ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของเรา เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัวเองที่กวางโจวค่ะ
เอาล่ะ!!!!! ขอใช้คำพูดแบบกันเองแล้วกัน เพื่ออรรถรถในการอ่าน
เริ่มจากตอนไปเลยดีกว่า จริงๆมันเป็น "งานด่วน" ของบริษัทที่เราจะต้องไปดูสินค้าที่จีน ด่วนแบบกระทันหันมากกกกกก เราจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย
การเตรียมตัว
1.เราต้องขอวีซ่า (ไปจีนต้องขอวีซ่านะยูววว) ซึ่งเราก็พึ่งรู้ตอนที่เราจะไปนั่นแหละ !! ด้วยความที่งานด่วนไงเลยขอแบบไวที่สุด และไม่มีเวลาไปทำเอง
โชคดีมากกกกกกๆๆ หัวหน้าที่ทำงานเก่าเรามีคนรู้จักที่ทำบริษัท รับทำวีซ่าอยู่แล้ว เราก็เลยให้เขาทำให้
เรื่องบริษัทรับทำมีหลายบริษัทนะคะ จะจ้างก็ต้องเช็คดีๆ "เผื่อมีพวกมิจฉาชีพ" หรือถ้ามีเวลาไปทำเองก็ได้นะ ไม่ยาก
2.จองตั๋วโรงแรมก่อนที่จะขอวีซ่านะคะ เพราะต้องใช้เป็นเอกสารในการยื่นขอวีซ่าค่ะ
**นอกนั้นก็เป็นการเตรียมตัวเรื่องการเดินทางในกวางโจวของเรา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการเตรียมตัวในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ขอข้ามไปเลยละกัน
มาถึงที่ ตม.
ตม.เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรนะ แต่ดูรูปและหน้าเรานานหน่อย

ถ้าตัวจริงตรงกับพาสปอร์ตก็ฉลุยค่ะ แต่ถ้าใครศัลยหน้ามาแล้วยังไม่เปลี่ยนพาสเค้าก็จะมองแล้วมองอีก เป็นเรื่องปกติ
พอผ่านตมมา รับกระเป๋าเสร็จแล้ว ( ซึ่งไฟลท์ที่เราบิน จะไปถึงช่วงเช้ามืด 04.50 และ MRT ยังไม่เปิด ) บวกกับความเพลียและความง่วงนอนของเพื่อน
ก็เลยตกลงกันว่าจะขึ้นแท็กซี่
"ทันใดนั้น" เราหันไปเห็นพนักงาน Duty free หนุ่มหล่อ 2 คน ย้ำว่า หล่อออ อ่าแกร๊ๆๆๆ
ก็เลยเดินเข้าไปถามว่าเราสามารถเรียกแท็กซี่ (มิเตอร์) ได้จากตรงไหน ( นอกเรื่องแป๊ป คือคนจีนอ่ะ ไม่พูดอังกฤษเลย สกิลที่ฉันมีจึงไม่ช่วยอะไร )
-- โชคดีที่เพื่อนเราพอพูดจีนได้แบบงูๆปลาๆ และหนุ่มๆก็พอพูดอังกฤษได้นิดหน่อยเลยคุยกันรู้เรื่อง เขาแนะนำให้เรารอ MRT ที่จะเปิดตอน 6 โมงเช้าแต่เพื่อนเราเพลียมากๆ เพลียแบบจะนอนตรงนั้นได้เลย เพราะบนเครื่องหนาวจนหลับไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเดินไปหาแท็กซี่
แต่ 2 หนุ่มเลิกงานพอดี... จึงเดินไปส่ง
ช่วงนี้แหละจุดพีค!!!! เวลาเดินห้ามมเผลอห้ามเชื่อใครเด็ดขาด!!!
เพื่อนเรากำลังขอให้ 2 หนุ่มทำ We chat ให้ (คือการเชิญเพื่อน อ่ะ!! ) นอกเรื่องอีกและ คนจีนไม่ใช้ไลน์หรือวอทแอพนะ ถ้าจะมาซื้อของติดต่อแม่ค้า ต้อง We chat เท่านั้น และ We chat ต้องให้คนที่ใช้งานเกิน 6 เดือนหรือเปล่า จำไม่ได้ นั่นแหละถึงจะเชิญเพื่อนเพื่อใช้แอพได้ และเชิญได้คนเดียวเท่านั้น
ใน 1 หรือ 3 เดือน นี่แหละ
พอ 2 หนุ่มช่วยทำ We chat ยังไม่ทันจะเสร็จ Taxi ที่เป็นเจ้าถิ่น หรือที่ Taxi บ้านเราชอบเรียกตัวเองว่า "แท็กซี่วิน" มี 2 คน เดินมาประกบเพื่อนเรา ซึ่งเพื่อนเรากำลังวุ่นๆกับมือถือและเราก็กำลังหาข้อมูลเรื่องแท็กซี่อยู่
ทันใดนั้น!! คนขับ Taxi (รถบ้าน) และอีกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนทำงานที่สนามบิน .....,, เดินมาบอกเพื่อนเราว่าแท็กซี่มิเตอร์
เพื่อนเราไม่ทันมองหน้าเรา และ 2 หนุ่มที่เดินมาส่ง ทำท่าไม่อยากให้เราไปกับคนพวกนั้น
ด้วยความไม่ทันมองเพื่อนเราเลยเดินตามไปด้วยคำว่า "มิเตอร์"
เราก็เดินตามเพื่อนไป แบบรู้สึกแปลกๆเราบอกเพื่อนว่า "เฮ้ยยยย แบบนี้มันแปลกๆนะ"
(เพราะพวกเขาพาเราเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ลอดที่กั้นกลางถนน ไปยังตรงที่จอดรถ) ซึ่งมันไม่น่าจะใช่สิ่งที่ Taxi ปกติจะทำกัน
เราย้ำกับเพื่อนอีกครั้งว่า "มันแปลกๆนะ" แต่ด้วยความง่วงของเพื่อนและคำว่า ( มิเตอร์ ) เราก็ เออๆ เอาวะ ขึ้นรถ
จากนั้น...... คนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพนักงานสนามบินก็นั่งข้างคนขับ เราถามว่าไหนมิเตอร์ล่ะ คนขับ Taxi ก็ทำท่าชี้ไปที่กลางๆรถแล้วขับออกไป
แปลกมั้ย??? แปลกสิ......,,, เราถามอีกครั้ง ไหนมิเตอร์ ?? เขาก็ทำท่าหยิบมือถือแล้วถามที่อยู่เรา ในแอพคือมิเตอร์ที่เราคิดว่าปลอมมาแน่ๆ
เพราะมันขึ้นตั้ง 700 หยวน (ประมาณ 3,010 บาทไทย) เราก็ ฮะ!@!! ไม่ใช่ละ เพราะ 2 หนุ่มที่เดินมาส่งเคยบอกว่า 130 หยวน เองงงงง
(ประมาณ 559 บาท) พอเรารู้สึกไม่โอเคละ เราก็บอกให้จอดรถ เราจะไม่ไปแล้ว
แล้วอยู่ดีๆคนที่นั่งข้างคนขับ เขาก็ลงกลางทาง ปล่อยเราไปกับคนขับ.... เราไม่ยอม เราขึ้นเสียงแล้วบอกให้จอดเดี๋ยวนี้ ขึ้นเสียง !!
คนขับแท็กซี่ไม่ยอมจอดแล้วขับวนๆแถวสนามบิน และขอต่อราคาเป็น 500 หยวน เราบอกว่า 200 หยวนก็พอ
(คนขับก็หัวเราะแล้วบอกไม่ได้หรอก 450หยวน ละกัน จะจ่ายค่าทางด่วนเอง
เราเห็นว่าเขา ขับวนออกจากสนามบินมาไกลแล้ว และไม่รู้จะไปหารถที่ไหนเลยยอมจ่าย

แต่จริงๆราคาแค่ 130 หยวนนะคะ เจอแบบนี้ก็ระวังกันไว้ด้วย
มาถึงที่พัก
ขอบอกเลยว่า.... ด้วยความกระทันหัน เราเลยขอคำแนะนำ ที่พัก โรงแรม จากบริษัทชิปปิ้ง ที่เราดิวอยู่ตอนนี้
เขาให้เราจองโรงแรมแบบถูกๆ เพราะว่ามาทำงานแล้วกลับ คงไม่ได้อยู่ที่ห้องมากนัก
ไม่ขอเอ่ยชื่อโรงแรมนะคะ
โรงแรมทำความสะอาดล่าสุดเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ตอนเราพัก เขาไม่ได้ทำใหม่ จึงมีฝุ่นเยอะมากกกกกกกก
เราเป็นคนแพ้ฝุ่น ( ผิวบาง ) คืนนั้นเลยไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคันมากกกกกกกกๆ
เรามาช่วงวันที่ 5-7 พ.ย. อากาศก็จะเย็นๆ อากาศดีเลยล่ะ
แนะนำว่ามาที่นี่ ถ้าไม่ได้ทำแพลนเดินทางมาอย่างดี หรือพูดภาษาจีนได้ ควรจ้างไกด์ค่ะ
เราได้ไกด์มาจากบริษัทชิปปิ้ง เขาแนะนำมา
เราได้ไกด์ผู้หญิง น่ารักเป็นกันเอง บอกทุกอย่างไม่มีกั๊ก อะไรดีไม่ดี
อะไรควรไม่ควร แถมสอนภาษาให้อีกน่ารักมากๆ เราให้เขาต่อราคาจากแม่ค้าให้
อยากไปที่ไหนก็ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาดู Map เลย
ภาษาจีนสำคัญมากๆ เพราะคนที่นี่ไม่พูดอังกฤษเลย มีในห้างแต่ พอถามเยอะๆเขาก็จะไม่เข้าใจ
เราถามหาร้านดื่ม ร้านชิว แต่เขาชี้ไปที่ร้านกาแฟ อันนี้คนละดื่มค่ะ
อาหารการกิน..... ไม่ต้องห่วงเลย ใครที่ไม่ชอบอาหารรสจัด ทานได้ทุกอย่างค่ะ
ติ่มซำ อร่อยมากกกกกกกกกก
ห้องน้ำสาธารณะ เป็นแบบหลุมๆติดพื้น ไม่มีทิชชู่นะคะ (ควรพกไว้ตลอดค่ะ )
แต่ในห้าง Taikoo Hui ดีหน่อยเป็นชักโครก
ส่วน MRT เราต้องมีบัตร อะไรซักอย่าง ซึ่งเราก็ไม่ได้หาข้อมูลไปและอ่านภาษาจีนไม่ออกเลยไม่ได้ใช้ค่ะ (จำเป็นต้องหาข้อมูลก่อนไปนะคะ)
กลางคืนเดินเล่น ไม่อันตรายค่ะ
เราไปวิ่ง เดินออกกำลังกายกับเพื่อนดึกๆ ก็ยังมีคนพลุกพล่านอยู่ อาจจะเพราะย่านเราเป็นย่านที่ขายของด้วยหรือป่าวไม่แน่ใจ
สุดท้ายนี้ สำคัญสุดๆคือ เรื่อง (ภาษา) นะคะ
แล้วก็อยากจะเตือนเรื่องเดียวคือ Taxi ที่สนามบินค่ะ
ใครที่กำลังคิดจะมาเที่ยวหรือมาดูสินค้าจากจีน บอกเลยว่าของน่าสนใจเยอะค่ะ
ถ้ามีไกด์ก็จะดีกว่า "งม" หาทางเอง
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ใครมีข้อเสนอแนะดีๆ ยินดีรับฟังค่ะ
ประสบการณ์ เที่ยวกวางโจว ครั้งแรก
เอาล่ะ!!!!! ขอใช้คำพูดแบบกันเองแล้วกัน เพื่ออรรถรถในการอ่าน
เริ่มจากตอนไปเลยดีกว่า จริงๆมันเป็น "งานด่วน" ของบริษัทที่เราจะต้องไปดูสินค้าที่จีน ด่วนแบบกระทันหันมากกกกกก เราจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย
การเตรียมตัว
1.เราต้องขอวีซ่า (ไปจีนต้องขอวีซ่านะยูววว) ซึ่งเราก็พึ่งรู้ตอนที่เราจะไปนั่นแหละ !! ด้วยความที่งานด่วนไงเลยขอแบบไวที่สุด และไม่มีเวลาไปทำเอง
โชคดีมากกกกกกๆๆ หัวหน้าที่ทำงานเก่าเรามีคนรู้จักที่ทำบริษัท รับทำวีซ่าอยู่แล้ว เราก็เลยให้เขาทำให้
เรื่องบริษัทรับทำมีหลายบริษัทนะคะ จะจ้างก็ต้องเช็คดีๆ "เผื่อมีพวกมิจฉาชีพ" หรือถ้ามีเวลาไปทำเองก็ได้นะ ไม่ยาก
2.จองตั๋วโรงแรมก่อนที่จะขอวีซ่านะคะ เพราะต้องใช้เป็นเอกสารในการยื่นขอวีซ่าค่ะ
**นอกนั้นก็เป็นการเตรียมตัวเรื่องการเดินทางในกวางโจวของเรา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการเตรียมตัวในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ขอข้ามไปเลยละกัน
มาถึงที่ ตม.
ตม.เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรนะ แต่ดูรูปและหน้าเรานานหน่อย
พอผ่านตมมา รับกระเป๋าเสร็จแล้ว ( ซึ่งไฟลท์ที่เราบิน จะไปถึงช่วงเช้ามืด 04.50 และ MRT ยังไม่เปิด ) บวกกับความเพลียและความง่วงนอนของเพื่อน
ก็เลยตกลงกันว่าจะขึ้นแท็กซี่
"ทันใดนั้น" เราหันไปเห็นพนักงาน Duty free หนุ่มหล่อ 2 คน ย้ำว่า หล่อออ อ่าแกร๊ๆๆๆ
ก็เลยเดินเข้าไปถามว่าเราสามารถเรียกแท็กซี่ (มิเตอร์) ได้จากตรงไหน ( นอกเรื่องแป๊ป คือคนจีนอ่ะ ไม่พูดอังกฤษเลย สกิลที่ฉันมีจึงไม่ช่วยอะไร )
-- โชคดีที่เพื่อนเราพอพูดจีนได้แบบงูๆปลาๆ และหนุ่มๆก็พอพูดอังกฤษได้นิดหน่อยเลยคุยกันรู้เรื่อง เขาแนะนำให้เรารอ MRT ที่จะเปิดตอน 6 โมงเช้าแต่เพื่อนเราเพลียมากๆ เพลียแบบจะนอนตรงนั้นได้เลย เพราะบนเครื่องหนาวจนหลับไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเดินไปหาแท็กซี่
แต่ 2 หนุ่มเลิกงานพอดี... จึงเดินไปส่ง
ช่วงนี้แหละจุดพีค!!!! เวลาเดินห้ามมเผลอห้ามเชื่อใครเด็ดขาด!!!
เพื่อนเรากำลังขอให้ 2 หนุ่มทำ We chat ให้ (คือการเชิญเพื่อน อ่ะ!! ) นอกเรื่องอีกและ คนจีนไม่ใช้ไลน์หรือวอทแอพนะ ถ้าจะมาซื้อของติดต่อแม่ค้า ต้อง We chat เท่านั้น และ We chat ต้องให้คนที่ใช้งานเกิน 6 เดือนหรือเปล่า จำไม่ได้ นั่นแหละถึงจะเชิญเพื่อนเพื่อใช้แอพได้ และเชิญได้คนเดียวเท่านั้น
ใน 1 หรือ 3 เดือน นี่แหละ
พอ 2 หนุ่มช่วยทำ We chat ยังไม่ทันจะเสร็จ Taxi ที่เป็นเจ้าถิ่น หรือที่ Taxi บ้านเราชอบเรียกตัวเองว่า "แท็กซี่วิน" มี 2 คน เดินมาประกบเพื่อนเรา ซึ่งเพื่อนเรากำลังวุ่นๆกับมือถือและเราก็กำลังหาข้อมูลเรื่องแท็กซี่อยู่
ทันใดนั้น!! คนขับ Taxi (รถบ้าน) และอีกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนทำงานที่สนามบิน .....,, เดินมาบอกเพื่อนเราว่าแท็กซี่มิเตอร์
เพื่อนเราไม่ทันมองหน้าเรา และ 2 หนุ่มที่เดินมาส่ง ทำท่าไม่อยากให้เราไปกับคนพวกนั้น
ด้วยความไม่ทันมองเพื่อนเราเลยเดินตามไปด้วยคำว่า "มิเตอร์"
เราก็เดินตามเพื่อนไป แบบรู้สึกแปลกๆเราบอกเพื่อนว่า "เฮ้ยยยย แบบนี้มันแปลกๆนะ"
(เพราะพวกเขาพาเราเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ลอดที่กั้นกลางถนน ไปยังตรงที่จอดรถ) ซึ่งมันไม่น่าจะใช่สิ่งที่ Taxi ปกติจะทำกัน
เราย้ำกับเพื่อนอีกครั้งว่า "มันแปลกๆนะ" แต่ด้วยความง่วงของเพื่อนและคำว่า ( มิเตอร์ ) เราก็ เออๆ เอาวะ ขึ้นรถ
จากนั้น...... คนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพนักงานสนามบินก็นั่งข้างคนขับ เราถามว่าไหนมิเตอร์ล่ะ คนขับ Taxi ก็ทำท่าชี้ไปที่กลางๆรถแล้วขับออกไป
แปลกมั้ย??? แปลกสิ......,,, เราถามอีกครั้ง ไหนมิเตอร์ ?? เขาก็ทำท่าหยิบมือถือแล้วถามที่อยู่เรา ในแอพคือมิเตอร์ที่เราคิดว่าปลอมมาแน่ๆ
เพราะมันขึ้นตั้ง 700 หยวน (ประมาณ 3,010 บาทไทย) เราก็ ฮะ!@!! ไม่ใช่ละ เพราะ 2 หนุ่มที่เดินมาส่งเคยบอกว่า 130 หยวน เองงงงง
(ประมาณ 559 บาท) พอเรารู้สึกไม่โอเคละ เราก็บอกให้จอดรถ เราจะไม่ไปแล้ว
แล้วอยู่ดีๆคนที่นั่งข้างคนขับ เขาก็ลงกลางทาง ปล่อยเราไปกับคนขับ.... เราไม่ยอม เราขึ้นเสียงแล้วบอกให้จอดเดี๋ยวนี้ ขึ้นเสียง !!
คนขับแท็กซี่ไม่ยอมจอดแล้วขับวนๆแถวสนามบิน และขอต่อราคาเป็น 500 หยวน เราบอกว่า 200 หยวนก็พอ
(คนขับก็หัวเราะแล้วบอกไม่ได้หรอก 450หยวน ละกัน จะจ่ายค่าทางด่วนเอง
เราเห็นว่าเขา ขับวนออกจากสนามบินมาไกลแล้ว และไม่รู้จะไปหารถที่ไหนเลยยอมจ่าย
แต่จริงๆราคาแค่ 130 หยวนนะคะ เจอแบบนี้ก็ระวังกันไว้ด้วย
มาถึงที่พัก
ขอบอกเลยว่า.... ด้วยความกระทันหัน เราเลยขอคำแนะนำ ที่พัก โรงแรม จากบริษัทชิปปิ้ง ที่เราดิวอยู่ตอนนี้
เขาให้เราจองโรงแรมแบบถูกๆ เพราะว่ามาทำงานแล้วกลับ คงไม่ได้อยู่ที่ห้องมากนัก
ไม่ขอเอ่ยชื่อโรงแรมนะคะ
โรงแรมทำความสะอาดล่าสุดเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ตอนเราพัก เขาไม่ได้ทำใหม่ จึงมีฝุ่นเยอะมากกกกกกกก
เราเป็นคนแพ้ฝุ่น ( ผิวบาง ) คืนนั้นเลยไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคันมากกกกกกกกๆ
เรามาช่วงวันที่ 5-7 พ.ย. อากาศก็จะเย็นๆ อากาศดีเลยล่ะ
แนะนำว่ามาที่นี่ ถ้าไม่ได้ทำแพลนเดินทางมาอย่างดี หรือพูดภาษาจีนได้ ควรจ้างไกด์ค่ะ
เราได้ไกด์มาจากบริษัทชิปปิ้ง เขาแนะนำมา
เราได้ไกด์ผู้หญิง น่ารักเป็นกันเอง บอกทุกอย่างไม่มีกั๊ก อะไรดีไม่ดี
อะไรควรไม่ควร แถมสอนภาษาให้อีกน่ารักมากๆ เราให้เขาต่อราคาจากแม่ค้าให้
อยากไปที่ไหนก็ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาดู Map เลย
ภาษาจีนสำคัญมากๆ เพราะคนที่นี่ไม่พูดอังกฤษเลย มีในห้างแต่ พอถามเยอะๆเขาก็จะไม่เข้าใจ
เราถามหาร้านดื่ม ร้านชิว แต่เขาชี้ไปที่ร้านกาแฟ อันนี้คนละดื่มค่ะ
อาหารการกิน..... ไม่ต้องห่วงเลย ใครที่ไม่ชอบอาหารรสจัด ทานได้ทุกอย่างค่ะ
ติ่มซำ อร่อยมากกกกกกกกกก
ห้องน้ำสาธารณะ เป็นแบบหลุมๆติดพื้น ไม่มีทิชชู่นะคะ (ควรพกไว้ตลอดค่ะ )
แต่ในห้าง Taikoo Hui ดีหน่อยเป็นชักโครก
ส่วน MRT เราต้องมีบัตร อะไรซักอย่าง ซึ่งเราก็ไม่ได้หาข้อมูลไปและอ่านภาษาจีนไม่ออกเลยไม่ได้ใช้ค่ะ (จำเป็นต้องหาข้อมูลก่อนไปนะคะ)
กลางคืนเดินเล่น ไม่อันตรายค่ะ
เราไปวิ่ง เดินออกกำลังกายกับเพื่อนดึกๆ ก็ยังมีคนพลุกพล่านอยู่ อาจจะเพราะย่านเราเป็นย่านที่ขายของด้วยหรือป่าวไม่แน่ใจ
สุดท้ายนี้ สำคัญสุดๆคือ เรื่อง (ภาษา) นะคะ
แล้วก็อยากจะเตือนเรื่องเดียวคือ Taxi ที่สนามบินค่ะ
ใครที่กำลังคิดจะมาเที่ยวหรือมาดูสินค้าจากจีน บอกเลยว่าของน่าสนใจเยอะค่ะ
ถ้ามีไกด์ก็จะดีกว่า "งม" หาทางเอง
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ใครมีข้อเสนอแนะดีๆ ยินดีรับฟังค่ะ