มันเป็นความโชคดีของแมวหรือเป็นความโชคดีของผมกันนะ

แรกเลยผมเป็นคนที่ไม่เคยมีความสนใจเรื่องแมวมาก่อน โดยส่วนตัวแล้วจะชอบหมาเป็นพิเศษครับ
ผมเลยงงว่าอะไรทำให้ผมตัดสินใจรับเลี้ยงแมวจรหนึ่งตัว
จนมาวันนี้ผมไม่รู้ว่า มันเป็นความโชคดีของแมวหรือเป็นความโชคดีของผม กันแน่ที่ตัดสินใจรับเลี้ยงแมวในวันนั้น

ผมเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์การรับเลี้ยงแมวตัวหนึ่ง
ตั้งแต่วันที่ไปรับจนถึงปัจจุบัน แมวของผมอายุได้ปีกว่าๆ แล้ว ให้เพื่อนๆ ที่รักแมวได้ยิ้มไปด้วยกัน
และหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บางคนที่อยากมีประสบการณ์ มีความพร้อมและกำลังตัดสินใจจะรับเลี้ยงแมวนะครับ


Part รับเลี้ยง
ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ทุกวันหลังเลิกงานส่วนใหญ่ผมจะไปออกกำลังกาย กินดื่มพบปะเพื่อนๆ
หรือบางวันที่มีเวลาว่างก็จะวิ่งออกกำลังกายในหมู่บ้าน แล้วอาศัยเล่นกับหมาของเพื่อนบ้านผ่านรั้วของบ้านเค้าแทน
จนบางครั้งโดนกัดแล้วต้องหอบสังขารตัวเองไปฉีดวัคซีนเลยละครับ

พออยู่เชียงใหม่ได้ซักระยะ แมวก็เรื่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมทีละนิด
เริ่มต้นด้วยบ้านแฟนเลี้ยงแมว 3 ตัว โดยที่ 2 ใน 3 ตัวนี้เป็นแมวจรที่เข้ามาในบ้านแฟนเอง (ทั้ง 3 ตัวเลี้ยงในระบบปิด)
นี่แหละครับคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเข้าใกล้คำว่า ทาสแมว โดยไม่รู้ตัว

วันนึงผมได้รับโทรศัพท์จากแฟนว่า มีลูกแมวเข้ามาที่บ้านอีกแล้ว เป็นตัวเมีย อายุน่าจะเดือนกว่าๆ แล้ว จากนั้นก็ส่งรูปให้ดู
แฟนบอกว่า คงเลี้ยงแมวตัวนี้ไว้ในตัวบ้านไม่ได้แล้ว คงต้องเลี้ยงในกรงนอกบ้าน รอให้แมวโตพอที่จะทำหมันและฉีดวัคซีน ถึงจะปล่อยไปได้
ปัจจุบันได้จับแมวจรที่คาดว่าจะเป็นแม่ของลูกแมวหลายๆ รุ่น ไปทำหมันเรียบร้อยแล้วครับ เพื่อป้องกันการคลอดลูกออกมาอีก

แฟนผมก็ยุจัง เอาไปเลี้ยงสิ เอาไปเลี้ยงสิ ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับเลี้ยงแมวดีมั้ย
จนผมได้ไปเจอแมวตัวจริงๆ ที่อยู่ในกรง ตอนนั้นรู้สึกว่า ผมถูกชะตากับแมวตัวนี้มากใจมันก็ก้ำกึ่งว่า เอาดีไหมนะ
พอผมได้กลับไปที่บ้านแล้วมีเวลาคิด เราพร้อมจะเลี้ยงสัตว์ตัวนึงแล้ว บ้านเราก็สามารถเลี้ยงแมวในระบบปิดได้
ผมก็คิดได้ว่า เอาวะ!!!!! เราเอาแน่

ผมเลยโทรบอกแฟน ช่วงบ่ายๆ จะเข้าไปรับแมวนะ ขอเวลาครึ่งวันไปเตรียมตัว เตรียมอาหาร เตรียมทรายแมว ถ้วยชามก่อน
และนี่คือ คนที่ไม่เคยคิดเลี้ยงแมวมาก่อน คอนโดแมวมาในวันแรก ทั้งๆ ที่ยังไม่มีแมวเลย 555555

พอสถานที่พร้อมแล้ว ผมก็เข้าไปรับแมวมา นั่งเล่นแมวกับแม่ของแฟนอยู่สักพัก แม่ตั้งชือให้ว่า ถ้วยฟู ผมเห็นว่าน่ารักดี เลยใช้ชื่อนี้เลย
แมวค่อนข้างร่าเริงครับ ขี้เล่นด้วย แต่ด้วยความที่แมวตัวนี้ถูกปล่อยทิ้งและอยู่สภาพแวดล้อมภายนอกมานาน
เลยเป็นแมวที่ขี้ระแวงจัด และแสดงอาการขู่เป็นระยะๆ ด้วยครับ

จากนั้นผมก็พาถ้วยฟูไปคลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน คุณหมอแนะนำการเลี้ยง และการดูแลดีมากๆ
คุณหมอได้ให้ยาถ่ายพยาธิ กำจัดเห็บ หมัดและนัดตรวจเลือด ฉีดวัคซีนต่างๆ พร้อมอาบน้ำให้ด้วย
ได้อาบน้ำแปรงขนแล้วก็กลายเป็นแมวคนละตัวเลย แต่ยังขู่ฟ้อๆ อยู่นะ
นี่คือ ภาพถ้วยฟูที่เข้าบ้านวันแรกครับ


Part ปรับตัว
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมแทบจะเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของผมเลยก็ว่าได้ครับ
ถ้วยฟูยังไม่คุ้นเคยกับบ้านใหม่ ไม่คุ้นเคยสถานที่ ที่สำคัญยังไม่คุ้ยเคยกับผมด้วย 5555
ผมเลยทำทุกอย่างเพื่อให้มีเวลาอยู่กับถ้วยฟูมากที่สุด

เริ่มด้วยจากปกติ พอเลิกงานผมมักจะไปออกกำลังกาย เป็นอันว่า ยกเลิกทั้งหมดเลยครับ
แล้วยกให้ถ้วยฟูหมดเลย เลิกงานแล้วผมคลุกอยู่แต่บ้าน  รูปข้างล่างนี้คือต้องอุ้มมานะครับ ไม่งั้นไม่เข้าใกล้ผมเลย
ผมตั้งใจว่าจะไม่พาถ้วยฟูขึ้นไปนอนที่ห้องนอนชั้นบนด้วย เพราะอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง
ผมเลยตัดสินใจเอาตัวเองลงมานอนกับถ้วยฟูที่ชั้นล่างแทนครับ 555555555
ขนฟูก ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ลงมานอนกับถ้วยฟูที่ชั้นล่างทุกคืนเป็นเดือนๆ เลยครับ แมวจะได้คุ้นเคยผมเร็วๆ

บ้านที่เคยโล่ง บริเวณไหนมีช่อง มีรู ผมปิดทั้งหมดเลยครับ กันถ้วยฟูเข้าไม่หลบ

 

โต๊ะกินข้าวที่ไม่เคยได้ใช้ ปัจจุบันได้ใช้แล้วครับ 5555555
Part หลังปรับตัว
ผ่านไปหลายสัปดาห์ ถ้วยฟูก็เรื่มปรับตัวได้ เริ่มชินกับผม ชินกับสถานที่ เริ่มเล่น เรื่มซนแล้วครับ
ทีนี้ถึงคราวที่ผมได้ขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มๆ ที่ห้องนอนของตัวเองแล้ว
แต่ที่หน้าห้องนอนผมจะมีเบาะแมวนิ่มๆ วางไว้ให้ถ้วยฟูนะครับ
ตื่นเช้ามาจะเห็นถ้วยฟูนอนและมองมาทางเราทุกวันเลย

หึๆ พ่อไม่หลงกลหรอกนะ ไม่ได้เข้าห้องนอนพ่อแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองดูกันไป

 
Part ของจำเป็น

ไอเท็มคุณพ่อยอดนักสืบที่คนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่ไม่พลาดก็คือ กล้องส่องแมว ผมรู้นะ ทุกคนก็มี
เอาไว้ส่องตอนที่เราไม่อยู่บ้านครับ คอยดูพฤติกรรมของแมวด้วย ว่าตอนที่เราไม่อยู่บ้าน เค้าอยู่ยังไง
และนี่คือถ้วยฟูและเก้าอี้ประจำตำแหน่งครับ ถามว่าตำแหน่งอะไรหรอ ตอบได้เลยครับ
เจ้าของบ้าน 55555

ยิ่งได้เห็นตอนที่เค้ารอเรากลับบ้านนี่ หื้มหือ!!!! ใจจะขาดครับ

Part ทำหมัน

พอน้ำหนักครบ 2 กิโลกรัม คุณหมอก็นัดทำหมันครับ
หมอบอกว่าให้เตรียมเสื้อที่ไม่ได้ใช้แล้วไปด้วย ผมก็ไม่ได้ถามหมอว่าเตรียมไปทำไม
ไปส่งแมวตอนเช้าแล้วไปรับกลับตอนช่วงเย็นๆ ปรากฎว่า หมอทำชุดให้ใส่กันมวเลียแผลครับ น่ารักเชียว
นี่คือภาพของถ้วยฟูตอนถึงบ้านครับ ยังเมายาอยู่เลย เดินแล้วล้ม เดินแล้วล้ม
หลังจากทำหมันมาแล้ว อันตรายครับ เริ่มส่งสัญญาณอันตราย
ถ้วยฟูจะอ้อนมากๆ อ้อนแบบผิดปกติ มาคลอเคลียเราตลอดเวลา ไม่ยอมไปไหนเลย
ผมเลยยอมเลยครับ แพ้อย่างราบคาบ แพ้อย่างกู่ไม่กลับ

ถ้วยฟูได้ขึ้นไปนอนที่ห้องนอนของผมแล้วครับ 55555

และยังคงนอนอยู่ตั้งแต่ทำหมันจนถึงทุกวันนี้เลย

 Part ตามใจฉัน
มาถึงช่วงสนุกๆ แล้วครับ ดูจากสายตาแล้ว ผมรับรู้ได้เลยครับว่า น้องต้องชอบชุดที่ใส่ให้แน่ๆ 5555
 
  Part สุดท้าย
ถ้วยฟูจะเป็นแมวที่ค่อนข้างรู้วินัยครับ เค้าจะฉี่ อึในห้องน้ำในส่วนที่เราเตรียมกระบะไว้ให้
ฝนเล็บในที่ๆ เคยสอนไว้ตลอด ไม่ทำลายข้าวของ
เข้านอนพร้อมผม และจะปลุกผมเพื่อลงไปฉี่ที่ห้องน้ำชั้นล่าง
ด้วยการขึ้นมานั่งบนอก แล้วเลียหน้า เลียเครา ก่อนเวลาที่ผมตั้งปลุกจริงๆ ประมาณ 5 นาทีทุกวัน ไม่รู้ว่าถ้วยฟูรู้ได้ยังไง
และรู้งานเป็นพิเศษ ปกติถ้วยฟูจะกลัวคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็น แต่ช่วงที่พ่อแม่ของผมมาเยี่ยม ถ้วยฟูไม่ขู่เลย
นั่งจ้องพ่อกับแม่ของผมเฉยๆ  เป็นงานจริงๆ

แต่ถ้วยฟูก็มีข้อเสียนะครับ น้องเป็นแมวที่ไม่มีสังคมแมวด้วยกันเลย
ผมเคยพาถ้วยฟูไปเล่นกับแมวที่บ้านแฟนบ่อยๆ แต่พอไปถึง นิสัยเค้าจะเปลี่ยนไปเป็นแมวคนละแมวเลยครับ
จะเครียดและเกรี้ยวกราดจัดๆ จนผมไม่พาไปอีกเลย แฟนกับแม่ก็จะมาถ้วยฟูที่บ้านผมแทน

ตลอดปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ถ้วยฟูเข้ามาสร้างสีสันให้บ้านได้มากเลยครับ มันดีนะที่รู้ว่าเค้ารอเรากลับบ้านอยู่
การตัดสินใจรับเลี้ยงถ้วยฟูในวันนั้น มันส่งผลดีต่อทุกๆ วันของผมมาโดยตลอด
ทีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบแล้วว่า มันเป็นความโชคดีของใคร
 
 

และสำหรับใครที่พร้อมและกำลังมองหาสัตว์มาเลี้ยงซักตัว
ผมว่า การเลี้ยงแมว ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เพือนๆ ได้พิจารณานะครับ
มาสิครับ มาเข้าใจความหมายของคำว่า ทาสแมว ด้วยกัน

เพิ่มเติม คลิปถ้วยฟูวิ่งเล่นเก็บของที่เราโยนออกไปแล้วเอามาให้ อยู่ความเห็นที่ 9 ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่