สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันก็ต้องทนค่ะ ทำอะไรได้ยาก หรือถ้ารู้ว่าเขาจะมาก็หาทางออกนอกบ้านไปซะ ถ้าเขาสั่งโน่นสั่งนี่ก็ไม่ต้องทำตามทั้งหมดเลือกทำแต่สิ่งที่คิดว่าเขาให้ความสำคัญ
เวลาเราไปบ้านแม่สามี แล้วเราช่วยทำงานบ้านเขาบอกให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ก็ทำตามไป ไม่ต้องคิดว่าแบบนั้นดีกว่าแบบนี้ดีกว่า ทำตามเขาบอก เขาต้องการให้งานเสร็จเขาเลยวัยที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงแล้ว นอกจากมีจังหวะเหมาะๆก็ลองถามว่าจะซื้ออันโน้นมาให้ลองใช้ดีมั๊ยจะได้สะดวกขึ้น เอาความปรารถนาดีเป็นจุดขาย
ทำตามไปก็ไม่ได้ลำบากอะไรถือเป็นการฝึกทำอะไรที่ต่างจากความเคยชิน อันไหนที่เขาทำแล้วดีก็เอามาปรับใช้ที่บ้านเรา พอสามีได้มีสิ่งแวดล้อมคล้ายๆกับที่เขายังเด็ก เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ไม่เห็นมีอะไรที่เสียประโยชน์ แค่ลดอีโก้ลง
แม่สามีคุณเป็นแบบนี้ สามีคุณไม่ติดนิสัยมาหรอ สามีเราแรกๆก็บอกให้ทำโน่นนี่นั่นเหมือนกัน ก็นิสัยเดียวกับแม่เขานี่ล่ะ เราก็ทำตามเท่าที่จะทำได้ อันไหนที่ทำไม่ได้ก็ไม่ทำดื้อเงียบไปซะ เจอกันก็ดูแลดีๆเหมือนแม่ของตัวเอง
เขาเป็นแบบนั้นก็เพราะเขาเป็นแบบนั่นมา 40-50 ปี จะให้มาเปลี่ยนเพราะเราเป็นลูกสะใภ้มันไม่ได้แน่ๆ และเขาก็จู้จี้ด้วยความหวังดี เราก็รับความหวังดีไว้ ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยที่ขัดใจก็ตัดมันทิ้งไป รักสามีแล้วรักแม่สามีด้วยก็ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น
เราคิดว่าแม่สามีเป็นคนที่มีบุญคุณกับเราด้วยเหมือนกัน คลอดลูกชายมาให้เราชุบมือเปิบตอนโต ทั้งเลี้ยงให้เขาโตเป็นคนดี รับผิดชอบ ส่งเรียนสูงๆเพื่อให้มาแต่งงานสร้างครอบครัวกับเรา เลี้ยงเราและลูกให้อยู่ดีกินดี เรียกได้ว่าเป็นผู้เสียสละให้เราก็ว่าได้ เราว่าแม่สามีรักเรานะ บางทีถ้าเรามองอะไรที่เนื้อใน ไม่เอาความเคยชินของเราเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง เราจะใช้ชีวิตได้มีความสุข ตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจนถึงอาจทำให้ครอบครัวแตกแยกไปได้
เราว่าส่วนหนึ่งที่สุขภาพครอบครัวเราแข็งแรงก็เพราะเราทำแบบนี้ อยู่กันมา 20+ ปีแทบไม่มีปัญหากันเลย เราดูแลพ่อแม่เขาดี เขาก็ดูแลพ่อแม่เราดี
เวลาเราไปบ้านแม่สามี แล้วเราช่วยทำงานบ้านเขาบอกให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ก็ทำตามไป ไม่ต้องคิดว่าแบบนั้นดีกว่าแบบนี้ดีกว่า ทำตามเขาบอก เขาต้องการให้งานเสร็จเขาเลยวัยที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงแล้ว นอกจากมีจังหวะเหมาะๆก็ลองถามว่าจะซื้ออันโน้นมาให้ลองใช้ดีมั๊ยจะได้สะดวกขึ้น เอาความปรารถนาดีเป็นจุดขาย
ทำตามไปก็ไม่ได้ลำบากอะไรถือเป็นการฝึกทำอะไรที่ต่างจากความเคยชิน อันไหนที่เขาทำแล้วดีก็เอามาปรับใช้ที่บ้านเรา พอสามีได้มีสิ่งแวดล้อมคล้ายๆกับที่เขายังเด็ก เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ไม่เห็นมีอะไรที่เสียประโยชน์ แค่ลดอีโก้ลง
แม่สามีคุณเป็นแบบนี้ สามีคุณไม่ติดนิสัยมาหรอ สามีเราแรกๆก็บอกให้ทำโน่นนี่นั่นเหมือนกัน ก็นิสัยเดียวกับแม่เขานี่ล่ะ เราก็ทำตามเท่าที่จะทำได้ อันไหนที่ทำไม่ได้ก็ไม่ทำดื้อเงียบไปซะ เจอกันก็ดูแลดีๆเหมือนแม่ของตัวเอง
เขาเป็นแบบนั้นก็เพราะเขาเป็นแบบนั่นมา 40-50 ปี จะให้มาเปลี่ยนเพราะเราเป็นลูกสะใภ้มันไม่ได้แน่ๆ และเขาก็จู้จี้ด้วยความหวังดี เราก็รับความหวังดีไว้ ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยที่ขัดใจก็ตัดมันทิ้งไป รักสามีแล้วรักแม่สามีด้วยก็ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น
เราคิดว่าแม่สามีเป็นคนที่มีบุญคุณกับเราด้วยเหมือนกัน คลอดลูกชายมาให้เราชุบมือเปิบตอนโต ทั้งเลี้ยงให้เขาโตเป็นคนดี รับผิดชอบ ส่งเรียนสูงๆเพื่อให้มาแต่งงานสร้างครอบครัวกับเรา เลี้ยงเราและลูกให้อยู่ดีกินดี เรียกได้ว่าเป็นผู้เสียสละให้เราก็ว่าได้ เราว่าแม่สามีรักเรานะ บางทีถ้าเรามองอะไรที่เนื้อใน ไม่เอาความเคยชินของเราเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง เราจะใช้ชีวิตได้มีความสุข ตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจนถึงอาจทำให้ครอบครัวแตกแยกไปได้
เราว่าส่วนหนึ่งที่สุขภาพครอบครัวเราแข็งแรงก็เพราะเราทำแบบนี้ อยู่กันมา 20+ ปีแทบไม่มีปัญหากันเลย เราดูแลพ่อแม่เขาดี เขาก็ดูแลพ่อแม่เราดี
amakin หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 1968071 ถูกใจ, นิแอน ถูกใจ, Cat_eyes ถูกใจ, paupau ถูกใจ, sensational ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 823723 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5559082 ถูกใจ, humming in my sleep ถูกใจ, บุ่ยบุ๋ย ถูกใจรวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
เป็นคนชอบชีวิตอิสระ พอมาเจอคุณแม่สามีชอบจู้จี้ ต้องทำงัยคะ