานพาร์ทไทม์ตอนเรียน ตั้งใจจะเก็บเงินสานฝันน้อยๆของเรา ไม่นานพ่อเราก็มาเสียด้วยโรคร้ายแรง แม่เราก็มีครอบครัวใหม่ เราทำงานไม่ได้กลับบ้าน แม่เราโทรมาขอเงินตลอด เพราะไม่มีเงินที่พ่อส่งมาแล้ว ไม่แค่นั้น เอาบ้านที่อยู่บ้านนอกไปจำนอง เพื่อเอาเงินมาทำธุรกิจ แน่นอน ไม่นานก็เจ๊ง บ้านโดนยึด แม่เราอยากมีรถ แต่ซื้อไม่ได้เพราะไม่มีรายการเดินบัญชีธนาคาร เราเลยซื้อให้ ชื่อเราแล้วบอกว่าจะผ่อนเอง สุดท้ายก็ไม่ผ่อน เราต้องเป็นคนผ่อน พอผ่อนได้ไม่นาน เรากลับมาบ้านรถไม่อยู่ เราเลยเค้นหาความจริง ปรากฏว่ารถเอาไปจำนำ (รถชื่อเราเอาไปจำนำเถื่อน) เพราะไม่มีเงินใช้ เราเลยหยุดผ่อนรถ ให้เขามายึด และแน่นอนเราต้องจ่ายทั้งค่าที่รถเอาไปจำนำ ทั้งส่วนต่างที่ไฟแนนส์ยึด หลังจากนั้นชื่อเราก็ติดแบคลิสต์ เราดีใจนะ เพราะมันไม่สามารถกู้ได้ ทำอะไรได้เลย จะทำอะไรต้องใช้เงินสด แต่ๆๆๆๆ แม่เรามาขอนู้นนี่นั่นทุกเดือน เราก็จ่ายให้นะขั้นต่ำๆเลยเดือนละ 10,000ขึ้น เพราะเราหาเงินมาก็เก็บ ใช้หนี้กยศ เราไม่ได้เดือดร้อนอะไร
ให้แบบนี้จนสิบกว่าปี เราตกงานเงินที่เราเก็บไว้ ก็ต้องเอามาให้แม่ทุกเดือนจนไม่พอ เราหางานได้ แต่เงินเดือนไม่ได้เยอะเท่าเดิม คำด่าทอต่างๆนานาก็เริ่มมา ทวงบุญคุณ อกตัญญู จนมาไม่กี่เดือนนี้ที่ไม่ได้ส่งให้เพราะเราตกงานอีกรอบ ไม่มีงานไม่มีเงิน ติดตัวอยู่ไม่กี่บาท แต่แม่หาว่าเรามีเงินแต่ไม่ส่งให้ เราอยู่กับแฟนเราค่ะ เราจึงยังมีกิน แต่ไม่มีใช้ ไม่มีเผื่อ แม่ก็มาด่าเราว่าทำไมไม่ขอเงินแฟนเรามาให้ แฟนไม่ช่วยเลยเหรอ ???? คนเราเป็นแฟนกัน ทำไมเขาจะไม่ช่วย เขาช่วยเราค่ะ ให้เราเอาเงินกองกลางที่เรากับเขาเอามาใช้ด้วยกัน เอาไปให้แม่ แต่เราไม่ได้บอกแม่ เพราะไม่รู้จะพูดไปแล้วเขาจะฟังมั้ย เข้าใจมั้ย เงินกองกลางเอามาให้แม่จนเกือบหมด แฟนเราไม่เคยว่านะคะ เขาบอกไม่เป็นไร จนเราพูดไม่ออก แล้วก็โทรมาโจมตีเรื่อยๆ ส่งข้อความมาด่า เหน็บแนม เราเลยไม่อ่าน ปล่อยไว้แบบนั้น มันเสียความรู้สึก เรารู้สึกผิดมากกับข้อความหนึ่ง "ถ้าไปนั่งกินข้าว ทุกๆคำที่เคี้ยว เคี้ยวเผื่อแม่ด้วยนะ" เรามานั่งนึกๆดู ว่าเราผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ
เราคิดว่าเราผิดขนาดนั้นเลยเหรอ เราไม่รู้จะทำยังไงดี ทำงานมาก็ให้ทุกเดือนไม่เคยขาด ลงทุนให้เป็นหลักแสน แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลยซักอย่าง มีแต่เจ๊ง มีรายละเอียดอีกเยอะที่แม่ไปสร้างหนี้ไว้แล้วเราตามใช้หนี้ให้ โกหกบ้างจริงบ้าง หลอกเอาเงินจากเราบ้าง เราไม่ได้สนใจว่าจะจริงมั้ย เพราะเราเห็นเขาเป็นแม่ เวลาโทรมาแล้วบอกว่า แม่หิวข้าว ถึงจะไม่จริงเราก็อยู่ไม่สุขแล้ว มานั่งๆคิด ว่าพูดจริงมั้ย โกหกมั้ง แต่เราต้องไปหาเงินให้ตลอดเพราะเราไม่สบายใจ บางทีออกกะมาไปโอนเงินให้ ง่วงนอนจนรถเกือบชนก็มี เราทำงานหนักมาก จนเหนื่อย เราท้อ เราทำงานจนไม่มีเพื่อนที่เรียนด้วยมาคบด้วยเลย เพราะไปไหนด้วยไม่ได้ เราเก็บกด เราไม่รู้จะคุยกับใคร แฟนเราเขาก็นะ เราไม่อยากระบายอะไรให้เขาฟังแล้ว เวลาเขาเห็นเราเงียบๆไป เขาจะไปหยิบโทรศัพท์เรามาเปิดอ่านข้อความ เขารู้แล้วว่าเราเป็นอะไร เขาก็จะชวนดูหนัง เล่นเกมส์เพื่อไม่ให้เราคิดมาก อย่างน้อยเขาก็ทำให้เราสบายใจในช่วงเวลานึง
เราขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เราแค่อยากระบาย ใครมีทางออกดีๆ บอกกันมั่งก็ได้นะคะ ตอนนี้เรามืดไปหมดแล้ว เรากำลังหางานในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้อยู่ค่ะ
อยากระบาย บางทีก็เหนื่อยกับชีวิต