ขอบคุณปกสวยๆจากพี่ออมรัชต์สารินท์ค่ะ
หนึ่งเดือนผ่านไปกับการใช้ชีวิตคู่ของภูติและชลัน ภูติทำตามสัญญาที่เขียนไว้ทุกประการ ไม่ล่วงเกินเธอให้เธอเสียความรู้สึก สองคนนอนห้องนอนเดียวกันทำทุกอย่างเหมือนสามีภรรยาที่พึงปฏิบัติทุกประการ ภูติแยกที่นอนกับชลันภายในห้อง โดยให้เธอนอนบนเตียงส่วนตัวเองปูฟูกนอนที่พื้นทำอยู่แบบนี้นับเดือน
ชลันเชื่อใจภูติมากขึ้น และสบายใจในการนอนร่วมห้อง ช่วงแรกเธอระแวงมากกลัวว่าภูติอาจไม่ทำตามสัญญา ถึงเธอจะเคยผ่านผู้ชายมาบ้างแต่ก็ล้วนมาจากความรักของเธอทั้งสิ้น สำหรับภูติมันไม่ได้เกิดจากความรักเธอจึงระแวงและกลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ทำให้เธอเชื่อใจและไว้ใจว่าสองปีที่ทำงานร่วมกัน ภูติจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง
หลังจากจ้างชลันมาเป็นภรรยาหลอกๆเขาสามารถไปหาชัชพงษ์ได้ตามอำเภอใจ ไม่มีใครคอยเซ้าซี้เรื่องมีครอบครัวอีกต่อไป
“วันนี้จะไปหาคุณชัชอีกแล้วเหรอคะ”
ชลันพูดไปพลางจัดกระเป๋าให้ภูติไปด้วย ภายในใจของเธอห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าภูติเป็นแบบไหน ภายในใจไม่อยากให้เขาไป เวลาที่ภูติออกไปหาความสุขกับชัชพงษ์ เธอต้องออกจากบ้านไปด้วย ทำเหมือนว่าสองคนออกไปด้วยกัน ตอนกลับก็ต้องเข้าบ้านด้วยกัน แต่ที่จริงเธอไม่ได้ตามภูติไป เขาไปส่งเธอไว้ที่บ้านพ่อกับแม่ของเธอเอง ชลันต้องนอนที่นั่นจนกว่าภูติจะกลับมารับ และก็กลับบ้านพร้อมกัน จะได้ไม่เป็นที่สงสัยของคุณหญิงช่อผกา
“ครับ ทำไมลันหึงผมเหรอ” ภูติพูดแหย่และหันมายิ้มให้เธอ ชลันรู้ว่าภูติพูดล้อเล่นแต่ทำไมเธอต้องมีความรู้สึกเขิน และต้องทำเป็นหงุดหงิดกลบเกลื่อนกลับไป
“จะบ้าเหรอคะคุณภู ลันจะหึงคุณภูทำไม อีกอย่างคุณภูก็... ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนลัน”
“ผู้หญิงผมก็ได้นะลัน พูดแล้วก็มาม๊ะผมก็อยากลองกับผู้หญิงเหมือนลันสักครั้ง” ภูติทำหน้าทะเล้น ยกมือขึ้นมาลูบปากทำหน้าทำตาหื่นแกล้งเดินเข้าไปหาลันที่กำลังจัดกระเป๋าให้
“นี่คุณภูอย่ามาใกล้ลันนะ ลันร้องจริงๆด้วย และๆลันก็จะฉีกสัญญาทิ้งด้วย”
“จะร้องให้ใครช่วย ผัวเมียเล่นกันคุณแม่หรือพวกแม่บ้านเค้าไม่มายุ่งด้วยหรอกนะ ฉีกสัญญาทิ้งคิดว่าผมแคร์เหรอลัน” ภูติแกล้งเดินเข้าไปใกล้ชิดตัวชลัน เธอเดินถอยหลังหนีภูติมาชนขอบเตียงทำให้เสียหลักล้มหงายลงบนเตียงร่างภูติล้มทับร่างเธอ ทำให้ปากของเขาชนเข้าไปที่ปากของเธอพอดี สายตาประสานกันจ้องอยู่นาน ชลันรู้สึกตัวเบี่ยงหน้าหนี ทำให้ภูติรู้สึกตัวลุกขึ้นจากร่างของเธอเช่นกัน
“ผมขอโทษครับคุณลัน ผมขอโทษจริงๆ” ภูติหน้าถอดสีที่แกล้งเธอจนได้เรื่อง
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณภูรีบไปหาคุณชัชเถอะป่านนี้คุณชัชคงรอแย่แล้ว” ชลันไม่สบตากับภูติ รีบเก็บกระเป๋าให้ภูติเสร็จเรียบร้อย จะได้รีบๆไป
“ลันคุณโกรธผมเหรอ ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่อยากล้อคุณเล่นเฉยๆ” ภูติเดินเข้ามาใกล้ชลันอีกครั้ง เธอขยับถอยห่างจากตัวภูติไม่ยอมให้อยู่ใกล้ๆอีก
“ป่าวค่ะ คุณภูรีบไปเถอะ”
“ไม่! จนกว่าลันจะบอกผมว่าลันยกโทษให้ผม” ภูติคว้าตัวชลันเข้ามาใกล้ๆตนเอง กอดไว้แน่น
“คุณภูปล่อยลันค่ะ ลันไม่โกรธคุณภูแล้วอย่าแกล้งลันแบบนี้เลยนะลันขอร้อง” ชลันหัวใจเต้นแรงปากพูดไปแบบนั้นแต่หัวใจเรียกร้อง ไม่รู้เกิดความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน รู้ทั้งรู้ว่าภูติไม่ชอบผู้หญิง และมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แสดงออกชัดเจนขนาดนั้น เธอไม่เข้าใจตัวเองทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้
“ทำเป็นกลัวไปได้ลัน ทำอย่างกะไม่เคยผ่านมา”
“คุณภูติ!” น้ำตาของเธอค่อยๆไหลออกมาเพราะคำพูดที่แทงใจของภูติ “ถึงลันจะเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ถึงอดีตของลันจะเจ็บปวด แต่มันเกิดจากความรักของลัน ไม่ใช่จากการฉวยโอกาส”
ภูตินิ่งอึ้งชั่วขณะ “ลันผมขอโทษ ผมแค่อยากล้อคุณเล่นไม่คิดว่าคุณจะโกรธขนาดนี้ ผมขอโทษอีกครั้งนะลัน” ภูติปล่อยตัวลันออกจากอ้อมแขนของเขา
“คุณภูไปเถอะค่ะเสียเวลานานแล้ว” ชลันปรับสีหน้า และคำพูดให้เป็นปกติ ยกมือเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออก
“ผมไม่ไปและ ผมพาลันไปเที่ยวดีกว่า ไถ่โทษที่ผมทำให้ลันโกรธ”
“แล้วคุณชัชล่ะคะ” ชลันรู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้ภูติไม่ได้ไปหาชัชพงษ์ “คุณชัชจะไม่เสียความรู้สึกเหรอคะ” ถึงภายในใจเธอจะอยากให้ภูติอยู่ด้วย แต่ความจริงและความถูกต้องๆมาก่อน ภูติมีแฟนแล้ว ภูติชอบผู้ชาย เธอไม่รู้สึกรังเกียจในความเป็นตัวตนของเขาแม้แต่น้อย มีแต่ความสงสารและเห็นใจ และหลงรักภูติแบบไม่รู้ตัว
“คุณไม่ต้องคิดแทนชัชพงษ์หรอก เดี๋ยวผมจัดการเอง ไปแต่งตัวได้แล้วไป ดูสิหน้าเปื้อนน้ำตาขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าแล้ว ผู้หญิงอะไรขี้แยชะมัด”
“คุณภูอ่า” ชลันรู้สึกตัวว่าหน้าเธอคงจะเปื้อนเลอะด้วยเครื่องสำอางแน่ๆ เมื่อส่องกระจกดูก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวโดยเร็ว ไม่ลืมที่จะหยิบชุดเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย
ภูติเห็นเธอหยิบชุดเข้าไปใส่ด้วยก็แอบขำคนเดียว ทำไมต้องกลัวเขาขนาดนั้น แต่ดูๆแล้วชลันสวยไม่ใช่เล่น ร่างกายได้สัดส่วนพอดี ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้ง เรื่องงานก็เก่งแก้ปัญหาได้ฉับไว นิสัยดีมองโลกในแง่ดี ไม่แปลกที่เอกพจน์ไม่ปล่อยให้เธอไปมีคนอื่น ถึงทำเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้น สักพักชลันอาบน้ำเสร็จพร้อมใส่เสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย
“คุณภูมองลันทำไมคะ ลันมีอะไรแปลก” ชลันหันซ้ายหันขวาสำรวจตัวเอง หลังเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ทว่าเธอเอาชุดเข้าไปใส่ในนั้นด้วย
“นี่ลันทำไมต้องเอาชุดเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย ผมไม่พิศวาสคุณหรอกหน่า” ภูติพูดและยิ้มส่ายหัวกับการกระทำของเธอเล็กน้อย
“ว่าไม่ได้นะคุณภู ลันออกจะสวยขนาดนี้ เกิดคุณภูเปลี่ยนใจมาชอบผู้หญิงแบบลันเคลียร์กับคุณชัชเอาเองนะ”
“นี่ๆหยุดคิดเลย รีบๆแต่งตัวใหม่ได้แล้ว วันนี้เราจะไปเยี่ยมน้องปานกัน”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ลันแต่งงานย้ายมาอยู่บ้านกับคุณภู ลันยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมคุณปานเลย”
ชลันรีบแต่งหน้าทำผมใหม่ เธอไม่ใช่คนชอบแต่งหน้า เติมแป้งเติมลิปสติกนิดหน่อยก็มั่นใจไปได้ทุกสถานที่ ภูตินั่งมองเธอแต่งหน้าทำผม ซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเป่าและไดให้แห้งเพราะเธอเป็นคนผมตรงอยู่แล้ว ดูเหมือนผู้หญิงเรียบๆแต่สวยไม่ใช่เล่น ภูติไม่แปลกใจสักนิดที่ก่อนหน้านี้ลันคบผู้ชายหลายคน
“คุณภูแอบมองลันอีกแล้ว” เธอหันมาประสานสายตาเข้าพอดี เพราะรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังจ้องอยู่
“ผมก็แค่มองเฉยๆ ไม่เคยเห็นผู้หญิงแต่งตัวแบบใกล้ชิดขนาดนี้”
“ก็แหงนิคุณภูไม่ได้ชอบ... เอ่อชอบ... ช่างเถอะ”
“ก็จริงของคุณ” ภูติตอบพร้อมเดินออกไปจากห้องเพื่อไปรอชลันที่รถ ไม่นานเธอก็เดินตามหลังมาสองคนขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเพื่อไปหาปานชีวา
เมื่อมาถึงภูติกับชลันเปิดประตูห้องที่ปานชีวานอนรักษาตัวอยู่ก็พบคุณหญิงราตรีในห้องด้วย ทั้งสองคนทำความเคารพกล่าวทักทาย ส่วนคุณหญิงราตรีก็รับไหว้ด้วยความเอ็นดู
“อาการน้องปานเป็นไงบ้างครับคุณน้า” ภูติถามคุณหญิงราตรีพร้อมเดินเข้ามาใกล้ๆเตียงที่ปานชีวานอนหลับอยู่ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ไม่รับไม่รู้กับการมาของพวกเขาแม้แต่น้อย
“อาการทรงตัวจ้ะตาภู น้าก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้น้องฟื้นขึ้นมาเร็วๆ น้าจะขาดใจอยู่แล้ว” คุณหญิงราตรีพูดทั้งน้ำตา ภูติต้องโอบกอดและก็ปลอบใจ โดยมีชลันยืนดูอยู่ห่างๆ เพราะเธอไม่รู้จะเข้าไปพูดอะไรกับคนที่นอนไม่รู้สึกตัว และผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของตนคนนี้ ด้วยความที่ไม่เคยพบเจอหรือพูดคุยกันมาก่อน หน้าที่ของเธอคือยืนดูเฉยๆนิ่งๆ
“น้องปานต้องหายครับ คุณน้าเชื่อผมนะ สักวันน้องปานต้องฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ”
“และพากันไปยังไงมายังไงล่ะ ถึงได้มาที่นี่”
“อ่อ ผมกับลันตั้งใจมาเยี่ยมน้องปานครับ มาเยี่ยมคุณน้าด้วย คุณน้าต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ ทรุดไปอีกคนแย่เลย” ภูติหยิบมือคุณหญิงราตรีขึ้นมากุมไว้ให้กำลังใจ คุณหญิงราตรียิ้มให้เขาและพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“ว่าไงจ๊ะหนูลัน เห็นเงียบตั้งแต่มาถึงแล้ว ตามสบายนะไม่ต้องถือสาน้า วางแผนมีลูกกันยังจ๊ะ” คุณหญิงราตรีหันไปพูดกับชลัน
“ลันกับคุณภูยังไม่คิดที่จะมีลูกตอนนี้ค่ะ ไว้สักปีสองปีก่อน คุณภูก็ยังไม่พร้อมด้วย”
“รีบๆนะตาภูนานเดี๋ยวไม่ทันใช้”
ทั้งสามคนคุยกันสัพเพเหระถึงเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย สักพักทั้งสองคนก็ขอตัวกลับไป ปล่อยให้คุณหญิงราตรีใช้เวลาอยู่กับลูกสาวให้เต็มที่ ก่อนจะกลับภูติเข้าไปลาปานชีวา ก้มหอมหน้าผากเธอเบาๆและพูดในใจ “น้องปานรีบตื่นขึ้นมานะ รีบตื่นขึ้นมาดูว่าพี่มีเมียแล้ว เห็นมั้ยเราไม่ชนะพี่หรอกยายปานเอ้ย” และเขาก็เดินออกมาขอตัวกลับ
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภูติภาชลันขับรถเล่นไปนู้นไปนี่ ก่อนจะหมดวันเพราะยังไม่อยากเข้าบ้าน ภูติลืมชัชพงษ์ไปเลย ลืมว่ายังไม่ได้บอกว่าตนเองไม่ได้ไปหา
....
ตั้งแต่เช้าไลน์หาไม่อ่านไม่ตอบ นัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันวันนี้ทำไมยังไม่มา หรือว่าติดงานด่วน ถึงด่วนยังไงก็น่าจะบอกกันบ้าง นี่อะไรเล่นหายไปทั้งวัน แถมติดต่อไม่ได้อีก ชัชพงษ์กระวนกระวายใจนั่งไม่ติด เดินไปเดินมารอบห้อง เขามารอภูติตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อจะพบกันแต่จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของภูติ
ชัชพงษ์ลองโทรเข้าเบอร์เลขาหน้าห้องของภูติ ทำทีว่าโทรมาติดต่องานกลับได้ความว่าภูติไม่เข้าบริษัท พอถามถึงชลันเลขาบอกว่าเธอไม่เข้าบริษัทเหมือนกัน พอหลอกถามว่าภูติไม่เข้าบริษัทเพราะไปดูงานด่วนหรือเปล่า เลขาก็บอกว่าไม่มีงานด่วนเข้ามา ชัชพงษ์คิดว่าทั้งสองคนต้องอยู่ด้วยกันแน่นอน และต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เขาส่งข้อความไปถามภูติ และเฝ้ารอคำตอบ ภายในใจขณะนี้จะร้อนรนเป็นไฟแค่ไหนเขาก็ไม่กวนภูติให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ แม้อยากจะโทรจิกโทรตามมากแค่ไหนเขาก็ไม่อาจทำได้ ชัชพงษ์นั่งดูหน้าจอมือถือที่ไม่มีวี่แววของการอ่านข้อความจากปลายทาง พร้อมดื่มเบียร์ไปด้วย เมื่อเริ่มเมาสติเริ่มไม่ปกติความน้อยใจที่มีมาตลอดหลังจากภูติแต่งงานก็ถาโถมประดังเข้ามา น้ำตาไหลอาบสองแก้มไม่รู้ตัว ชัชพงษ์ไม่เช็ดน้ำตาออกปล่อยให้มันไหลออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมยกเบียร์ดื่มไม่วางมือ
“ขอโทษนะครับที่ผมยกเลิกกลางคัน พอดีผมติดธุระ ขอโทษจริงๆ ผมคิดถึงนะครับ ไว้เจอกันรอบหน้านะ”
ไม่นานเสียงข้อความก็ดังขึ้นเมื่อมีคนส่งมา ชัชพงษ์หยิบขึ้นมาดู เขาต้องหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยอาการเมา “พึ่งนึกได้เหรอ ฮ่าๆ” ชัชพงษ์ไม่ได้ตอบข้อความกลับไป ปิดมือถือเหมือนกลัวว่าภูติจะโทรเข้า และยกเบียร์ดื่มอีกครั้ง กระป๋องเบียร์กระจัดกระจายเต็มห้อง
เวลานี้เหมือนไฟสุมอก ความแค้นและชิงชังผุดขึ้นมาในหัว เขาต้องกำจัดชลันให้พ้นทางอีกคน ปานชีวาก็ทำสำเร็จมาแล้ว ชลันอีกคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรถึงจะมีโอกาส เพราะเธอกับภูติตัวติดกันตลอด เมื่อคิดถึงว่าชลันกับภูติตัวติดกัน ภาพในหัวก็ผุดขึ้นเป็นภาพชลันกับภูตินอนเตียงเดียว นอนด้วยกันทุกคืน ยิ่งทำให้เขาเจ็บใจ เครียดแค้นมากยิ่งขึ้น และเผลอบีบกระป๋องเบียร์จนแบนไปกับมือ น้ำเบียร์ที่ยังกินไม่หมดพุ่งไหลเลอะห้อง
ด้วยความเมามากที่ดื่มตั้งแต่เช้าทำให้เขาหลับ ซบลงข้างเตียงนอนโดยที่มือยังถือกระป๋องเบียร์อยู่ หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ตื่นมาอีกทีก็พบว่ามืดค่ำแล้ว เขาเปิดมือถือตนเองขึ้นมา พบว่าภูติโทรหาเขาจริงๆ ชัชพงษ์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้โทรกลับ
ชัชพงษ์คิดอะไรบางอย่างออกหัวเราะออกมาเสียงดังคนเดียว “รีบๆมีความสุขด้วยกันนะคุณภูก่อนที่จะหมดเวลา” ชัชพงษ์พูดกับตัวเอง ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวกลับ อยู่ไปภูติก็คงไม่มาหาตนตามนัดแล้ว
“ว่างๆค่อยมาเจอกันนะครับคุณภู ผมรอได้สบายใจได้เลยครับ ผมเข้าใจ” ชัชพงษ์ฝากข้อความให้ภูติ ยิ้มอย่างคนมีความสุขเมื่อนึกถึงภาพในหัวกับสิ่งที่เขากำลังคิดจะทำ แค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แล้วทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
เจ้าสาวจำเป็น บทที่ 7
ขอบคุณปกสวยๆจากพี่ออมรัชต์สารินท์ค่ะ
หนึ่งเดือนผ่านไปกับการใช้ชีวิตคู่ของภูติและชลัน ภูติทำตามสัญญาที่เขียนไว้ทุกประการ ไม่ล่วงเกินเธอให้เธอเสียความรู้สึก สองคนนอนห้องนอนเดียวกันทำทุกอย่างเหมือนสามีภรรยาที่พึงปฏิบัติทุกประการ ภูติแยกที่นอนกับชลันภายในห้อง โดยให้เธอนอนบนเตียงส่วนตัวเองปูฟูกนอนที่พื้นทำอยู่แบบนี้นับเดือน
ชลันเชื่อใจภูติมากขึ้น และสบายใจในการนอนร่วมห้อง ช่วงแรกเธอระแวงมากกลัวว่าภูติอาจไม่ทำตามสัญญา ถึงเธอจะเคยผ่านผู้ชายมาบ้างแต่ก็ล้วนมาจากความรักของเธอทั้งสิ้น สำหรับภูติมันไม่ได้เกิดจากความรักเธอจึงระแวงและกลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ทำให้เธอเชื่อใจและไว้ใจว่าสองปีที่ทำงานร่วมกัน ภูติจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง
หลังจากจ้างชลันมาเป็นภรรยาหลอกๆเขาสามารถไปหาชัชพงษ์ได้ตามอำเภอใจ ไม่มีใครคอยเซ้าซี้เรื่องมีครอบครัวอีกต่อไป
“วันนี้จะไปหาคุณชัชอีกแล้วเหรอคะ”
ชลันพูดไปพลางจัดกระเป๋าให้ภูติไปด้วย ภายในใจของเธอห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าภูติเป็นแบบไหน ภายในใจไม่อยากให้เขาไป เวลาที่ภูติออกไปหาความสุขกับชัชพงษ์ เธอต้องออกจากบ้านไปด้วย ทำเหมือนว่าสองคนออกไปด้วยกัน ตอนกลับก็ต้องเข้าบ้านด้วยกัน แต่ที่จริงเธอไม่ได้ตามภูติไป เขาไปส่งเธอไว้ที่บ้านพ่อกับแม่ของเธอเอง ชลันต้องนอนที่นั่นจนกว่าภูติจะกลับมารับ และก็กลับบ้านพร้อมกัน จะได้ไม่เป็นที่สงสัยของคุณหญิงช่อผกา
“ครับ ทำไมลันหึงผมเหรอ” ภูติพูดแหย่และหันมายิ้มให้เธอ ชลันรู้ว่าภูติพูดล้อเล่นแต่ทำไมเธอต้องมีความรู้สึกเขิน และต้องทำเป็นหงุดหงิดกลบเกลื่อนกลับไป
“จะบ้าเหรอคะคุณภู ลันจะหึงคุณภูทำไม อีกอย่างคุณภูก็... ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนลัน”
“ผู้หญิงผมก็ได้นะลัน พูดแล้วก็มาม๊ะผมก็อยากลองกับผู้หญิงเหมือนลันสักครั้ง” ภูติทำหน้าทะเล้น ยกมือขึ้นมาลูบปากทำหน้าทำตาหื่นแกล้งเดินเข้าไปหาลันที่กำลังจัดกระเป๋าให้
“นี่คุณภูอย่ามาใกล้ลันนะ ลันร้องจริงๆด้วย และๆลันก็จะฉีกสัญญาทิ้งด้วย”
“จะร้องให้ใครช่วย ผัวเมียเล่นกันคุณแม่หรือพวกแม่บ้านเค้าไม่มายุ่งด้วยหรอกนะ ฉีกสัญญาทิ้งคิดว่าผมแคร์เหรอลัน” ภูติแกล้งเดินเข้าไปใกล้ชิดตัวชลัน เธอเดินถอยหลังหนีภูติมาชนขอบเตียงทำให้เสียหลักล้มหงายลงบนเตียงร่างภูติล้มทับร่างเธอ ทำให้ปากของเขาชนเข้าไปที่ปากของเธอพอดี สายตาประสานกันจ้องอยู่นาน ชลันรู้สึกตัวเบี่ยงหน้าหนี ทำให้ภูติรู้สึกตัวลุกขึ้นจากร่างของเธอเช่นกัน
“ผมขอโทษครับคุณลัน ผมขอโทษจริงๆ” ภูติหน้าถอดสีที่แกล้งเธอจนได้เรื่อง
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณภูรีบไปหาคุณชัชเถอะป่านนี้คุณชัชคงรอแย่แล้ว” ชลันไม่สบตากับภูติ รีบเก็บกระเป๋าให้ภูติเสร็จเรียบร้อย จะได้รีบๆไป
“ลันคุณโกรธผมเหรอ ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่อยากล้อคุณเล่นเฉยๆ” ภูติเดินเข้ามาใกล้ชลันอีกครั้ง เธอขยับถอยห่างจากตัวภูติไม่ยอมให้อยู่ใกล้ๆอีก
“ป่าวค่ะ คุณภูรีบไปเถอะ”
“ไม่! จนกว่าลันจะบอกผมว่าลันยกโทษให้ผม” ภูติคว้าตัวชลันเข้ามาใกล้ๆตนเอง กอดไว้แน่น
“คุณภูปล่อยลันค่ะ ลันไม่โกรธคุณภูแล้วอย่าแกล้งลันแบบนี้เลยนะลันขอร้อง” ชลันหัวใจเต้นแรงปากพูดไปแบบนั้นแต่หัวใจเรียกร้อง ไม่รู้เกิดความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน รู้ทั้งรู้ว่าภูติไม่ชอบผู้หญิง และมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แสดงออกชัดเจนขนาดนั้น เธอไม่เข้าใจตัวเองทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้
“ทำเป็นกลัวไปได้ลัน ทำอย่างกะไม่เคยผ่านมา”
“คุณภูติ!” น้ำตาของเธอค่อยๆไหลออกมาเพราะคำพูดที่แทงใจของภูติ “ถึงลันจะเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ถึงอดีตของลันจะเจ็บปวด แต่มันเกิดจากความรักของลัน ไม่ใช่จากการฉวยโอกาส”
ภูตินิ่งอึ้งชั่วขณะ “ลันผมขอโทษ ผมแค่อยากล้อคุณเล่นไม่คิดว่าคุณจะโกรธขนาดนี้ ผมขอโทษอีกครั้งนะลัน” ภูติปล่อยตัวลันออกจากอ้อมแขนของเขา
“คุณภูไปเถอะค่ะเสียเวลานานแล้ว” ชลันปรับสีหน้า และคำพูดให้เป็นปกติ ยกมือเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออก
“ผมไม่ไปและ ผมพาลันไปเที่ยวดีกว่า ไถ่โทษที่ผมทำให้ลันโกรธ”
“แล้วคุณชัชล่ะคะ” ชลันรู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้ภูติไม่ได้ไปหาชัชพงษ์ “คุณชัชจะไม่เสียความรู้สึกเหรอคะ” ถึงภายในใจเธอจะอยากให้ภูติอยู่ด้วย แต่ความจริงและความถูกต้องๆมาก่อน ภูติมีแฟนแล้ว ภูติชอบผู้ชาย เธอไม่รู้สึกรังเกียจในความเป็นตัวตนของเขาแม้แต่น้อย มีแต่ความสงสารและเห็นใจ และหลงรักภูติแบบไม่รู้ตัว
“คุณไม่ต้องคิดแทนชัชพงษ์หรอก เดี๋ยวผมจัดการเอง ไปแต่งตัวได้แล้วไป ดูสิหน้าเปื้อนน้ำตาขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าแล้ว ผู้หญิงอะไรขี้แยชะมัด”
“คุณภูอ่า” ชลันรู้สึกตัวว่าหน้าเธอคงจะเปื้อนเลอะด้วยเครื่องสำอางแน่ๆ เมื่อส่องกระจกดูก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวโดยเร็ว ไม่ลืมที่จะหยิบชุดเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย
ภูติเห็นเธอหยิบชุดเข้าไปใส่ด้วยก็แอบขำคนเดียว ทำไมต้องกลัวเขาขนาดนั้น แต่ดูๆแล้วชลันสวยไม่ใช่เล่น ร่างกายได้สัดส่วนพอดี ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้ง เรื่องงานก็เก่งแก้ปัญหาได้ฉับไว นิสัยดีมองโลกในแง่ดี ไม่แปลกที่เอกพจน์ไม่ปล่อยให้เธอไปมีคนอื่น ถึงทำเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้น สักพักชลันอาบน้ำเสร็จพร้อมใส่เสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย
“คุณภูมองลันทำไมคะ ลันมีอะไรแปลก” ชลันหันซ้ายหันขวาสำรวจตัวเอง หลังเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ทว่าเธอเอาชุดเข้าไปใส่ในนั้นด้วย
“นี่ลันทำไมต้องเอาชุดเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย ผมไม่พิศวาสคุณหรอกหน่า” ภูติพูดและยิ้มส่ายหัวกับการกระทำของเธอเล็กน้อย
“ว่าไม่ได้นะคุณภู ลันออกจะสวยขนาดนี้ เกิดคุณภูเปลี่ยนใจมาชอบผู้หญิงแบบลันเคลียร์กับคุณชัชเอาเองนะ”
“นี่ๆหยุดคิดเลย รีบๆแต่งตัวใหม่ได้แล้ว วันนี้เราจะไปเยี่ยมน้องปานกัน”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ลันแต่งงานย้ายมาอยู่บ้านกับคุณภู ลันยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมคุณปานเลย”
ชลันรีบแต่งหน้าทำผมใหม่ เธอไม่ใช่คนชอบแต่งหน้า เติมแป้งเติมลิปสติกนิดหน่อยก็มั่นใจไปได้ทุกสถานที่ ภูตินั่งมองเธอแต่งหน้าทำผม ซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเป่าและไดให้แห้งเพราะเธอเป็นคนผมตรงอยู่แล้ว ดูเหมือนผู้หญิงเรียบๆแต่สวยไม่ใช่เล่น ภูติไม่แปลกใจสักนิดที่ก่อนหน้านี้ลันคบผู้ชายหลายคน
“คุณภูแอบมองลันอีกแล้ว” เธอหันมาประสานสายตาเข้าพอดี เพราะรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังจ้องอยู่
“ผมก็แค่มองเฉยๆ ไม่เคยเห็นผู้หญิงแต่งตัวแบบใกล้ชิดขนาดนี้”
“ก็แหงนิคุณภูไม่ได้ชอบ... เอ่อชอบ... ช่างเถอะ”
“ก็จริงของคุณ” ภูติตอบพร้อมเดินออกไปจากห้องเพื่อไปรอชลันที่รถ ไม่นานเธอก็เดินตามหลังมาสองคนขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเพื่อไปหาปานชีวา
เมื่อมาถึงภูติกับชลันเปิดประตูห้องที่ปานชีวานอนรักษาตัวอยู่ก็พบคุณหญิงราตรีในห้องด้วย ทั้งสองคนทำความเคารพกล่าวทักทาย ส่วนคุณหญิงราตรีก็รับไหว้ด้วยความเอ็นดู
“อาการน้องปานเป็นไงบ้างครับคุณน้า” ภูติถามคุณหญิงราตรีพร้อมเดินเข้ามาใกล้ๆเตียงที่ปานชีวานอนหลับอยู่ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ไม่รับไม่รู้กับการมาของพวกเขาแม้แต่น้อย
“อาการทรงตัวจ้ะตาภู น้าก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้น้องฟื้นขึ้นมาเร็วๆ น้าจะขาดใจอยู่แล้ว” คุณหญิงราตรีพูดทั้งน้ำตา ภูติต้องโอบกอดและก็ปลอบใจ โดยมีชลันยืนดูอยู่ห่างๆ เพราะเธอไม่รู้จะเข้าไปพูดอะไรกับคนที่นอนไม่รู้สึกตัว และผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของตนคนนี้ ด้วยความที่ไม่เคยพบเจอหรือพูดคุยกันมาก่อน หน้าที่ของเธอคือยืนดูเฉยๆนิ่งๆ
“น้องปานต้องหายครับ คุณน้าเชื่อผมนะ สักวันน้องปานต้องฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ”
“และพากันไปยังไงมายังไงล่ะ ถึงได้มาที่นี่”
“อ่อ ผมกับลันตั้งใจมาเยี่ยมน้องปานครับ มาเยี่ยมคุณน้าด้วย คุณน้าต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ ทรุดไปอีกคนแย่เลย” ภูติหยิบมือคุณหญิงราตรีขึ้นมากุมไว้ให้กำลังใจ คุณหญิงราตรียิ้มให้เขาและพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“ว่าไงจ๊ะหนูลัน เห็นเงียบตั้งแต่มาถึงแล้ว ตามสบายนะไม่ต้องถือสาน้า วางแผนมีลูกกันยังจ๊ะ” คุณหญิงราตรีหันไปพูดกับชลัน
“ลันกับคุณภูยังไม่คิดที่จะมีลูกตอนนี้ค่ะ ไว้สักปีสองปีก่อน คุณภูก็ยังไม่พร้อมด้วย”
“รีบๆนะตาภูนานเดี๋ยวไม่ทันใช้”
ทั้งสามคนคุยกันสัพเพเหระถึงเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย สักพักทั้งสองคนก็ขอตัวกลับไป ปล่อยให้คุณหญิงราตรีใช้เวลาอยู่กับลูกสาวให้เต็มที่ ก่อนจะกลับภูติเข้าไปลาปานชีวา ก้มหอมหน้าผากเธอเบาๆและพูดในใจ “น้องปานรีบตื่นขึ้นมานะ รีบตื่นขึ้นมาดูว่าพี่มีเมียแล้ว เห็นมั้ยเราไม่ชนะพี่หรอกยายปานเอ้ย” และเขาก็เดินออกมาขอตัวกลับ
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภูติภาชลันขับรถเล่นไปนู้นไปนี่ ก่อนจะหมดวันเพราะยังไม่อยากเข้าบ้าน ภูติลืมชัชพงษ์ไปเลย ลืมว่ายังไม่ได้บอกว่าตนเองไม่ได้ไปหา
....
ตั้งแต่เช้าไลน์หาไม่อ่านไม่ตอบ นัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันวันนี้ทำไมยังไม่มา หรือว่าติดงานด่วน ถึงด่วนยังไงก็น่าจะบอกกันบ้าง นี่อะไรเล่นหายไปทั้งวัน แถมติดต่อไม่ได้อีก ชัชพงษ์กระวนกระวายใจนั่งไม่ติด เดินไปเดินมารอบห้อง เขามารอภูติตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อจะพบกันแต่จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของภูติ
ชัชพงษ์ลองโทรเข้าเบอร์เลขาหน้าห้องของภูติ ทำทีว่าโทรมาติดต่องานกลับได้ความว่าภูติไม่เข้าบริษัท พอถามถึงชลันเลขาบอกว่าเธอไม่เข้าบริษัทเหมือนกัน พอหลอกถามว่าภูติไม่เข้าบริษัทเพราะไปดูงานด่วนหรือเปล่า เลขาก็บอกว่าไม่มีงานด่วนเข้ามา ชัชพงษ์คิดว่าทั้งสองคนต้องอยู่ด้วยกันแน่นอน และต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เขาส่งข้อความไปถามภูติ และเฝ้ารอคำตอบ ภายในใจขณะนี้จะร้อนรนเป็นไฟแค่ไหนเขาก็ไม่กวนภูติให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ แม้อยากจะโทรจิกโทรตามมากแค่ไหนเขาก็ไม่อาจทำได้ ชัชพงษ์นั่งดูหน้าจอมือถือที่ไม่มีวี่แววของการอ่านข้อความจากปลายทาง พร้อมดื่มเบียร์ไปด้วย เมื่อเริ่มเมาสติเริ่มไม่ปกติความน้อยใจที่มีมาตลอดหลังจากภูติแต่งงานก็ถาโถมประดังเข้ามา น้ำตาไหลอาบสองแก้มไม่รู้ตัว ชัชพงษ์ไม่เช็ดน้ำตาออกปล่อยให้มันไหลออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมยกเบียร์ดื่มไม่วางมือ
“ขอโทษนะครับที่ผมยกเลิกกลางคัน พอดีผมติดธุระ ขอโทษจริงๆ ผมคิดถึงนะครับ ไว้เจอกันรอบหน้านะ”
ไม่นานเสียงข้อความก็ดังขึ้นเมื่อมีคนส่งมา ชัชพงษ์หยิบขึ้นมาดู เขาต้องหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยอาการเมา “พึ่งนึกได้เหรอ ฮ่าๆ” ชัชพงษ์ไม่ได้ตอบข้อความกลับไป ปิดมือถือเหมือนกลัวว่าภูติจะโทรเข้า และยกเบียร์ดื่มอีกครั้ง กระป๋องเบียร์กระจัดกระจายเต็มห้อง
เวลานี้เหมือนไฟสุมอก ความแค้นและชิงชังผุดขึ้นมาในหัว เขาต้องกำจัดชลันให้พ้นทางอีกคน ปานชีวาก็ทำสำเร็จมาแล้ว ชลันอีกคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรถึงจะมีโอกาส เพราะเธอกับภูติตัวติดกันตลอด เมื่อคิดถึงว่าชลันกับภูติตัวติดกัน ภาพในหัวก็ผุดขึ้นเป็นภาพชลันกับภูตินอนเตียงเดียว นอนด้วยกันทุกคืน ยิ่งทำให้เขาเจ็บใจ เครียดแค้นมากยิ่งขึ้น และเผลอบีบกระป๋องเบียร์จนแบนไปกับมือ น้ำเบียร์ที่ยังกินไม่หมดพุ่งไหลเลอะห้อง
ด้วยความเมามากที่ดื่มตั้งแต่เช้าทำให้เขาหลับ ซบลงข้างเตียงนอนโดยที่มือยังถือกระป๋องเบียร์อยู่ หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ตื่นมาอีกทีก็พบว่ามืดค่ำแล้ว เขาเปิดมือถือตนเองขึ้นมา พบว่าภูติโทรหาเขาจริงๆ ชัชพงษ์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้โทรกลับ
ชัชพงษ์คิดอะไรบางอย่างออกหัวเราะออกมาเสียงดังคนเดียว “รีบๆมีความสุขด้วยกันนะคุณภูก่อนที่จะหมดเวลา” ชัชพงษ์พูดกับตัวเอง ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวกลับ อยู่ไปภูติก็คงไม่มาหาตนตามนัดแล้ว
“ว่างๆค่อยมาเจอกันนะครับคุณภู ผมรอได้สบายใจได้เลยครับ ผมเข้าใจ” ชัชพงษ์ฝากข้อความให้ภูติ ยิ้มอย่างคนมีความสุขเมื่อนึกถึงภาพในหัวกับสิ่งที่เขากำลังคิดจะทำ แค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แล้วทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ