JJNY : เปิดพ.ร.บ.เลิกเกณฑ์ทหาร ‘อนค.’/ส.ส.พปชร.รอด!กกต.ตีตกแจกหน่วยกิต/ทวงสัญญาขึ้นค่าแรง425บ./โจรใต้เตรียมก่อเหตุซ้ำ

เปิดพ.ร.บ.เลิกเกณฑ์ทหาร ‘อนค.’ชง‘ปฏิรูปกองทัพ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_1756570

หมายเหตุ – สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ต่อสภาผู้แทนราษฎร

บันทึกหลักการและเหตุผล ประกอบร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. …
หลักการ

แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ดังต่อไปนี้

(1)แก้ไขเพิ่มเติมโดยให้บุคคลที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายมีสิทธิสมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7)

(2)แก้ไขเพิ่มเติมให้การรับสมัคร และการบรรจุบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ ให้บรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขัน โดยหลักเกณฑ์ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กระทรวงกลาโหมกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8)

(3)แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ที่ได้รับการบรรจุเป็นทหารกองประจำการมีสิทธิได้รับเงินเดือนสวัสดิการรวมถึง ทุนการศึกษา ประกันชีวิต ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมถึงครอบครัว และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น รวมทั้งห้ามมิให้ผู้บังคับบัญชาให้ทหารกองประจำการทำงานในลักษณะที่เป็นงานรับใช้อันเป็นการละเมิดต่อร่างกาย หรือจิตใจ หรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (เพิ่มเติมมาตรา 8 ทวิ มาตรา 8 ตรี และมาตรา 8 จัตวา)

(4) แก้ไขเพิ่มเติมให้คณะรัฐมนตรีตราพระราชกฤษฎีกาเรียกระดมพลให้ทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการในกรณีที่อาจเกิดภาวะสงคราม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8)

(5) เพิ่มเติมหมวด 5 ทวิ โดยกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกและบรรจุคนเป็นทหารกองประจำการ (เพิ่มเติมมาตรา 37 ทวิ มาตรา 37 ตรี  มาตรา 37 จัตวา มาตรา 37 เบญจ มาตรา 37 ฉ และมาตรา 37 สัตต)

เหตุผล

เนื่องจากการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ได้ถูกบังคับใช้มายาวนานจนไม่เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยอีกทั้งการตรวจเลือกเพื่อเข้ารับราชการ โดยไม่ต้องอาศัยความสมัครใจยังเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคล จึงเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร ที่ว่าด้วยการรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการให้ใช้วิธีการรับสมัครแทนการเรียกมาตรวจเลือก เว้นแต่ในยามสงคราม มีการเพิ่มบทบัญญัติที่กำหนดให้การเข้ารับราชการทหาร ต้องเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิประโยชน์และสวัสดิการของทหารกองประจำการต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และแก้ไขบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

พ.ร.บ.การรับราชการทหารพ.ศ.2497

มาตรา 7 ชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน

มาตรา 8 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจําการ ให้กระทําด้วยวิธีเรียกมาตรวจเลือกหรือจะรับเข้าเป็นทหารกองประจําการโดยวิธีอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวงก็ได้

ถ้ามีความจําเป็น การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจําการจะไม่กระทําในบางท้องที่ก็ได้

มาตรา 9 ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจําการ และเมื่อต้องเข้ากองประจําการจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจําการมีกําหนดสองปี ส่วนผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษหรือเมื่อมีกรณีพิเศษ จะให้รับราชการทหารกองประจําการน้อยกว่าสองปีตามที่กําหนดในกฎกระทรวงก็ได้ แต่สําหรับผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษนั้นจะอ้างสิทธิดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้แสดงหลักฐานต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือต่อหน่วยทหารที่ตนร้องขอเข้ารับราชการทหารในวันร้องขอ

วันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจําการ ให้นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจําการในกรณีที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการแล้ว แต่ยังขึ้นทะเบียนกองประจําการให้ไม่ได้ในวันที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการนั้น จะขึ้นทะเบียนกองประจําการภายหลังจากวันเข้ารับราชการทหารกองประจําการก็ได้ และให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนกองประจําการตั้งแต่วันที่เข้ารับราชการทหารกองประจําการ เมื่ออยู่ในกองประจําการจนครบกําหนดแล้วให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ดังนี้

กองหนุนชั้นที่ 1 เจ็ดปี กองหนุนชั้นที่ 2 สิบปี กองหนุนชั้นที่ 3 หกปี ตามลําดับชั้นไปจนปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ 1

มาตรา 36 ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนมีหน้าที่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบเพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม และในการระดมพลกระทรวงกลาโหมมีอํานาจกําหนดให้ทําการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม ตามที่เห็นสมควร ส่วนการระดมพลให้กระทําโดยพระราชกฤษฎีกา การเรียกเข้ารับราชการทหารตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้จัดเตรียมและอํานวยการ และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดําเนินการเรียกและส่งทหารเข้ารับราชการตามความประสงค์ของกระทรวงกลาโหม

การผ่อนผันไม่ต้องเรียกหรือไม่ต้องเข้ารับราชการทหารตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 37 ทหารกองเกินและทหารกองหนุนที่ถูกเรียกเข้ารับราชการตามมาตรา 36 และทหารประจําการ ต้องอยู่ในวินัยทหารเหมือนทหารกองประจําการ



ส.ส.กทม. พปชร.รอด! กกต.ตีตกหนุนแจกหน่วยกิต นศ.ฟังปราศรัย เหตุยกเลิกทันควัน 
https://www.isranews.org/isranews/82581-isranewss-82581.html

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉํยที่ 157/2562 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 7 กทม. โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ (ปัจจุบันได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.) ผู้ถูกร้องที่ 1 และเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ถูกร้องที่ 2 มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 78 กล่าวคือ ผู้ถูกร้องที่ 1 สนับสนุน ผู้ถูกร้องที่ 2 ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใด ๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้ถูกร้องที่ 1 หรือพรรคการเมืองที่ผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นสมาชิก

กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องได้พบประกาศทางสื่อออนไลน์ของสโมสรนักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สวนสุนันทา ให้นักศึกษาเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 8 มี.ค. 2562 เวลา 11.30 น. โดยผู้ที่เข้ารับฟังจะได้ใบซ่อมหน่วยกิตเป็นค่าตอบแทน

จากการสอบสวนรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา และนักศึกษาที่เกี่ยวข้อง ต่างให้ถ้อยคำตรงกันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการดำเนินการของฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองสามารถหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่มหาวิทยาลัย โดยไม่มีการบังคับนักศึกษาให้เข้าร่วมฟัง

สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้น มีหนังสือขอใช้พื้นที่เพื่อทำกิจกรรมปราศรัยเสนอนโยบายของพรรค และเดินรณรงค์หาเสียง แต่ต่อมาฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ ได้ยกเลิกกิจกรรมปราศรัยเสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เหลือเพียงการเดินรณรงค์หาเสียงภายในมหาวิทยาลัย ไม่มีการให้หน่วยกิตแก่นักศึกษาที่เข้ร่วมกิจกรรมดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่า น.ส.ธณิกานต์ และเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ส.ส. จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่