ออกตัวก่อนซักนิดนึงว่า ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบหนังไทยที่เป็นแนวไสยศาสตร์/อภินิหาร/เหนือธรรมชาติ อยู่เป็นทุนเดิม เพราะรู้สึกว่าไทยเหมาะกับสร้างหนัง(หรือละคร)แนวๆนี้ เพราะงั้นตั้งแต่เด็กถ้าเป็นแนวนี้ส่วนใหญ่ก็จะดู และจอมขมังเวทย์ภาคแรกเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนก็ได้ดูเช่นกัน หลังจากทิ้งช่วงไปนาน ภาคต่อก็มาเสียที จึงต้องขอไปดูเสียหน่อยแล้ว 

สิ่งที่ชอบ 
1. คิวบู๊/ฉากบู๊ ที่อัดแน่นเต็มหนัง ใช้คำว่า อัดแน่น น่าจะเหมาะจริงๆ เพราะหนังดำเนินเรื่องไวมาก(บางทีก็ไวไป) แล้วเอาเวลาไปลงกับฉากแอ๊คชั่นที่แยกเป็น  2 ประเภทคือ แอ๊คชั่นต่อยเตะธรรมดา กับ แอ๊คชั่นผสมเวทย์คาถา ซึ่งที่ชอบมากคือการสู้แบบต่อยเตะธรรมดานี่แหละครับ ท่วงท่าได้ความสะใจ 

2. ผมไม่เคยดูหนังที่หมากแสดงมาก่อนเลยนะซักเรื่อง มาดูเรื่องแรกก็เรื่องนี้แหละ ถือว่าแสดงคิวบู๊ได้ดี มีสีหน้าแววตาและท่าทางที่เท่เอาเรื่อง แต่ในแง่การแสดงดราม่ายังถือว่าธรรมดา (จริงๆทั้งเรื่องพี่แกค่อนข้างอารมณ์เดียวเหมือนกันนะ)

3.ตัวร้ายของเรื่อง ที่ถ้าไม่มีคนนี้แสดงถือว่าขาดอถรรสไปเยอะมากๆ พี่แกมีบทพูดและบุคลิกที่ดีไซน์มาดีเลย คือตัวร้ายมันต้องสุดโต่งงี้แหละถึงจะเหมาะกับหนังแบบนี้ 55+ 
 
4.อันนี้เป็นทั้งดีและไม่ดีนะครับ แต่หนังภาค 2 มีจุดเชื่อมโยงกับภาคแรกที่ค่อนข้างดีเลย เรียกว่า แฟนภาคแรก น่าจะคุ้นตากันดี 

ส่วนที่ไม่ชอบ
1. บทหนังยังรู้สึกขาดๆเกินๆอยู่ คือดูแล้วไม่ไหลลื่น และมีช่องโหว่อยู่พอสมควร จะด้วยการเล่าที่เร็วหรือยังไงก็ไม่รู้ละ แต่มันส่งผลให้ความอินในตัวหนังลดลงไปพอสมควรเลย 

2.CG ยังคงเป็นปัญหาอยู่เช่นเคย คือพวก CG ที่เป็นภาพนิ่งๆอยู่ประดับฉาก อันนี้คือเนียนมากอยู่แล้วสำหรับหนังไทย แต่พอมันต้องเคลื่อนไหวเท่านั้นแหละ ความไม่เนียนและสวยก็โผล่มาชัดเจนเลย ซึ่งถ้าจำไม่ผิด รู้สึกเหมือน CG จะดีกว่าภาคแรกที่ห่างกันเกือบสิบปีอยู่หน่อยๆนะ 

3. ถ้าอยากรู้เรื่องตัวละครของนก ฉัตรชัย หรือระดับสเกลพลังอาคมว่าทำได้ประมาณไหน ก็ควรดูภาคแรกมาก่อน ซึ่งตรงส่วนนี้ ถ้าไม่ดูมาก่อน อาจจะงงๆยิ่งกว่าเดิม

4. ระดับสเกลพลังคาถา ค่อนข้างงงๆว่า ใครทำอะไรได้แค่ไหนยังไง ดูไปดูมา เดี๋ยวเสกนั้น เดี๋ยวร่ายคาถานี้ อันไหนได้เปรียบเสียเปรียบใครก็ไม่ค่อยจะรู้เลย คือถ้าร่ายมนต์ แล้วนักแสดงกลายร่างเป็นคิงคองยักษ์ ผมยังไม่ประหลาดใจอ่ะถ้าโผล่ในเรื่องนี้ 

5. แอ๊คชั่นแบบใช้คาถา รู้สึกมันค่อนข้างซ้ำซาก ทั้งซ้ำภาคแรกไม่พอ ภาคนี้ยังใช้ซ้ำกันหลายซีนอีก เอะอะจับหัว เอะอะเป่าปู๊ด ซัดกันไปชุดใหญ่เห็นท่าทางเหมือนเซจะแพ้ อีกแปบ อ้าว พลิกกลับมาได้เปรียบเฉย เหมือนดูมวยปล้ำยังไงยังงั้น แล้วค่อนข้างใจดีด้วยนะ เพราะรอให้อีกฝ่ายร่ายมนต์ขยุกขยิกก่อนด้วย ซึ่งปัญหาของผมคือ ไม่รู้ว่าคาถาไหนใช้ทำอะไร เก่งกว่าคาถาไหน เพราะมันดูคล้ายๆระดับเดียวกันไปหมด 

6.ถ้าตัวอย่างกั๊กอะไรๆไว้บ้างก็คงจะดี ถือว่าตัดตัวอย่างได้ไม่ค่อยดีเท่าไร

โดยสรุป เรื่องนี้ถือเป็นหนังแอ๊คชั่นเหนือธรรมชาติ ที่มีฉากแอ๊คชั่นจัดหนักกว่าภาคแรกเยอะ(มาก) พระเอกเท่ ตัวร้ายเจ๋ง ดูแบบหัวโล่งๆก็พอได้อยู่นะเน้นเอามันส์อย่างเดียวไรงี้ แต่โดยส่วนตัวเมื่อมองภาพรวมๆทั้งหนังแล้ว ถือว่ากลางๆ ไม่ย่ำแย่ แต่ก็ไม่ได้ดีอะไร นึกย้อนถึงหนังที่เพิ่งดูจบ จำไรไม่ได้เลย นอกจาก สู้ๆกัน 555+

ปล.อยากดูหนังไทยที่เล่นแนวไสยศาสตร์แบบจริงๆจังๆ พูดน้อยต่อยหนักจังเลย