ช่องว่างการถูกมิจฉาชีพโกง จากบัตรเดบิต

ช่องว่างการถูกมิจฉาชีพโกงจากบัตรเดบิตสีฟ้า

ขอเกริ่นการใช้งานบัตรเดบิตก่อนว่า ไม่เคยใช้บัตรเดบิตทำธุรกรรมออนไลน์ไม่ว่าช่องทางใดๆ ไม่เคยนำเลขบัตรเดบิตนำไปผูกบัญชีอะไรก็ตาม
และนานๆครั้งจะใช้บัตรเดบิต กดเงินหรือฝากเงินกับตู้ atm ไม่เคยใช้บัตรเดบิตรูดเพื่อจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ และโดยส่วนใหญ่
จะทำธุรกรรมผ่านทางแอปพลิเคชั่น สัมผัสสีฟ้า เท่านั้น

วันที่ 31 ต.ค.2562 ได้ตรวจพบความผิดปกติของเงินในบัญชี
จึงได้เข้าไปตรวจสอบรายการในแอปพลิเคชัน
พบว่ามีรายการใช้จ่ายเงินจำนวน 2 รายการเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ได้ทำรายการนั้น
จึงได้รีบโทรศัพท์ติดต่อไปยัง call center 15XX
เพื่อสอบถามไปยังรายการที่ได้เกิดขึ้น
จากการตรวจสอบของ cc แจ้งว่า ได้มีรายการตัดเงินไปจากเลขบัตรเดบิต
จำนวน 2 รายการ
Pi— ———   จำนวนเงิน 4xx.xx บาท
www.Exit———— จำนวนเงิน 3,8xx.xx บาท
ทั้ง 2 รายการ เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ของวันที่  30 ต.ค.62 ห่างกันประมาณ10 นาที
และเป็นการทำรายการที่ต่างประเทศ (usa)
เมื่อทราบว่าทั้ง 2 รายการที่เกิดขึ้น เกิดจากการนำเลขบนหน้าบัตรเดบิต 16 หลักไปใช้
จึงได้ระงับบัตร ทันที และ จนท.cc แจ้งว่าจะส่งเรื่องให้กับทาง ฝ่ายตรวจสอบของธนาคาร
เพื่อตรวจสอบรายการ และจะโทรติดต่อกลับมาในวันศุกร์ 1 พ.ย.62

วันศุกร์ ที่ 1 พ.ย.62 
ทางเราได้รอการติดต่อกลับจากธนาคาร จนถึงระยะเวลา โดยประมาณ 11.45 
รอไม่ไหวจึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง cc  อีกครั้ง ว่าไม่ได้รับการประสานงานกลับจากทาง จนท.ฝ่ายตรวจสอบของทางธนาคารเลย
ทาง cc จึงตรวจสอบเรื่องที่ได้ติดต่อไว้ว่า ได้ส่งเรื่องไปทางฝ่ายตรวจสอบ เรียบร้อยแล้ว
แต่ทางฝ่ายตรวจสอบต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ 45 วัน
เราจึงได้สอบถามกับทาง cc ว่า ไหนครั้งแรกที่โทรไป จนท.ที่รับเรื่องบอกจะติดต่อแจ้งความคืบหน้ากลับมาในวันนี้ แต่ทำไม ไม่มี จนท. ติดต่อกลับมาเลย
จนท.จึงตอบกลับมาว่า จะรีบประสานงานให้ เดี๋ยวช่วงบ่ายจะ ติดต่อเเจ้งผลการประสานงานอีกครั้ง

หลังจากนั้นเวลา 17.30
ไม่มีการติดต่อกลับมา เราจึงได้โทรศัพท์หาทาง cc อีกครั้ง
เพื่อสอบถามว่าดำเนินเรื่องถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ไม่มี จนท ประสานงานติดต่อกลับมาเลย และได้พูดคุยกับ จนท.ซักพัก
เกี่ยวกับปัญหาการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้น ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดจากความผิดพลาดตรงไหน
ทำไมถึง ไม่มีการส่งรหัส ความปลอดภัย มาทางข้อความเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเรามีความประมาทเกี่ยวกับบัตร จึงทำให้โดนขโมยข้อมูลไป ซึ่งเราได้เล่าถึงการใช้งานบัตร ให้ จนท.ฟัง เพื่อให้ จนท.ได้ตรวจสอบ
หลังจากนั้นเมื่อพูดคุยกันอีกซักพัก
จนท.เสนอให้ไปเขียนใบขอปฎิเสธการจ่ายเงิน ไปที่ธนาคาร

เวลา 19.05 
ได้เดินทางไปถึง สาขาธนาคารในห้าง จากนั้นจึงได้เข้าไปแจ้งกับทางธนาคารและทำเรื่องขอปฏิเสธการจ่ายเงินจากรายการที่เป็นปัญหา ซึ่งทางสาขายืนยันว่าจะรับส่งเรื่องให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นเราก็เปิดใช้งานบัตรเดบิตใหม่
และรอว่าทางธนาคาร สีฟ้า จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป

จากปัญหาที่เกิดขึ้น และการสอบถามจาก จนท.
1.พบว่า เลขบัตรเดบิตที่ได้นำไปใช้นั้น อาจได้จากการสุ่ม - รันเลขหมายเลขบัตรของมิจฉาชีพ ซึ่งต่อให้สุ่มเลขหน้าบัตรได้ แล้วรู้เลขลับ 3 ตัวอีกได้อย่างไร ? หรือมันไม่ต้องใช้
**เราไม่เคยใช้บัตรเดบิต ซื้อของออนไลน์ เราไม่ทราบว่า บัตรเดบิตธนาคารนี้ต้องใช้เลขอะไรบ้างในการซื้อของออนไลน์**

2.เมื่อถามถึง เลขรหัสความปลอดภัยเพื่อยืนยันการซื้อ OTP ก็ได้รับคำตอบว่า บางเว็บไซต์ก็ต้องใช้ บางเว็บไซต์ ก็ไม่ต้องใช้ ก็สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้เหมือนกัน นี้คือความหละหลวมหรือไม่ และมันปลอดภัยจริงๆหรือ

3.จากกรณี ที่เกิดขึ้น รูปแบบการอายัดเงินนั้น จะเหมือนกับการที่เราระงับการจ่ายบัตรเครดิตหรือไม่ เพราะ บัตรเดบิตนั้น มันหักเงินเราจากในบัญชีไปโดยตรงเลย เท่ากับว่าทางนั้นได้เงินไปแล้ว ไม่เหมือนกับบัตรเครติด ที่ต้องรอระยะเวลา ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบรูปแบบการจ่ายเงินของทางธนาคาร ว่าดำเนินการยังไง และธนาคารจะนำเงินมาคืนยังไง

4.ด้วยยุคสมัยในปัจจุบัน การใช้งานทางด้านออนไลน์มีมากขึ้น การดำเนินการประสานงานในทุกๆส่วนในการตรวจสอบตามระบบของธนาคาร การติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งความคืบหน้า ต่างๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่าง 10-45 วันนั้น คุณคิดว่าเร็วหรือไม่ ถ้าเป็นการจารกรรมทางการเงินจริงๆ
ตัวเราเองต้องการรู้ว่าได้ประสานงานถึงไหน เรื่องเป็นยังไง จนท.ที่รับเรื่อง แจ้งว่าจะประสานกลับมา แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายโทรไปตามเรื่อง ตามขั้นตอนเอง นี้คือสิ่งที่ลูกค้าธนาคาร ได้รับใช่ หรือไม่ ซึ่งแค่ได้รับการโทรติดต่อจากจนท. ก็ยังมีความสบายใจบ้างไม่ใช้เงียบหาย อย่างน้อยๆก็รู้ว่ากำลังดำเนินเรื่องอยู่
เราผู้เสียหายย่อมร้อนใจอยากทราบอยู่แล้ว และธนาคารตรวจสอบนานไปไหมทั้งที่เราแจ้งว่าเราไม่ได้ใช้จ่ายรายการนั้นอย่างน้อยก็น่าจะระงับทางปลายทางได้โดยทันทีก่อน แล้วค่อยมาตรวจสอบ

5.ความปลอดภัย อยู่ที่ไหน เราจะเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้อย่างไร
ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะระวัง การใส่ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจาก อีเมลปลอม หรืออะไรก็ตาม ระมัดระวังการใช้ตู้atm การเก็บรักษาบัตร ก็ยังมีช่องทางที่มิจฉาชีพ จะมีช่องว่างให้โกงได้
เงินที่ถูกจารกรรมไปถึงเเม้จะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ และอาจได้คืนในภายหลัง
แต่ถ้ามันเป็นจำนวนที่มากกว่าที่โดนไป จนทำให้ต้องเดือดร้อนจะทำยังไง
โชคดีที่เงินมีในบัญชีนั้นไม่เยอะมาก แต่เงินที่โดนเอาไปก็ถือว่าไม่ใช่น้อย ถึงจะหลักร้อย หลักพัน มันก็มากสำหรับมนุษย์เงินเดือน

ไม่รู้ว่าทางธนาคารจะตอบปัญหานี้ในลักษณะยังไง จะหาที่มาของช่องว่างในปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
สุดท้ายอยากเตือนเป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคนที่มีบัตรเดบิต ถึงจะอยู่ในกระเป๋าตังท่านแต่ก็ไม่ใช่ว่าปลอดภัยเสมอไป…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่