Thai Lion air

กระทู้สนทนา
         จากข้าพเจ้า ผู้ครั้งหนึ่งใช้ สายการบิน Thai Lion air ขอแชร์ข้อมูลเป็นการเล่าเรื่องและประสบการณ์ ดังนี้
         ข้าพเจ้าเดินทางด้วยสายการบิน SL 719  หาดใหญ่- ดอนเมือง Boading pass ในวันที่ 3 พ.ย. 2562  โดยเวลาที่จะต้องลงสนามบินดอนเมือง ประมาณ 20.30 น. ระหว่างนั้น ณ.สนามบินมีสภาพอากาศแปร ปราน และฝนฝ้าคะนอง รุนแรง  เครื่องบินได้ดำเนินการนำเครื่องลง โดยฝ่าพายุ ณ.เวลานั้น ด้วยประสบการณ์ของ กัปตัน ที่คาดการณ์ ว่าจะลงได้ แต่ก็ไม่สามารถลงได้  กัปตันจึงยกระดับเครื่องขึ้น แล้วบินวน  เพื่อ จะพยายามกลับมาลงที่ สนามบินดอนเมือง นั้นอีกครั้ง เป็นการพยายามครั้งที่ 2 แบบต่อเนื่องในภาวะ สภาพอากาศยังคงแปรปรวน  และ ก็ไม่สามารถลงได้ เหมือนกับครั้งที่ 1 เหตุการณ์ ยังคงดำเนินต่อไป โดยการบินวน ในชั้นบรรยากาศที่แปรปรวนหนัก กระทำต่อเครื่องบินในลักษณะ  เขย่าและโยนๆๆๆ    ในความคิดข้าพเจ้า  ในเวลานั้น ขณะที่บินวนในสภาพอากาศที่แปรปรวนหนัก อันยาวนาน ข้าพเจ้า  มีความคิดและความรู้สึกอย่างเดียว คือความกลัว และคิดว่าหากยังคงบินในบรรยากาศเช่นนี้ เครื่องบินมีความเสี่ยงสูงมาก  ข้าพเจ้าและสามีจึงพากันอธิษฐาน  มีผู้โดยสารหญิงนั่งติดกับข้าพเจ้า  เขาเป็นมุสลิม  ดูได้จากผ้าฮิญาบคลุมศรีษะ  ได้พูดกับข้าพเจ้า ว่า พี่ค่ะ หนูกลัว ข้าพเจ้าพูดกับเธอว่า ให้เราพากันอธิษฐานต่อพระเจ้า ในเวลานั้นเราไม่มีความเชื่อมั่นในกัปตันจะนำพาเราให้ปลอดภัยได้     เราทั้งสามคน จึงจับมืออธิษฐาน  ในความกลัว เราอธิษฐานอยู่ เป็นเวลาประมาณ 1 ชม.ในภาวะบรรยากาศที่แปรปรวนหนัก กระทำต่อเครื่องบิน   เวลาต่อมา เครื่องบินลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภา สายการบินจึงได้ ประกาศเสียงตามสาย ว่าเครื่องจะเติมน้ำมันและรอสภาพอากาศที่ดอนเมือง  หลังจากเครื่องลงจอด  เรายังคงอยู่สนามบินอู่ตะเภา และรอสภาพอากาศ สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้า กระทำคือ ไปแจ้งความประสงค์ต่อพนักงานต้อนรับบนเครื่อง ว่าข้าพเจ้าจะขอลงที่สนามบินอู่ตะเภา แต่ได้รับคำตอบว่าตามระเบียบนั้น ต้องลงในสนามบินดอนเมือง ตามที่ระบุในตั๋ว แต่ต้น มิเช่นนั้นจะต้องทำการตามระเบียบ ความปลอดภัยการบิน ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็มี ผู้โดยสารชายท่านหนึ่งได้ แสดงความจำนงค์เช่นเดียวกัน และได้รับการชี้แจงเช่นเดียวกัน เรารอเวลาที่นั้นเป็นเวลาประมาณ 30-40 นาที เครื่องบินจึงบินกลับมาลงที่ ดอนเมือง เช่นเดียวกับครั้งแรก ระหว่างจะลงยังคง ประสบสภาพอากาศแปรปรวนประมาณ 50 % ของครั้งแรกจากเหตุการณ์ ครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอสรุปและแชร์ความรู้สึก ได้ดังนี้
 1.   การตัดสินใจนำเครื่องลง ครั้งที่ 1  ในสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง  ไม่มีการประเมินความเสี่ยง  ตามมาตราฐานการบินที่ดี  ข้าพเจ้าเคยมีประสบกาณ์ เช่นนี้มาก่อน โดยสายการบินจะทำการบินหนี ห่างออกจาก ชั้นบรรยากาศแปรปรวนรุนแรงและบินวน รอ หรือไปลงสนามบินอื่นที่ปลอดภัย ไม่มีการเสี่ยงนำเครื่องลง  หรือบินอยู่ ในสภาพอากาศ เลวร้าย 
2. การพยายาม ตัดสินใจนำเครื่องลง ครั้งที่ 2     ในเวลาที่ต่อเนื่องจากครั้งที่1  บนสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง ถือเป็นความผิดพลาในการตัดสินใจของนักบิน จะด้วยเหตุผล 
  2.1  ขาดประสบการณ์ตรง   ชั่งโมงบินน้อย       
 2.2  ขาดสภาพความรับผิดชอบต่อความรู้สึก และ ชีวิตของผู้โดยสาร และขาดความรับผิดชอบต่อ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อ ครอบครัวของ ผู้โดยสาร  ทำให้พ่อ แม่ สูญเสียลูก /  ลูกกลายเป็นเด็กกำพร้า / การสูญเสียคนที่รัก   หรือ    
2.3  นโยบาย ของสายการบิน Low cost ประหยัด ระยะทาง เท่ากับประหยัด น้ำมัน.... ดันทุรัง ต้องลงที่ดอนเมืองให้ได้  โดยไม่มองการสูญเสีย          
        จากเหตุการณ์ ครั้งนี้ ทำให้ตัดสินใจที่จะ ขอแชร์  แม้เหตุการณ์นี้ไม่ถึงขั้นวิกฤต  เรารอดมาได้  จึงมีโอกาส เล่าให้ท่านฟัง แทนผู้ที่จากไป เช่นเพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้า ที่จากไป.........ซึ่งไม่มีโอกาสเล่า ในเหตุการณ์เครื่องบินตก ที่สนามบินภูเก็ต เมื่อ  20 ปีก่อน  เป็นสายการบิน Low cost  สายหนึ่ง...........   
      วัตถุประสงค์ ในการแชร์ประสบการณ์ นี้เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการการบิน  นักบิน สายการบินพึง ระลึกถึง ความรับผิดชอบ ต่อ ผู้โดยสาร และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่