“อนุสรณ์”โต้”พ่อปารีณา”บอกไม่อยู่ในสายตาอดีตนายกฯ
https://www.innnews.co.th/politics/news_531571/
"อนุสรณ์" โต้ "พ่อปารีณา" ยันไม่มีมูลความจริง บอกไม่อยู่ในสายตาอดีตนายกฯ แนะเตรียมตัวสู้คดี อย่าไปใส่ร้ายคนอื่น
นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นาย
ทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.
ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ระบุ น.ส.
ปารีณา ถูกร้องเรียนบุกรุกที่ดินป่าสงวน เพราะไปพูดถึงสองอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศ ว่า
ขอยืนยันว่าสิ่งที่นาย
ทวีพูด ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย น.ส.
ปารีณา ไม่ได้อยู่ในสายตาของสองอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.
ปารีณา จะไปครอบครองที่ดินที่ใดจำนวนกี่ไร่ ผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เป็นหน้าที่ของสปก. กรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไปดำเนินการตรวจสอบ น.ส.
ปารีณา จะมีความผิดหรือไม่ในการครอบครองที่ดินดังกล่าว ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ควรมีการแทรกแซงจากฝ่ายใดทั้งสิ้น นาย
ทวีควรแนะนำลูกสาวให้เอาเวลาไปเตรียมตัวสู้คดีพิสูจน์ความจริง ดีกว่าการอาศัยวิบากกรรมชีวิตของตนเอง ไปกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยปราศจากข้อเท็จจริง แต่ฝ่ายกฎหมายคงจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีในเรื่องนี้ให้รกศาล เมื่อให้โอกาสแล้ว หวังว่า จะไม่ไปกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นโดยปราศจากข้อเท็จจริงเช่นนี้อีก
ทั้งนี้เข้าใจในหัวอกคนเป็นพ่อที่รักลูก รักชีวิต เพราะแม้แต่หมาที่ถูกยิง ถูกทำร้ายจากมนุษย์จิตใจโหดร้ายก็คงรักชีวิตเหมือนกัน เพียงแต่ไม่สามารถพูดได้ หนีอะไรหนีได้ แต่หนีกฎแห่งกรรมไปไม่ได้
ดีเอสไอตั้งคณะสืบสวนกรณี 'อับดุลเลาะ'
https://prachatai.com/journal/2019/11/85128
กรมสอบสวนคดีพิเศษแต่งตั้งพนักงานสืบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ หลังถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายพิเศษ
12 พ.ย.2562 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งว่า จากกรณี
สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมนำ
ซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของ
อับดุลเลาะ อีซอมูซอที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายพิเศษ เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอได้มอบหมายให้กองคดีความมั่นคง ทำการสืบสวนเป็นเรื่องสืบสวนที่ 221/2562 และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน โดยมี
อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการ ส่วนคดีความมั่นคง 1 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน และ
สถาพร ธีรโชติสกุล เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการเป็นผู้ประสานงาน
สำหรับ
อับดุลเลาะ อีซอมูซอ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขา ถูกควบคุมเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2562 โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายใต้อำนาจตามกฎอัยการศึกไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.2562 ถูกพบว่าหมดสติอยู่ในหน่วยซักถามของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร
เจ้าหน้าที่ประจำค่ายจึงนำ
อับดุลเลาะ เข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จากนั้นได้ส่งไปรักษาตัวต่อ ณ อาคารผู้ป่วยวิกฤติ(ICU) โรงพยาบาลปัตตานี ต่อมาวันที่ 22 ก.ค. 2562 ถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้รับการรักษา อย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ผลเอ็กซเรย์สมองพบว่า สมองบวม มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจ มีสภาวะไตวายเฉียบพลันและจำเป็น ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติทางอายุรกรรม และต่อมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
วันที่ 1 ต.ค. 2562
ซูไมยะห์ มิงกะ ภริยาของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองจิก จังหวัดปัตตานี ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ล่าสุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองจิก ได้ส่งหนังสือแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการ ถึง
ซูไมยะห์ ผู้แจ้งความ ลงวันที่ 1 พ.ย.2562 ว่า ได้ร่วมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานีตรวจสถานที่เกิดเหตุร่วม และเก็บหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์และออกรายงานเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนมา ทั้งได้ขอหนังสือเวชระเบียนการรักษาจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตลอดจนได้ ขอหลักฐานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งขอหลักฐานการสอบสวนชันสูตรพลิกศพผู้ตายจากสถานีตำรวจภูธรคอหงษ์ มาเพื่อประกอบสำนวน
สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐมีหน้าที่ปกป้อง คุ้มครอง ประชาชนทุกคน ให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติดังกฎหมายรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ ดังนั้นกรณีของ อับดุลเลาะ ดังกล่าว รัฐต้องดำเนินการตรวจสอบ และควบคุมตัวบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทำให้ความจริงปรากฏแก่สังคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และต้องไม่มีกรณีอื่นเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ทนายความศูนย์ทนายความมุสลิมและทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอับดุลเลาะและญาติต่อไปให้ถึงที่สุดทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ในระดับนโยบายและกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนใต้ต่อไป
JJNY : อนุสรณ์โต้พ่อปารีณา บอกไม่อยู่ในสายตาอดีตนายกฯ/ดีเอสไอตั้งคณะสืบสวนกรณี 'อับดุลเลาะ'/PM 2.5 มี 15 เขตยังวิกฤตฯ
https://www.innnews.co.th/politics/news_531571/
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ระบุ น.ส.ปารีณา ถูกร้องเรียนบุกรุกที่ดินป่าสงวน เพราะไปพูดถึงสองอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศ ว่า
ขอยืนยันว่าสิ่งที่นายทวีพูด ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย น.ส.ปารีณา ไม่ได้อยู่ในสายตาของสองอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ปารีณา จะไปครอบครองที่ดินที่ใดจำนวนกี่ไร่ ผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เป็นหน้าที่ของสปก. กรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไปดำเนินการตรวจสอบ น.ส.ปารีณา จะมีความผิดหรือไม่ในการครอบครองที่ดินดังกล่าว ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ควรมีการแทรกแซงจากฝ่ายใดทั้งสิ้น นายทวีควรแนะนำลูกสาวให้เอาเวลาไปเตรียมตัวสู้คดีพิสูจน์ความจริง ดีกว่าการอาศัยวิบากกรรมชีวิตของตนเอง ไปกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยปราศจากข้อเท็จจริง แต่ฝ่ายกฎหมายคงจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีในเรื่องนี้ให้รกศาล เมื่อให้โอกาสแล้ว หวังว่า จะไม่ไปกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นโดยปราศจากข้อเท็จจริงเช่นนี้อีก
ทั้งนี้เข้าใจในหัวอกคนเป็นพ่อที่รักลูก รักชีวิต เพราะแม้แต่หมาที่ถูกยิง ถูกทำร้ายจากมนุษย์จิตใจโหดร้ายก็คงรักชีวิตเหมือนกัน เพียงแต่ไม่สามารถพูดได้ หนีอะไรหนีได้ แต่หนีกฎแห่งกรรมไปไม่ได้
ดีเอสไอตั้งคณะสืบสวนกรณี 'อับดุลเลาะ'
https://prachatai.com/journal/2019/11/85128
กรมสอบสวนคดีพิเศษแต่งตั้งพนักงานสืบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ หลังถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายพิเศษ
12 พ.ย.2562 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งว่า จากกรณี สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมนำ ซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายพิเศษ เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอได้มอบหมายให้กองคดีความมั่นคง ทำการสืบสวนเป็นเรื่องสืบสวนที่ 221/2562 และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน โดยมี อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการ ส่วนคดีความมั่นคง 1 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน และ สถาพร ธีรโชติสกุล เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการเป็นผู้ประสานงาน
สำหรับ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขา ถูกควบคุมเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2562 โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายใต้อำนาจตามกฎอัยการศึกไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.2562 ถูกพบว่าหมดสติอยู่ในหน่วยซักถามของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร
เจ้าหน้าที่ประจำค่ายจึงนำ อับดุลเลาะ เข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จากนั้นได้ส่งไปรักษาตัวต่อ ณ อาคารผู้ป่วยวิกฤติ(ICU) โรงพยาบาลปัตตานี ต่อมาวันที่ 22 ก.ค. 2562 ถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้รับการรักษา อย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ผลเอ็กซเรย์สมองพบว่า สมองบวม มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจ มีสภาวะไตวายเฉียบพลันและจำเป็น ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติทางอายุรกรรม และต่อมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
วันที่ 1 ต.ค. 2562 ซูไมยะห์ มิงกะ ภริยาของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองจิก จังหวัดปัตตานี ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ล่าสุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองจิก ได้ส่งหนังสือแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการ ถึง ซูไมยะห์ ผู้แจ้งความ ลงวันที่ 1 พ.ย.2562 ว่า ได้ร่วมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานีตรวจสถานที่เกิดเหตุร่วม และเก็บหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์และออกรายงานเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนมา ทั้งได้ขอหนังสือเวชระเบียนการรักษาจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตลอดจนได้ ขอหลักฐานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งขอหลักฐานการสอบสวนชันสูตรพลิกศพผู้ตายจากสถานีตำรวจภูธรคอหงษ์ มาเพื่อประกอบสำนวน
สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐมีหน้าที่ปกป้อง คุ้มครอง ประชาชนทุกคน ให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติดังกฎหมายรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ ดังนั้นกรณีของ อับดุลเลาะ ดังกล่าว รัฐต้องดำเนินการตรวจสอบ และควบคุมตัวบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทำให้ความจริงปรากฏแก่สังคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และต้องไม่มีกรณีอื่นเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ทนายความศูนย์ทนายความมุสลิมและทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอับดุลเลาะและญาติต่อไปให้ถึงที่สุดทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ในระดับนโยบายและกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนใต้ต่อไป