หลักจากเสร็จศึกฟุตบอลไทยลีกแล้ว ช่วงนี้นักฟุตบอลจะมีเวลาว่าง สมาคมฟุตบอลจึงจับมือกับสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) เปิดคอร์สอบรมผู้ฝึกสอนหลักสูตร AFC 'C' Ceriticate Coaching Course ครั้งที่ 8 ประจำปี 2562 เปิดโอกาสให้นักฟุตบอลอาชีพทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้าร่วมอบรมผู้ฝึกสอนในช่วงปิดฤดูกาล ซึ่งจะมีการอบรมที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ในระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2562
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายกสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วการอบรมที่จัดขึ้นโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลมีมากมายตลอดปี แต่ด้วยตารางการแข่งขันของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่ยาวนานตลอดทั้งปี การหาเวลาลงเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับนักฟุตบอล”
“ในฐานะสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่เห็นว่าบุคลากรเหล่านี้จะพอเป็นประโยชน์แก่วงการได้บ้างไม่มากก็น้อยจึงปรึกษากับท่านนายกฯ (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ถึงความไปได้ที่จะจัดคอร์สในช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่นักฟุตบอลอาชีพ (เช่นช่วงปิดฤดูกาล) ท่านเองก็เห็นดีด้วย และได้หารือเพิ่มเติมเรื่องรายละเอียดกับคุณแชมป์ (กรวีร์ ปริศนานันทกุล) ซึ่งท่านทั้งสองก็ให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกของ PFA และนักเตะทีมชาติไทย (ทั้งอดีตและปัจจุบัน) ได้เข้าร่วมคอร์สนี้”
“ถือว่าเป็นคอร์สความร่วมมืออันแรกระหว่าง FA Thailand – PFA สำหรับหลักสูตร AFC-C License ครับ ขอบพระคุณทางสมาคมที่ได้เปิดโอกาสตรงนี้ให้แก่เรา”
“ถ้าพูดถึงความคาดหวัง ก็หวังว่าผู้เข้าร่วมอบรมจะสามารถนำประสบการณ์จากการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย หรือนักฟุตบอลอาชีพมาต่อยอดและเป็นประโยชน์ให้แก่วงการฟุตบอลบ้านเรา”
“โดยพื้นฐานแล้ว นักฟุตบอลมีประสบการณ์จากการลงเล่นจริง แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนตามหลักสูตรก็จะได้เปิดมุมมอง เพิ่มวิสัยทัศน์ และใช้หลักการ ทฤษฎี ที่ได้อบรมตามหลักสูตรที่ได้มาตรฐานมาเพิ่มพูนทักษะและความเข้าใจเกมส์มากยิ่งขึ้น”
“ด้วยการที่ฟุตบอลเป็นอาชีพในทุกวันนี้ แน่นอนการเข้าร่วมอบรมนั้นมอบโอกาสสำหรับอนาคต ในการต่อยอดของการเป็นโค้ชภายหลังการเลิกเล่น และ สำคัญกว่านั้นผมมองว่าทุกคนจะได้เข้าใจถึงหัวอกของความเป็นโค้ช และการจัดการทรัพยากรมนุษย์”
“แน่นอนครั้งนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของความร่วมมือ ผมในฐานะตัวแทนสมาชิกของ PFA ก็มีความตั้งใจที่จะริเริ่มโครงการที่จะเป็นประโยชน์ให้แก่พี่ๆ น้องๆ นักฟุตบอลอาชีพ”
“นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี ที่เราได้เริ่มทำให้แก่ นักกีฬาที่เป็นสมาชิกของ PFA และนักกีฬาทีมชาติไทย ทั้งอดีตและปัจจุบัน ท้ายนี้อยากฝากถึงพี่ๆ น้องๆ นักกีฬาฟุตบอลอาชีพทุกคน ให้เข้ามาร่วมสมัครเป็นสมาชิกของ PFA ด้วยครับ ติดต่อสมัครและติดตามข้อมูลได้ทาง Line ID: @pfathailand”
ในคอร์สนี้ ก็มีผู้เข้าสมัครอบรม 24 คนดังนี้
นายศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
นายกรกช วิริยอุดมศิริ
นายไพโรจน์ โสคำ
นายพิชิตย์ ใจบุญ
นายณัฐพงษ์ สมณะ
ส.อ. ภูริทัต จาริกานนท์
นายนพพล ปิตะฝ่าย
นายธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์
นายวุธรัตน์ ธนสุคนธสิทธิ์
นายสมปอง สอแหลบ
นายวิทยา หมัดหลำ
นายสมชาย มากมูล
นายกิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ
นายอนุชา กิจพงษ์ศรี
นายมงคล ทศไกร
นายโกสินทร์ เหมบุตร
นายจิรวัฒน์ มัครมย์
นายพิศาล ดอกไม้แก้ว
นายคัพฟ้า บุญมาตุ่น
นายจักรพันธ์ แก้วพรม
นายประวีณวัช บุญยงค์
นายทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์
นางสาวจันทร์เพ็ญ สีเสริม
นางสาวสุกัญญา ช. เจริญยิ่ง
"มงคล ทศไกร" กับก้าวแรกเส้นทางโค้ชอาชีพ
ต้นแบบของผู้ที่ใช้พรแสวง นำ พรสวรรค์ ในการก้าวไปสู่ความสำเร็จของการเป็นนักกีฬามีให้เห็นมากมาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นประสบความสําเร็จ คือ ความขยัน อดทน และไม่ยอมแพ้ต่อความฝันสูงสุดของตัวเอง แม้จะไม่ได้มีความสามารถหรือพรสวรรค์สูง แต่ด้วยมีวินัยและความทุ่มเทเต็มร้อย โอกาสยอมเปิดรับเสมอ
หนึ่งในนั้น คือ "มงคล ทศไกร" อดีตกองหน้าทีมชาติไทย"จ่าเย็น" จากหนุ่มโรงงาน ค่าแรง 205 บาท ใช้พรแสวงบนพื้นหญ้าจนก้าวสู่ทำเนียบนักเตะทีมชาติไทยได้อย่างน่าทึ่ง แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะที่มีเทคนิคสูง ไม่ใช่นักฟุตบอลที่สามารถเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ 3-4 คนได้ จ่ายบอล หรือ จบสกอร์เฉียบคม ได้แบบเหนือความคาดหมาย
แต่สิ่งที่กองหน้าจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด มีก็คือความมุ่งมั่น แม้ประตูที่เขาทำอาจจะไม่ได้สวยงาม แต่หลายๆ ครั้งคือประตูสำคัญที่ช่วยให้ต้นสังกัด และทีมชาติไทยได้รับชัยชนะ ซึ่งหนึ่งในความสำเร็จคือการพาทีมชาติไทย ผงาดแชมป์อาเซียนเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา
ในวัย 32 ปี ภายใต้สังกัดสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด เขาแสดงความมุ่งมั่นและเตรียมตัวที่จะแบ่งปันความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับน้องๆ เยาวชน ด้วยการก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นโค้ชอาชีพ เพื่อปั้นนักเตะ "มงคล 2-3-4" ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังเมืองไทย โดยมีต้นแบบก็คือ "แม้จะพรสวรรค์ไม่สูง แต่จงใช้พรแสวงนำมาซึ่งความสำเร็จ"
"ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับนักฟุตบอลทุกคน เพราะนักฟุตบอลหลายคน อยู่กับฟุตบอลมาเกือบทั้งชีวิต และเมื่อเขาเลิกเล่นไป ทุกคนก็อยากอยู่ในวงการนี้ต่อไป เช่นเดียวกับตัวผมเอง" ปีกของอาร์มี ยูไนเต็ด กล่าวเริ่ม
"อนาคตของผมยังอยากอยู่กับวงการฟุตบอลต่อไป ถ้าหากเราไม่ได้เรียนวิธีการถ่ายทอดที่ถูกต้อง เราก็จะสอนเด็กได้ไม่ดี เราก็ต้องพยายามหาหลักการหรือหลักสูตรที่ถูกต้องและดี เพื่อมาถ่ายทอดสู่เด็กรุ่นใหม่ๆ"
"เป้าหมายการเป็นโค้ชของผม ก็คือ ที่ผ่านมาเราเป็นคนรับโอกาสจากคนอื่นมาตลอด พอถึงวันหนึ่ง ผมก็อยากจะให้โอกาสแก่คนอื่นบ้าง ช่วงแรกแน่นอนก็อยากสอนเด็กก่อน เพื่อทดสอบว่าเราสอนเขาได้ดีขนาดไหน ซึ่งหากเราทำได้ดี เราก็จะสามารถขยับขึ้นไปเรื่อยๆ"
"ส่วนตัวผม ยอมรับว่าโชคดีมาก ที่ได้ร่วมงานกับโค้ชเก่งๆ มากมาย ผมเองก็จะพยายามนำข้อดีของโค้ชแต่ละคนที่เราได้รับมาผสมผสานกัน มันพูดยากนะว่าใครคือโค้ชที่ดีที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย เพราะที่ผมสัมผัสได้คือทุกคนต่างให้โอกาสกับผม"
"ผมร่วมงานกับโค้ชคนไทยมาเยอะ ทั้งพี่โก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง), พี่แบน (ธชตวัน ศรีปาน), พี่หระ (อิสสระ ศรีทะโร), พี่อั๋น (สุรพงษ์ คงเทพ) รวมถึงโค้ชต่างชาติอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง"
"สิ่งที่สำคัญคือ ทุกคนต่างให้โอกาสผม ซึ่งผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมแสดงออกไป คือผมพร้อมทุ่มเทเต็มที่เสมอ แม้เราอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์สูง แต่ผมก็ทำเต็มที่ และพร้อมสู้เพื่อให้ทีมเก็บชัยชนะให้ได้ในทุกครั้ง"
"สำหรับตัวผม พรสวรรค์มันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือพรแสวง มันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ เพราะหากเรามีพรแสวง บางที พรสวรรค์มันก็อาจจะตามมา"
"ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เล่นฟุตบอลสวยงาม แต่โอกาสก็เข้ามาหาผมเยอะมาก ผมเองก็อยากจะปลูกฝังน้องๆ รุ่นใหม่ ในสิ่งเหล่านี้ ว่าถึงแม้วันนี้ เขาจะยังไม่เก่ง แต่หากคุณทุ่มเท โอกาสและความสำเร็จ ก็อาจจะพุ่งเข้าหาตัวเราได้"
สำหรับ หลักสูตร AFC 'C' Certificate Coaching Course ครั้งนี้ถือเป็นคอร์สแรกที่เปิดเพื่อนักฟุตบอลอาชีพทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยมีรายนักเตะเข้ารวมโครงการ อาทิ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, กรกช วิริยอุดมศิริ, ไพโรจน์ โสคำ, ณัฐพงษ์ สมณะ, ส.อ. ภูริทัต จาริกานนท์, นพพล ปิตะฝ่าย, สมปอง สอแหลบ, วิทยา หมัดหลำ, อนุชา กิจพงษ์ศรี, มงคล ทศไกร, จิรวัฒน์ มัครมย์, พิศาล ดอกไม้แก้ว, จักรพันธ์ แก้วพรม , ประวีณวัช บุญยงค์, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, วุธรัตน์ ธนสุคนธสิทธิ์, สมชาย มากมูล, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, โกสินทร์ เหมบุตร, ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์, นางสาวจันทร์เพ็ญ สีเสริม, นางสาวสุกัญญา ช. เจริญยิ่ง
ขอบคุณข่าวจาก
https://osn.in.th/ปั้นนักเตะสู่โค้ชอาชีพ/
https://osn.in.th/เพื่อนักบอลอาชีพ-สมาคมฯ/
https://www.msn.com/th-th/sports/soccer/มงคล-ทศไกร-กับก้าวแรกเส้นทางโค้ชอาชีพ/ar-BBX6rcP?ocid=spartandhp
ไทยลีกปิดฤดูกาลแล้ว สมาคมฟุตบอลเปิดคอร์สให้นักบอลไปเรียนโค้ชกัน
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายกสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วการอบรมที่จัดขึ้นโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลมีมากมายตลอดปี แต่ด้วยตารางการแข่งขันของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่ยาวนานตลอดทั้งปี การหาเวลาลงเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับนักฟุตบอล”
“ในฐานะสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่เห็นว่าบุคลากรเหล่านี้จะพอเป็นประโยชน์แก่วงการได้บ้างไม่มากก็น้อยจึงปรึกษากับท่านนายกฯ (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ถึงความไปได้ที่จะจัดคอร์สในช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่นักฟุตบอลอาชีพ (เช่นช่วงปิดฤดูกาล) ท่านเองก็เห็นดีด้วย และได้หารือเพิ่มเติมเรื่องรายละเอียดกับคุณแชมป์ (กรวีร์ ปริศนานันทกุล) ซึ่งท่านทั้งสองก็ให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกของ PFA และนักเตะทีมชาติไทย (ทั้งอดีตและปัจจุบัน) ได้เข้าร่วมคอร์สนี้”
“ถือว่าเป็นคอร์สความร่วมมืออันแรกระหว่าง FA Thailand – PFA สำหรับหลักสูตร AFC-C License ครับ ขอบพระคุณทางสมาคมที่ได้เปิดโอกาสตรงนี้ให้แก่เรา”
“ถ้าพูดถึงความคาดหวัง ก็หวังว่าผู้เข้าร่วมอบรมจะสามารถนำประสบการณ์จากการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย หรือนักฟุตบอลอาชีพมาต่อยอดและเป็นประโยชน์ให้แก่วงการฟุตบอลบ้านเรา”
“โดยพื้นฐานแล้ว นักฟุตบอลมีประสบการณ์จากการลงเล่นจริง แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนตามหลักสูตรก็จะได้เปิดมุมมอง เพิ่มวิสัยทัศน์ และใช้หลักการ ทฤษฎี ที่ได้อบรมตามหลักสูตรที่ได้มาตรฐานมาเพิ่มพูนทักษะและความเข้าใจเกมส์มากยิ่งขึ้น”
“ด้วยการที่ฟุตบอลเป็นอาชีพในทุกวันนี้ แน่นอนการเข้าร่วมอบรมนั้นมอบโอกาสสำหรับอนาคต ในการต่อยอดของการเป็นโค้ชภายหลังการเลิกเล่น และ สำคัญกว่านั้นผมมองว่าทุกคนจะได้เข้าใจถึงหัวอกของความเป็นโค้ช และการจัดการทรัพยากรมนุษย์”
“แน่นอนครั้งนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของความร่วมมือ ผมในฐานะตัวแทนสมาชิกของ PFA ก็มีความตั้งใจที่จะริเริ่มโครงการที่จะเป็นประโยชน์ให้แก่พี่ๆ น้องๆ นักฟุตบอลอาชีพ”
“นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี ที่เราได้เริ่มทำให้แก่ นักกีฬาที่เป็นสมาชิกของ PFA และนักกีฬาทีมชาติไทย ทั้งอดีตและปัจจุบัน ท้ายนี้อยากฝากถึงพี่ๆ น้องๆ นักกีฬาฟุตบอลอาชีพทุกคน ให้เข้ามาร่วมสมัครเป็นสมาชิกของ PFA ด้วยครับ ติดต่อสมัครและติดตามข้อมูลได้ทาง Line ID: @pfathailand”
ในคอร์สนี้ ก็มีผู้เข้าสมัครอบรม 24 คนดังนี้
นายศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
นายกรกช วิริยอุดมศิริ
นายไพโรจน์ โสคำ
นายพิชิตย์ ใจบุญ
นายณัฐพงษ์ สมณะ
ส.อ. ภูริทัต จาริกานนท์
นายนพพล ปิตะฝ่าย
นายธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์
นายวุธรัตน์ ธนสุคนธสิทธิ์
นายสมปอง สอแหลบ
นายวิทยา หมัดหลำ
นายสมชาย มากมูล
นายกิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ
นายอนุชา กิจพงษ์ศรี
นายมงคล ทศไกร
นายโกสินทร์ เหมบุตร
นายจิรวัฒน์ มัครมย์
นายพิศาล ดอกไม้แก้ว
นายคัพฟ้า บุญมาตุ่น
นายจักรพันธ์ แก้วพรม
นายประวีณวัช บุญยงค์
นายทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์
นางสาวจันทร์เพ็ญ สีเสริม
นางสาวสุกัญญา ช. เจริญยิ่ง
"มงคล ทศไกร" กับก้าวแรกเส้นทางโค้ชอาชีพ
ต้นแบบของผู้ที่ใช้พรแสวง นำ พรสวรรค์ ในการก้าวไปสู่ความสำเร็จของการเป็นนักกีฬามีให้เห็นมากมาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นประสบความสําเร็จ คือ ความขยัน อดทน และไม่ยอมแพ้ต่อความฝันสูงสุดของตัวเอง แม้จะไม่ได้มีความสามารถหรือพรสวรรค์สูง แต่ด้วยมีวินัยและความทุ่มเทเต็มร้อย โอกาสยอมเปิดรับเสมอ
หนึ่งในนั้น คือ "มงคล ทศไกร" อดีตกองหน้าทีมชาติไทย"จ่าเย็น" จากหนุ่มโรงงาน ค่าแรง 205 บาท ใช้พรแสวงบนพื้นหญ้าจนก้าวสู่ทำเนียบนักเตะทีมชาติไทยได้อย่างน่าทึ่ง แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะที่มีเทคนิคสูง ไม่ใช่นักฟุตบอลที่สามารถเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ 3-4 คนได้ จ่ายบอล หรือ จบสกอร์เฉียบคม ได้แบบเหนือความคาดหมาย
แต่สิ่งที่กองหน้าจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด มีก็คือความมุ่งมั่น แม้ประตูที่เขาทำอาจจะไม่ได้สวยงาม แต่หลายๆ ครั้งคือประตูสำคัญที่ช่วยให้ต้นสังกัด และทีมชาติไทยได้รับชัยชนะ ซึ่งหนึ่งในความสำเร็จคือการพาทีมชาติไทย ผงาดแชมป์อาเซียนเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา
ในวัย 32 ปี ภายใต้สังกัดสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด เขาแสดงความมุ่งมั่นและเตรียมตัวที่จะแบ่งปันความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับน้องๆ เยาวชน ด้วยการก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นโค้ชอาชีพ เพื่อปั้นนักเตะ "มงคล 2-3-4" ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังเมืองไทย โดยมีต้นแบบก็คือ "แม้จะพรสวรรค์ไม่สูง แต่จงใช้พรแสวงนำมาซึ่งความสำเร็จ"
"ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับนักฟุตบอลทุกคน เพราะนักฟุตบอลหลายคน อยู่กับฟุตบอลมาเกือบทั้งชีวิต และเมื่อเขาเลิกเล่นไป ทุกคนก็อยากอยู่ในวงการนี้ต่อไป เช่นเดียวกับตัวผมเอง" ปีกของอาร์มี ยูไนเต็ด กล่าวเริ่ม
"อนาคตของผมยังอยากอยู่กับวงการฟุตบอลต่อไป ถ้าหากเราไม่ได้เรียนวิธีการถ่ายทอดที่ถูกต้อง เราก็จะสอนเด็กได้ไม่ดี เราก็ต้องพยายามหาหลักการหรือหลักสูตรที่ถูกต้องและดี เพื่อมาถ่ายทอดสู่เด็กรุ่นใหม่ๆ"
"เป้าหมายการเป็นโค้ชของผม ก็คือ ที่ผ่านมาเราเป็นคนรับโอกาสจากคนอื่นมาตลอด พอถึงวันหนึ่ง ผมก็อยากจะให้โอกาสแก่คนอื่นบ้าง ช่วงแรกแน่นอนก็อยากสอนเด็กก่อน เพื่อทดสอบว่าเราสอนเขาได้ดีขนาดไหน ซึ่งหากเราทำได้ดี เราก็จะสามารถขยับขึ้นไปเรื่อยๆ"
"ส่วนตัวผม ยอมรับว่าโชคดีมาก ที่ได้ร่วมงานกับโค้ชเก่งๆ มากมาย ผมเองก็จะพยายามนำข้อดีของโค้ชแต่ละคนที่เราได้รับมาผสมผสานกัน มันพูดยากนะว่าใครคือโค้ชที่ดีที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย เพราะที่ผมสัมผัสได้คือทุกคนต่างให้โอกาสกับผม"
"ผมร่วมงานกับโค้ชคนไทยมาเยอะ ทั้งพี่โก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง), พี่แบน (ธชตวัน ศรีปาน), พี่หระ (อิสสระ ศรีทะโร), พี่อั๋น (สุรพงษ์ คงเทพ) รวมถึงโค้ชต่างชาติอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง"
"สิ่งที่สำคัญคือ ทุกคนต่างให้โอกาสผม ซึ่งผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมแสดงออกไป คือผมพร้อมทุ่มเทเต็มที่เสมอ แม้เราอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์สูง แต่ผมก็ทำเต็มที่ และพร้อมสู้เพื่อให้ทีมเก็บชัยชนะให้ได้ในทุกครั้ง"
"สำหรับตัวผม พรสวรรค์มันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือพรแสวง มันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ เพราะหากเรามีพรแสวง บางที พรสวรรค์มันก็อาจจะตามมา"
"ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เล่นฟุตบอลสวยงาม แต่โอกาสก็เข้ามาหาผมเยอะมาก ผมเองก็อยากจะปลูกฝังน้องๆ รุ่นใหม่ ในสิ่งเหล่านี้ ว่าถึงแม้วันนี้ เขาจะยังไม่เก่ง แต่หากคุณทุ่มเท โอกาสและความสำเร็จ ก็อาจจะพุ่งเข้าหาตัวเราได้"
สำหรับ หลักสูตร AFC 'C' Certificate Coaching Course ครั้งนี้ถือเป็นคอร์สแรกที่เปิดเพื่อนักฟุตบอลอาชีพทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยมีรายนักเตะเข้ารวมโครงการ อาทิ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, กรกช วิริยอุดมศิริ, ไพโรจน์ โสคำ, ณัฐพงษ์ สมณะ, ส.อ. ภูริทัต จาริกานนท์, นพพล ปิตะฝ่าย, สมปอง สอแหลบ, วิทยา หมัดหลำ, อนุชา กิจพงษ์ศรี, มงคล ทศไกร, จิรวัฒน์ มัครมย์, พิศาล ดอกไม้แก้ว, จักรพันธ์ แก้วพรม , ประวีณวัช บุญยงค์, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, วุธรัตน์ ธนสุคนธสิทธิ์, สมชาย มากมูล, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, โกสินทร์ เหมบุตร, ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์, นางสาวจันทร์เพ็ญ สีเสริม, นางสาวสุกัญญา ช. เจริญยิ่ง
ขอบคุณข่าวจาก
https://osn.in.th/ปั้นนักเตะสู่โค้ชอาชีพ/
https://osn.in.th/เพื่อนักบอลอาชีพ-สมาคมฯ/
https://www.msn.com/th-th/sports/soccer/มงคล-ทศไกร-กับก้าวแรกเส้นทางโค้ชอาชีพ/ar-BBX6rcP?ocid=spartandhp