ตามที่เข้าใจกันถ้าสมถะมีนิมิตเป็นกำดักขวางขั้น การเจริญวิปัสสนาเนี่ยจะมีวิปัสสนูปกิเลส10เป็นกำดับขวางกั้นการบรรลุธรรมนี่แหละถูกหรือไม่ครับ ประเด็นคือจขกทสงสัยว่าตกลงอาการวิปัสสนูปกิเลส10ข้อที่นักภาวนามักหลงตัวเองว่าบรรลุแล้วหลุดพ้นแล้วเนี่ยมันเกิดจากอะไรกันแน่ มันเกิดจากการเจริสสนาจนเกิดญาณต่างๆที่อยู่ในข่ายการเตรียมพร้อมที่จะบรรลุธรรม ผ่านพวกนามรูปปริเฉจญาณแน่ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าถึงวิปัสสนาญาณหรือยัง แต่คุ้นๅมันจะว่างเฉยๆไม่ปรุงแต่งอะไรนานมากจนแบบบางคนคิดว่ามันบรรลุธรรม(คล้ายๆกับบรรลุธรรมถูกป่ะ) ทีนี้สงสัยว่ามันเกิดจากตัวปัญญามันล้ำหน้าเกิดไปหรือเปล่าหรือว่าสติมันไม่เป็นธรรมชาติ บางท่านว่ายังไม่คล้ายท่านเหมือนเราไปรู้ทันนามธรรมต่างๆจนเหมือนกันสติสัมปชัญญะจะตกหรือเปล่าเหมือนความโกรธมันเกิดขึ้นก็ไปเพ่งกดไม่ให้เกิดหรือเปล่าครับหรือว่าไง เหมือนตัวสติที่ไปรู้ทันนามธรรมมันแข็งเกินไปจนกรรมฐานที่กายมันหลุดนี่แหละ หรือว่าอย่างไรเหมือนเกิดความอยากจะหลุดพ้นจนเผลอไปกดกิเลสด้วยการเพ่งอารมณ์เพ่งกิเลสจนไม่คลาดสายตาป่ะครับ จิตแช่ในหรือเปล่า หรือเพราะอะไร เพราะคนเขียนเรื่องนี้น้อยมากเลยอยากถามทุกๆท่านให้หายสงสัย เหมือนเราไม่รอบคอบเลยไม่ทันสังเกตว่าตัวกิเลสละเอียดกว่าคือธรรมธุจจะหรือเปล่า หรือว่าอะไร คงไม่ใช่เพราะสติมันแข็งเกินไปหรอกนะครับ
เรื่องของวิปัสสนูปกิเลสที่เป็นกำดักของการเจริญปัญญาหรือวิปัสสนามันเกิดจากอะไรกันแน่แก้ยังไง หาที่ไหนก็ไม่ชัดเจนเลย??