รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 12 สายลมแห่งโชคชะตา

                                                                          รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 12 สายลมแห่งโชคชะตา



ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
.............................................................................................................

ธานีกับบัวซอนกำลังช่วยกันเตรียมอาหารอยู่ในครัว  ส่วนไบร์นี่ขับรถไปยังเมือง Supetar ตั้งแต่ตอนสาย เพื่อไปรับเรย์และแขกพิเศษที่กำลังนั่งเรือข้ามฟากมา  แขกพิเศษไม่ใช่ใครที่ไหน คือ พ่อ แม่ และน้องชายของเรย์ นั่นเอง

"เมื่อคืนคงแชทกับหนุ่มๆจนสว่างซินะ ถึงได้ตื่นเอาป่านนี้ ยังดีที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ไม่เดินลงมาทั้งชุดนอนให้อายแขก" ธานีบ่นลูกชาย 

เขากับภรรยาเลี้ยงลูกด้วยการยึดความสุขของลูกเป็นที่ตั้ง ใช้เหตุผลว่ากันตามผิดถูก ยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของลูก รวมถึงรสนิยมทางเพศ ไม่บังคับกดดันให้ลูกต้องเดินตามทางที่พ่อแม่คาดหวังเอาไว้ ขอแค่ลูกเป็นคนดีของสังคม รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง เพียงแค่นี้คนเป็นพ่อแม่ก็ภูมิใจแล้ว

"ใครจะกล้าทำแบบนั้นได้ลงคอ เสียชื่อคนบ้านไกลลำเนาหมด กลิ่นหอมโชยไปทั้งบ้าน ชักหิวแล้วซิ มีอะไรกินบ้างครับ?" กลิ่นอาหารลอยเข้าจมูกมาร์ตี้

"แขกยังไม่ทันมาถึงเลย เจ้าของบ้านหิวซะแล้ว เอานี่ไปกินรองท้องก่อน" บัวซอนตักขนมจีบใส่จานใบเล็กยื่นให้ลูกชาย

"เฟอร์รี่มาถึง Supetar เที่ยงสี่สิบห้า กว่าจะขับรถมาถึงบ้านคงเกือบบ่าย2  พวกเขามากันแค่ 3คนเอง แต่ดูพ่อกับแม่จัดโต๊ะเตรียมอาหารเหมือนยกกันมาทั้งครอบครัวใหญ่" มาร์ตี้เห็นอาหารคาว-หวาน วางจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เต็มโต๊ะ

"แขกพิเศษมาทั้งที แม่เขากำชับนักหนาต้องตามสโลแกน..  เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" ธานีหันไปหยอกล้อภรรยา

"สุดท้ายก็มาลงที่แม่อีกตามเคยนะ" บัวซอนค้อนสามี

"เห็นเจ้าเรย์บอกว่าน้องชายเขาเป็นเหมือนเรา แถมยังหล่อพอๆกับเจ้าเรย์อีก ขนาดคนละแม่ หน้าตานี่เหมือนกันมาก สงสัยเชื้อพ่อคงแรง ถ้าเราและน้องชายเจ้าเรย์เกิดชอบพอกันขึ้นมาอีกคู่ คงดีไม่น้อย คราวนี้คงได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแน่นปึ้ก ป๊อกเก้าสองเด้ง" ธานีพูดกับลูกชายด้วยอารมณ์ขัน

"พ่อก็พูดซะ คิดจะเป็นพ่อสื่อหรือไง พี่เรย์เคยเอารูปน้องชายให้ดูแล้ว ก็หล่อดีนะ แต่.. ออร่าสาวกระจาย บางทีรูปก็อาจหลอกตาได้ ต้องดูตัวจริงก่อนว่าเหมือนในรูปหรือเปล่า" 

"จะยุให้ลูกแก่แดดแก่ลมไปถึงไหน พ่อนี่คิดอะไรแปลกๆ" บัวซอนเอามือลูบศรีษะลูกชายสุดที่รัก

เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นจากกำแพงรั้วบ้าน ธานีเรียกภรรยาและลูกชายให้มารอรับแขกพิเศษตรงประตูหน้าบ้าน

เรย์พาแขกพิเศษเข้ามาแนะนำ "นี่..  น้าทอมกับน้าซอนย่า และนี่.. พ่อแม่ผมเองครับ"

ทันทีที่เห็นหน้าบิดามารดาของเรย์ บัวซอนถึงกับช็อคไปชั่วขณะ ขนแขนลุกซู่ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ยกเว้นฝ่ามือทั้งสองที่เย็นยะเยือก มีเหงื่อไหลออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่ากาลเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เธอยังจดจำใบหน้าของบุคคลทั้ง2 ได้ดี 
ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอเช่นนี้? ช่วงเวลาที่เรย์ได้เข้ามาในชีวิตของลูกสาว เธอไม่เคยสนใจที่จะถามเลยด้วยซ้ำว่า เขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แม้แต่นามสกุลของเขา เธอก็ไม่เคยคิดที่จะอยากรู้ เพียงเธอเห็นแค่เขาเป็นเด็กดี ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ และที่สำคัญคือ เขารักลูกสาวเธอมาก เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคุณสมบัติที่จะเข้ามาเป็นลูกเขย
ความเผลอเรอดังกล่าวกำลังย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจเธอขณะนี้ เธอแอบภาวนาในใจ ขอให้สิ่งที่เธอเห็นเป็นแค่ ภาพลวงตา หรือไม่ก็คนหน้าเหมือนกัน

เช่นเดียวกับบิดาของเรย์ ก็รู้สึกตกใจไม่ต่างจากบัวซอนเลย ตลอดเวลาเกือบ 30ปี ใจของเขาไม่เคยลืมเธอได้ เขาพยายามตามหาเธอแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆเกี่ยวกับเธอเลย ถึงกระนั้นเขายังคงเฝ้ารอคอยเธออย่างมีความหวัง มาวันนี้สายลมแห่งโชคชะตาได้พัดพาเขามาพบเจอเธออีกครั้ง ณ ดินแดนไกลโพ้นแห่งนี้ 

"ผม..  เดชศักดา เรียกว่า เดช ก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณทอมกับคุณซอนย่า" เดชศักดาในวัย 54ปี แนะนำตัวเอง แม้อายุจะล่วงเลยตามกาลเวลา แต่หน้าตาความหล่อเหลาของเขาไม่ได้ผันแปรตามกาลเวลาเลย เขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศยั่วยวนให้ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่หลงไหลอยู่เสมอ
สายตาของเขาเพ่งมองมาที่บัวซอน กาลเวลาไม่สามารถทำลายความสาวของเธอได้เลย แม้วัยของเธอจะเข้าใกล้เลข5 แล้ว แต่เธอก็ยังดูงดงามมีเสน่ห์เหมือนเดิม

"ดิฉัน.. สายนที หรือ น้ำ ยินดีที่ได้รู้จักคุณทั้งสองนะคะ ได้ยินทะเลพูดถึงคุณทั้งสองให้ฟังอยู่บ่อยๆ ดิฉันกับพี่เดชต้องขอบคุณมากๆ ที่คุณทั้งสองรักและเมตตาทะเล"  มารดาของเรย์ วัย 52ปี รู้สึกแปลกใจที่บัวซอนจ้องหน้าเธอ ราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน จากนั้นอีกไม่กี่วินาทีบัวซอนก็มีท่าทีเหมือนพยายามหลบสายตาเธอ เวลาที่สนทนากัน

เมื่อได้ยินสายนทีแนะนำตัวเอง บัวซอนรู้สึกมึนงงกับชื่อและอากัปกิริยาที่สายนทีแสดงต่อเธอ ผู้หญิงคนนี้น่าจะจำเธอได้ดี แต่ทำไมถึงทำราวกับว่าไม่เคยพบเห็น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน?

หลังจากแนะนำผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันแล้ว เรย์จึงแนะนำตัว "สายเมฆ" หรือ "เมฆ" น้องชายต่างมารดา ให้สมาชิกครอบครัวไกลลำเนารู้จัก

มาร์ตี้มองดูสายเมฆอย่างไม่วางสายตา หน้าตาของสายเมฆดูหล่อเหลาคล้ายกับเรย์ ต่างกันตรงที่รูปร่างของสายเมฆดูผอมกว่า ผิวขาวเนียนกว่า มีความเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์มากกว่า ดูจากรสนิยมการแต่งตัวที่เข้ากับบุคลิกลักษณะ แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัวจริงของสายเมฆดูดีและมาดแมนมากกว่าในรูปที่มาร์ตี้เคยเห็น

สายเมฆเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาประทับใจในรูปร่างหน้าตา โดยเฉพาะรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของมาร์ตี้

"เอากระเป๋าไปเก็บไว้บนห้องก่อนนะครับ เดี๋ยวจะได้มาทานข้าวด้วยกัน ทำตัวตามสบายนะครับ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจ อีกไม่นานพวกเราก็จะมาเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว" ธานีกล่าวต้อนรับด้วยความยินดี

บ้านของครอบครัว "ไกลลำเนา" เป็นบ้าน 3ชั้น สร้างด้วยหินแกรนิตฉาบปูนซีเมนต์ ตั้งอยู่บนเนินเขาห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 2กิโลเมตร 
ชั้นแรกเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นดูทีวีสำหรับสมาชิกในครอบครัว ห้องน้ำสำหรับแขก  หลังบ้านเป็นห้องครัว โดยมีห้องรับประทานอาหารอยู่ตรงระเบียงหลังบ้าน  ชั้น2 เป็นห้องพักรับรองแขกแบบห้องสูท 2ห้อง พร้อมระเบียง  ชั้น3 เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกในครอบครัวแบบห้องสูท 3ห้อง พร้อมระเบียง
ระเบียงห้องนอนทุกห้องทุกชั้นหันหน้าเข้าหาวิวทะเล


"ห้องนี้ของคุณพ่อคุณแม่นะคะ เป็นห้องที่เห็นวิวชัดที่สุดในชั้นนี้" ไบร์นี่เปิดประตูให้ว่าที่พ่อแม่สามี

"ส่วนเมฆ พักห้องเดียวกับพี่ หรือว่าจะพักห้องมาร์ตี้?" เรย์แซวน้องชาย

"ยังไงต้องพักห้องพี่ทะเลอยู่แล้ว ถ้าพักอีกห้องหนึ่ง ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องจะอนุญาตหรือเปล่า?" สายเมฆหยอดมุขเล่นๆลองเชิงมาร์ตี้

"ยินดีอย่างยิ่งครับ พูดแล้วต้องทำตามที่พูดนะ" มาร์ตี้พูดทีเล่นทีจริง ทำเอาสายเมฆหน้าแดงจนเก็บอาการไม่อยู่

"พักห้องพี่ดีแล้ว ขืนไปพักห้องมาร์ตี้ เดี๋ยวท้องขึ้นมา แล้วจะแย่งซีนงานแต่งพี่เปล่าๆ งานแต่งพี่ต้องเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ห้ามใครมาแย่งซีนเด็ดขาด" เรย์ยังไม่หยุดเล่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่