งานนิทรรศการศิลปะ Inspired Icon & Meow Muse (คนบันดาลใจ แมวบันดาลแรง)


วันนี้ผมขอพาท่านไปชมงานศิลปะที่น่าสนใจงานหนึ่ง  โดยเป็นงานจัดแสดงผลงาสนภาพวาดของศิลปินรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยศิลปินคนแรกเป็นอีกหนึ่งทายาทของ “ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ” จิตรกรฝีมือชั้นครู ผู้ถ่ายทอดศรัทธาแห่งศาสนาและพระมหากษัตริย์ได้ลึกซึ้งกินใจ  และศิลปินอีกท่านเป็นทายาทนักประพันธ์ “ประภัสสร เสวิกุล” ศิลปินแห่งชาติ ปี 2554 มังกรเปี่ยมคุณธรรมผู้เลื่องชื่อในวงวรรณกรรมไทย  เมื่อทายาทสองศิลปินดังจับมือรวมใจเปิดนิทรรศการภาพวาดคู่กัน  มันต้องมีอะไรทีน่าสนใจเป็นพิเศษแน่ๆ ครับ


ขอเชิญชมงานนิทรรศการภาพวาดคู่ Inspired Icon & Meow Muse (คนบันดาลใจ แมวบันดาลแรง)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ด้วยใจรักในศิลปะของทั้งคู่และแรงบันดาลใจที่ได้รับมาจากคุณพ่อศิลปินทั้งสองท่าน นำพาให้ทั้งคู่จับพู่กัน วาดภาพออกมาในสไตล์ของตนเอง ทำให้นิทรรศการครั้งนี้กลายเป็นงานคู่แบบ Duo Style ที่แตกต่างแต่มีความเหมือนในแง่ของการวาดสิ่งที่รักและให้แรงบันดาลใจในชีวิต
 
แรงบันดาลใจในผลงานของ ศราวดี วิษณุคำรณ Inspired Icon คือความชื่นชมและแรงบันดาลใจที่ได้รับจากเหล่าคนดัง และดารา ที่เลือกหยิบเอามาวาดเป็นภาพพอร์เทรตสไตล์ป๊อปอาร์ต สีสดใส ในสไตล์โมเดิร์นกราฟิกและมี Symbolic ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
 
แรงบันดาลใจในผลงานของ วรุตม์ชัย เสวิกุล Meow Muse คือความรักและหลงใหลแมว โดยหยิบเอาแมว 4ตัวที่เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวน้อยๆ ซึ่งตั้งชื่อตามศิลปินชื่อก้องโลกมาใส่เข้าไปในภาพวาดคลาสสิกของศิลปินเหล่านั้น ทั้ง ดาวินชี ฟรีด้า โมเนต์ และ คลิมต์ บวกกับแมวจรตัวแรกที่เลี้ยงมาก่อนอีก 1 ตัวชื่อหวานหวาน เกิดเป็นภาพวาดสไตล์ล้อศิลปิน หรือ Re-Creation
 
งานนิทรรศการคู่ครั้งนี้จึงเป็นงานที่รวมเอาความรัก แรงบันดาลใจและพลังบวกที่ทั้งคู่มีอยู่เต็มเปี่ยม ส่งผ่านไปให้ผู้ที่ได้พบเห็นผลงานชุดนี้ ในสภาวะสังคมที่หลายคนอาจจะเคร่งเครียด ทั้งคู่อยากให้ผู้ชมผลงานมีรอยยิ้มและมีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและทำความดีต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ เฉกเช่นเหล่าคนดังที่อยู่ในนิทรรศการครั้งนี้และแน่นอนว่าเฉกเช่นเจ้าแมวเหมียวที่ปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ รวมทั้งยังมีความสุขได้ง่ายๆ กับสิ่งเรียบง่ายในชีวิต



ไปรู้จักตัวตนของศิลปินกันดีกว่าครับ  ผมได้ทำการสัมภาษณ์ประวัติคร่าวๆ พอสังเขปของศิลปินทั้ง 2 ท่านเอาไว้แล้วครับ

ศราวดี วิษณุคำรณ  


ศราวดี วิษณุคำรณ  ชื่อเล่นว่า พี่รูป

-พี่รูปเป็นลูกสาวของศิลปินชูศักดิ์ วิษณุคำรณ จิตรกรฝีมือชั้นครู  ดังนั้นจะบอกว่าพี่รูปมีความเป็นศิลปินอยู่ในสายเลือดก็ได้  เพราะว่าเห็นคุณพ่อวาดภาพมาตั้งแต่จำความได้  แล้วตัวเองก็รู้สึกชอบงานศิลปะจึงอยากที่จะวาดรูปบ้าง แต่ก็วาดรูปคนละสไตล์กับคุณพ่อ  เพราะคุณพ่อเขียนภาพแบบจริงจังเป็นการวาดแนวอิมเพรสชันนิสต์ ในลักษณะงานที่เป็นไฟท์อาร์ต (Fine Arts)  ส่วนงานของลูกจะออกแนวกราฟฟิค

-พี่รูปเรียนจบมาจากเพาะช่าง  โดยจบมาทางด้านพาณิชย์ศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับงานโฆษณา  ดังนั้นผลงานจึงออกมาเป็นแนวของกราฟฟิค  ซึ่งพี่รูปชอบที่จะเขียนในลักษณะแบบนี้  รู้สึกชอบและมีความสุขที่จะเขียนภาพในลักษณะแบบนี้   

-พี่รูปเป็นคนที่ชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้ คลุกคลีอยู่กับงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก แต่อาจจะไม่ได้วาดรูปอะไรที่จริงจังมากนัก  จนกระทั่งปัจจุบันนี้หันมาวาดภาพแนวพอร์ตเทรตแบบกราฟฟิค โดยใช้เทคนิคสีอะคริลิคบนผืนผ้าใบ  โดยเมื่อวาดภาพพอร์ตเทรตของศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจแล้ว ในภาพพี่รูปจะวาดตัวการ์ตูนเล็กๆ ที่เปรียบแทนตัวตนของศิลปินผู้วาดอยู่ในภาพด้วย  คือพี่รูปรู้สึกว่าเมื่อประทับใครคนไหนพี่รูปก็อยากจะอยู่กับเขาด้วย  สำหรับตัวการ์ตูนที่วาดใส่ไว้จะเป็นตัวการ์ตูนที่เป็นดีไซน์ของพี่รูปเอง   แต่ถ้าเป็นรูปของอาจารย์หรือบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่  พี่รูปจะไม่มีตัวการ์ตูนพวกนี้ใส่ไว้  ถ้าเป็นดารานักแสดงที่พี่รูปชื่นชอบก็จะมีตัวการ์ตูนใส่ไว้ในภาพด้วยเสมอ

-ภาพวาดทุกภาพเขียนด้วยมือหมดเลย  โดยพี่รูปดูจากรูปต้นแบบแล้วตัดแสงเงาออกมาเป็น 3 สีคือ ขาว , เทา และดำ  โดยจะวาดเล่นเฉดตามแสงเงาที่เห็น  โดยพื้นแบล็คกราวน์(พื้น)ของภาพจะเป็นภาพสีส่วนภาพพอร์ตเทรตตัวคนจะเป็นสีขาว , เท่า และดำ เท่านั้น  โดยเทคนิคการวาดในลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของพี่รูปเลย  จริงๆ แล้วพี่รูปเพิ่งเริ่มเขียนภาพในแนวนี้มาไม่นาน  คือก่อนหน้านี้พี่รูปจะเขียนงานแนวแอบสแตรกและเซมิแอบสแตรก  คือเป็นภาพตัวการ์ตูนสีสดๆ ซึ่งก็เป็นที่ชื่นชอบอยู่เช่นกัน  แต่พอพี่รูปเปลี่ยนมาเขียนงานแนวพอร์ตเทรตแบบกราฟิคแล้วรู้สึกว่าชอบแบบหลังนี้มากกว่า  หลังจากนี้คิดว่าจะพยายามเขียนงานแนวนี้ไปเรื่อยๆ คือแต่ละภาพที่พี่รูปเขียนนั้นจะมีแรงบันดาลใจมาจากคนที่เป็นต้นแบบด้วย

-ปัจจุบันนี้พี่รูปถือได้ว่าอยู่ในวงการศิลปะอย่างเต็มตัว  คือพี่รูปเปิดบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ  โดยบริษัทของพี่รูปจะมีทีมงานที่รับทำงานศิลปะในเชิงพาณิชย์   อาทิเช่น รับทำรูปวาดติดผนังโรงแรม , ทำรูปภาพติดผนังโบสถ์ ฯลฯ โดยเป็นการทำแบบ Made to order  ตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ  รูปติดที่โถงล็อบบี้ต้องการภาพแนวไหน? เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปของสถานที่นั้นๆ เป็นต้น โดยรูปแบบการทำงานเป็นบริษัท มีทีมงานอาร์ตติสอยู่ประจำบริษัท  พี่รูปทำงานที่บริษัทนี้เป็นอาชีพหลัก   พอมีเวลาว่างส่วนตัวก็จะมาทำงานศิลปะที่ตัวเองชื่นชอบ โดยวาดรูปแนวพอร์ตเทรตแบบกราฟฟิคนี้  ถือว่าเป็นงานอดิเรกที่ไม่ใช่อาชีพหลักแต่ก็เป็นงานที่อยู่ในแวดวงงานศิลปะเช่นกัน

-สำหรับทำงานศิลปะที่เป็นการวาดรูปแนวพอร์ตเทรตแบบกราฟฟิคนี้  พี่รูปบอกว่าเท่าที่ทราบยังไม่มีใครวาดในแนวลักษณะแบบนี้เลย  ทุกวันนี้พี่รูปมีความสุขที่ได้ทำงานศิลปะโดยที่มีแรงบันดาลใจมาจากคนต้นแบบที่เป็นคนซึ่งเสียสละเพื่อคนอื่น หรือเป็นบุคคลสาธารณะที่น่าชื่นชม  ความเป็นตัวตนของคนต้นแบบนั้นส่งพลังมาให้แก่พี่รูปในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างมีความสุข




@@@@@@@@@


วรุตม์ชัย เสวิกุล  


วรุตม์ชัย เสวิกุล  ชื่อเล่นว่า น้องจะ

-น้องจะเพิ่งจะเริ่มต้นวาดรูปได้ประมาณ 4-5 ปีหลังจากที่คุณพ่อ(อาจารย์ประภัสสร เสวิกุล)เสียชีวิต  ก่อนหน้านั้นน้องจะวาดรูปแบบไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ โดยจะวาดรูปที่มีขนาดเล็กมากๆ เล็กกว่าภาพที่จัดแสดงไว้ในงานฯ นี้เยอะมากเลย   จนกระทั่งน้องจะไปเจอพี่ศิลปินท่านหนึ่งที่เขาไปสอนเด็กๆ วาดรูปที่อัมพวา  เป็นการสอนวาดภาพสีน้ำให้แก่เด็กๆ  ซึ่งงานนี้เพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเองมากขึ้น  คือน้องจะรู้สึกว่าตัวเองก็วาดงานศิลปะอย่างอื่นได้เช่นกันนอกจากที่เคยวาดเป็นสายเส้นอย่างเดียว 

-น้องจะเรียนจบทางด้านการท่องเที่ยว จากมหิดลอินเตอร์  เป็นคนที่รักศิลปะรักการวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก  หัดวาดรูปมาด้วยตัวเองตลอด  ก่อนหน้าที่จะมาทำงานเป็นศิลปินเต็มตัวน้องจะทำงานด้านการออกแบบกราฟฟิคงานอาร์ตเวิร์คและจัดหน้าหนังสือแปลให้แก่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง  มีวาดสติกเกอร์ไลน์ขายด้วย และทำงานด้านศิลปะในสเกลเล็กๆ มาก่อน 

-ค่อยๆ วาดโดยหาสไตล์ของตัวเองไปเรื่อยๆ โดยเริ่มต้นจากการวาดด้วยสีน้ำก่อน  แล้วก็เปลี่ยนมาวาดรูปด้วยหมึกจีน  จนกระทั่งสุดท้ายเปลี่ยนมาวาดรูปด้วยสีอะคริลิคอย่างที่เห็นนี้  ผลงานปัจจุบันที่สร้างสรรค์จะเป็นภาพวาดด้วยเทคนิคสีอะคลีลิกบนผืนผ้าใบด้วยการวาดหน้าตัวแบบเป็นแมว  คือลองวาดภาพหน้าแมวของตัวเองไปใส่ในภาพของศิลปินชื่อดังในชุดแรก  พอมีพี่ท่านหนึ่งเห็นแล้วเขาชอบเขาจึงแนะนำให้เราลองมาในสไตล์แบบนี้ดู  โดยตอนแรกจะเป็นรูปออริจินอลเลยแล้วใส่หน้าแมวเข้าไป  อย่างเช่นภาพโมนาลิซ่า  เวลาที่วาดก็เอาภาพจริงๆ ของโมนาลิซ่ามาวางเป็นต้นแบบในการวาด  พอถึงส่วนที่เป็นใบหน้าก็จะเอาหน้าแมวของตัวเองใส่เข้าไปแทนหน้าคน

-พอมาถึงช่วงหลังๆ จะเริ่มมีการผสมผสานมากขึ้น  อย่างเช่นภาพ LADY WITH PEARL EARRING  ที่เขียนโดยโยฮันเนิส เฟอร์เมร์ (จิตรกรที่เป็นชาวดัตช์) เอามาผสมกับงาน starry night (คนไทยรู้จักกันในนามว่าภาพ “ราตรีประดับดาว”) ของแวนโก๊ะ ในส่วนที่เป็นผ้าโพกหัว  เป็นต้น

-สำหรับงานของน้องจะ  อาจเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะภาพวาดสไตล์ล้อศิลปิน หรือ Re-Creation คือวาดภาพแล้วเอาหน้าแมวใส่เข้าไปในสไตล์ของตัวเอง  หรือจะเรียกว่าเอาภาพเก่ามาสร้างใหม่ก็ได้  ปัจจุบันน้องจะมีแมวเลี้ยงไว้ 5 ตัว  โดยทั้ง 5 ตัวนี้ถูกน้องจะจัดมาเป็นแบบสำหรับการวาดรูปแล้วทุกตัว  ใบหน้าแมวที่ปรากฏบนภาพวาดนั้นเป็นแมวของน้องจะที่มีตัวตนจริงๆ  ขอบอกว่าน้องจะเป็นศิลปินทาสแมวอย่างแท้จริงด้วย




งานนิทรรศการภาพวาดคู่ Inspired Icon & Meow Muse (คนบันดาลใจ แมวบันดาลแรง) จัดแสดงที่ ล้ง1919 ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน – วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา 17.30 น. 
 
ไปชมและไปให้กำลังใจศิลปินด้วยการตามไปเสพงานศิลป์ของเขาดีกว่าครับ 

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้  ขอให้ท่านมีความสุขมากๆ ครับ

พาพันขอบคุณพาพันชอบพาพันอาบน้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่