สวัสดีค่าทุกคน
เผลอแป๊บๆ เดี๋ยวใกล้จะหมดปีแล้ว วันนี้เลยขอพื้นที่มารีวิวครีมและเจลอาบน้ำประจำปี 2019 กันซะหน่อย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าปีๆ นึงจะใช้ครีมอาบน้ำหลายยี่ห้อขนาดนี้ แต่ไปๆ มาๆ คือมีเกือบสิบขวด คือเป็นคนที่คลั่งครีมอาบน้ำ ถ้ามีอะไรใหม่ๆ หรืออ่านรีวิวแล้วใครบอกว่าดี ก็ชอบไปซื้อมาลองใช้
หลักๆ ที่เราเน้นก็คือกลิ่น และความรู้สึกลื่นๆ ของผิวหลังอาบน้ำค่ะ เพราะไม่ค่อยชอบเวลาอาบเสร็จแล้วผิวลื่นเมือก ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นเราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ คือที่ใช้ๆ มาก็รู้สึกแค่ว่าชุ่มชื้นเหมือนกันหมด (ไม่มีความสามารถในการแยก 5555) เพราะว่าหลังจากอาบน้ำเราก็ทาโลชั่นแล้ว และอีกอย่างคือ เรามักจะเลือกใช้ครีมอาบน้ำแต่ละวันแตกต่างกัน แล้วแต่ฟีลว่าวันนี้อยากดื่มด่ำอารมณ์ไหน โดยเลือกตามกลิ่นค่ะ ไม่รู้ใครเป็นแบบนี้มั้ย ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าครีมอาบน้ำล้นห้องน้ำแน่ๆ ค่ะ 5555
วันนี้เลยคัดเอาตัวเด็ดๆ เป็นครีมอาบน้ำสายธรรมชาติที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ออร์แกนิคอะไรประมาณนี้ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า!!
Shokubutsu Monogatari Orange Peel Oil
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : น้ำมันสกัดจากผิวส้ม
ข้อมูลจากแบรนด์ : ผิวชุ่มชื้น เนียนกระชับ อ่อนเยาว์ กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกลิ่นหอมสดชื่น และ 99% ของสารทำความสะอาดสกัดจากพืชธรรมชาติ
ความรู้สึกหลังการใช้ :
มาที่ขวดแรก ขวดนี้จะอาบตอนที่อยากได้ฟีลสดชื่น เพราะกลิ่นส้มที่แค่เทออกมาก็ได้ความรู้สึกสดชื่นแล้ว ได้ฟีลซัมเมอร์มากๆ ฟองเยอะมาก แต่ว่าล้างออกง่ายค่ะ แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้ที่ผิวเลย แต่ผิวตีงเอี๊ยดๆ อยู่นะตัวนี้
------
Natural Tea Tree Naturally ClearSkin
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : organic tea tree oil และคาโมมายล์
ข้อมูลจากแบรนด์ : ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ด้วย Organic Tea Tree Oil จากประเทศออสเตรเลีย ผสานคุณค่าจากน้ำมันทีทรีออร์แกนิกจากประเทศออสเตรเลีย ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย 99.99% และคาโมมายล์ ช่วยคืนความชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิวจากความระคายเคือง ไม่มีพาราเบน , MIT , Triclosan และ SLS (สารตกค้างต่อผิวที่อาจอันตรายต่อร่างกาย) มีแพทย์ผิวหนังรับรอง ใช้ได้ทุกสภาพผิว อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย
ความรู้สึกหลังการใช้ :
ขวดนี้คุ้นเคยมาตั้งแต่แบบเก่า ตอนนี้มารีแพคเกจใหม่ ปรับสูตรใหม่ เหมาะกับผิวระคายเคืองง่าย กลิ่นออกแนว
อโรม่า สปาๆ อะไรประมาณนั้น ฟองไม่เยอะแต่ละเอียด ล้างออกง่ายไม่ทิ้งความลื่นไว้บนผิว อาบเสร็จ คือ ได้ความรู้สึกผ่อนคลายมีกลิ่นคาโมมายด์อ่อนๆ แถมผิวนุ่มด้วยค่ะ
------
LUX Botanicals skin detox Freesia & Tea Tree Oil
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : ดอก Freesia และ Tea tree oil
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยทำความสะอาดผิวจากมลภาวะอย่างหมดจด ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบาย เนียนนุ่มกว่าเคย ไม่มีพาราเบนและสีสังเคราะห์ สารสกัดจากธรรมชาติ 100%
ความรู้สึกหลังการใช้ :
ขวดนี้เราคิดว่าโดดเด่นที่กลิ่นค่ะ กลิ่นจะออกดอกไม้หอมๆ เนื้อของตัวนี้จะเป็นเจลใสๆ ไม่มีสี ถูแล้วฟองเยอะ แต่ไม่ค่อยละเอียด อาบเสร็จรู้สึกถึงความสดชื่น ผิวสะอาด ล้างออกง่าย แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้ที่ผิวเลยค่ะ
------
Betadine Natural Defense
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : เบตาดีน และ มานูกา ฮันนี่
ข้อมูลจากแบรนด์ : ปกป้องผิวด้วยเบตาตีน ผสมสารสกัดจากมานูกาฮันนี่ ปกป้องและเติมความชุ่มชื้น พร้อมฟื้นฟูบำรุงให้ผิวสุขภาพดี ลดการสะสมของแบคทีเรีย ไม่มี SLS (สารตกค้างต่อผิวที่อาจอันตรายต่อร่างกาย), พาราเบน, Triclosan, MIT
ความรู้สึกหลังการใช้ :
ขวดนี้ตอนแรกเกรงๆ ว่าจะกลิ่นเหมือนเบตาดีนทาแผลหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่เลยค่า กลิ่นจะหอมหวานอ่อนๆ ฟองนุ่ม สำหรับเราคิดว่าล้างออกยากพอสมควร เพราะว่ามันทิ้งความลื่นไว้บนผิว ซึ่งเราไม่ค่อยชอบค่ะ
------
ST.Ives soothing oatmeal & shea butter
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : สารสกัดจากข้าวโอ๊ต และเชียร์บัตเตอร์
ข้อมูลจากแบรนด์ : ปกป้องบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ผิวแตก รอยแห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่มีพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
ความรู้สึกหลังการใช้ :
กลิ่นหวานหอมต้องยกให้ขวดนี้เลยค่ะ เพราะเป็นกลิ่นวนิลาที่หอมหวานมากกกกกก แค่เปิดฝาขวดกลิ่นก็ฟุ้งแล้ว คนที่ชอบกลิ่นวนิลาคือต้องเลิฟมาก ล้างออกยากพอสมควร และทิ้งความลื่นไว้ที่ผิว พอๆ กับตัวเบตาดีนเลย แต่เรื่องกลิ่นต้องยกให้เขาเลยค่ะ
------
Yves Rocher Olive petit grain
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : มะกอกและใบมะกรูด
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ด้วยกลิ่นหอมจากมะกอกและใบมะกรูด ทำความสะอาดอย่างโอนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 98% ไม่มีพาราเบน
ความรู้สึกหลังการใช้ :
ขวดนี้กลิ่นธรรมชาติมากกกก เหมือนเป็นกลิ่นมะกอกหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่ามีส่วนผสมของมะกอก กลิ่นบางเบามากๆ ฟองน้อยและละเอียด ล้างออกแล้วยังมีความลื่นๆ ทิ้งไว้ที่ผิวด้วย
------
Love Beauty and Planet Pure and Positive
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : tea tree oil และ vetiver
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยดีท็อกซ์ทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก แต่อ่อนโยน ส่วนผสมเป็นออร์แกนิค 100%, ไม่มีซีลิโคน, ไม่มีพาราเบน, ไม่ผสมสี
ความรู้สึกหลังการใช้ :
ขวดนี้สำหรับสาวกออร์แกนิกเลย กลิ่นก็ออกจะหวานๆ เย็นๆ เหมือนกลิ่นเมนทอลให้ความสดชื่นหลังอาบน้ำได้ดีเลย ฟองน้อยและไม่ค่อยละเอียดนัก หลังล้างแล้วทิ้งความลื่นไว้บนผิวนิดหน่อยค่ะ
------
มาสรุปกันดีกว่าค่ะ
กลิ่น
เราว่า ครีมอาบน้ำเนี่ย สิ่งที่โดดเด่นมากกว่าสบู่แบบก้อนก็คือกลิ่นนี่แหละค่ะ เพราะกลิ่นมันจะติดทนกว่าแบบสบู่ก้อนมากๆ ซึ่งในหัวข้อนี้เราขอแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มค่ะ
กลิ่นอโรม่า สปา >> Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash
กลิ่นสดชื่น >> Shokubutsu Monogatari
กลิ่นธรรมชาติ >> Yves Rocher
กลิ่นหอมหวาน >> LUX , Love Beauty and Planet , ST.Ives , Betadine
ความลื่นของผิวหลังอาบเสร็จ
ส่วนตัวเราอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่ชอบครีมอาบน้ำที่เวลาที่ล้างแล้ว ยังทิ้งความลื่นไว้บนผิวมากๆ เพราะรู้สึกว่ามันอาบไม่ค่อยสะอาด แต่พวกครีมอาบน้ำมักจะทิ้งความลื่นไว้บนผิวเราอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าลื่นมากหรือลื่นน้อย ซึ่งเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะคะ
ทิ้งความลื่นไว้มาก >> Betadine , ST.Ives , Yves Rocher , Love Beauty and Planet
แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้เลย >> Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash, Shokubutsu Monogatari , LUX
ถ้าจะให้ไล่ความชอบ อันดับแรกขอยกให้ Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash เพราะขวดนี้ให้ฟีลสปามาก ทำงานมาเหนื่อยๆ ได้มาอาบก่อนนอนคือดีมากกกกก จบวันแบบฟินๆ อันดับที่สองตามมากันติดๆ ยกให้ Love Beauty and Planet อาจจะเพราะรู้สึกว่าขวดนี้มีกลิ่นเย็นๆ เมนทอลๆ หน่อย ทำให้เวลาอาบแล้วรู้สึกสดชื่น ส่วนอันดับสามขอยกให้ Shokubutsu Monogatari ขวดนี้คือเรียกความสดชื่นได้ดีมากกกกก
จบเรียบร้อยสำหรับรีวิวครีมอาบน้ำในวันนี้ค่ะ ทั้งหมดข้างต้นรีวิวจากความรู้สึกล้วนๆ นะคะ ความชอบเรื่องกลิ่น , texture , ฟอง ฯลฯ ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน เอาเป็นว่าเก็บไว้เป็นอีกข้อมูลสำหรับคนที่กำลังอยากลองครีมอาบน้ำใหม่ๆ แล้วกันนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
[CR] มหากาพย์รีวิว 8 ครีมอาบน้ำสายธรรมชาติ หอมละมุนขนาดนี้ไม่มีได้ไง!
เผลอแป๊บๆ เดี๋ยวใกล้จะหมดปีแล้ว วันนี้เลยขอพื้นที่มารีวิวครีมและเจลอาบน้ำประจำปี 2019 กันซะหน่อย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าปีๆ นึงจะใช้ครีมอาบน้ำหลายยี่ห้อขนาดนี้ แต่ไปๆ มาๆ คือมีเกือบสิบขวด คือเป็นคนที่คลั่งครีมอาบน้ำ ถ้ามีอะไรใหม่ๆ หรืออ่านรีวิวแล้วใครบอกว่าดี ก็ชอบไปซื้อมาลองใช้
หลักๆ ที่เราเน้นก็คือกลิ่น และความรู้สึกลื่นๆ ของผิวหลังอาบน้ำค่ะ เพราะไม่ค่อยชอบเวลาอาบเสร็จแล้วผิวลื่นเมือก ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นเราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ คือที่ใช้ๆ มาก็รู้สึกแค่ว่าชุ่มชื้นเหมือนกันหมด (ไม่มีความสามารถในการแยก 5555) เพราะว่าหลังจากอาบน้ำเราก็ทาโลชั่นแล้ว และอีกอย่างคือ เรามักจะเลือกใช้ครีมอาบน้ำแต่ละวันแตกต่างกัน แล้วแต่ฟีลว่าวันนี้อยากดื่มด่ำอารมณ์ไหน โดยเลือกตามกลิ่นค่ะ ไม่รู้ใครเป็นแบบนี้มั้ย ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าครีมอาบน้ำล้นห้องน้ำแน่ๆ ค่ะ 5555
วันนี้เลยคัดเอาตัวเด็ดๆ เป็นครีมอาบน้ำสายธรรมชาติที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ออร์แกนิคอะไรประมาณนี้ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า!!
Shokubutsu Monogatari Orange Peel Oil
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : น้ำมันสกัดจากผิวส้ม
ข้อมูลจากแบรนด์ : ผิวชุ่มชื้น เนียนกระชับ อ่อนเยาว์ กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกลิ่นหอมสดชื่น และ 99% ของสารทำความสะอาดสกัดจากพืชธรรมชาติ
มาที่ขวดแรก ขวดนี้จะอาบตอนที่อยากได้ฟีลสดชื่น เพราะกลิ่นส้มที่แค่เทออกมาก็ได้ความรู้สึกสดชื่นแล้ว ได้ฟีลซัมเมอร์มากๆ ฟองเยอะมาก แต่ว่าล้างออกง่ายค่ะ แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้ที่ผิวเลย แต่ผิวตีงเอี๊ยดๆ อยู่นะตัวนี้
------
Natural Tea Tree Naturally ClearSkin
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : organic tea tree oil และคาโมมายล์
ข้อมูลจากแบรนด์ : ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ด้วย Organic Tea Tree Oil จากประเทศออสเตรเลีย ผสานคุณค่าจากน้ำมันทีทรีออร์แกนิกจากประเทศออสเตรเลีย ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย 99.99% และคาโมมายล์ ช่วยคืนความชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิวจากความระคายเคือง ไม่มีพาราเบน , MIT , Triclosan และ SLS (สารตกค้างต่อผิวที่อาจอันตรายต่อร่างกาย) มีแพทย์ผิวหนังรับรอง ใช้ได้ทุกสภาพผิว อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย
ขวดนี้คุ้นเคยมาตั้งแต่แบบเก่า ตอนนี้มารีแพคเกจใหม่ ปรับสูตรใหม่ เหมาะกับผิวระคายเคืองง่าย กลิ่นออกแนว
อโรม่า สปาๆ อะไรประมาณนั้น ฟองไม่เยอะแต่ละเอียด ล้างออกง่ายไม่ทิ้งความลื่นไว้บนผิว อาบเสร็จ คือ ได้ความรู้สึกผ่อนคลายมีกลิ่นคาโมมายด์อ่อนๆ แถมผิวนุ่มด้วยค่ะ
------
LUX Botanicals skin detox Freesia & Tea Tree Oil
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : ดอก Freesia และ Tea tree oil
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยทำความสะอาดผิวจากมลภาวะอย่างหมดจด ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบาย เนียนนุ่มกว่าเคย ไม่มีพาราเบนและสีสังเคราะห์ สารสกัดจากธรรมชาติ 100%
ขวดนี้เราคิดว่าโดดเด่นที่กลิ่นค่ะ กลิ่นจะออกดอกไม้หอมๆ เนื้อของตัวนี้จะเป็นเจลใสๆ ไม่มีสี ถูแล้วฟองเยอะ แต่ไม่ค่อยละเอียด อาบเสร็จรู้สึกถึงความสดชื่น ผิวสะอาด ล้างออกง่าย แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้ที่ผิวเลยค่ะ
------
Betadine Natural Defense
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : เบตาดีน และ มานูกา ฮันนี่
ข้อมูลจากแบรนด์ : ปกป้องผิวด้วยเบตาตีน ผสมสารสกัดจากมานูกาฮันนี่ ปกป้องและเติมความชุ่มชื้น พร้อมฟื้นฟูบำรุงให้ผิวสุขภาพดี ลดการสะสมของแบคทีเรีย ไม่มี SLS (สารตกค้างต่อผิวที่อาจอันตรายต่อร่างกาย), พาราเบน, Triclosan, MIT
ขวดนี้ตอนแรกเกรงๆ ว่าจะกลิ่นเหมือนเบตาดีนทาแผลหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่เลยค่า กลิ่นจะหอมหวานอ่อนๆ ฟองนุ่ม สำหรับเราคิดว่าล้างออกยากพอสมควร เพราะว่ามันทิ้งความลื่นไว้บนผิว ซึ่งเราไม่ค่อยชอบค่ะ
------
ST.Ives soothing oatmeal & shea butter
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : สารสกัดจากข้าวโอ๊ต และเชียร์บัตเตอร์
ข้อมูลจากแบรนด์ : ปกป้องบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ผิวแตก รอยแห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่มีพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
กลิ่นหวานหอมต้องยกให้ขวดนี้เลยค่ะ เพราะเป็นกลิ่นวนิลาที่หอมหวานมากกกกกก แค่เปิดฝาขวดกลิ่นก็ฟุ้งแล้ว คนที่ชอบกลิ่นวนิลาคือต้องเลิฟมาก ล้างออกยากพอสมควร และทิ้งความลื่นไว้ที่ผิว พอๆ กับตัวเบตาดีนเลย แต่เรื่องกลิ่นต้องยกให้เขาเลยค่ะ
------
Yves Rocher Olive petit grain
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : มะกอกและใบมะกรูด
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ด้วยกลิ่นหอมจากมะกอกและใบมะกรูด ทำความสะอาดอย่างโอนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 98% ไม่มีพาราเบน
ขวดนี้กลิ่นธรรมชาติมากกกก เหมือนเป็นกลิ่นมะกอกหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่ามีส่วนผสมของมะกอก กลิ่นบางเบามากๆ ฟองน้อยและละเอียด ล้างออกแล้วยังมีความลื่นๆ ทิ้งไว้ที่ผิวด้วย
------
Love Beauty and Planet Pure and Positive
ส่วนผสมเด่นที่เป็นจุดขาย : tea tree oil และ vetiver
ข้อมูลจากแบรนด์ : ช่วยดีท็อกซ์ทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก แต่อ่อนโยน ส่วนผสมเป็นออร์แกนิค 100%, ไม่มีซีลิโคน, ไม่มีพาราเบน, ไม่ผสมสี
ขวดนี้สำหรับสาวกออร์แกนิกเลย กลิ่นก็ออกจะหวานๆ เย็นๆ เหมือนกลิ่นเมนทอลให้ความสดชื่นหลังอาบน้ำได้ดีเลย ฟองน้อยและไม่ค่อยละเอียดนัก หลังล้างแล้วทิ้งความลื่นไว้บนผิวนิดหน่อยค่ะ
------
มาสรุปกันดีกว่าค่ะ
กลิ่น
เราว่า ครีมอาบน้ำเนี่ย สิ่งที่โดดเด่นมากกว่าสบู่แบบก้อนก็คือกลิ่นนี่แหละค่ะ เพราะกลิ่นมันจะติดทนกว่าแบบสบู่ก้อนมากๆ ซึ่งในหัวข้อนี้เราขอแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มค่ะ
กลิ่นอโรม่า สปา >> Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash
กลิ่นสดชื่น >> Shokubutsu Monogatari
กลิ่นธรรมชาติ >> Yves Rocher
กลิ่นหอมหวาน >> LUX , Love Beauty and Planet , ST.Ives , Betadine
ความลื่นของผิวหลังอาบเสร็จ
ส่วนตัวเราอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่ชอบครีมอาบน้ำที่เวลาที่ล้างแล้ว ยังทิ้งความลื่นไว้บนผิวมากๆ เพราะรู้สึกว่ามันอาบไม่ค่อยสะอาด แต่พวกครีมอาบน้ำมักจะทิ้งความลื่นไว้บนผิวเราอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าลื่นมากหรือลื่นน้อย ซึ่งเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะคะ
ทิ้งความลื่นไว้มาก >> Betadine , ST.Ives , Yves Rocher , Love Beauty and Planet
แทบจะไม่ทิ้งความลื่นไว้เลย >> Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash, Shokubutsu Monogatari , LUX
ถ้าจะให้ไล่ความชอบ อันดับแรกขอยกให้ Tea Tree Naturally ClearSkin Body Wash เพราะขวดนี้ให้ฟีลสปามาก ทำงานมาเหนื่อยๆ ได้มาอาบก่อนนอนคือดีมากกกกก จบวันแบบฟินๆ อันดับที่สองตามมากันติดๆ ยกให้ Love Beauty and Planet อาจจะเพราะรู้สึกว่าขวดนี้มีกลิ่นเย็นๆ เมนทอลๆ หน่อย ทำให้เวลาอาบแล้วรู้สึกสดชื่น ส่วนอันดับสามขอยกให้ Shokubutsu Monogatari ขวดนี้คือเรียกความสดชื่นได้ดีมากกกกก
จบเรียบร้อยสำหรับรีวิวครีมอาบน้ำในวันนี้ค่ะ ทั้งหมดข้างต้นรีวิวจากความรู้สึกล้วนๆ นะคะ ความชอบเรื่องกลิ่น , texture , ฟอง ฯลฯ ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน เอาเป็นว่าเก็บไว้เป็นอีกข้อมูลสำหรับคนที่กำลังอยากลองครีมอาบน้ำใหม่ๆ แล้วกันนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้