[แย่กว่าการไม่มี คือเคยได้มี] ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ผู้โชคร้ายจากนิยายชีวิตเรื่องนี้..คือฉัน

ยิ้มสวัสดี.. เรื่องที่ฉันจะเล่าต่อไป เป็นเรื่องจริงของฉันและครอบครัว ฉันเกิดมากับครอบครัวที่เหมือนจะดูอบอุ่น ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า มีพ่อ แม่ พี่สาว ฉันและยายเลี้ยงฉันมาตลอด ชีวิตที่น่าจะมีความสุขที่สุดคือชีวิตช่วงวัยอนุบาลค่ะ ได้อยู่บ้านกับยาย ส่วนพ่อและแม่ไปทำงาน พี่สาวก็ไปเรียนหนังสือ ทุกอย่างในบ้านดูราบรื่นเป็นปกติทั่วไป แต่แล้วไม่นานเรื่องที่จะทำให้ครอบครัวเป็นไม่เป็นปกติอีกต่อไปก็เกิดขึ้นค่ะ
หลิ่วตาจำได้ว่าตอนนั้นฉันอยู่ในวัยเรียนประถม พี่สาวของฉันต้องการเรียนหนังสือในระดับที่สูงในขั้นต่อไป ซึ่งต้องมีเงินสำรองพอสมควร แต่ก็ไม่เกินความสามารถของพ่อแม่ที่จะหาให้ลูกได้ ที่บ้านเริ่มเป็นหนี้ค่ะ เพราะพ่อแม่ไปยืมเงินเขามาเพื่อให้พี่สาวได้เรียนตามที่ได้ตั้งใจไว้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไรมากเพราะพ่อแม่ก็สามารถทำงานเพื่อผ่อนชำระหนี้ไปเรื่อยๆได้ เพียงท่านหวังขอให้ลูกเรียนจบสมกับความตั้งใจและความเหนื่อยของพ่อแม่ สุดท้าย..พี่สาวฉันเรียนไม่จบค่ะ มีแฟนแล้วท้อง ตอนนั้นพ่อกับแม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เพราะทุกอย่างมันยังไม่พร้อม พ่อของฉันก็โกรธพี่สาวมาก แต่ถึงแม้จะโกรธแค่ไหนความเป็นพ่อก็ให้ทางฝั่งผู้ชายมาสู่ขอทำพิธีแต่งงานตามประเพณี หลังจากนั้นไม่กี่เดือนพี่สาวก็คลอดหลานของฉัน หลานฉันเป็นผู้ชาย พ่อของฉันที่โกรธพี่สาวพอได้เห็นหน้าหลานก็หลงรักหลานมากๆเลยค่ะ เหตุการณ์หลังจากที่หลานชายเกิดได้ไม่นานคือแฟนของพี่สาวก็ติดคุกเพราะติดยาเสพติดค่ะ
..........หลังจากนั้นแม่ของฉันก็ติดเหล้าหนักมากๆจนในที่สุดก็ต้องได้ออกจากงานโรงงานที่ทำ และมารับจ้างทั่วๆไปตามแถวบ้าน ได้เงินมาเท่าไหร่ก็กินเหล้าจนหมด พอไม่มีเงินที่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละวันก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม เมื่อติดเหล้ามากขึ้นความรับผิดชอบก็น้อยลง เป็นหนี้แล้วไม่ใช่ พ่อของฉันซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวก็ต้องทำงานหนักมากเพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและใช้หนี้แทนแม่ ที่บอกว่าพ่อทำงานหนักมันหนักมากๆจริงๆค่ะ มีเหตุการณ์นึงที่ฉันสะเทือนใจมาก พ่อไปทำงานรับจ้างตัดอ้อย คือพ่อจะออกตัดอ้อยตั้งแต่ตี 3-4 เพราะพ่อบอกว่าเช้าๆมันยังไม่ร้อน จะได้อ้อยหลายๆมัด บ่ายๆมามันจะร้อนมากทำให้เราเพลียและทำงานได้ช้าลง ทุกครั้งพอเลิกงานเย็นๆพ่อก็ต้องกลับบ้านแล้ว แต่วันนั้นเวลาราวๆ2 ทุ่มแล้ว พ่อยังไม่กลับ ฉันเลยอดเป็นห่วงไม่ไหวเลยขับรถมอไซต์ไปดูพ่อที่ไร่อ้อยที่พ่อไปรับจ้าง ภาพที่เห็นคือพ่อนอนสลบอยู่บนพื้นดินของร่องอ้อยเลยค่ะ ฉันตกใจมากพร้อมกับน้ำตาไหล ใจไม่ดีแล้วตอนนั้น สักพักพ่อก็ฟื้นแล้วบอกว่าพ่อไม่ได้เป็นไร พ่อแค่นอนพักเฉยๆ แต่สีหน้าของพ่อมันดูเหนื่อยล้าเหลือเกินค่ะ ทำงานกลับมาเหนื่อยๆกลับบ้านไปแทนที่จะได้พักอย่างมีความสุข แต่ต้องมาเห็นสภาพแม่ทีเอาแต่เมาเหล้าทุกวัน และการติดเหล้าของแม่นี้เป็นสาเหตุทำให้พ่อและแม่ต้องทะเลาะกันทุกวัน มีปากเสียงกันในทุกๆวัน แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกันนะคะ แต่บางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นจะเลิกกัน ด้วยความเป็นลูกก็ทุกข์ใจมากๆค่ะ ทั้งอยากให้แม่เลิกเหล้า ทั้งสงสารพ่อที่ต้องทำงานหนักมากๆ พ่อต้องเสียสละขายรถมอไซต์คันเก่งของพ่อ ขายวัวทั้งคอกที่พ่อเลี้ยงมานานเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ทั้งหมดที่ไปยืมให้พี่สาวเรียนและที่แม่ไปแอบยืมมาโดยไม่ได้บอกให้พ่อรู้ พ่อให้อภัยทุกคนค่ะ พ่อให้ทุกอย่างแล้ว ฉันรู้สึกถึงความรักของพ่อที่มีให้กับครอบครัวและฉันเพราะถึงแม้ครอบครัวจะลำบากขนาดไหน พ่อไม่เคยปล่อยให้ฉันลำบากกายเลยแม้แต่น้อย บางทีฉันก็จะไปช่วยพ่อทำงาน แต่พ่อก็ให้ทำในส่วนที่ไม่หนักมากเหมือนพ่อ และไม่เคยที่จะปล่อยให้ฉันอดเลย พ่อเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ขาด...
ไม่เอาไม่พูด ชีวิตเริ่มดำเนินมาถึงช่วงวัยเรียนมัธยมค่ะ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี พ่อพาไปสมัครเรียนและสอบเข้าเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนในบ้านเภอแถวบ้าน ทุกอย่างก็เป็นไปเรื่อยๆค่ะ แต่จะมีเรื่องเดิมๆเกิดขึ้นมาในแต่ละวัน หลักๆที่เป็นเหตุทำให้ทุกข์ใจคือแม่ไม่หยุดกินเหล้า และไม่หยุดสร้างหนี้ ทำให้ปัญหาเดิมๆมันกลับมา วนๆอยู่แบบนี้ ฉันจำได้ว่าตอนั้นฉันเรียนมัธยมต้นถึง ม.2 ได้ไม่นานนัก พ่อก็ต้องไปหาทำงานต่างจังหวัดค่ะ เพราะงานแถวบ้านไม่ค่อยมีแล้ว ตอนไปพ่อมีเงินติดตัวไปไม่กี่ร้อย ฉันเลยเอาเงินในออมสินทั้งหมดที่ฉันมีให้พ่อติดตัวไปด้วย แต่พ่อก็ไม่เอาบอกให้เก็บไว้ ถึงแม้ในใจจะไม่อยากให้พ่อไปแค่ไหนก็ต้องเข้มแข็ง เพราะต้องเข้าใจว่าพ่อไปหาเงินเลี้ยงครอบครัว เทศกาลครั้งนึงพ่อถึงจะได้กลับมา พ่อไปทำงานเป็น รปภ.ของบริษัทของหนึ่งที่จังหวัดชลบุรีค่ะ ในทุกๆวันพ่อจะโทรหาฉันวันละ 2-3 ครั้ง และจะส่งเงินมาให้ไม่เคยขาด แล้วยังบอกอีกว่าถ้าไม่พอก็บอกพ่อ (เรื่องประหยัดเราจะไม่ค่อยพูดกันอยู่แล้ว เพราะฉันมีนิสัยประหยัดมาตั้งแต่เด็กๆพ่อเลยวางใจให้ฉันดูแลเงินและค่าใช้จ่ายในครอบครัวแทนพ่อ) พ่อทำงานเก็บเงินจนได้รถมอร์ไซต์คันใหม่ไว้ขี่ไปทำงานแทนรถจักรยาน ตอนนั้นถ้าตัดเรื่องที่แม่กินเหล้าออกไปได้ ชีวิตก็ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากเลยค่ะ แต่ฉันไม่เคยตัดมันออกไปได้เลย ตั้งแต่แม่ติดเหล้าอย่างหนัก พอไปรับจ้างมาได้ก็จะไปซื้อแต่เหล้า ตั้งแต่เรียนมัธยมก็จำได้ว่าแม่ให้เงินแทบจะนับครั้งได้ เวลาพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านแม่ก็จะเมาแบบนี้เสมอ ใช่ค่ะฉันอายเพื่อน เวลามีประชุมผู้ปกครองเพื่อแจ้งผลการเรียนให้ทราบที่โรงเรียน แม่ก็ต้องไป เพราะพ่อทำงานอยู่ไกล แทนที่แม่จะหยุดกินสักวันนึง แต่แม่ก็ทำไม่ได้ค่ะ ก็ไปประชุมแบบเมาๆ ฉันพยายามทุกวิธีที่จะให้แม่เลิกเหล้า ทั้งพูด ทั้งร้องไห้ ทั้งขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญทุกครั้งก็ขอให้ช่วยดลใจให้แม่เลิกเหล้า แต่เปล่าประโยชน์ทุกอย่างค่ะ มันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนพ่อกลับมาบ้านช่วงเทศกาลก็ไม่มีความสุขกันหรอกค่ะ เหมือนกับมาทะเลาะกับแม่มากกว่า บางทีฉันนั่งทำการบ้านอยู่ก็ต้องถูกแม่ก่อกวนจากอาการเมาเหล้า (แต่ขอไม่เล่านะคะ ว่าโดนมาบ้าง) มาถึงจุดนี้ก็อยากบอกแม่นะ ไม่ว่าแม่จะเมาหนักแค่ไหน แม่เคยทำอะไรหนูมาบ้าง หนูไม่เคยโกรธแม่เลยนะ เพราะหนูรู้ว่าที่แม่ทำเพราะอาการเมา ถ้าแม่ไม่เมาแม่คงไม่ทำกับหนู แต่หนูแค่น้อยใจว่าทำไมแม่ต้องเป็นแบบนี้ เพราะครอบครัวมันก็ดิ่งลงเรื่อยๆแม่ยังจะมาเป็นแบบนี้อีก หนูเครียดแม่
.............มาถึงจุดที่มันเรียกว่ามรสุมชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ มันแย่ไปหมด มันมืดหม่นไปทุกทาง โลกมันดูไม่เหลือใครเลย มันเหมือนอยู่ตัวคนเดียว มันแทบจะไม่มีแรงหายใจ ตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 ค่ะ ก็ไปเรียนทุกวันปกติ แล้วก็มาถึงคืนนึงที่กำลังจะเข้านอน ตอนนั้นก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมพ่อไม่โทรมา เพราะปกติเราจะคุยกันทุกวัน ก็เลยโทรกลับไปหาพ่อค่ะ แต่พ่อไม่ได้รับสาย ก็เลยคิดว่าพ่อคงทำงานอยู่เดี๋ยวก็คงโทรกลับ ก็เข้านอนปกติค่ะแต่นอนไม่ค่อยหลับเหมือนในใจเป็นกระวนกระวายบอกไม่ถูก คืนนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนมีสายโทรเข้าจากโรงพยาบาลชลบุรี บอกว่าพ่อถูกรถชนค่ะ แต่ยังไม่เสียชีวิต ตอนนั้นตกใจมาก ที่บ้านก็ไม่มีรถยนต์สักคัน ดึกมากแล้วจะไปเหมารถเพื่อนบ้านให้เขาพาไปเขาก็นอนหลับกันหมดเเล้ว เลยโทรหาอาที่ทำงานที่เดียวกับพ่อ อาบอกว่าพ่อไม่ได้เป็นไรมาก แค่หัวแตกเฉยๆ ตั้งใจเรียนนะ ได้ยินว่าพ่อไม่เป็นไรมากก็ทำให้ใจดีขึ้นมาเล็กน้อย พอเช้ามาก็รีบหารถไปหาพ่อค่ะ พี่สาวที่รออยู่ที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว เพราะพี่สาวไปทำงานแถวนั้นอยู่แล้ว แม่ก็ไปกับฉัน ระหว่างทางจิตใจห่อเหี่ยวไปหมด เหมือนรู้สิ่งที่ไม่เห็นข้างหน้า เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พอไปถึงโรงพยาบาลแล้วเห็นพ่อเท่านั้นแหละค่ะ ใช่ค่ะที่อาพูดกับฉันคืออาโกหก ฉันแทบล้มทั้งยืน..แทบจำพ่อไม่ได้เลย ช่วงบนมันดูเละเทะไปหมดเลยค่ะ แต่พ่อยังรอฉันกับแม่และพี่สาว ตอนนั้นฉันกับแม่ยืนร้องไห้กอดกันประครองกันไม่ให้ใครล้ม หมอพยายามพูดให้กำลังใจฉันว่าถ้าพ่อผ่าตัด เดี๊ยวพ่อก็หาย คืนนี้ให้ฉันกลับไปรอพ่อที่บ้าน แต่ใจฉันก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ทุกคนพูดเลยค่ะ ใจฉันมันรู้ว่ายังไงพ่อก็ไม่รอด เพราะมันเป็นหนักมากจริงๆ ส่วนแม่กับพี่สาวจะเฝ้าพ่อรอพ่อกลับบ้านมาหาฉัน ฉันก็ร้องไห้ตลอดทางตอนกลับบ้าน ถึงบ้านได้ไม่นานประมาณ 19:30 แม่ก็ให้พี่ที่พาไปหาพ่อมาบอกฉันว่าพ่อเสียแล้วนะ... อาการของคนที่เสียใจจนแทบช็อคมันเกิดขึ้นกับฉันจริงๆแล้วค่ะ มันหายใจแทบไม่ออก มันจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาออกมา มันอัดอั้นอยู่ข้างใน มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่ได้ร่ำลากัน ไม่รู้ว่าการกินหมูกะทะมื้อนั้นจะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่ได้กินกับพ่อ พ่อเจ็บมากเลยใช่ไหม พ่อให้ทุกอย่างกับครอบครัวแล้วจริงๆ กว่าจะผ่านงานศพพ่อไปได้แต่ละวัน หนูโครตทรมานเลยพ่อ ทรมานที่คิดถึง ทรมานที่ร้องให้ หนูสงสารพ่อเหลือเกิน โกรธตัวเองที่หาคนชนพ่อไม่ได้ หลังจากเสร็จจากงานศพพ่อ ฉันก็ไปตามคดีให้พ่อเพื่อหวังว่าจะตามคนชนได้ เพราะอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมรถมอร์ไซต์ชนกับมอร์ไซต์พ่อถึงต้องเป็นขนาดนี้ ตามเรื่องจนรู้สึกเหนื่อยแต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลยค่ะ รถของคู่กรณีก็จอดไว้แต่คนชนหลบหนีไป ทางตำรวจบอกว่ายังไงก็หาตัวคนชนไม่ได้ เงินทางบ้านก็ไม่ค่อยมี ไปตามเรื่องแต่ละครั้งก็ใช้เงินมาก เมื่อหมดหวังเเล้วเลยต้องหยุดเรื่องทุกอย่างไว้แค่นี้ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า ทุกอย่างคงเป็นเวรกรรมที่เคยทำมา และชีวิตหลังจากนี้เป็นหนักมากจริงๆค่ะ ฉันสู้อดทนจนเรียนจบ ม.6 พร้อมกับดูแลทุกคนในครอบครัวแทนพ่อ ขาดพ่อไปแล้วคนที่น่าจะเป็นหลักของบ้านก็มาติดเหล้า ยายก็แก่มากแล้ว พี่สาวก็ไม่ค่อยส่งเสีย หลานชายก็ย้ายโรงเรียนบ่อยเพราะพี่สาวฉันเปลี่ยนงานบ่อย เปลียนที่ทำงานก็ต้องเปลี่ยนที่เรียนของหลานด้วย ฉันช่วยที่บ้านเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เขาเกิดจนรักเขามากๆ
ร้องไห้ เหตุการณ์หลังจากเสียพ่อ แม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ที่แฟนใหม่ของแม่ก็ติดเหล้าไม่แพ้กัน เวลามีความสุขก็จะไม่ติดต่อครอบครัวกลับมาเลย เวลาทะเลาะกันหรือโดนทำร้ายร่างกายจากแฟนใหม่ก็จะโทรให้ฉันไปรับมาบ้าน พอรับมาบ้านหายเมาแล้วก็กลับไปบ้านแฟนเขาเหมือนเดิม วนๆไปอยู่แบบนี้ ฉันเคยรั้งแม่แล้วแต่แม่เลือกที่จะทิ้งฉันไป ฉันทำได้เพียงปล่อยวาง เพราะแม่เลือกที่จะทิ้งฉันและยายไปอยู่กับแฟนใหม่ มาถีงชีวิตช่วงมหาวิทยาลัยของฉัน ที่เกือบจะไม่มีโอกาสได้เรียนแล้ว แต่เป็นเพราะความอยากเรียนของฉันเองค่ะ จึงตั้งเป้าหมายว่าถ้าอยากเรียนก็ต้องทำงานหาเงิน เพราะไม่มีใครค่อยให้เงินแล้ว พอจบ ม.6 ก็ทำงานโรงงานช่วงปิดเทอมค่ะ เพื่อเตรียมไว้เรียนมหาลัยซึ่งต้องประหยัดมากๆ ก็ทำงานช่วงปิดเทอมแบบนี้ไปตั้งแต่ปี1ถึงปี4 ส่วนพี่สาวก็มาติดยาอีกเพราะไปได้แฟนใหม่ที่พากันติดยา ฉันสงสารหลานที่ต้องมาเห็นแม่ในสภาพคนติดยา และโดนทำร้ายจิตใจ หลานก็อยากมาอยู่กับฉัน ฉันจึงนำหลานมาอยู่ด้วย ทุกอย่างมันหนักไปหมดค่ะ ฉันต้องเรียนให้จบตามที่ฉันตั้งใจไว้ ฉันจะดูแลยายให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ ฉันต้องดูแลหลานเพื่อที่จะให้เขาโตขึ้นเป็นคนดีและสามารถเอาตัวรอดได้ ฉันอดทนแบบนี้และฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้มาได้เกือบสำเร็จ ก็มาถึงช่วงที่ฉันอยู่ปี 4 ปีสุดท้ายต้องฝึกงานก่อนเรียนจบ ช่วงฝึกงานก็เหนื่อยงานพอสมควร ทั้งต้องไปทำงานและต้องทำสารนิพนธ์ควบคู่ไปด้วย และก็มีเรื่องเกิดขึ้นอีกค่ะ แม่ทำฉันแทบช็อค แม่เมาเหล้าแล้วหายไปแบบทิ้งร่องรอยไว้เหมือนคนเสียชีวิต ฉันผู้เป็นลูกใจไม่ดี ฉันขอลางาน1วันตอนฝึกงานเพื่อไปตามหาแม่ แจ้งความกับตำรวจให้เขาช่วยอีกแรง สุดท้ายไปเจอแม่ที่สวนที่เขาไปทำงาน เขาไปโดยไม่ได้บอกใครเพียงเพราะจะประชดเเฟนใหม่เขา ฉันเสียใจมากที่ต้องมาเจอแต่เรื่องแย่ๆ สุดท้ายก็ผ่านมันไปได้ค่ะ แต่จิตใจของฉันตอนนี้มันเหมือนคนซึมเศร้าตลอดเวลา มันไม่มีกำลังใจ มันรู้สึกขาดหายไปหมด รู้สึกท้อแท้ทุกอย่าง และสุดท้ายก็เลือกที่จะก้าวต่อไปค่ะ 
 
>>>>>> ตอนนี้ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยเหมือนกับที่ตั้งใจไว้ได้แล้วค่ะ ชีวิตต่อจากนี้ก็เหลือแค่หางานทำที่มั่นคง มีบ้านใหม่สักหลังเพราะบ้านหลังเก่าเริ่มชำรุดแล้ว มีรถยนต์สักคนเอาไว้พายายและหลานไปเที่ยวด้วยกัน มันคงจะเป็นความสุขของฉันมากมากเลยค่ะ (:
 
*** ขอบคุณแฟนด้วยนะคะ ที่อยู่เคียงข้างเสมอ..  <3
*** ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ทำให้ผ่านไปได้..
Yui  หัวใจ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จขกท.เก่งมากเลยค่ะ ผ่านมาได้ขนาดนี้
สู้ๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่