จริงๆ แล้ว นิชิโน๊ะ วางแผนแค่อาจเลวร้ายเสมอหรือแพ้ หรือไม่ก็หากโชคดีก็ขนะมาเลเซีย
แต่โชคร้ยที่เป็นแบบ worst case
คีย์อยู่ที่นัดหน้า เจอเวียดนาม
สังเกตดูวางแผนแต่ละนัดนักเตะไม่เหมือนกันแผนไม่เหมือนกัน
รูปแบบเแบบสุ่มหรือrandomอย่างมีแบบแผนทำให้คู่แข่งจับแนวทางยาก
กรณีของมาเลเซียแบ็ค2ข้างถูกเปลี่ยนทำให้รูปแบบเกมส์เปลี่ยน
ผมคคิดว่าเป็ฯการดีเหมือนกันที่จะพักอุ้ม(แบบจำยอมเพราะ 2ใบเหลือง)รวมถึงนิติพงษ์ไว้เจอกับเวียดนามโดยส่งโด้และกรกชลงไปแทน
มาเลเซียใช้ผู้เล่นลูกครึ่งตัวสูงใหญ่จึงไม่แปลกที่ใช่เอลียดอเล็าะเป็นเซ็นเตอร์
นัดหน้า
แบ็คต้องเป็นนิติพงษ์หรือไม่ก็ศศลักษณ์กับอุ้มแน่นอน
เซ็นเตอร์น่าจะเป็นธนบูรณ์กับทอมเบียร์
ส่วนชนาธิป ผมมองว่าโดยส่วนตัวผมให้เป็ฯตัวสำรอง ไว้เปลี่ยนเกมส์หากยังไม่ได้ผลตามคาด
แต่ผมมองว่าโค้ชปาร์คมองเกมส์ออก อยู่แล้ว
ว่าคีย์อยู่ที่อุ้ม กับ ศุภโชค แนวรุกทางฝั่งซ้ายของไทย และจะหาทางทำลายอย่างไร
อาจจะบุกโจมตีแต่ฝั่งซ้ายก็ได้เพื่อไม่ให้อุ้มขึ้นเองเหมือนกับที่ทีมใน เจ ลีก ที่ชนะมารีนอส ทำสำเร็จ
แต่หากทางฝั่งขวา เกิกทำงานได้ดีเช่นกันอันี้แหละว่าโค้ชปาร์คจะทำอย่างอย่างที่ UAE เจอมาแล้ว
ไม่เหมือน ตอนไทยเล่นกับเมาเลย์
ไทย เครื่องดับ ทั้งฝั่งซ้ายและ ขวาเลย
สภาพนักเตะไทย ผมบอกได้เลยว่าแย่ คล้ายกับที่ไทยแพ้อินเดีย4-1 ตอนอาเชียนคัพ ไม่มีผิด แต่ดีกว่าเล็กน้อยเพราะสกอร์ไม่ขาดมาก
จริงๆเมื่อวานไทยน่าจะแพ้มาเลย์ 3-1
นัดเตะเวียดนามจึงเป็นนัด ที่ ไทยต้องทุบหม้อข้าวทิ้ง วิ่งสู้ฟัด เพื่อชนะเท่านั้น
เหมือนกับที่เราชนะบาเรนห์ กับ UAE มาแล้ว
ถึงไทยแพ้สังเกตดูว่าแฟนบอลไม่อะไรมาก
เพราะรู้ดีว่านัดสำคัญคือนัดเจอเวียดนาม
หากไทยแพ้เวียดนาม อีก
ถึงตอนนั้น แรงกดดันจะไปอยู่ นิชิโนะ และสมาคมฟุตบอลไทย
ไทยมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด ทีจะไปบอลโลก
หากไม่ได้เข้ารอบไปลุ้นในปีนี้
เชิ่อว่า สุดท้ายแล้ว แฟนบอลคงเทคะแนนไปหาซิโก้ ให้กลับมาแน่นอน
เพราะถึงตอนนั้นคงไม่มีเหตุผลใดไปทัดทานได้เพราะผลงาน
การทำทีมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกและผลงานสมาคมมันจะฟ้องโดยตัวของมันเอง
และจะมีกรเปรียบเทียบกันแ่นนอน
โดยส่วนตัวยังศรัทธา แนวทางของ นิชิโนะ ว่า
ตอนที่เราเล่นแบบเล่นกับ UAE นั่นคือแนวทางที่ถูกต้อง แล้ว
เหลือแค่ทำให้มันเป็นระบบ ที่สมบูรณ์ ไม่ว่าใครจะไปจะมาก้ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างเช่นปัจจุบัน
เรียนแฟนบอลที่เคารพ หากผมเป็น นิชิโนะ ผมก็วางแผน เจอมาเลย์แบบนี้เหมือนกัน คีย์นัดสำคัญอยู่ที่ตัดแต้มเวียดนาม
แต่โชคร้ยที่เป็นแบบ worst case
คีย์อยู่ที่นัดหน้า เจอเวียดนาม
สังเกตดูวางแผนแต่ละนัดนักเตะไม่เหมือนกันแผนไม่เหมือนกัน
รูปแบบเแบบสุ่มหรือrandomอย่างมีแบบแผนทำให้คู่แข่งจับแนวทางยาก
กรณีของมาเลเซียแบ็ค2ข้างถูกเปลี่ยนทำให้รูปแบบเกมส์เปลี่ยน
ผมคคิดว่าเป็ฯการดีเหมือนกันที่จะพักอุ้ม(แบบจำยอมเพราะ 2ใบเหลือง)รวมถึงนิติพงษ์ไว้เจอกับเวียดนามโดยส่งโด้และกรกชลงไปแทน
มาเลเซียใช้ผู้เล่นลูกครึ่งตัวสูงใหญ่จึงไม่แปลกที่ใช่เอลียดอเล็าะเป็นเซ็นเตอร์
นัดหน้า
แบ็คต้องเป็นนิติพงษ์หรือไม่ก็ศศลักษณ์กับอุ้มแน่นอน
เซ็นเตอร์น่าจะเป็นธนบูรณ์กับทอมเบียร์
ส่วนชนาธิป ผมมองว่าโดยส่วนตัวผมให้เป็ฯตัวสำรอง ไว้เปลี่ยนเกมส์หากยังไม่ได้ผลตามคาด
แต่ผมมองว่าโค้ชปาร์คมองเกมส์ออก อยู่แล้ว
ว่าคีย์อยู่ที่อุ้ม กับ ศุภโชค แนวรุกทางฝั่งซ้ายของไทย และจะหาทางทำลายอย่างไร
อาจจะบุกโจมตีแต่ฝั่งซ้ายก็ได้เพื่อไม่ให้อุ้มขึ้นเองเหมือนกับที่ทีมใน เจ ลีก ที่ชนะมารีนอส ทำสำเร็จ
แต่หากทางฝั่งขวา เกิกทำงานได้ดีเช่นกันอันี้แหละว่าโค้ชปาร์คจะทำอย่างอย่างที่ UAE เจอมาแล้ว
ไม่เหมือน ตอนไทยเล่นกับเมาเลย์
ไทย เครื่องดับ ทั้งฝั่งซ้ายและ ขวาเลย
สภาพนักเตะไทย ผมบอกได้เลยว่าแย่ คล้ายกับที่ไทยแพ้อินเดีย4-1 ตอนอาเชียนคัพ ไม่มีผิด แต่ดีกว่าเล็กน้อยเพราะสกอร์ไม่ขาดมาก
จริงๆเมื่อวานไทยน่าจะแพ้มาเลย์ 3-1
นัดเตะเวียดนามจึงเป็นนัด ที่ ไทยต้องทุบหม้อข้าวทิ้ง วิ่งสู้ฟัด เพื่อชนะเท่านั้น
เหมือนกับที่เราชนะบาเรนห์ กับ UAE มาแล้ว
ถึงไทยแพ้สังเกตดูว่าแฟนบอลไม่อะไรมาก
เพราะรู้ดีว่านัดสำคัญคือนัดเจอเวียดนาม
หากไทยแพ้เวียดนาม อีก
ถึงตอนนั้น แรงกดดันจะไปอยู่ นิชิโนะ และสมาคมฟุตบอลไทย
ไทยมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด ทีจะไปบอลโลก
หากไม่ได้เข้ารอบไปลุ้นในปีนี้
เชิ่อว่า สุดท้ายแล้ว แฟนบอลคงเทคะแนนไปหาซิโก้ ให้กลับมาแน่นอน
เพราะถึงตอนนั้นคงไม่มีเหตุผลใดไปทัดทานได้เพราะผลงาน
การทำทีมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกและผลงานสมาคมมันจะฟ้องโดยตัวของมันเอง
และจะมีกรเปรียบเทียบกันแ่นนอน
โดยส่วนตัวยังศรัทธา แนวทางของ นิชิโนะ ว่า
ตอนที่เราเล่นแบบเล่นกับ UAE นั่นคือแนวทางที่ถูกต้อง แล้ว
เหลือแค่ทำให้มันเป็นระบบ ที่สมบูรณ์ ไม่ว่าใครจะไปจะมาก้ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างเช่นปัจจุบัน