ณ ชั้นบรรยากาศโลก มียานอวกาศทรงกลม กำลังค่อยๆลดระดับเข้าสู่ดวงดาวโลก ในเวลาตีสาม ของ คืนวันลอยกระทง และที่นั่นคือ กทม ดึงดึ่งดึ่งดึ่งๆๆ เสียงเพลงประกอบ
ยานอวกาศ ลงจอด ลง ณ แห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอเลี่ยน สองตน เดินลงจากยาน มองแม่น้ำที่เต็มไปด้วยขยะ และ เห็นมนุษย์บางคนก็บกระทงในระยะไกลๆ และแล้ว ก็มีเสียงรถจอดดัง เอี๊ยด มี มนุษย์ลงมาจากรถ แล้วเดินตรงมาหาเอเลี่ยน สองตน นั้น แต่พอเข้ามาใกล้ มนุษย์ผู้นั้นก็กลายร่าง เป็น เอเลี่ยน เผ่าพันธุ์ เดียวกันกับเอเลี่ยนสองตนจากยานอวกาศ
*^&$#@##@#!!%^^^&*** เอเลี่ยนเริ่มคุยกัน แปลเป็นภาษามนุษย์ดังนี้
ขอต้อนรับท่านหัวหน้าทั้งสอง ข้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายค้นหา ระดับ 8 นาม มาการอง แห่ง ดาวเคราะห์ ซาห์ ขอคาราวะ : เอเลี่ยนตัวที่ลงจากรถเอ่ยขึ้น
ยินดีเช่นกัน มาการอง ข้า หัวหน้าหน่วยค้นหา อัลฟ่า อาโบเดเบ นาม ช็อคชิพ กับ ผู้ติดตาม บัตเตอร์ ขอทราบข้อมูลดาวดวงนี้ จากการที่ท่านมาเฝ้าดูเป็นเวลา 100 ปั ว่าเป็นอย่างไรบ้าง : เอเลี่ยนที่ลงจากยานอวกาศ ไม่เสียเวลาเข้าเรื่องงานทันที
มาการอง รายงาน :
ดาวนี้ เอเลี่ยนเรียกตัวเองว่า ชาวโลก และ จินตนาการถึงพวกเรา ว่า มีจริงไหม และ เรียกพวกเราว่า เอเลี่ยน แต่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ว่า เจอพวกเรา หรือ เอเลี่ยนจากดาวอื่นจริง เป็นเผ่าพันธ์ที่ยังเยาว์ แต่ก็มีพัฒนาการรวดเร็ว โดยเฉพาะใด้าน วัตถุสิ่งประดิษฐ์
ในส่วนของทางด้าน วิวัฒนาการด้านสังคม มีช่วงหนึ่ง หลังจากเข่นฆ่าแย่งชิงกันจน แบ่งสรรปันส่วนเรียบร้อย แตกเป็นประเทศแล้ว มีการวิวัฒน์ด้าน ความศิวิไลซ์ในการประดิษฐ์ รวมถึง ประเพณี วัฒนธรรม ที่เรียกว่า เจริญ แล้ว
แต่ปัจจุบัน สิ่งประดิษฐ์ ของชาวโลกก้าวหน้ามากขึ้น แต่ ความเจริญด้าน ความคิดกลับ ลดลง แบบสวนทาง โดย ด้านวัตถุ จาก 10 ไป 100 ด้านจิตใจ จาก 10 เหลือเกือบจะ 0 ประมาณ 1 2 3 เป็นส่วนมาก มีจำนวนน้อยที่ คงความเจริญด้านจิตใจได้เท่าเดิม หรือ ดีกว่า
ช็อคชิพ เอเลี่ยนหัวหน้าฟังเช่นนั้น พลันมองเห็นกระทงเกะกะ บนแม่น้ำ ก็ถาม มาการอง ว่า ทำไมเป็นเช่นนี้
มาการอง รายงาน
วันนี้ ณ ที่แห่งนี้ประเทศนี้ มีประเพณี ลอยกระทง คนเอากระทงมาลอย แล้วขอพร จากนั้น ปล่อยเป็นขยะ สืบมาจากอดีต จนปัจจุบัน ที่ท่านเห็น เรียกว่า ลดลงเยอะแล้ว เพราะ ชาวโลกเริ่ม รู้ผลเสียของขยะมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีอยู่
ช็อคชิพ ขมวดคิ้ว : ทำไมรู้ว่าไม่ดี แต่ยังมีอยุ่ ท่าน มาการอง ช่วยบอกข้าสิ สิ่งไหน สำคัญต่อชาวโลกมากสุด
มาการอง ตอบ : แน่นอน ชีวิตตนเอง สำคัญต่อชาวโลกมากสุด รองลงมา ส่วนใหญ่ จะให้ความสำคัญกับ เพชร นิล จินดา เงินทอง ทรัพย์สิน ยิ่งมีมากยิ่งดี ชาวโลกส่วนใหญ่ ไม่มีคำว่า พอ สำหรับ ทรัพย์สิน ทั้งที่สิ่งจำเป็นคือ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และ ยารักษาโลก
แต่ สิ่งที่แพงที่สุด คือ เพชร นิล จินดา และ ชาวโลกนิยม ความหรูหรา บันเทิง แม้จะรู้ว่า วันหนึ่งน้ำมันจะหมดโลก แต่ก็ยังชอบดู รถแข่ง ยังชอบ จัดงานใหญ่ ใช้ไฟฟ้า ประดับประดา งดงาม เพื่อความสำราญ เพียงชั่วคราว ขณะที่ทรัพยากรหมดไปเรื่อยๆ และในโลกนี้ ยังมีสถานที่ คนอดอยาก และ บางสถานที่ ยังทำสงครามกันอยู่ ขณะที่ อีกหลายแห่งในโลก ฉลองวันเกิด ฉลองวันเทศกาลมากมายต่างๆ ด้วยสุรา ฆ่ากันตายด้วยความเมา ทั้งที่อยุ่ดีมีสุขกันแท้ๆ และอีกมากมาย ที่ควรใส่ใจ แต่ ชาวโลกไม่ แต่กลับสนใจแค่ คำคนนินทา ก็หรือว่าร้าย มากกว่า จมอยุ่กับสิ่งไม่เป็นสาระ ขอรับท่าน
ช็อคชิพ : อืมม์ มาถึงตรงนี้ เจ้าคิดว่า เราควรอพยพ ประชากรจากดาวเรามาอาศัยร่วมกับ ชาวโลกหรือไม่ ท่าน มาการอง
มาการอง : นโยบายดาวเรา ค้นหาดาวเพื่ออพยพมาอยู่ หากอยุ่ร่วมกันได้ แต่ ข้ามีความเห็นว่า ดาวดวงนี้ ไม่ควรมาอยู่ เพราะอีกไม่นาน มนุษย์ก็คง ล้างผลาญ ธรรมชาติจนหมดสิ้น ก่อนเวลาอันควร หากอพยพ ประชากรดาวเรามา ข้าเกรงว่า คงจะอยู่ได้ไม่นาน เกิน 1000 ปี โลกคงวิบัติยิ่งกว่านี้ เพราะช้าเกินกว่าเยียวยาและรักษาโลกแล้ว และไม่เหมาะแก่การให้ ลูกหลาน เติบโต ณ ดาวดวงนี้
ชาวโลกหลงระเริงกับสิ่งบันเทิง มองข้ามความจริง สิ่งที่กำลังสูญเสียไปทุกวัน ระดับความคิดคนแตกต่างกัน การสื่อสาร ไม่สามารถสร้างความตระหนักได้ ในวันที่สงบ ก็ยังจะหาประเด็นมาทะเลาะกัน แย่งชิงสิ่งที่เหมือนในอดีต แย่งชิงกัน วนเวียนไม่รู้จบ ปัญหาหนึ่งถูกจัดการไป ไม่นานก็จะกลับมาในปัญหาเดิม
ชาวโลกไม่ได้เรียนรุ้จริงจัง กับ อดีต เมื่อคนที่ผ่านโลกมามากพอ จากไป คนรุ่นใหม่ ก็เรียนรู้ใหม่ ไม่รู้จบ และ ทำลายโลกเพื่อความสบาของตนเป็นธรรมชาติวิสัยของชาวโลก
ช็อคชิพฟังจบรายงาน ได้แต่ถอนหายใจ และกล่าวว่า
น่าเสียดาย น่าเสียดาย ข้าเห็นโลกนี้สวยงามยิ่งนัก ตั้งแต่อดีต 100 ปีก่อนที่มาส่งท่าน มาการอง ตอนนั้น เราอายุ 500 ปี ตอนนี้ ก็ 600 และ อายุขัยพวกเรา คือ 1000 ปี แต่ ชาวโลกอายุไม่เกิน 100 ปี ซึ่งถ้าเทียบกับพวกเราแล้ว ช่วงชีวิตของชาวโลกก็เหมือนแค่
ความฝัน ของพวกเราเท่านั้นเอง
ชาวโลกจึงคงจะไม่คำนึงถึงผลจะตามมาในระยะยาวสำหรับดาวดวงนี้ นิสัยชาวโลก รับผิดชอบแค่เรื่องช่วงอายุตน หลังจากนั้น คนรุ่นหลังก็ดูเหมือนจะค้นพบสิ่งใหม่ และลืมเรื่องเก่า ทำให้ต้องไม่มีการพึงระวังเรื่องครั้งอดีต จนปล่อยปัญหาเก่า กลับมาเป็นปัญหาใหม่ ไม่รู้จบ ซ้ำยังให้ราคา คุณค่ากับสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อัญมณี ความฟุ้งเฟ้อ มากกว่า อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจะกลับดาวเราไปพร้อมกัน หรือจะอยู่โลกนี้ต่อละ มาการอง ( ช็อคชิพถาม )
มาการอง มองไปยังแม่น้ำที่เต็มไปด้วย ขยะ กระทง และพูดว่า :
ตลอด 100 ปีที่ข้าอยู่เฝ้าดู ชาวโลกที่นี่ แม้จะมีหลายอย่างที่ไม่ดี เกี่ยวกับชาวโลก แต่ข้าก็มีความรักกับ หญิงสาวชาวโลกคนหนึ่งในช่วงเวลานี้ เธอไม่มีทั้งความรอบรู้มากมาย เธอไม่สมบูรณ์แบบ อารมณ์ไม่แน่นอนต่างๆ แต่ข้าเรียกสิ่งนั้นว่า เสน่ห์ และขออยู่ที่โลกนี้ ใช้ชีวิตกับหญิงคนนี้ต่อไป
แต่หากวันใด ข้าอยากกลับดาว ข้าจะส่งสัญญาณให้ท่านรู้ล่วงหน้า 10 ปีของชาวโลกแล้วกันครับ
ว่าแล้ว ช้อคชิพ ก็กลับขึ้นยานไปพร้อมกับเอเลี่ยน บัตเตอร์ เอเลี่ยน สาววัย 100 ปี และแล้ว ยานอวกาศ ก็ค่อยๆ ลอยหายไปบนฟากฟ้า ในราตรี คืนลอยกระทง ในเวลา 03.33 นาฬิกา.
จบแล้วครับ
FIN
เรื่องสั้น : เอเลี่ยนมาเยือนโลก
ยานอวกาศ ลงจอด ลง ณ แห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอเลี่ยน สองตน เดินลงจากยาน มองแม่น้ำที่เต็มไปด้วยขยะ และ เห็นมนุษย์บางคนก็บกระทงในระยะไกลๆ และแล้ว ก็มีเสียงรถจอดดัง เอี๊ยด มี มนุษย์ลงมาจากรถ แล้วเดินตรงมาหาเอเลี่ยน สองตน นั้น แต่พอเข้ามาใกล้ มนุษย์ผู้นั้นก็กลายร่าง เป็น เอเลี่ยน เผ่าพันธุ์ เดียวกันกับเอเลี่ยนสองตนจากยานอวกาศ
*^&$#@##@#!!%^^^&*** เอเลี่ยนเริ่มคุยกัน แปลเป็นภาษามนุษย์ดังนี้
ขอต้อนรับท่านหัวหน้าทั้งสอง ข้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายค้นหา ระดับ 8 นาม มาการอง แห่ง ดาวเคราะห์ ซาห์ ขอคาราวะ : เอเลี่ยนตัวที่ลงจากรถเอ่ยขึ้น
ยินดีเช่นกัน มาการอง ข้า หัวหน้าหน่วยค้นหา อัลฟ่า อาโบเดเบ นาม ช็อคชิพ กับ ผู้ติดตาม บัตเตอร์ ขอทราบข้อมูลดาวดวงนี้ จากการที่ท่านมาเฝ้าดูเป็นเวลา 100 ปั ว่าเป็นอย่างไรบ้าง : เอเลี่ยนที่ลงจากยานอวกาศ ไม่เสียเวลาเข้าเรื่องงานทันที
มาการอง รายงาน :
ดาวนี้ เอเลี่ยนเรียกตัวเองว่า ชาวโลก และ จินตนาการถึงพวกเรา ว่า มีจริงไหม และ เรียกพวกเราว่า เอเลี่ยน แต่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ว่า เจอพวกเรา หรือ เอเลี่ยนจากดาวอื่นจริง เป็นเผ่าพันธ์ที่ยังเยาว์ แต่ก็มีพัฒนาการรวดเร็ว โดยเฉพาะใด้าน วัตถุสิ่งประดิษฐ์
ในส่วนของทางด้าน วิวัฒนาการด้านสังคม มีช่วงหนึ่ง หลังจากเข่นฆ่าแย่งชิงกันจน แบ่งสรรปันส่วนเรียบร้อย แตกเป็นประเทศแล้ว มีการวิวัฒน์ด้าน ความศิวิไลซ์ในการประดิษฐ์ รวมถึง ประเพณี วัฒนธรรม ที่เรียกว่า เจริญ แล้ว
แต่ปัจจุบัน สิ่งประดิษฐ์ ของชาวโลกก้าวหน้ามากขึ้น แต่ ความเจริญด้าน ความคิดกลับ ลดลง แบบสวนทาง โดย ด้านวัตถุ จาก 10 ไป 100 ด้านจิตใจ จาก 10 เหลือเกือบจะ 0 ประมาณ 1 2 3 เป็นส่วนมาก มีจำนวนน้อยที่ คงความเจริญด้านจิตใจได้เท่าเดิม หรือ ดีกว่า
ช็อคชิพ เอเลี่ยนหัวหน้าฟังเช่นนั้น พลันมองเห็นกระทงเกะกะ บนแม่น้ำ ก็ถาม มาการอง ว่า ทำไมเป็นเช่นนี้
มาการอง รายงาน
วันนี้ ณ ที่แห่งนี้ประเทศนี้ มีประเพณี ลอยกระทง คนเอากระทงมาลอย แล้วขอพร จากนั้น ปล่อยเป็นขยะ สืบมาจากอดีต จนปัจจุบัน ที่ท่านเห็น เรียกว่า ลดลงเยอะแล้ว เพราะ ชาวโลกเริ่ม รู้ผลเสียของขยะมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีอยู่
ช็อคชิพ ขมวดคิ้ว : ทำไมรู้ว่าไม่ดี แต่ยังมีอยุ่ ท่าน มาการอง ช่วยบอกข้าสิ สิ่งไหน สำคัญต่อชาวโลกมากสุด
มาการอง ตอบ : แน่นอน ชีวิตตนเอง สำคัญต่อชาวโลกมากสุด รองลงมา ส่วนใหญ่ จะให้ความสำคัญกับ เพชร นิล จินดา เงินทอง ทรัพย์สิน ยิ่งมีมากยิ่งดี ชาวโลกส่วนใหญ่ ไม่มีคำว่า พอ สำหรับ ทรัพย์สิน ทั้งที่สิ่งจำเป็นคือ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และ ยารักษาโลก
แต่ สิ่งที่แพงที่สุด คือ เพชร นิล จินดา และ ชาวโลกนิยม ความหรูหรา บันเทิง แม้จะรู้ว่า วันหนึ่งน้ำมันจะหมดโลก แต่ก็ยังชอบดู รถแข่ง ยังชอบ จัดงานใหญ่ ใช้ไฟฟ้า ประดับประดา งดงาม เพื่อความสำราญ เพียงชั่วคราว ขณะที่ทรัพยากรหมดไปเรื่อยๆ และในโลกนี้ ยังมีสถานที่ คนอดอยาก และ บางสถานที่ ยังทำสงครามกันอยู่ ขณะที่ อีกหลายแห่งในโลก ฉลองวันเกิด ฉลองวันเทศกาลมากมายต่างๆ ด้วยสุรา ฆ่ากันตายด้วยความเมา ทั้งที่อยุ่ดีมีสุขกันแท้ๆ และอีกมากมาย ที่ควรใส่ใจ แต่ ชาวโลกไม่ แต่กลับสนใจแค่ คำคนนินทา ก็หรือว่าร้าย มากกว่า จมอยุ่กับสิ่งไม่เป็นสาระ ขอรับท่าน
ช็อคชิพ : อืมม์ มาถึงตรงนี้ เจ้าคิดว่า เราควรอพยพ ประชากรจากดาวเรามาอาศัยร่วมกับ ชาวโลกหรือไม่ ท่าน มาการอง
มาการอง : นโยบายดาวเรา ค้นหาดาวเพื่ออพยพมาอยู่ หากอยุ่ร่วมกันได้ แต่ ข้ามีความเห็นว่า ดาวดวงนี้ ไม่ควรมาอยู่ เพราะอีกไม่นาน มนุษย์ก็คง ล้างผลาญ ธรรมชาติจนหมดสิ้น ก่อนเวลาอันควร หากอพยพ ประชากรดาวเรามา ข้าเกรงว่า คงจะอยู่ได้ไม่นาน เกิน 1000 ปี โลกคงวิบัติยิ่งกว่านี้ เพราะช้าเกินกว่าเยียวยาและรักษาโลกแล้ว และไม่เหมาะแก่การให้ ลูกหลาน เติบโต ณ ดาวดวงนี้
ชาวโลกหลงระเริงกับสิ่งบันเทิง มองข้ามความจริง สิ่งที่กำลังสูญเสียไปทุกวัน ระดับความคิดคนแตกต่างกัน การสื่อสาร ไม่สามารถสร้างความตระหนักได้ ในวันที่สงบ ก็ยังจะหาประเด็นมาทะเลาะกัน แย่งชิงสิ่งที่เหมือนในอดีต แย่งชิงกัน วนเวียนไม่รู้จบ ปัญหาหนึ่งถูกจัดการไป ไม่นานก็จะกลับมาในปัญหาเดิม
ชาวโลกไม่ได้เรียนรุ้จริงจัง กับ อดีต เมื่อคนที่ผ่านโลกมามากพอ จากไป คนรุ่นใหม่ ก็เรียนรู้ใหม่ ไม่รู้จบ และ ทำลายโลกเพื่อความสบาของตนเป็นธรรมชาติวิสัยของชาวโลก
ช็อคชิพฟังจบรายงาน ได้แต่ถอนหายใจ และกล่าวว่า
น่าเสียดาย น่าเสียดาย ข้าเห็นโลกนี้สวยงามยิ่งนัก ตั้งแต่อดีต 100 ปีก่อนที่มาส่งท่าน มาการอง ตอนนั้น เราอายุ 500 ปี ตอนนี้ ก็ 600 และ อายุขัยพวกเรา คือ 1000 ปี แต่ ชาวโลกอายุไม่เกิน 100 ปี ซึ่งถ้าเทียบกับพวกเราแล้ว ช่วงชีวิตของชาวโลกก็เหมือนแค่ ความฝัน ของพวกเราเท่านั้นเอง
ชาวโลกจึงคงจะไม่คำนึงถึงผลจะตามมาในระยะยาวสำหรับดาวดวงนี้ นิสัยชาวโลก รับผิดชอบแค่เรื่องช่วงอายุตน หลังจากนั้น คนรุ่นหลังก็ดูเหมือนจะค้นพบสิ่งใหม่ และลืมเรื่องเก่า ทำให้ต้องไม่มีการพึงระวังเรื่องครั้งอดีต จนปล่อยปัญหาเก่า กลับมาเป็นปัญหาใหม่ ไม่รู้จบ ซ้ำยังให้ราคา คุณค่ากับสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อัญมณี ความฟุ้งเฟ้อ มากกว่า อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจะกลับดาวเราไปพร้อมกัน หรือจะอยู่โลกนี้ต่อละ มาการอง ( ช็อคชิพถาม )
มาการอง มองไปยังแม่น้ำที่เต็มไปด้วย ขยะ กระทง และพูดว่า :
ตลอด 100 ปีที่ข้าอยู่เฝ้าดู ชาวโลกที่นี่ แม้จะมีหลายอย่างที่ไม่ดี เกี่ยวกับชาวโลก แต่ข้าก็มีความรักกับ หญิงสาวชาวโลกคนหนึ่งในช่วงเวลานี้ เธอไม่มีทั้งความรอบรู้มากมาย เธอไม่สมบูรณ์แบบ อารมณ์ไม่แน่นอนต่างๆ แต่ข้าเรียกสิ่งนั้นว่า เสน่ห์ และขออยู่ที่โลกนี้ ใช้ชีวิตกับหญิงคนนี้ต่อไป
แต่หากวันใด ข้าอยากกลับดาว ข้าจะส่งสัญญาณให้ท่านรู้ล่วงหน้า 10 ปีของชาวโลกแล้วกันครับ
ว่าแล้ว ช้อคชิพ ก็กลับขึ้นยานไปพร้อมกับเอเลี่ยน บัตเตอร์ เอเลี่ยน สาววัย 100 ปี และแล้ว ยานอวกาศ ก็ค่อยๆ ลอยหายไปบนฟากฟ้า ในราตรี คืนลอยกระทง ในเวลา 03.33 นาฬิกา.
จบแล้วครับ