[CR] หาความสงบให้หัวใจ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ณ เชียงคาน [ บอกได้คำเดียวหลงรัก ''เลย'' ]

เมื่อการใช้ชีวิตในกรุงเทพที่แสนจะวุ่นวาย ทั้งรถติด ทั้งมลพิษต่างๆนาๆทำเอาเราปวดหัว จะดีกว่าไหมถ้าเราโบกมือลากรุงเทพสัก2 - 3วันแล้วพาตัวเองไปพบกับบรรยากาศที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอย่าง''เชียงคาน''เมืองเล็กๆริมฝังโขงที่ทำเอาหลายคนต้องประทับใจจะเป็นยังไงมาดูกันเลยค่า ^^ สวัสดีค่ะ ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา พวกเรากลุ่มออเจ้าเอยได้ทางไปเที่ยวที่เชียงคานเป็นเวลา3วัน2คืนโดยไม่ใช้รถส่วนตัว พวกเราได้ทำการหาสถานที่ที่น่าเที่ยวมาคร่าวๆ มาดูว่าเราจะหมดงบไปกับทริปนี้เท่าไหร่กันและแต่ละที่จะเป็นยังไงไปเที่ยวพร้อมกันกับรีวิวนี่เลย
Day 1 
วันแรกของการเดินทางเรานัดเจอเพื่อนๆที่หมอชิตเวลา19:30 น.โดยให้เพื่อนอีกคนจองตั๋วโดยสารไปกลับกรุงเทพ-เชียงคานรถออกเวลา 21:00 น.เมื่อมาถึงก็เดินหาเพื่อนเพราะที่หมอชิตคนเยอะมากยิ่งเป็นช่วงวันหยดที่ผู้คนจะพากันกลับบ้านหรือไปเที่ยวซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ พอเจอเพื่อนเราก็พากันไปขึ้นรถโดยสารประจำทาง3ทุ่มรถเริ่มออกจากหมอชิตมีของว่างแจกให้กินด้วย มันดีมากเลยค่ะเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย สภาพรถที่นั่งสบายมากค่ะ หลังจากนั้นทุกคนก็หลับกันยาวๆเลยค่ะจนถึงจุดพักรถเราก็ไม่รู้ว่าแวะที่ไหนตื่นมาอีกทีรถก็จอดแล้วก็พากันลงไปหาอะไรกิน ตั๋วที่ได้สามารถนำไปแลกอาหารฟรีได้ด้วยค่ะก็ช่วยประหยัดเงินได้อีก
DAY 2
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถแล้วหลับยาวยัน 6 โมงเช้า เราวางแผนไว้ว่าจะไปตักบาตรข้าวเหนียวตอนตี5แต่ว่าเกิดข้อผิดพลาดที่เวลาการเดินทางผิดพลาดจนเวลา 07:30 น.เราพึ่งมาถึงเชียงคาน ลงจากรถเราก็ไปพุ่งตรงไปที่ตลาดเพราะหิวมาก แต่ตลาดนั้นมีแต่ของสดขายค่ะเราเลยต้องเดินทางไปหาร้านอาหารจนมาเจอร้านเฟื่องฟ้าเป็นร้านอาหารที่สวยมากอาหารราคาก็ไม่แพงแถมยังอร่อยอีกด้วย  
หลังจากที่อิ่มท้องกันแล้วเราก็ได้เดินทางไปไหว้พระที่วัดมหาธาตุกันค่ะและได้นั่งพูดคุยกับหลวงพ่อสักพักท่านก็ผูกสายสิญจน์รดน้ำมนต์ให้พรพวกเราก่อนที่เราจะเดินทางต่อ ถือเป็นการเริ่มต้นทริปที่ดี
 
หลังจากที่ไหว้พระเสร็จแล้วก็เดินทางไปที่ริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดีมากค่ะยังไม่ค่อยร้อนเงียบสงบ น่าถ่ายรูปมากๆถึงมากที่สุดค่ะจวบจนเวลา11:00น.และเป็นโชคดีของพวกเราได้มีการแข่งเรือยาวบริเวณริมน้ำโขงขึ้นพอดีเป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสมาดูการแข่งเรือยาวของชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านทั้งตื่นเต้นและสนุกมากจริงๆค่า
  
พอเวลาผ่านไปสักพัก เราได้เดินทางตามหาที่พักของเราค่ะ ตอนแรกหาไม่เจอค่ะ5555 เดินตาม map ยังไงก็หาไม่เจอ จนต้องถามคนแถวนั้นหามาสักพักก็เดินมาจนเจอเอาซะเหนื่อยเลย เราเช็คอินเข้าที่พักเวลา 13:15 น. เป็นโชคดีของพวกเรามากค่ะพอเราเข้าที่พักไปฝนก็เริ่มลงเม็ด
 จนเวลา14:00 น. น.พอฝนเริ่มหยุดเราโทรไปร้านเช่ารถเพื่อที่จะขับไปแก่งคุดคู้และขับรถชมวิวข้างทางด้วยแล้วพวกเราก็เช่ามากัน2คันระหว่างที่ขับรถไปแก่งอากาศร้อนมากๆมากถึงมากที่สุดแต่บรรยากาศสองข้างทางในระหว่างการเดินทางช่างสวยงาม ธรรมชาติสุดๆถึงจะร้อนไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่า เมื่อไปถึงแก่งผู้คนมาเที่ยวจำนวนมาก มีทั้งมานั่งเรือชมบรรยากาศสัมผัสธรรมชาติสองฝากฝั่งโขง และชมวิวสวยๆของแม่น้ำโขงที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาและทอดตัวยาวขนานไปสองฝั่งไทย-ลาวอีกด้วยแก่งคุดคู้จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าเที่ยวของเชียงคานที่ไม่ควรพลาดเลยหละค่ะ 
นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆที่ตั้งอยู่มากมายรอให้เราได้ไปเดินจับจ่ายใช้สอยและซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย เราจึงไม่พลาดที่จะมาชิมอาหารแพริมน้ำก็เลยพักกินข้าวเที่ยงกันที่นี่เลย อาหารอร่อยมากหรือเพราะพวกเราหิว5555แต่อาหารเมนูอีสานรสชาติแซ่บๆเด็ดๆราคาเบาๆที่ทุกคนต้องมาลองชิมกันค่ะ
เวลา 15:00 น. เราได้เดินทางต่อไปที่วัดพระบาทภูควายเงิน เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพบูชาและอีกหนึ่งไฮไลท์คือบริเวณวัดนั้นจะมีหนู กระต่ายนาๆชนิดเยอะแยะมากมายและเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารน้องกระต่ายได้ด้วยค่ะแต่การเดินทางมีความผิดพลาดขึ้นเล็กน้อยค่ะเพราะพวกเราขับรถมอเตอร์ไซค์กันขึ้นไปเพราะไม่รู้ว่าเส้นทางค่อนข้างชันและยากลำบากสำหรับการขับรถมอเตอร์ไซค์ไปนะคะ แต่ก็ได้แลกกับการได้ดูความน่ารักของน้องกระต่ายพวกเรายอม555
เวลา16:30น.เราได้ขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่พักแล้วแยกย้ายกับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนที่จะไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินเชียงคาน
เวลา18:00น.และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึงสิ่งที่พลาดไม่ได้คือการเดินถนนคนเดินเชียงคาน ทั้งร้านขายของพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟน่ารักๆคูลๆเต็มไปหมด ได้เวลาไปหาอะไรกินกันแล้วค่ะสิ่งแรกที่ได้กินกันคือปูนาย่างเป็นครั้งแรกที่ได้กินรสชาติมันๆเค็มๆอร่อยดีและพวกเราก็ขอตัวไปเดินชิลๆดื่มด่ำบรรยากาศก่อนนะคะ แต่ขอย้ำอีกรอบว่าบรรยากาศดีมากๆทีเดียวจะมีอะไรให้ชมและน่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมายอันนี้ต้องลองมาเที่ยวและมาลองสัมผัสกันดูนะคะอิอิ
 
จากนั้นก็พากันเดินเล่นซื้อของกินเต็มไม้เต็มมือ เวลา20:00 น.เราได้เดินไปที่ริมแม่น้ำโขงชาวบ้านกำลังนำอะไรบางอย่างไปลอยน้ำซึ่งไปสอบถามชาวบ้านมาพวกเขาบอกว่าเป็นพิธีเรียกขวัญเป็นความเชื่อของคนที่นี่ที่มีใครเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะตัดผมหรือเล็บแล้วใส่ในกระทงนำไปลอยน้ำเชื่อว่าความทุกข์จะหายไปกับสายน้ำ   
เมื่อดูเสร็จเราเดินกลับมาที่ถนนคนเดิน เพื่อหาอะไรกินต่อจนเวลาประมาณ 21:00 น. พวกเราก็พากับที่พัก และแยกย้ายกันพักผ่อน เตรียมตัวตื่นเช้าในวันถัดไป
Day 3
เช้าวันที่14 ตุลาคม เรามีแผนว่าจะไปดูทะเลหมอกที่ภูทอก เราตั้งนาฬิกาปลุกตี4 ปลุกเพื่อนๆให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปรอคุณลุงขับ3ล้อที่นัดไว้ตี5 หลังจากนั้นเราก็ได้ขึ้นรถ3ล้อเพื่อเดินทางไปภูทอก เมื่อไปถึงจุดขายบัตรเราต้องเดินไปขึ้นรถกระบะเพื่อขึ้นไปภูทอกเนื่องจากทางค่อนข้างชันมาก3ล้อขึ้นไปไม่ได้ อากาศเย็นปกติ ไปถึงบนภูทอกช่วงเวลา 05:31 น.ยังมืดและไม่มีแสงสว่างจึงมองเห็นหมอกได้ไม่ค่อยชัด และเมื่อเวลาผ่านไปจนถึง 06:13 น. เริ่มมีแสงสว่างทำให้มองเห็นหมอกได้ชัดเจน ภูทอกเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่พวกเราแนะนำให้ไปให้ได้ไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลยเพราะเราสามารถซึมซับอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบาย สูดอากาศเข้าได้อย่างเต็มปอดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความงดงามของทะเลหมอก มันช่างน่าถ่ายรูปเก็บไว้และเอาไปอวดเพื่อนๆได้เลยหละค่ะ พอเราสัมผัสอากาศยามเช้าจนสาแก่ใจแล้วนั้น พวกเราก็ได้นั่งรถกระบะลงมายังตลาดเช้าด้านล่างพร้อมหาของกินยามเช้า
สุดฟินนน
       
จากนั้นพวกเราก็นั่งรถ3ล้อกลับมาที่พัก เมื่อถึงที่พักเราได้ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินกันและได้ไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟชิลๆเป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งได้น่ารักมากเหมาะกับสาวๆคนไหนที่ชอบถ่ายรูปกับร้านนั่งชิล สบายๆและยังมีเมนูน้ำดื่มต่างๆที่รสชาติดีอีกด้วย
   

จากนั้นจึงเดินไปหายายก้อยซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ที่เชียงคานมาตั้งนานแล้ว แกมีร้านนวดที่อยู่บนเส้นถนนคนเดิน เราจึงสอบถามเกี่ยวกับประวัตความเป็นมาของเชียงคาน และได้ดูรัฐธรรมนูญของเชียงคานด้วย  
ยายก้อยแนะนำให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมที่บ้านตาสิงห์คำซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และเป็นแหล่งเรียนรู้บ้านพื้นถิ่นเชียงคาน 
   
จากนั้นเราได้กลับไปเอาของที่ห้องพักและเช็คเอ้าท์ เพื่อที่จะเดินทางไปต่อที่หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ ลาว โซ่ง เราได้นัดคุณลุงขับ3ล้อ เวลา11:30 น. เมื่อคุณลุงมาถึงเราก็นั่ง3ล้อไปที่หมู่บ้าน ระยะทางประมาน 15 กิโลเมตร ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่เผยแพร่ข้อมูล วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทดำหมู่บ้านก็มีที่ขายของซึ่งเป็นของฝากที่ชาวบ้านเป็นคนทำเองเวลา 13:00 น ได้มีการแสดงจากชาวบ้านทั้งคนแก่และเด็ก นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่สามารถแต่งกายด้วยชุดไทดำได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย ซึ่งเราก็ได้ทดลองแต่งกายเป็นชาวไทดำด้วย      
เมื่อชมการแสดงเสร็จเราก็ได้เดินทางกลับมาที่ถนนเชียงคาน เพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกแต่ว่าไม่ได้ดูเพราะจะขึ้นรถกลับบ้านไม่ทัน เราเลยเดินเล่นหาสถานที่นั่งพัก  เมื่อเวลา 16:30 น. เราก็ได้ไปเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่ริมแม่น้ำโขงก่อนที่จะไปรอขึ้นรถ 
 
ปิดท้ายด้วยคุณลุงขับ3ล้อที่น่ารักที่พาเราไปทุกที่เลยแถมยังคิดราคาไม่แพงด้วย
 
ทริปนี้ถือเป็นทริปที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับบางคนในกลุ่มที่ไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนเลย หรือไม่เคยนั่งรถทัวร์ การไปเที่ยวที่เชียงคาน เมืองเล็กๆแต่เต็มไปด้วยความสุข ความสงบ บรรยากาศที่ดี ธรรมชาติที่สวยงาม ใครที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
มีคลิปวีดิโอในทริปนี้ด้วยนะคะ ใครอยากดูเป็นภาพเคลื่อนไหวก็มีให้ชมนะค่าาา อมยิ้ม38
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   เชียงคาน จังหวัดเลย 3 วัน 2 คืน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่