สวัสดีครับ
นี่เป็นการเขียนประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของผม โดยที่ใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวในการถ่ายรูปทั้งหมด
ไปกันเลยยยยย
ผมเดินทางไปกับNokscoot เที่ยวบิน TR609-TR610 (อันนี้ขึ้นที่สุวรรณภูมิ) ของวันที่ 29/9/62-1/10/62
ไฟล์บิน 08.40 ถึง 12.10 และกลับ 15.25 ถึง 16.55
ผมซื้อตั๋วช่วงกลางเดือนสิงหา ได้มาในราคา 3192 จัดมาตอนช่วงโปรพอดี
ตื่นเต้นมากครับเดินทางคนเดียว
สำหรับใครที่ไม่ได้เลือกที่นั่งแนะนำให้มาก่อนเช็คอิน 3 ชมครับ แล้วเจ้าหน้าที่เขาจะถามเราว่าต้องการเลือกที่นั่งตรงไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ผมเลยรีบตอบเลยนั่งติดหน้าต่างครับ
แต่พอดีมีคนอินเดียเขาอยากนั่งติดหน้าต่างมาก ผมเลยยอมนั่งข้างนอก
บวกกับแดดแรงมากเลยไม่เป็นไรไว้ขากลับก็ได้
และแล้วเราก็มาถึงกันแล้วเย้ๆๆๆๆ
ระหว่างทางเดินก็เปลี่ยนซิมไปด้วย
ผมใช้ของAis2fly พอดีได้มาจากพี่ละก็ไปเติมเงินที่ais shop
ละก็เดินตรงมาเรื่อยๆตามป้าย ถ้าไม่มั่นใจก็ถามพนักงานได้เลย
ด่านตรวจคนเข้าเมืองสวยมากครับ และแนะนำให้กรอกใบเข้าเมืองบนเครื่องก่อนเลยนะครับ
ทางพนักงานบนเครื่องเขาจะแจกใบให้ ขอยืมปากกาได้ด้วยนะครับ
มีภาษาไทยด้วยย
ในที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตื่นเต้นมากเพราะคนเดียวด้วยบวกกับฟังมาบ้างอ่านมาบ้างเลยกลัวไปเอง
ตอนผมไปคนโล่งมาก เข้าช่องพนักงานชายเอเชียเป็นคนมีอายุหน่อย แกไม่ถามอะไรซักคำเลย
เอาPassportไปละจิ้มๆคอม อ่านๆละก็ประทับตราให้เบยยย
พอผ่านด่านตรวจออกมาก็เดินตามป้ายลงไปใต้ดินก็จะเจอกับสถานีรถไฟฟ้า
ผมใช้บัตรของEz-link ที่ได้มาจากพี่อีกแล้ว5555
ส่วนใครอยากจะซื้อก็มีAgentขายมากมาย หรือมาซื้อที่นี่ก็ได้สามาถเติมเงินผ่านเซเว่น ตู้ตามสถานี หรือร้านค้าต่างๆ สะดวกมากครับ
จะบอกว่าตอนมาถึงสถานีผมแอบงงไม่รู้ว่าทั้งสองฝั่งไปทางเดียวกันก็ยืนรอไปสิ
พอมาถึงสถานีTanah Merah
เราก็ต้องเปลี่ยนขวน มาอีกด้านเพื่อเข้าเมืองเพราะรถที่เรานั่งมามันจะกลับไปที่สถานบินนะครับ
ทริปของผมในวันนี้ก็จะนั่งไปร้านขนมนอกตัวเมืองค่อนข้างไกล แต่ผมชอบหาร้านต่างจากคนอื่นเลยต้องไปจัดครับ
ผมนั่งมาลงสถานี Chinese garden ละเดินไปอีกนิดก็จะถึงครับ
แต่ก่อนขนมก็ต้องกินข้าวก่อนหิวมาก แนะนำถ้ากินอะไรรองท้องที่สถานบินก่อนได้ ก็กินมาก่อนจะเข้าเมืองนะครับแอบไกล
ส่วนร้านนี้อยู่ในศูนย์อาหารของอาคารYuhua market & hawker centre
ชุดนี้10ดอล220บาท ปกติจะไม่มีปาตั้งโก๋ เจ้าของร้านใจดีเห็นเราดูงงว่าจะกินอะไรดีเลยแถมให้ด้วย
คำแรกที่กินคือแบบอร่อยมากกกกกก หรือหิวก็ไม่รู้รสชาติส่วนใหญ่จะออกเค็มๆมันนิดหน่อย
ผักนี่ดีเลยครับชอบ ดูเหมือนน้อยแต่กินหมดพุงจะแตก
บรรยากาศดีมากครับเหมือนโรงอาหารนักเรียนเลย
ละมาร้านที่เราตั้งใจมากันในวันนี้ Lee's confectionery
เป็นร้านขนมทำเองที่ผมไปเจอในเฟสบุ๊คดูน่ากินมาเลยจัดหน่อย
ผมสั่งช็อกโกแลตเย็น รสชาติไม่ได้เข้มหรืออ่อนไป เขาเสิร์ฟมาคู่กับปามิเย่หวานๆกรอบๆ
ละก็เค้กก้อนเล็กๆจำไม่ได้ละว่ารสอะไร55555 เนื้อนุ่มดีครับ
มาในส่วนของเค้กกันบ้างละ
ผมสั่งมูสเค้กกล้วยคาราเมลกับมูสน้ำผึ้งมอลต์
ทั้งสองเนื้อมูสเขาดีมากจริงๆครับ หวาน หอม เบา แต่ติดตรงฐานเค้กเนี่ยแหละครับ
แข็งไปหน่อย แต่รวมๆแล้วคุ้มค่าที่เดินทางมาไกล
ก่อนกลับก็ฝนตกหนักมาก ดีที่เอากระเป๋าสัมภาระมาด้วย
จัดการเปลี่ยนกางเกงกับรองเท้าแถวๆนั้นเลย
ชอบทางปั่นจักรยานติดธรรมชาติมาก
และแล้วเราก็มาถึงย่านที่พักของผม
Quarter capsule hostel จองผ่าน Agodaมาในราคา1282.80 สำหรับสองคืน
ที่นี่สามารถCheck-inได้ตอนบ่ายสาม ใครจะเอากระเป๋ามาฝากก่อนก็ได้ละค่อยกลับมาเช็คอิน
สำหรับใครถ้าจะนอนแคปซูลแนะนำให้เลือกเป็นคีย์การ์ดเก็บของปลอดภัย
แถมที่นี่มีกล้องวงจรปิดในห้องนอนอีกด้วยถือว่าปลอดภัยมากก
หลังจากอาบน้ำเก็บของก็ได้เวลาลุยช่วงเย็น
ผมเดินออกจากที่พักมาสถานีClark quay นั่งรถไปสถานี Bayfront
แล้วมาโผล่ที่Marina bay sandห้างสวยมากเดียวกลับมาเดินต่อ
ละเราก็มาถึงArt science museum ผมจองตั๋วผ่าน traveloka ที่หน้างานเลยราคา 343.14 ใช้ได้เฉพาะชั้นล่างชั้นบนเหมือนต้องจ่ายเพิ่ม
ละก็ไปฝากร่มไว้ที่รับฝากของตรงข้ามร้านกาแฟ
ข้างในก็จะมีหลากหลายโซนให้ได้ถ่ายรูปกัน กดกันรัวๆ
โซนปลาน่ารักมาก
เด็กๆชอบมาก
จะมีที่ให้นั่งพักละชมภาพสวยๆด้วย
แล้วก็มาถึงโซนไฮเลท์ที่ทุกคนจะมาถ่ายรูปเพื่อเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ลงโซเชียวกัน
สำหรับคนมาคนเดียวก็จะได้รูปประมาณนี้
แต่ด้วยความหน้าหนาเราเลยหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ด้วยการหาคนที่มาคนเดียวเหมือนกัน
คือนักท่องเที่ยวสาวจีนนั่นเอง ใจดีมากแถมพยายามถ่ายให้สวยที่สุดเพื่อจะเอาไปลงโซเชียวกันเลยทีเดียว
เสียดายไม่ได้ขอคอนแทคไว้ รีบทำเวลาไปหน่อย
ละเราก็มาเดินต่อที่Marina bay sand โซนนี้อยู่ฝั่งทางFood court
พอฝนซาอีกรอบก็มาที่Helix bridge กับท้องฟ้าที่เริ่มเปิด
Artscience museumด้านนอก
ในที่สุดตึกเรือก็ได้ถ่ายละก็เดินเรียบไปเรื่อยเพื่อไปถ่ายจุดอื่นต่อ
พอแสงจากดวงอาทิตย์น้อยลงแสงจากดวงไฟก็เพิ่มมากขึ้น
หาผู้โชคร้ายแถวนั้นหน่อยสิ สรุปใครเป็นผู้โชคร้ายกันแน่ เหมือนใส่หมวก55555
และแล้วเราก็มาถึงสิงค์โตพ่นน้ำาาาาาาาาาา
ใครไม่มาถ่ายนี่เหมือนมาไม่ถึง
มาถึงการแสดง Wonder full light&water spectacular รอบ2ทุ่ม จากเรือบนตึก แอบผิดหวังในวันนี้
เพราะเห็นคนอื่นแนะนำฝั่งนี้ แทบมองไม่เห็นน้ำพุ ไม่รู้ว่าปกติฝั่งนี้จะมีด้วยรึเปล่าเลยดูจบก็กลับห้องไปนอนร้องไห้55555
และนี่ก็คือวันแรกของการมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง รีบกลับไปนอนพรุ่งนี้ไปต่อUniversal singaporeกานนนนน
[CR] Singapore เดินทางคนเดียว แค่กล้องมือถือก็เอาอยู่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น