[CR] เที่ยวคนเดียวลุยเดี่ยวตั้งแต่โตเกียว นิกโก้ถึงไอสุวากามัตสึ! (part 1)



Nikko มาเมื่อไหร่ก็ประทับใจกับการลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียว สนุกกับเมืองมรดกโลกใน 4 วัน 3 คืน 
Nikko (นิกโก้) น่าจะเป็นหนึ่งในพิกัดเที่ยวยอดฮิตที่หลาย ๆ คนเดินทางมา สำหรับเรานี่เป็นการมาเที่ยวนิกโก้ครั้งแรก (และเป็นการรีวิวลงพันทิปครั้งแรกฝากตัวด้วยนะค้า) แถมยังเดินทางเที่ยวคนเดียวซะด้วย !

ในการเดินทางครั้งนี้เราเดินทางจากอาซากุสะ (Tokyo) ไปยังนิกโก้ (Nikko) แล้วไปต่อถึงเมืองไอสุวากามัตสึ (Aizuwakamatsu) แห่งจังหวัดฟุคุชิมะ 

ถามว่าทำไมไปไกลขนาดนี้ เราได้ไปเจอพาสที่น่าสนใจชื่อ YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS  มีคอนเซปต์ว่าเป็นการเที่ยวชิลล์ ๆ  ใช้นั่งรถไฟไปได้ไกลมาก ตั้งแต่อาซากุสะมานิกโก้ไปยันไอสุวากามัตสึ ! 

ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องวางแผนกันก่อนว่าเราอยากจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง โดยพาสนี้สามารถใช้ได้ภายใน 4 วันไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้นั่นเอง ถ้าดูจากรูปคือเส้นทางที่ใช้พาสนี้เดินทางได้ แสามารถซื้อแบบที่เดินทางจากสถานี Asakusa ยาวมาเลยก็ได้ ราคาของพาสก็จะแตกต่างกันไปตามระยะทางที่เราต้องการใช้งานด้วย  ก่อนจะไปซื้อการวางแพลนไปก่อนจำเป็นมาก ๆ นะ

ดูรายละเอียดของพาสพร้อมราคาเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> http://www.tobu.co.jp/foreign/en/pass/aizu.html (ภาษาอังกฤษ)

และสำหรับแพลนของเราในครั้งนี้ก็คือไปเที่ยวที่นิกโก้ 2 วัน 1 คืน อีก 2 คืนเราจะไปเที่ยวและค้างที่เมืองไอสุวากามัตสึ (Aizu Wakamatsu) จังหวัดฟุคุชิมะต่อ เอาล่ะเดี๋ยวจะรีวิวกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยนะ Let’s Go !

DAY 1 : จากอาซากุสะไปนิกโก้ด้วยรถไฟขบวนด่วน Revaty ถึงเร็วประทับใจ
ที่เราต้องมาขึ้นรถไฟจากสถานี Asakusa โดยพิกัดที่ขึ้นจะเป็นสถานีของทาง Tobu Railway ที่จะพาเรามุ่งตรงไปยังนิกโก้ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงมาที่  Asakusa Station Travel Center แห่งนี้



ภายในสถานีจะมีทั้ง Tourist Information Center และพิกัดขายพาส YUTTARI AIZU TOBU FREE PASS ที่เราตามหา สำหรับวิธีการซื้อนั้นเพียงเดินไปยังเคาท์เตอร์หน้าตาแบบนี้ จากนั้นแจ้งชื่อพาสที่ต้องการจะซื้อและอย่าลืมบอกด้วยว่าเราจะเดินทางจากสถานี Asakusa ไปจนถึงสถานีไหน โดยเขาจะมีให้เลือก 3 จุดคือ 
-Aisu-Tajima
-Ashinomaki-osen
-Kitakata 


สำหรับของเราเลือกเป็นจาก Asakusa ไปจนถึง Kitakata เนื่องจากเมืองไอสุวากามัตสึที่เราจะไปอยู่สถานีก่อนหน้า Kitakata หนึ่งสถานีนั่นเอง ในการใช้พาสแบบนี้จะไม่สามารถใส่เข้าในเครื่องสอดตั๋วปกติได้ ให้ไปเข้าช่องทางผ่านเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วแทนนะ
เนื่องจากพาสข้างบนยังไม่ได้รวมกับราคารถไฟด่วนพิเศษหรือ Rivaty ที่เราอยากนั่งให้ไปถึงนิกโก้ได้อยากรวดเร็ว เราจึงของจ่ายเพิ่มนิดหน่อย บนตั๋วจะมีเวลา ขบวนรถและเลขที่นั่งเขียนเอาไว้ด้วยนะอย่าลืมเช็คกันดูก่อน รถขบวนด่วนนี้วิ่งถึง Tobu Nikko เลย นั่งรวดเดียวไปยาว ๆ


ทั้งตั๋วรถไฟขบวนด่วนและพาสของเรานั้นต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจทั้งสองพาส โดยเมื่อผ่านเข้ามาแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วรถไฟด่วนของเราอีกรอบ 

รถไฟ Revaty ขบวนนี้บอกเลยว่าเท่ไม่หยอก ข้างในก็ดูดีไม่แพ้ภายนอก ที่นั่งสบายใครมาพร้อมกระเป๋าเดินทางหายห่วงได้เลย จากนั้นก็นั่งกันยาว ๆ ไปนิกโก้กันเล้ย

ที่อยู่ 1 Chome-4-1 Hanakawado, 台東区 Taito City, Tokyo 111-0033
วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro มาลงที่สถานี Asakusa ออกทางประตู 7 ต่อจากนั้นเดินมาเพียง 1 นาที
เวลาทำการ 7.20-19.00 น.

Nikko มาเมื่อไหร่ก็ได้ความประทับใจ


นั่งรถไฟประมาณสองชั่วโมง พร้อมไปเปลี่ยนรถที่  Shimo imaichi เราก็มาถึงสถานี Tobu Nikko 
มาถึงนี่ก็หิวพอดีเลยแวะซื้อ Ekiben หรือเบนโตะประจำสถานีรถไฟ


เอกิเบนเนี่ยเป็นข้าวกล่องที่นำอาหารขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นมาทำเป็นเบนโตะให้เราได้อร่อยกัน เหมาะกับคนที่นั่งรถไฟเที่ยวแล้วกลัวจะหิวระหว่างทาง
เอกิเบนที่เราเลือก ข้างในเป็นอาหารสไตล์เพื่อสุขภาพ มีทั้งผัดกุ้งและ Yube Tofu เต้าหู้ขึ้นชื่อของที่นิกโก้เข้า แถมในข้าวยังมีชีสก้อนเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ แถมมาด้วยโมจิไส้ถั่วแดงเป็นของหวาน เลิศอยู่นะ อร่อยได้ 800 เยนเท่านั้น

เอาล่ะถึงเวลาเดินทางต่อ แต่ก่อนจะออกเดินทางท่องเที่ยวในนิกโก้ เรานำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ที่พักซะก่อน สำหรับคราวนี้เราเลือกพักที่ Sanga Nikko เกสต์เฮ้าส์น่ารัก บรรยากาศอบอุ่นซึ่งพิกัดของที่นี่อยู่ใกล้กับสถานีเดินมาได้แค่ 3 นาที

นอกจากบรรยากาศของที่พักแห่งนี้แล้วสต๊าฟผู้ดูแลที่นี่ก็ใจดีไม่แพ้กัน เราอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือสอบถามเรื่องการเดินทางภายในนิกโก้หรือมีอะไรขาดเหลือละก็สอบถามได้เลย

ห้องน้ำของที่นี่จะเป็นแบบส่วนรวม (ห้องอาบน้ำและห้องน้ำแยกกันนะ) มีพื้นที่และครัวส่วนกลางให้ได้ใช้บริการ ในส่วนของห้องพักนั้นนอนหลับสบายได้อย่างเป็นส่วนตัวเลย



ภายในห้องพักของเรา เป็นเสื่อทาทามิให้ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นกันให้เต็มที่

ที่อยู่ 14-1 Matsubaracho, Nikko, Tochigi 321-1406
ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ 10,350 เยนต่อคืน /เข้าพักได้ 2 คน


เอาสัมภาระไปฝากและเช็คอินเรียบร้อยแล้วถึงไปเที่ยวกันต่อ ! เรานั่งรถบัสจากบริเวณสถานี Tobu Nikko มาลงยังบริเวณ Rinnoji Daizenin Nitenmon ( 輪王寺大猷院 二天門 ) การเที่ยวที่นิกโก้เนี่ยต้องกะเวลาให้ดีกันมาก ๆ เพราะสถานที่แต่ละที่มักจะปิดเวลา 16.00-17.00 น. 

การนั่งรถบัสมาจากสถานีก็ไม่ยากนะ เพราะที่นิกโก้จะมีรถบัสที่ชื่อว่า World Heritage Bus ที่จะพาเราจากสถานีไปยังสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกต่าง ๆ ได้ มีพาสที่สามารถใช้ได้กับบัสนี้ด้วยชื่อว่า World Heritage Tour Ticket ราคา 500 เยน ซื้อได้ที่สถานี Tobu Nikko เลย


วัดแห่งนี้บรรยากาศของที่นี่ก็ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะความสวยงามของวัดหรือความร่มรื่นย์ของเหล่าต้นไม้ ยิ่งมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสียิ่งสวย

ภายในบริเวณวัดมีสิ่งก่อสร้างมากมายที่เก่าแก่และยังถูกบำรุงรักษาเอาไว้ให้สวยงามดังเดิมได้เสพย์ทั้งความสงบและความสวยแบบนี้เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่าย  ๆ เลยเนอะ

ที่อยู่ 2300 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431
วิธีการเดินทาง นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Daiyuin Futarasanjinjamae จากนั้นเดินต่อเพียง 1 นาที 
เวลาทำการ เดือนเมษายนถึงตุลาคม 8.00-17.00 น. เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม 8.00-16.00 น.
ราคา ค่าเข้าชม (รวมทั้ง Sanbudou และ Daisoin) ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 400 เยน

กาารเที่ยววันแรกในนิกโก้ของเรายังไม่จบ (ถึงแม้ว่าใกล้จะห้าโมงเต็มทีแล้วก็ตาม) เราเดินไปต่อที่ศาลเจ้า Nikko Futarasan Jinja (日光二荒山神社 拝殿) ที่นี่ถือเป็นศาลเจ้าชื่อดังของนิกโก้อีกหนึ่งแห่งเหมือนกัน ด้วยความเก่าแก่กว่าพันปี


ภายในมีโซนเล็กๆ ที่รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้ไปของพรขอพลังอำนาจกัน ปกติแล้วศาลเจ้าแห่งนี้จะไม่มีค่าเข้าชม แต่ถ้าต้องการเข้ามาในโซนนี้มีค่าเข้าเพิ่มเติม 200 เยนนะ 
ชื่อสินค้า:   Nikko มาเมื่อไหร่ก็ประทับใจกับการลุยเดี่ยวเที่ยวคนเดียว สนุกกับเมืองมรดกโลกใน 4 วัน 3 คืน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่