[CR] ทริปมาเล เซไปชิม ลิ้มลองของบ้าน ร้านข้าวอยู่ไหน ไปไหนไปกัน

             ในการไปเที่ยวประเทศมาเลเซียครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวมาเลเซียครั้งแรกของผม และของหลาย ๆ คนในทริป เราไปกันทั้งหมด 6 คน ในวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2019 (3 วัน 2 คืน) รีวิวนี้เขียนไว้เผื่อว่ามีใครกำลังหาข้อมูลเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งตอนนี้ค่าเงินไทยแข็งมาก เหมาะแก่การไปเที่ยวต่างประเทศสุด ๆ ณ วันที่ไป พวกเราแลกเงินได้เรทประมาณ 7.23 บาท ต่อ 1 RM (ริงกิตมาเลเซีย) 
             เมื่อได้วันเดินทางแน่นอนเรียบร้อยแล้ว พวกผมก็เริ่มทำการจองตั๋วเครื่องบิน โดยเราเลือกจองตั๋วเครื่องบินของ AirAsia เพราะราคาถูกที่สุด ราคาไป-กลับ 2,839 บาท พวกผมจองตั๋วเครื่องบินไว้ก่อนเดินทางไว้เกือบเดือน จึงได้ราคาที่ไม่แพงมาก เที่ยวบินรอบออกจากไทยรอบเช้าเวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย และถึงที่สนามบิน KLIA2 เวลา 10.00 น.ตามเวลามาเลเซีย ซึ่งถึงแม้ประเทศจะอยู่ติดกันแต่เวลาบ้านเขาก็เร็วกว่าไทย 1 ชม. หากท่านใดจะไปเที่ยว ก็อย่าลืมเช็คเวลากันด้วยนะครับ หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน ต่อไปพวกผมจองโรงแรมผ่าน Agoda จำนวน 1 ห้องในช่วงโปรโมชั่นลดราคาถึง 55% เหลือราคาเพียงประมาณ 2780 บาท สำหรับ 2 คืน ตกเหลือเพียงคนละ 463 บาท ในส่วนของรายละเอียดจะกล่าวถึงอีกทีนะครับ ซึ่งราคาที่ได้ทำพวกเราตะลึง เพราะราคาถูกมากจริง ๆ เทียบกับทำเลที่ตั้งของที่พัก หลังจากได้ทุกอย่างมาอยู่ในมือเรียบร้อยพวกเราก็นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองเวลาตี 5 ของวันที่ 19 ตุลาคม 2019 นับวันรอไปเที่ยว และในระหว่างนี้พวกเราก็ทำการหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การเดินทางในประเทศมาเลเซีย ร้านอาหารที่น่าแวะไปชิม เป็นต้น

วันที่ 1 :  19 ตุลาคม 2562

             และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย พวกผมได้มารวมตัวกันที่หน้าเค้าเตอร์ AirAsia และไปเช็คอินตามปกติ แล้วก็ไปหาอะไรกินกันก่อนเข้าเกท ราคาในนี้ก็เพิ่มจากข้างนอก ทางที่ดีก็ควรกินมาก่อนครับ ทุกคนเสร็จสัพก็เข้าไปนั่งรอที่เกท เที่ยวที่ไปจะเป็น bus gate พวกผมก็ต่อกันไปอีกหน่อยเพื่อขึ้นเครื่อง ถือสะว่านั่งรถเที่ยวรันเวย์แล้วกัน

            พวกผมได้มาลงที่KLIA2 ซึ่งเป็นอาคารของสนามบินนานาชาติของมาเลเซีย(ที่มีอาคาร KLIA1 และอาคาร KLIA2) ในเวลา 10 โมง (จากนี้เป็นต้นไปจะบอกเวลาตามเวลาของประเทศมาเลเซีย)

            หลังจากนี้เราก็ต้องไปผ่านตม.ของเขาเพื่อเข้าประเทศ โดยเดินไปเรื่อย ๆ ยาว ๆ หาป้าย immigration แล้วเดินตามเข้าไปได้เลยครับ ตม.ที่นี่ตรวจง่ายไม่พูดอะไรเลย พูดมาแค่สองคำ 2 finger ให้เรายืนยันตัวตน 2 นิ้วชี้ แค่นั้นพวกผมก็ผ่านละครับ หลังจากที่ผ่านตม.มาได้ แพลนวันแรกของพวกผมก็คือ ไปกินมื้อเที่ยงที่ China town (Jalan Petaling) ต่อด้วยไปเที่ยวชมตึกแฝด Petronas tower และไปกินมื้อเย็นที่ตลาดคนเดิน Jalan Tuanku Abdul Rahman (คำว่า Jalan แปลว่าถนน ภาษามลายูที่ใช้กันในประเทศมาเลเซียนะครับ) เอาหละครับก่อนที่จะไปเที่ยวกันเราต้องติดต่อกันได้เผื่อหลงเผื่อหาย จึงได้ไปซื้อซิมโทรศัพท์ ซิมที่พวกเราเลือกซื้อเป็นของค่าย Digi ซึ่งเป็นค่ายลูกของ Dtac ตกอยู่ที่ราคา 20 RM ได้เน็ต 9 Gb โดยแบ่งเป็น 2Gb เล่นได้ทุกอย่าง และ 7Gb เฉพาะบางแอพเท่านั้น และก็เป็นอันที่ถูกที่สุดแล้วจากที่พวกผมได้เดินไปมันทุกร้านมา
            ต่อจากนี้ก็เริ่มแผนการเที่ยวของพวกผมได้ โดยเราต้องหาทางที่จะไป KL Sentral ที่เป็นศูนย์กลางในการเดินทางของกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสามารถไปได้หลายวิธีเลยครับ อย่าง 
·       รถไฟฟ้า
·       รถบัส 
·       Grab 
            ส่วนพวกผมเลือกไปโดยใช้ รสบัส เพราะราคาแค่ 13 RM ถึงจะขึ้นมาแล้วจาก 11 RM ก็ยังไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับรถไฟในราคา 55 RM โดยเราจะไปซื้อตั๋วและขึ้นรถบัสได้ที่ Transportation hub ซึ่งอยู่ชั้นที่ 1 ของ KLIA2 รสบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ถึง 1 ชม.ครึ่ง โดยประมาณเพื่อเดินทางจาก KLIA2 ถึง KL Sentral​ รสบัสเขาที่นั่งกว้างมากเลยครับเหมือนออกแบบมาให้คนอ้วนนั่งได้แบบสบายๆเลย และมุ่งหน้าไป KL Sentral พอรถลงจอด เราก็เดินตามทางที่บอกให้ไป KL Sentral ได้เลย 
            หลังจากเข้ามาใน KL Sentral เราก็ต้องมารู้จักกับเส้นทางรถไฟฟ้าของกัวลาลัมเปอร์กันก่อน เพราะรถไฟฟ้าที่นี่นั้นราคาถูก และครอบครุมพื้นที่ส่วนมากในกัวลาลัมเปอร์พอสมควรและเราก็ใช้การเที่ยวโดยรถไฟฟ้าเป็นหลัก
            ถึงเวลาอาหารเที่ยง ที่แรกที่พวกผมเริ่มเที่ยวนั่นก็คือ China town พวกผมเดินทางจาก KL Sentral โดยขึ้นรถไฟฟ้าKelana Jaya Line(สายสีมชมพู) จากสถานี KL Sentral (KJ15)ไปลงสถานี Pasar Seni(KJ14) หลังจากนั้นก็พึ่ง google map และเดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงย่าน China town ย่านนี้ก็จะมีคนเดินผลุกผล่านคล้ายๆ China town บ้านเราเลย แต่ก็มีอาหารที่แปลกแตกต่างกับบ้านเรา
            มื้อแรกในมาเลของพวกผมหลังจากเดินหาร้านกันมานานก็ลงเอยที่การหาอาหารเส้นกินกันข้างในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งราคาก็ไม่แพงมากประมาณ 6 RM เท่านั้น หน้าตาก็คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวรสชาติจะบอกว่าอร่อยก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่รู้สึกว่าแปลกดี และกินได้
            พวกผมได้ลองชิมนมถั่วเหลืองชื่อร้าน KIM SOYA BEAN ตามรีวิวที่ไปหาๆกันมา ซึ่งรสชาติก็คล้าย ๆ กับแลคตาซอยบ้านเราเลย หลังจากนั้นพวกผมก็เดินเที่ยวกันต่ออีกสักพัก
            เสร็จแล้วก็ได้เวลาไปเช็คอิน เอาของไปเก็บที่โรงแรม โดยพวกผมพักกันที่ตึก Vortex สามารถต่อรถไฟฟ้าKelana Jaya Line(สายสีชมพู)จากสถานี Pasar Seni(KJ14) มาลงสถานี Dang Wangi(KJ12) และเดินต่ออีกหน่อย ใช้เวลาเช็คอินสักพัก ในระหว่างนี้ก็เลยเดินดูกันนิดหน่อย โดยเขาก็มีบริการ สระว่ายน้ำ ยิม ให้
            เช็คอินเสร็จก็เอาของไปเก็บที่ห้อง ห้องพักเป็นห้องพักที่มีห้องกลางสำหรับนั่งเล่นมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีเตียง 2 เตียงขนาด 6 ฟุต และเตียงอีก 1 เตียงขนาดประมาณ 4.5 ฟุต พวกเรามีกัน 6 คนเลยแบ่งนอนเตียงใหญ่ 1 เตียงนอน 3 คน เตียงใหญ่อีกเตียงนอน 2 คน และเตียงเล็กนอน 1 คน จัดเลือกการนอนตามขนาดรูปร่างของแต่ละคนเลยครับ ส่วนรูปข้างล่างนี้เป็นวิวที่ถ่ายจากห้องพัก
            ไปต่อกันที่ Petronas Twin Towers พวกผมสามารถเดินจาก โรงแรมไป Petronas ได้เลย เพราะอยู่ห่างกันไม่มาก ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางก็เดินชมเมืองกันไป
            เดินมาเรื่อย ๆ จนถึง Petronas เราจะได้พบกับฝูงนักท่องเที่ยว ที่มาเยี่ยมชม Landmark ที่นี่เหมือนกับเรา ตัวตึกสูงขนาดที่ว่ากล้องของสมาร์ทโฟนปกติของเราเก็บได้ไม่หมดเลย ทีนี้ก็จะเห็นคนที่เขาขายเลนส์ให้เราสามารถถ่ายได้ ก็เลือกกันดี ๆ นะครับ ส่วนพวกผมไม่ได้ซื้อเพราะใช้กล้องโทรศัพท์ของเพื่อนที่มีเลนส์พิเศษนี้ติดมากับเครื่องอยู่แล้วก็จะได้รูปประมาณนี้ ตึกจริงใหญ่กว่าในรูปมากนะครับ ต้องลองมาดูด้วยตาตัวเองครับ
             ถ่ายเสร็จก็เดินกันเข้าไปในตัวตึก ในตัวตึกก็จะเหมือนห้างทั่ว ๆ ไปไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้านหลังตึกก็จะมีสวนสาธารณะกับลานน้ำพุ คนก็เยอะใช่เล่นเลย
            หลังจากนั้นพวกผมก็ไปต่อกันที่ KL Tower นั่งรถไฟฟ้าKelana Jaya Line(สายสีชมพู)เหมือนเดิม จาก สถานี KLCC(KJ10) กลับมาลง Dang Wangi(KJ12) สถานีเดียวกับโรงแรม และเดินต่อกันอีกสักพักใหญ่ๆโดยต้องเดินอ้อม KL Eco Park ที่อยู่ด้านขวาของเราตลอดทาง
             และนี่คือตึก KL Tower จากระยะที่เราไม่ได้เดินไปต่อกันแล้ว เพราะฟ้าเริ่มมืด แถมมีฝนตกพรำๆ เหมือนไล่เรากลับด้วย
            พวกเราเลยตัดสินใจที่จะตรงไปตลาด Night Market ที่ Jalan Tuanku Abdul Rahman กันเลย ว่าจะฝากท้องมื้อเย็นกันไว้ที่นี่ โดยเดินกลับมาขึ้นที่สถานี Bukit Nanas(MR8) ของรถไฟฟ้าKL Monorail Line(สีเขียวอ่อน) เยื้องๆกับสถานี Dang Wangi(KJ12) และไปลงที่ สถานี Medan Tuanku(MR9) แล้วเดินต่ออีกหน่อยก็จะถึงที่หมายปลายทางของเรา ตลาดนี้มีเฉพาะช่วงนั้นพอดิบพอดี เนื่องจาก เป็นเทศกาล ณ ตอนนั้น เราจึงได้เห็นตลาดของเขาที่เป็นแบบท้องถิ่นเลยครับ ให้อารมณ์แบบตลาดนัดบ้านเราเลย
            แล้วต่อไปก็เป็นของกินต่าง ๆ ที่พวกผมไปถลุงกันมา ไม่ว่าจะเป็น เคบับ บาบีคิว (เป็นเนื้อสัตว์นำมาเสียบไม้ ซึ่งอร่อยมาก ๆ ) น้ำอโวคาโด หมึกชุบแป้งทอด ทุกอย่างที่ได้ลองกินลองชิมไปอร่อยมาก ๆ เว้นแต่หมึกชุบแป้งทอดเสียบไม้ที่หน้าตาน่ากินมาก ๆ แต่ว่าไม่ได้อร่อยเหมือนที่คิด อาจจะเป็นเพราะตัวผงปรุงรสไม่ถูกปากเราสักเท่าไหร่นัก และก็ทอดทิ้งไว้นานจนเย็นจนแป้งไม่กรอบ
            มื้อนี้ก็เสียกันเยอะหน่อยเพราะเป็นของกินเล่นสะส่วนมากประมาณ 30 RM หลังจากหมดทริปวันแรกเราก็ปล่อยกันฟรีสไตล์พวกผมก็ได้แยกกันไปเป็น 2 กลุ่ม อีกกลุ่มกลับโรงแรมเก็บแรงไว้เจอวันต่อไป แต่กลุ่มพวกผมยังไม่จบก็ไปเดินเที่ยวกันต่อที่ Low Yat ​Plaza​ และ Pavilion​ โดยเรานั่งรถไฟฟ้าKL Monorail Line(สีเขียวอ่อน) ไปลงสถานี Imbi(MR5) และเดินไปอีกสักหน่อยก็จะถึง Low​ Yat​ Plaza​ ที่นี่เป็นห้างITคล้ายๆพันทิปบ้านเรา และเดินเลยไปอีกหน่อย ก็จะเป็น Pavilion​ อารมณ์ก็คล้ายๆย่านสยามในบ้านเรา มีรถติด มีวัยรุ่นมาเดินกันผลุกผล่านหลังจากเดินมาทั้งวันเราก็กลับไปเตรียมพร้อมกับวันต่อไปเหมือนเพื่อนๆ จบการเดินทางวันนี้ครับ
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวต่างประเทศ มาเลเซีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่