อยากทราบว่าคู่ที่คบกันแล้วตัดสินใจไม่จัดงานแต่งงาน เจอปัญหาอะไรกันบ้าง
รับมือกับคนรอบข้างยังไงบ้าง รู้สึกเสียใจไหมที่ตัดสินใจไม่จัดงานแต่งงาน
คำถามพวกนี้มันจะหมดไปตอนไหน หากมันไม่มีงานแต่งเกิดขึ้น
คือ ตอนนี้เหมือนโดนคนรอบตัวเป็นห่วงภาพลักษณ์มากกก ถึงขนาดวุ่นวาย จู้จี้ ยัดเยียดแนวคิดของตัวเองให้เราคิดดีๆ ว่าถ้าไม่แต่งงาน ภาพพจน์เราจะเสียเพราะเป็นผู้หญิง จะโดนสังคมนินทา ดูเป็นคนไม่มีราคา บางคนกล่าวหาไปถึงแฟนว่าไม่จริงใจ
เรากับแฟนคบกันมาตั้งแต่มหาลัย ปัจจุบันมีงานทำทั้งคู่ แฟนเก็บเงินแต่งงานใส่บัญชีแล้วเอามาให้เรา บอกว่าเป็นเงินค่าจัดงานแต่ง เค้าพร้อมแต่งแล้ว
เราก็ถามเขาไปว่าอยากจัดเพราะฝันอยากมีงานแต่ง หรือว่าเห็นแก่หน้าเรา หน้าครอบครัวเรา
เขาตอบว่า เห็นเราเป็นฝ่ายหญิง กลัวดูไม่ดี เป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงไง
เราจึงบอกเขาไปว่า เราเสียดายเงินที่เขาหามา เราอยากให้เขามีความสุขด้วย เลยแพลนว่าจะลางานแล้วไปเที่ยวยุโรปกัน
ส่วนเรื่องชีวิตคู่แบบตามกฎหมาย เราบอกเขาไปว่าจดทะเบียนกันเงียบๆ ก็พอ เขาก็โอเคค่ะ ส่วนทางครอบครัวเขาก็ตามใจเขา ทางครอบครัวเราก็ตามใจเรา
แต่เราค่อนข้างเบื่อที่จะมาบอกเรื่องพวกนี้กับสังคม เพื่อน ที่เอาแต่คอยบอกว่าถ้าเป็นตัวเองจะต้องแต่ง เราคิดสั้นไป งานมันจัดครั้งเดียว วันสำคัญของผู้หญิง จัดเถอะ บลาๆๆ
คนที่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มา รับมือกันยังไงบ้างคะ
กับบางคนเราก็ไม่อยากพูดแรงๆ แต่มันเหมือนต้องตอบคำถามซ้ำๆ ว่าทำไมไม่แต่ง ทำไมล่ะ ทำไมๆๆ ในทุกครั้งที่เขาถาม และเราพูดว่าเราจะไม่แต่ง
คล้ายกับว่าเรื่องที่เราตัดสินใจมันดูประหลาดมากในความคิดพวกเขา
คู่ที่ตัดสินใจไม่จัดงานแต่งงาน
รับมือกับคนรอบข้างยังไงบ้าง รู้สึกเสียใจไหมที่ตัดสินใจไม่จัดงานแต่งงาน
คำถามพวกนี้มันจะหมดไปตอนไหน หากมันไม่มีงานแต่งเกิดขึ้น
คือ ตอนนี้เหมือนโดนคนรอบตัวเป็นห่วงภาพลักษณ์มากกก ถึงขนาดวุ่นวาย จู้จี้ ยัดเยียดแนวคิดของตัวเองให้เราคิดดีๆ ว่าถ้าไม่แต่งงาน ภาพพจน์เราจะเสียเพราะเป็นผู้หญิง จะโดนสังคมนินทา ดูเป็นคนไม่มีราคา บางคนกล่าวหาไปถึงแฟนว่าไม่จริงใจ
เรากับแฟนคบกันมาตั้งแต่มหาลัย ปัจจุบันมีงานทำทั้งคู่ แฟนเก็บเงินแต่งงานใส่บัญชีแล้วเอามาให้เรา บอกว่าเป็นเงินค่าจัดงานแต่ง เค้าพร้อมแต่งแล้ว
เราก็ถามเขาไปว่าอยากจัดเพราะฝันอยากมีงานแต่ง หรือว่าเห็นแก่หน้าเรา หน้าครอบครัวเรา
เขาตอบว่า เห็นเราเป็นฝ่ายหญิง กลัวดูไม่ดี เป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงไง
เราจึงบอกเขาไปว่า เราเสียดายเงินที่เขาหามา เราอยากให้เขามีความสุขด้วย เลยแพลนว่าจะลางานแล้วไปเที่ยวยุโรปกัน
ส่วนเรื่องชีวิตคู่แบบตามกฎหมาย เราบอกเขาไปว่าจดทะเบียนกันเงียบๆ ก็พอ เขาก็โอเคค่ะ ส่วนทางครอบครัวเขาก็ตามใจเขา ทางครอบครัวเราก็ตามใจเรา
แต่เราค่อนข้างเบื่อที่จะมาบอกเรื่องพวกนี้กับสังคม เพื่อน ที่เอาแต่คอยบอกว่าถ้าเป็นตัวเองจะต้องแต่ง เราคิดสั้นไป งานมันจัดครั้งเดียว วันสำคัญของผู้หญิง จัดเถอะ บลาๆๆ
คนที่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มา รับมือกันยังไงบ้างคะ
กับบางคนเราก็ไม่อยากพูดแรงๆ แต่มันเหมือนต้องตอบคำถามซ้ำๆ ว่าทำไมไม่แต่ง ทำไมล่ะ ทำไมๆๆ ในทุกครั้งที่เขาถาม และเราพูดว่าเราจะไม่แต่ง
คล้ายกับว่าเรื่องที่เราตัดสินใจมันดูประหลาดมากในความคิดพวกเขา