1
.
ก่อนที่นักบินอวกาศยานอพอลโล
Apollo 11
จะก้าวย่างเดินเท้าบนดวงจันทร์
นักบินต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวด
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจ
ในขณะที่การฝึกอบรมส่วนใหญ่
มักจะเกิดขึ้นในห้องเรียนอุปกรณ์จำลองและที่ห้องทดสอบ
NASA ยังให้ประสบการณ์ด้านธรณีวิทยา
แก่นักบินอวกาศและสอนให้รวบรวมตัวอย่างทางธรณีวิทยา
ด้วยการนำพวกนักบินอวกาศออกไปทัศนศึกษา
เพื่อให้การฝึกสมจริงสมจังมากที่สุด
บรรดานักบินอวกาศได้เดินทางไปฝึกบนพื้นโลก
ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศคล้ายกับดวงจันทร์
ทะเลแห่งสันติ
Sea of Tranquillity
สถานที่ซึ่ง
Apollo 11 Lunar Module ถูกกำหนดให้ลงจอด
เป็นพื้นที่ราบทุรกันดารขนาดใหญ่ที่เกิดจากภูเขาไฟโบราณ
ทุ่งภูเขาไฟในรัฐ Arizona ได้รับเลือกให้เป็นสนามฝึกซ้อม
แต่ก่อนที่การฝึกซ้อมครั้งนี้จะเริ่มขึ้น
NASA ได้ตัดสินใจที่จะแก้ไขพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อให้ภูมิทัศน์เป็นเหมือนดวงจันทร์มากยิ่งขึ้น
ในช่วงฤดูร้อนปี 1967
2 ปีก่อนที่จะมีการวางแผนเหยียบดวงจันทร์
NASA ได้เลือกพื้นที่ขนาด 500 ตารางฟุต
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ
Flagstaff
ใกล้กับยอดเขา
San Francisco Peaks ที่มีชื่อเสียง
และทางใต้ของภูเขาไฟ
Sunset Crater
แล้วเริ่มทำการตกแต่งภูมิทัศน์ขึ้นใหม่
เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกันภูมิประเทศของดวงจันทร์
วิศวกรได้ขุด
หินบะซอลต์แล้วติดตั้งระเบิด
แล้วทำการระเบิดขึ้นมาเพื่อสร้างหลุมอุกกาบาต
ปริมาณของลูกระเบิดที่ฝังลึกลงไปในหินบะซอลด็
มีการคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตที่มีมิติที่แม่นยำ
ตลอดระยะเวลา 4 เดือน
วิศวกรได้สร้างหลุมอุกกาบาตจำนวน 143 หลุม
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ถึง 40 ฟุต
การกระจายตัวและขนาดของหลุมอุกกาบาต
ไม่ได้ทำกันอย่างมั่ว ๆ หรือเดาสุ่มแต่อย่างใด
มีการสร้างในระดับ 1: 1 เทียบกับพื้นที่เป้าหมายที่จะเหยียบดวงจันทร์
บริเวณนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม Cinder Lake Crater Field
2
Crater field (ซ้าย) ที่ยาน Apollo 11 ลงจอด (ขวา)
.
ต่อมา NASA ได้สร้างปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งในการสร้างครั้งนี้ไม่ใช่ซ้ำแบบเดิม แค่เพียงขนาดเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการทำให้มีหลุมอุกกาบาตมีอายุคล้ายของดวงจันทร์ด้วย
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักบินอวกาศสามารถฝึกหัด
อธิบายถึงประเภทและอายุของการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่พบเห็น
พื้นที่แห่งที่ 2 มีขนาด 1,200 ตารางฟุต
และมีหลุมอุกกาบาตจำนวน 354 แห่ง
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตแห่งที่ 2
จึงมีการวางระเบิดหลายชุด
และลำดับของการระเบิดมีการจัดวางและออกแบบมา
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตที่มีพื้นผิวซ้อนทับกัน
เพื่อจำลองหลุมอุกกาบาตที่มีอายุแตกต่างกัน
เมื่อ Cinder Lake Crater Field ถูกเปลี่ยนเป็นสนามฝึกซ้อมแล้ว
นักบินอวกาศก็เริ่มทดสอบอุปกรณ์ ทดสอบความรู้และทักษะต่าง ๆ บนพื้นดิน
แม้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นสำหรับการลงจอดของ Apollo 11
แต่นักบินอวกาศ
Apollo 15 ก็ผ่านการฝึกฝนที่นี้ด้วยเช่นกัน
เพราะภารกิจหลักของนักบินอวกาศ Apollo 15
คือการมุ่งเน้นไปที่ธรณีวิทยาเป็นหลัก
พื้นที่แห่งนี้นอกจากการฝึกอบรมทางธรณีวิทยาแล้ว
หลุมอุกกาบาตยังถูกใช้เพื่อช่วยในการทำแผนที่เส้นทาง
ที่อาจเกิดขึ้นทั่วภูมิประเทศของดวงจันทร์
ทางลาดของหลุมอุกกาบาตก็ถูกนำมาใช้
เพื่อทดสอบยานพาหนะขับเคลื่อนบนดวงจันทร์
การฝึกครั้งสุดท้ายมีขึ้นในปี 1972
สำหรับนักบินอวกาศ
Apollo 17
ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายของโครงการ Apollo
ตอนนี้ล่วงเลยมา 50 ปีแล้ว
หลุมอุกกาบาตส่วนใหญ่ได้ถูกกัดเซาะไปแล้ว
ยกเว้นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุด
ที่ยังคงมองเห็นความแตกต่างได้
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/2CVbr5P
http://bit.ly/2NTCBk0
https://bit.ly/37aDEng
http://bit.ly/2OhI1o2
3
4
First crater field
5
Second crater field
6
7
.
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
Cinder Lake Crater Field พื้นที่ดวงจันทร์จำลองของ NASA ที่ใช้ฝึกนักบินอวกาศ
จะก้าวย่างเดินเท้าบนดวงจันทร์
นักบินต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวด
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจ
ในขณะที่การฝึกอบรมส่วนใหญ่
มักจะเกิดขึ้นในห้องเรียนอุปกรณ์จำลองและที่ห้องทดสอบ
NASA ยังให้ประสบการณ์ด้านธรณีวิทยา
แก่นักบินอวกาศและสอนให้รวบรวมตัวอย่างทางธรณีวิทยา
ด้วยการนำพวกนักบินอวกาศออกไปทัศนศึกษา
เพื่อให้การฝึกสมจริงสมจังมากที่สุด
บรรดานักบินอวกาศได้เดินทางไปฝึกบนพื้นโลก
ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศคล้ายกับดวงจันทร์
ทะเลแห่งสันติ Sea of Tranquillity
สถานที่ซึ่ง Apollo 11 Lunar Module ถูกกำหนดให้ลงจอด
เป็นพื้นที่ราบทุรกันดารขนาดใหญ่ที่เกิดจากภูเขาไฟโบราณ
ทุ่งภูเขาไฟในรัฐ Arizona ได้รับเลือกให้เป็นสนามฝึกซ้อม
แต่ก่อนที่การฝึกซ้อมครั้งนี้จะเริ่มขึ้น
NASA ได้ตัดสินใจที่จะแก้ไขพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อให้ภูมิทัศน์เป็นเหมือนดวงจันทร์มากยิ่งขึ้น
ในช่วงฤดูร้อนปี 1967
2 ปีก่อนที่จะมีการวางแผนเหยียบดวงจันทร์
NASA ได้เลือกพื้นที่ขนาด 500 ตารางฟุต
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Flagstaff
ใกล้กับยอดเขา San Francisco Peaks ที่มีชื่อเสียง
และทางใต้ของภูเขาไฟ Sunset Crater
แล้วเริ่มทำการตกแต่งภูมิทัศน์ขึ้นใหม่
เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกันภูมิประเทศของดวงจันทร์
วิศวกรได้ขุดหินบะซอลต์แล้วติดตั้งระเบิด
แล้วทำการระเบิดขึ้นมาเพื่อสร้างหลุมอุกกาบาต
ปริมาณของลูกระเบิดที่ฝังลึกลงไปในหินบะซอลด็
มีการคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตที่มีมิติที่แม่นยำ
ตลอดระยะเวลา 4 เดือน
วิศวกรได้สร้างหลุมอุกกาบาตจำนวน 143 หลุม
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ถึง 40 ฟุต
การกระจายตัวและขนาดของหลุมอุกกาบาต
ไม่ได้ทำกันอย่างมั่ว ๆ หรือเดาสุ่มแต่อย่างใด
มีการสร้างในระดับ 1: 1 เทียบกับพื้นที่เป้าหมายที่จะเหยียบดวงจันทร์
บริเวณนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม Cinder Lake Crater Field
.
ต่อมา NASA ได้สร้างปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งในการสร้างครั้งนี้ไม่ใช่ซ้ำแบบเดิม แค่เพียงขนาดเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการทำให้มีหลุมอุกกาบาตมีอายุคล้ายของดวงจันทร์ด้วย
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักบินอวกาศสามารถฝึกหัด
อธิบายถึงประเภทและอายุของการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่พบเห็น
พื้นที่แห่งที่ 2 มีขนาด 1,200 ตารางฟุต
และมีหลุมอุกกาบาตจำนวน 354 แห่ง
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตแห่งที่ 2
จึงมีการวางระเบิดหลายชุด
และลำดับของการระเบิดมีการจัดวางและออกแบบมา
เพื่อสร้างหลุมอุกกาบาตที่มีพื้นผิวซ้อนทับกัน
เพื่อจำลองหลุมอุกกาบาตที่มีอายุแตกต่างกัน
เมื่อ Cinder Lake Crater Field ถูกเปลี่ยนเป็นสนามฝึกซ้อมแล้ว
นักบินอวกาศก็เริ่มทดสอบอุปกรณ์ ทดสอบความรู้และทักษะต่าง ๆ บนพื้นดิน
แม้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นสำหรับการลงจอดของ Apollo 11
แต่นักบินอวกาศ Apollo 15 ก็ผ่านการฝึกฝนที่นี้ด้วยเช่นกัน
เพราะภารกิจหลักของนักบินอวกาศ Apollo 15
คือการมุ่งเน้นไปที่ธรณีวิทยาเป็นหลัก
พื้นที่แห่งนี้นอกจากการฝึกอบรมทางธรณีวิทยาแล้ว
หลุมอุกกาบาตยังถูกใช้เพื่อช่วยในการทำแผนที่เส้นทาง
ที่อาจเกิดขึ้นทั่วภูมิประเทศของดวงจันทร์
ทางลาดของหลุมอุกกาบาตก็ถูกนำมาใช้
เพื่อทดสอบยานพาหนะขับเคลื่อนบนดวงจันทร์
การฝึกครั้งสุดท้ายมีขึ้นในปี 1972
สำหรับนักบินอวกาศ Apollo 17
ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายของโครงการ Apollo
ตอนนี้ล่วงเลยมา 50 ปีแล้ว
หลุมอุกกาบาตส่วนใหญ่ได้ถูกกัดเซาะไปแล้ว
ยกเว้นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุด
ที่ยังคงมองเห็นความแตกต่างได้
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/2CVbr5P
http://bit.ly/2NTCBk0
https://bit.ly/37aDEng
http://bit.ly/2OhI1o2