ในกรณีกู้ไม่ผ่านไม่สามารถโทษเป็นความผิดของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ และไม่ใช่ความผิดของลูกหนี้ จึงถือเป็นการหลุดพ้นจากการชำระหนี้ซื้อบ้านกับทางโครงการ และโครงการย่อมไม่มีสิทธิที่จะรับชำระหนี้ตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 219 และมาตรา 372” ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อหาดังนี้
มาตรา 219 ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่านว่าลูกหนี้เป็นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้น ถ้าภายหลังที่ได้ก่อหนี้ขึ้นแล้วนั้น ลูกหนี้กลายเป็นคนไม่สามารถจะชำระหนี้ได้ไซร้ ท่านให้ถือเสมือนว่าเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้การชำระหนี้ตกเป็นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
มาตรา 372 นอกจากกรณีที่กล่าวไว้ในสองมาตราก่อน ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้หามีสิทธิจะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษเจ้าหนี้ได้ ลูกหนี้ก็หาเสียสิทธิที่จะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ แต่ว่าลูกหนี้ได้อะไรไว้เพราะการปลดหนี้ก็ดี หรือใช้คุณวุฒิความสามารถของตนเป็นประการอื่นเป็นเหตุให้ได้อะไรมา หรือแกล้งละเลยเสียไม่ขวนขวายเอาอะไรที่สามารถจะทำได้ก็ดี มากน้อยเท่าไร จะต้องเอามาหักกับจำนวนอันตนจะได้รับชำระหนี้ตอบแทน วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่การชำระหนี้อันฝ่ายหนึ่งยังค้างชำระอยู่นั้นตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นมิต้องรับผิดชอบ ในเวลาเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดนัดไม่รับชำระหนี้
จากการอ้างอิงข้อกฎหมายตามมาตรา 219 และ 372 สามารถอธิบายออกมาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า ในกรณีที่กู้ไม่ผ่านหรือพ้นวิสัยหนี้ได้ ทางโครงการจะต้องคืนเงินจองทั้งหมดให้กับผู้ซื้อ ซึ่งหากโครงการไม่ทำการคืนจะต้องมีการระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าจะไม่การคืนเงินจองหากกู้ไม่ผ่าน โดยทั้งนี้หากไม่มีการระบุในสัญญาและมีปากมีเสียงกันเกิดขึ้น อันเป็นเหตุมาจากทางโครงการไม่คืนเงินจอง ผู้ซื้อที่ทำการกู้ไม่ผ่านสามารถโต้แย้งสิทธิที่จะได้รับเงินจองคืนตามกฎหมาย และสามารถใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลเรียกให้โครงการคืนเงินดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55
ที่มา :
ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/กู้ไม่ผ่าน-ขอคืนเงินจองได้หรือไม่-7667
"กู้ไม่ผ่าน" ตามกฎหมายแล้วขอคืนเงินจองได้หรือไม่?
มาตรา 219 ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่านว่าลูกหนี้เป็นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้น ถ้าภายหลังที่ได้ก่อหนี้ขึ้นแล้วนั้น ลูกหนี้กลายเป็นคนไม่สามารถจะชำระหนี้ได้ไซร้ ท่านให้ถือเสมือนว่าเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้การชำระหนี้ตกเป็นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
มาตรา 372 นอกจากกรณีที่กล่าวไว้ในสองมาตราก่อน ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้หามีสิทธิจะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษเจ้าหนี้ได้ ลูกหนี้ก็หาเสียสิทธิที่จะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ แต่ว่าลูกหนี้ได้อะไรไว้เพราะการปลดหนี้ก็ดี หรือใช้คุณวุฒิความสามารถของตนเป็นประการอื่นเป็นเหตุให้ได้อะไรมา หรือแกล้งละเลยเสียไม่ขวนขวายเอาอะไรที่สามารถจะทำได้ก็ดี มากน้อยเท่าไร จะต้องเอามาหักกับจำนวนอันตนจะได้รับชำระหนี้ตอบแทน วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่การชำระหนี้อันฝ่ายหนึ่งยังค้างชำระอยู่นั้นตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นมิต้องรับผิดชอบ ในเวลาเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดนัดไม่รับชำระหนี้
จากการอ้างอิงข้อกฎหมายตามมาตรา 219 และ 372 สามารถอธิบายออกมาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า ในกรณีที่กู้ไม่ผ่านหรือพ้นวิสัยหนี้ได้ ทางโครงการจะต้องคืนเงินจองทั้งหมดให้กับผู้ซื้อ ซึ่งหากโครงการไม่ทำการคืนจะต้องมีการระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าจะไม่การคืนเงินจองหากกู้ไม่ผ่าน โดยทั้งนี้หากไม่มีการระบุในสัญญาและมีปากมีเสียงกันเกิดขึ้น อันเป็นเหตุมาจากทางโครงการไม่คืนเงินจอง ผู้ซื้อที่ทำการกู้ไม่ผ่านสามารถโต้แย้งสิทธิที่จะได้รับเงินจองคืนตามกฎหมาย และสามารถใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลเรียกให้โครงการคืนเงินดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55
ที่มา : ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/กู้ไม่ผ่าน-ขอคืนเงินจองได้หรือไม่-7667