จนเลยต้องทน

กระทู้คำถาม
ฉันโดนข่มขืนตอนอายุ16 ตอนฉันเรียนปวช ปี1 ฉันโดนข่มขืนและฉันต้องยินยอมเพราะฉันจนไม่มีทางเลือก ฉันเคยถามเขาว่าไม่มีอะไรกันได้ไหม ขอเรียนจบแล้วมีงานทำจะรีบหาเงินมาคืนให้ เขาบอกไม่ได้คนรักกันก็ต้องมีอะไรกัน เราก็ถามกลับไปรักกันไม่มีอะไรกันได้ไหมขอแค่เรียนไปก่อนเขาบอกคนรักกันไม่มีอะไรกันจะเสียเงินส่งเรียนทำไม ส่วนเราก็ได้แค่เงียบและร้องไห้ไม่ให้ใครรู้ พอใกล้ถึงวันเปิดเทอมแรกเราต้องไปซื้อชุดนักเรียน เราก็เป็นคนบ้านนอกเข้ามาในเมืองไม่รู้อะไรทำยังไง วันนั้นเขาเลยมาหาเรา ก็ได้แต่คิดว่ามาทำไมถ้าอยากช่วยเรื่องชุดทำไมเขาไม่โอนตังมา เดินหาซื้อเองก็ได้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เจอกัน เรากลัวเขามากกว่าเขิลนะแต่ต้องแกล้งทำเป็นเขิลรู้สึกดี ครั้งแรกที่เจอกันเขาเอามือมาลูบที่หัวจับตัว ส่วนเราก็เกรง ทั้งสองมือก็กำกำปั่นแน่นอยากจะป้องกันตัว แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องได้เรียนไว้ก่อน พอเจอกันก็ขึ้นรถ เขาก็บอกว่าหาที่พักก่อนขับรถมาจากกรุงเทพเหนื่อยขอเอาของไปเก็บล้างหน้าล้างตาก่อน ส่วนเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาก็เดินทางมาไกลก็หน้าจะอาบน้ำล้างหน้า เขาก็พาไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันอย่างที่เขาว่า ส่วนเราก็นั่งกอดกระเป๋ารอว่าจะได้ไปซื้อชุดตอนไหน
พอเขาออกมา เขาก็นั่งข้างๆเราและเขาก็ดึงตัวเรามากอดและตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรและไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรเราด้วย  เราก็คิดว่าเขาแค่กอดเฉยๆจากนั้นเราก็บอกเขาว่าขอไปเข้าห้องน้ำแล้วเขาก็ปล่อย พอเข้าห้องน้ำทุกอย่างก็เงียบไปหมดและมีคำพูดต่างๆลอยขึ้นมาว่า อย่าทำให้เขาเสียอารมณ์เสียความรู้สึกและเสียใจ ทำให้เขามีความสุขเข้าไว้ อย่าให้เขารู้ว่าเรารู้สึกอะไรในขณะที่มีคำพูดลอยเข้ามาเราก็ทั้งกลัวและเสียใจแต่ทำได้แค่ยิ้มแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำมา พอเดินออกมาแล้วก็ถามเขาว่าจะไปซื้อชุดเลยไหม เขาบอกคุยกันก่อนเขาดึงเรามากอดหอมส่วนเราก็เอาหมดมากอดกันเขาไว้แน่ และมีเสียงจากจิตใต้สำนึกเรากระซิบว่าถ้าทำให้เขาไม่มีความสุขเราจะไม่ได้เรียนนะ ทำตัวมีความสุขเข้าไว้เขาจะได้พอใจจากนั้นเราก็เริ่มปล่อยหมอนแล้วทุกอย่างก็มืดไปหมดแต่มีตัวหนังสือสีขาวโผล่ขึ้นมาคือคำว่าเรียนพอหมอนหลุดออกจากมือคำว่าเรียนก็หายจางไปคล้ายๆควันธูป และทุกอย่างก็จบลง ฉันไม่เคยคิดเรื่องเรียนอีกเลยจากวันนั้นฉันคิดแต่เรื่องวันนั้นคิดทุกวันมันเป็นภาพที่ทำให้ฉันใจสลายที่สุดฉันไม่มีทางเลือกและฉันขัดขืนไม่ได้ และที่แย่ที่สุดฉันเกือบเป็นโรคประสาทหรือเป็นบ้า เพราะฉันไม่มองหน้าใครไม่ชอบเสียงดัง ในขนะที่ฉันนั่งอยู่คนเดียวฉันยิ้มหัวเราะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ พยายามทำตัวให้ปกติ พออดทนไม่ได้จริงๆจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไประบายความรู้สึกเพราะกลัวคนรู้ ภายนอกฉันดูปกติทุกอย่างสำหรับสายตาคนอื่น แต่ข้างในฉันรู้ดี แต่อาการนี้ก็ดีขึ้นฉันเริ่มสามารถควบคุมตัวเองได้แต่หนีไม่พ้นกับภาพเดิมๆที่มันติดตาและความรู้สึกนั้น ผ่านมา3ปีแล้วฉันก็ยังไม่ลืมในทุกๆวันฉันจะร้องไห้กับเรื่องนี้ในช่วงเวลาหนึ่งในวันนั้นๆ และตอนนี้ฉันก็ยังคงร้องไห้อยู่ ตอนนี้เรียนปี1 รายละเอียดเรื่องราวที่เยอะ ขอระบายแค่นี้พอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่