พบบันทึกที่คลายข้อสงสัยสำคัญ
1. มีการบันทึกพระธรรมคำสอนตั้งแต่ยังทรงพระชมน์
2. บันทึกลงแผ่นทองคำ
3. บันทึกโดยกษัตริย์ซึ่งเป็นโสดาบัน
4. ข้อความที่บันทึกในแผ่นทองคำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ทรงลิขิตพระพุทธคุณโดยเอกเทศก่อนว่า
พระตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดี ทรงรู้แจ้งโลก ทรงเป็นสารถีฝึกคนอย่างยอดเยี่ยม เป็นพระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงตื่นแล้ว ทรงจำแนกพระธรรม เสด็จอุบัติในโลกนี้ ดังนี้.
ต่อแต่นั้น ทรงลิขิตว่า พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศอย่างนี้ ทรงจุติจากชั้นดุสิต ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์พระมารดา การเปิดโลกได้มีแล้วอย่างนี้ เมื่อทรงอยู่ในพระครรภ์มารดา ชื่อนี้ได้มีแล้ว เมื่อทรงอยู่ครอบครองเรือน ชื่อนี้ได้มีแล้ว เมื่อเสด็จออกพระมหาภิเนษกรมณ์อย่างนี้ ทรงเริ่มตั้งความเพียรอันยิ่งใหญ่อย่างนี้ ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาอย่างนี้ เสด็จขึ้นสู่ควงมหาโพธิ ประทับนั่งบนอปราชิตบัลลังก์แล้ว ทรงแทงตลอดสัพพัญญุตญาณ เมื่อทรงแทงตลอดสัพพัญญุตญาณ เป็นอันมีการเปิดโลกแล้วอย่างนี้ ขึ้นชื่อว่ารัตนะเห็นปานนี้อื่นไม่มีในโลกพร้อมกับเทวโลก ดังนี้
ทรงลิขิตพระพุทธคุณทั้งหลายโดยเอกเทศอย่างนี้ว่า
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกนี้หรือโลกอื่น
หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอ
ด้วยพระตถาคต ไม่มี พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี ดังนี้
เมื่อจะทรงชมเชยธรรมรัตนะที่สองว่า
พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว ฯลฯ อันวิญญูชนทั้งหลายพึงรู้เฉพาะตน ดังนี้แล้ว ทรงลิขิตโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ โดยเอกเทศว่า สติปัฏฐานสี่ ฯลฯ มรรคมีองค์แปดอันประเสริฐ ชื่อว่าพระธรรมอันพระศาสดาทรงแสดงแล้ว เห็นปานนี้และเห็นปานนี้ ดังนี้
แล้วทรงลิขิตพระธรรมคุณทั้งหลายโดยเอกเทศว่า
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญแล้ว
ซึ่งสมาธิใดว่า เป็นธรรมอันสะอาด บัณฑิต
ทั้งหลายกล่าว ซึ่งสมาธิใดว่าให้ผลในลำดับ
สมาธิอื่นเสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี
ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี ดังนี้
ต่อแต่นั้น เมื่อจะทรงชมเชยพระสังฆรัตนะที่สามว่า
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดี ฯลฯ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ดังนี้
ทรงลิขิตจุลศีล มัชฌิมศีลและมหาศีลโดยเอกเทศว่า ธรรมดากุลบุตรทั้งหลายฟังธรรมกถาของพระศาสดาแล้ว ออกบวชอย่างนี้ บางพวกละเศวตฉัตรบวช บางพวกละความเป็นอุปราชบวช บางพวกละตำแหน่งทั้งหลายมีตำแหน่งเสนาบดีเป็นต้นบวช ก็แล ครั้นบวชแล้ว บำเพ็ญปฏิบัตินี้ ทรงลิขิตการสำรวมในทวารหก สติสัมปชัญญะ ความยินดีในการเจริญสันโดษด้วยปัจจัยสี่ การละนีวรณ์ บริกรรมฌานและอภิญญา กรรมฐาน ๓๘ ประการ จนถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะโดยเอกเทศ ทรงลิขิตอานาปานสติกรรมฐาน ๑๖ ประการโดยพิสดารเทียว ทรงลิขิตพระสังฆคุณทั้งหลายโดยเอกเทศว่า ชื่อว่าพระสงฆ์สาวกของพระศาสดาถึงพร้อมด้วยคุณทั้งหลายเห็นปานนี้และเห็นปานนี้
บุคคลเหล่าใด ๘ จำพวก ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลาย
สรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้นควรแก่ทักษิณาทาน
เป็นสาวกของพระสุคต ทานทั้งหลายอันบุคคล
ถวายแล้วในท่านเหล่านั้นย่อมมีผลมาก สังฆรัตนะ
แม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความ
สวัสดีจงมี
ทรงลิขิตว่า ศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว เป็นศาสนานำสัตว์ออกจากทุกข์ ถ้าพระสหายของเราจะอาจไซร้ ขอได้เสด็จออกทรงผนวชเถิด ดังนี้
5. ดังนั้นน่าจะมีการบันทึกพระธรรมคำสอนในที่อื่นๆ อีกมาก เช่น ตำราเรียนของพระสงฆ์ และผู้สนใจ
6. พระไตรปิฏกที่ค้นพบ บางฉบับอาจ
ถูกบันทึกในสมัยพุทธกาล
แต่เพราะเข้าใจผิด จึงคิดว่าถูกบันทึก
หลังจากนั้นหลายร้อยปี เช่น ที่พบในถ้ำบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน หรือตักกศิลา เมืองเดียวกับพระราชาองค์นี้
แผ่นทองคำสำคัญนี้ น่าจะถูกเก็บไว้ใน
ที่สำคัญ เช่น เจดีย์ของเมืองพาราณสี
ผู้ใดค้นพบแผ่นทองคำนี้
สมควรได้รับโนเบล
. อรรถกถา มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ วิภังควรรค ธาตุวิภังคสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=673
หลักฐานว่าพระธรรมถูกบันทึกเป็นอักษรลงแผ่นทองคำตั้งแต่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชมน์
1. มีการบันทึกพระธรรมคำสอนตั้งแต่ยังทรงพระชมน์
2. บันทึกลงแผ่นทองคำ
3. บันทึกโดยกษัตริย์ซึ่งเป็นโสดาบัน
4. ข้อความที่บันทึกในแผ่นทองคำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. ดังนั้นน่าจะมีการบันทึกพระธรรมคำสอนในที่อื่นๆ อีกมาก เช่น ตำราเรียนของพระสงฆ์ และผู้สนใจ
6. พระไตรปิฏกที่ค้นพบ บางฉบับอาจ
ถูกบันทึกในสมัยพุทธกาล
แต่เพราะเข้าใจผิด จึงคิดว่าถูกบันทึก
หลังจากนั้นหลายร้อยปี เช่น ที่พบในถ้ำบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน หรือตักกศิลา เมืองเดียวกับพระราชาองค์นี้
แผ่นทองคำสำคัญนี้ น่าจะถูกเก็บไว้ใน
ที่สำคัญ เช่น เจดีย์ของเมืองพาราณสี
ผู้ใดค้นพบแผ่นทองคำนี้
สมควรได้รับโนเบล
. อรรถกถา มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ วิภังควรรค ธาตุวิภังคสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=673