พระพุทธเจ้าไม่เคยพูดว่า
สัพเพธรรมาอนัตตาเป็นประโยคเริ่มต้น
พระองค์จะพูดว่า
สัพเพสังขาราอนิจจัง
สัพเพสังขาราทุกขัง
สัพเพธรรมาอนัตตา
พระองค์จะไม่พูดคำว่า
สัพเพธรรมาอนัตตา
โดยไม่มีประโยค๒ประโยคแรก
ปุถุชนไปตีความตามความคิดตนเอง
ว่านิพพานอนัตตา
เพราะสัพเพธรรมาอนัตตา
โดยไปตัด๒ประโยคแรกออก
แล้วไปเติมคำว่านิพพานเป็นอนัตตาแทน
ไปตัดต่อแต่งเติมคำเหล่านี้
ไปตู่พระพุทธเจ้า
พระองค์สั่งไว้แล้วว่าห้ามต่อเติมตัดแต่งพระธรรม
แต่ก็ยังแอบอ้างความชอบธรรมว่านิพพานเป็นอนัตตา
โดยที่พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวคำนี้เลย
ไปตีความเองเออเองว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้บอก
บทพิจารณาสังขาร
(หันทะ มะยัง ธัมมะสังเวคะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส)
สัพเพ สังขารา อะนิจจา - สังขารคือร่างกายจิตใจ , แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ,
มันไม่เที่ยง , เกิดขึ้นแล้วดับไปมีแล้วหายไป
สัพเพ สังขารา ทุกขา - สังขารคือร่างกายจิตใจ , แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ,
มันเป็นทุกข์ทนยาก , เพราะเกิดขึ้นแล้วแก่เจ็บตายไป
สัพเพ ธัมมา อะนัตตา - สิ่งทั้งหลายทั้งปวง , ทั้งที่เป็นสังขารแลมิใช่สังขารทั้งหมดทั้งสิ้น ,
ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน , ไม่ควรถือว่าเราว่าของเราว่าตัวว่าตนของเรา
อะธุวัง ชีวิตัง - ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน
ธุวัง มะระณัง - ความตายเป็นของยั่งยืน
อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง - อันเราจะพึงตายเป็นแท้
มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง - ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุดรอบ
ชีวิตัง เม อะนิยะตัง - ชีวิตของเราเป็นของไม่เที่ยง
มะระณัง เม นิยะตัง - ความตายของเราเป็นของเที่ยง
วะตะ - ควรที่จะสังเวช
อะยัง กาโย อะจิรัง - ร่างกายนี้มิได้ตั้งอยู่นาน
อะเปตะวิญญาโณ - ครั้นปราศจากวิญญาณ
ฉุฑโฑ - อันเขาทิ้งเสียแล้ว
อะธิเสสสะติ - จักนอนทับ
ปะฐะวิง - ซึ่งแผ่นดิน
กะลิงคะรัง อิวะ - ประดุจดังว่าท่อนไม้และท่อนฟืน
นิรัตถัง - หาประโยชน์มิได้
อะนิจจา วะตะ สังขารา - สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทะวะยะธัมมิโน - มีความเกิดขึ้นแล้วมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิต๎วา นิรุชฌันติ - ครั้นเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสัง วูปะสะโม สุโข - ความเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลาย , เป็นสุขอย่างยิ่ง
สัพเพ สัตตา มะรันติ จะ -สัตว์ทั้งหลาย ทั้งปวงกำลังตายอยู่
มะริงสุ จะ มะริสสะเร -ที่ตายแล้ว และกำลังจะตาย
ตะเถวะหัง มะริสสามิ -เราก็จักตายอย่างนั้นเหมือนกัน
นัตถิ เม เอตถะ สังสะโย -ความสงสัยในความตายนี้, ย่อมไม่มีแก่เราเลย ฯ
พระพุทธเจ้าไม่เคยพูด