[CR] เที่ยวซาปา-ฮานอย งบหลักพันวิวหลักล้าน 4วัน3คืน

                    สวัสดีค่ะ กระทู้นี้นะเราก็จะมีรีวิว การไปเทึ่ยวเวียดนามของพวกเราชาวแก๊งกันนะคะ พวกเราไปด้วยกัน2เมืองคือ sapa และ hanoi ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของเวียดนาม
                   เริ่มแรกเลย เราบินกันด้วยสายการบิน Thai lion air ซึ่งหาซื้อตั๋วไป-กลับ มาได้ในราคาประมาณ 3100 บาทโดยรวมก็โอเค อยู่ในมาตรฐานของเครื่องบิน ระดับ low class
เอาล่ะ มาเริ่มเดินทางกันโลดดดด
หลังจากใช้เวลาบินมา 1:45 นาที เราก็มาถึงสนามบินนอยไบประเทศเวียดนามกันแล้วนะคะ ซึ่งสิ่งที่เราจะทำเป็นอย่างแรกนั่นก็คือหาซื้อซิมนั่นเองค่ะ เพราะ ชีวิตเราขาดเน็ตไม่ได้😂
โดยหลังออกมา ในสนามบินก็จะมีร้านขายซิมกันเกลื่อนเลยยย ทางเราก็เดินถามราคาทุกร้าน ส่วนใหญ่ราคาจะเท่าๆกันนะแต่ปริมาณเน็ตจะแตกต่างกันทุกคนต้องเลือกดีๆนะ ระวังจะโดนแม่ค้าหลอก!
ซึ่งเราเลือกร้านที่มีปริมาณเน็ตที่มากกว่าร้านอื่นๆนะ ราคาก็คือ 200000 vnd หรือประมาณ 270 บาท
หลังจากที่เราเลือกซิมกันได้แล้วนั้นเราก็มารอรถบัสเพื่อที่จะไปsapa ที่ด้านหน้าสนามบินเลยอยากจะบอกว่ามันสะดวกมากๆทุกคนไม่ต้องไปขึ้นที่ในตัวเมือง อันนี้เราจองออนไลน์เว็บนี้ไปนะที่เว็บนี้ มันดีมากทุกคนแนะนำ
https://a21tours.com/ticket/hanoi-airport-sapa-bus/?gclid=EAIaIQobChMIgp7c0bSR5QIVFomPCh0Jag2FEAAYASAAEgIg-fD_BwE#booking และจะมีคนคอยเมลติดต่อกับเราว่าเราถึงไหนแล้ว มารอตรงนี้นะ อะไรประมาณนี้ แล้วระหว่างรอก็คือเจอคนไทยเยอะมาก ที่มารอรถบัสเหมือนกัน ราคาอยู่ที่คนละ 12 USD
รอไม่นานเราก็ได้ขึ้นมารถบัส รถบัสก็จะเป็นรถบัสนอนค่อยข้างสะดวกสบายแล้วก เราขึ้นรถบัสรอบ 23:00 ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 6ชม. เพื่อเดินทางไปซาปาซึ่งในรถเนี่ยก็จะมี น้ำดื่มแจกฟรี 


วันที่ 18 ตุลาคม
         เช้าวันที่ 2 เรามาถึงที่ซาปา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เราขึ้นรถนอนมาถึงที่เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เราได้เข้าเช็คอินที่พักที่เราได้ทำการจองไว้ ที่พักมีชื่อว่า “Sapa Signature Inn Hostel” เป็นที่พักที่มีราคาถูกมาก ถ้าเทียบกับที่ไทยแล้ว เพราะราคาเพียงคืนละ 145 บาท/คนเอง นอกจากราคาจะถูกแล้วยังเป็นที่พักที่เตียงอาจจะไม่นุ่มมาก แต่ผ้าห่มคือฟินที่สุดแล้วกับอากาศของซาปาที่เป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็น แล้วต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นห้องรวม ถึงจะเป็นห้องรวม แต่ก็ยังมีโซนแบ่งกันชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เก็บของกันเสร็จแล้ว เราก็ออกไปหาอาหารเช้ารับประทานกัน เป็นอาหารมื้อแรกที่ซาปา พวกเรารับประทานเฝอ เพราะอากาศหนาวๆต้องซดน้ำซุปร้อนๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเฝอเป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศเวียดนามเลย ใครมาก็ต้องลิ้มลองรสชาติ เฝอมีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวน้ำใสของไทย แต่ต่างกันที่เครื่องเคียงและเส้นเฝอจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก
อิ่มท้องกันแล้ว เราก็ออกไปเดินย่อยกันที่ Sapa Lake เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบฝรั่งเศส ด้วยว่าครั้งนึงในอดีตซาปาถูกสร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสจากการที่ถูกปกครอง ในยุคสมัยอาณานิคม เมื่อ พ.ศ. 2465 นับๆดูแล้วก็เกือบๆร้อยปีที่แล้วแน่ะ ขนาดเป็นเมืองที่อยู่บนภูเขาก็ยังมีทะเลสาบด้วย
ต่อมาเราจะมุ่งหน้ากันไปที่ ฟานซิปัน (Fansipan) ด้วยการเรียก Grab แท็กซี่ สำหรับใครที่จะมาที่นี่ก็ต้องเตรียมรับมือกับแท็กซี่ที่นี่ด้วย เพราะตกลงราคากันไว้อีกอย่าง แต่เมื่อถึงที่หมายกลับชาร์จราคาขึ้นเป็นเท่าตัวเลย ต้องดูดีๆอย่าให้เขาโกงราคาค่าโดยสารได้ ยิ่งถ้าเขาเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวด้วย ทุกอย่างก็จะชาร์จราคาขึ้นหมดเลย โดยฟานซิปัน (Fansipan) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม ระดับความสูงอยู่ที่ 3,143 เมตร มีฉายาว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” เดี๋ยวจะงงว่าอยู่เวียดนามแล้วเกี่ยวอะไรกับอินโดจีน อินโดจีนเป็นขอบเขตประเทศที่ประกอบด้วย เวียดนาม ลาว และกัมพูชา หมายความว่า ยอดเขาที่สูงที่สุดในขอบเขต 3 ประเทศนี้ ก็คือ ฟานซิปันที่อยู่ในเวียดนามนั่นเอง แต่ปัจจุบันอินโดจีน จะนับรวมประเทศในอาเซียนด้วย นั่นก็คือไทย พม่า มาเลเซีย และสิงคโปร์ กลับมาต่อที่เรื่องเที่ยวของเราดีกว่า การจะขึ้นยอดฟานซิปันได้ ต้องไปขึ้นกระเช้า Fansipan Legend ไป-กลับในราคา 770,000 VND ประมาณ 900 บาท ในระหว่างทางที่ขึ้นกระเช้าจะเห็นภูมิประเทศของซาปาได้อย่างชัดเจนเลยว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง จากนั้นขึ้นรถราง แล้วเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกไกลเลย บันไดก็มีความชันมาก กว่าจะขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของยอดเขาฟานซิปันเล่นเอาซะเหนื่อยเลย ถึงจะเหนื่อยแต่ก็คุ้มค่ากับตั๋วราคาหลักร้อยแต่วิวนี่หลักล้านเลย 
             
ที่สุดท้ายของวันนี้ที่ซาปา เราไปกันที่หมู่บ้าน Cat Cat Village อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ตอนแรกที่เห็นชื่อหมู่บ้านเป็นภาษาอังกฤษ ก็เอ๊ะงงๆ?นิดหน่อย หมู่บ้านแมว ต้องเป็นหมู่บ้านที่มีแมวเยอะงี้หรอ แต่จริงๆแล้ว ต้องอ่านออกเสียงว่า “กั๊ต กั๊ต” เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเขาเผ่าม้งที่อพยพมาจากประเทศจีน มีการทำเกษตรกรรมแบบขั้นบันได ก่อนจะเข้าชมที่นี่ต้องซื้อตั๋วด้วยนะ ราคา 70,000 VND เมื่อเข้าไปแล้วจะมีของของชาวบ้านมาวางขาย ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ชอบตรงที่ด้านล่างมีลำธาร น้ำตกด้วย เพื่อเป็นการได้สัมผัสวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองอย่างแท้จริง  เพื่อเพิ่มอรรถรสมากขึ้นเราก็ได้ใส่ชุดพื้นเมืองเป็นชาวม้ง
         ฟ้ามืดแล้ว หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน เราก็มาฝากท้องกันที่ร้านชาบู เป็นร้านชาบูเหมือนกับที่ไทย แต่ที่นี่มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี การทำบ่อเลี้ยงปลาแซลมอน จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เลยทำให้ซาปามีปลาแซลมอนกินยังไงล่ะ ซึ่งที่นี่ร้านแบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปเหมือนกัน ถ้ามาถึงซาปาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การมากินชาบูแซลมอนหม้อไฟนี่แหละ ทีเด็ดเลย 

วันที่ 20 ตุลาคม 2562
            เช้าวันที่ 3 เราขึ้นรถนอนเพื่อเดินทางไปยังฮานอย รถนอนที่เรานั่งตอนกลับเราได้จองผ่านเว็บไซต์  http://sapaethnic.com/sapa-tranportation/queen-cafe-vip-open-bus.html   ราคา 10USD ราคาถูกก็จริงแต่เราไม่แนะนำ เพราะเขาจอดรับคนท่องถิ่นตลอดทาง และเสียงก็ดังมากก
เราก็ใช้เวลา 5 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองฮานอย  เราก็มาเก็บกระเป๋ากันที่ Hanoi Backpack Hostel ซึ่งหนึ่งห้องนอนได้ 10 คน แต่ห้องน้ำที่นี้นั้นไม่ได้แยกชายหญิง และมีจำนวนน้อยมาก ทำให้เวลาเราใช้ก็จะลำบากกันหน่อย
จากนั้นเราก็เดินทางออกจากโรงแรมมายังโบสถ์เซนต์โจเซฟ  ซึ่งเป็นโบสถ์รูปแบบนีโอกอธิค มีต้นแบบเป็นวิหารนอทเทอร์กามในกรุงปารีส
โบสถ์นี้เป็นศูนย์รวมชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย  มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่มีลวดลายแกะสลัก และมีการผสมผสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นบ้านของเวียดนาม ภายในใช้กระจกสีตกแต่งเป็นภาพนักบุญต่างๆ
คนเยอะมากตอนที่เราไปมันเป็นวันอาทิตย์พอซึ่งเป็นวันที่คนที่นั้นเขาจะต้องเข้าโบสถ์กันเลยทำให้คนเยอะ
 
จากนั้นเราก็ไปเดินกันไปที่ตลาด 36 เฝอเฟือง เป็นย่านโบราณที่มีชื่อเสียงทางด้านงานหัตถกรรม และสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรุงฮานอย แม้ว่าจะมากไปด้วยความเก่าแก่แต่ถนนสายนี้กลับคึกคักไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่ต่างพร้อมใจกันมุ่งหน้ามาจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั้งของกิน จะมีตลาดกลางคืนเขาจะเปิดแค่วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น ดูๆไปแล้วมันก็เหมือนสำเพ็งบ้านเราอ่ะแหละ
และการข้ามถนนของที่นี้ก็คือเดินแล้วเดินเลยห้ามหยุดเด็ดขาด แต่เราก็ทึ่งกับความสามารถในการขับรถของคนเวียดนามมาก คนที่นี้ขับรถหลีกเลี่ยงกันเก่งมากกกแบบแถบไม่เกิดอุบัติเหตุเลย
เสร็จจากเดินตลาดกันเรียบร้อยเราก็ไปหาอะไรกินกันสักหน่อย พวกเราก็ไปนั่งกินที่ร้านอาหารข้างทางกัน เราก็สั่งอาหารกันมาหลายอย่างมากแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ที่พีคมากเลยก็คือเมนูที่เราสั่งกันมามีเมนูหนึ่งมีหนอนอยู่ในนั้นด้วย มันเป็นเมนูแนะนำของที่ร้านอาหารเวียดนามจะเห็นได้จากการที่ร้านตามทางก็จะมีคนสั่งเมนูนี้เหมือนๆกัน
เมนูข้างล่างนี้แหละที่มีหนอนด้วย ต้องลองดูๆ รสชาติก็จะแปลกๆหน่อย
หลักจากกินกันเสร็จแล้วพวกเราก็กลับที่พักกันและเข้านอนเพื่อเก็บแรงเอาไว้เที่ยวกันต่อพรุ่งนี้กัน
ชื่อสินค้า:   #ซาปา-ฮานอย #ท่องเที่ยว #เวียดนาม
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่