ประสบการณ์ขอวีซ่าเรียนภาษาเยอรมัน type D แต่มีข่อผิดพลาดจากสถานทูต เกือบเข้าเยอรมันไม่ได้

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ข้อผิดพลาดของการทำวีซ่าระยะยาว Type D หรือ national Visa กับสถานทูตเยอรมัน : วีซ่าเรียนภาษาเยอรมัน

แนะนำก่อนว่าสำหรับใครที่แฟนเยอรมัน ให้ทำวีซ่าแต่งงานไปเลย มันง่ายกว่า วีซ่าเรียนยุ่งยากและอาจโดนปฏิเสธได้ แต่วีซ่าแต่งงานคุณจะไม่โดนปฏิเสธค่ะ ถ้าคุณทำทุกอย่างตามเว็บไซต์สถานทูตแนะนำ และรอไม่นานเท่าวีซ่าเรียนด้วย

เรารอวีซ่า 7สัปดาห์ 2 วัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้รอนานน่าจะเพราะเราไม่ได้ทำ Block account เรามีแฟนซัพพอร์ตค่ะแล้วก็ยื่นเฉพาะสลิปเงินเดือนแฟน (แฟนไม่โชว์ bank account เขาบอกว่ามันสิทธิ์ส่วนตัวเขา เราเลยโชว์เฉพาะสลิปเงินเดือน ตั้งแต่ทำวีซ่าเยี่ยม 3ครั้งก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยมีปัญหาค่ะ ผ่านแน่นอน❗️)

ขั้นตอนการขอวีซ่าเรียนภาษา เพื่อไปเรียนที่เยอรมัน เคสมีใบเชิญและแฟนซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย (เราจะให้ลงรายละเอียดบางขั้นตอนนะคะเพราะมีคนแชร์เยอะแล้ว แต่เราจะเล่าสิ่งที่คนอื่นไม่เจอ และไม่มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต)

เตรียมเอกสารตามเว็บสถานทูต โดยดูตามนี้ https://bangkok.diplo.de/th-th/service/visa-einreise/langzeit-sprachkurs/2141734

*เอกสารทุกอย่าง ต้องใช้ตัวจริง และไปถ่ายเอกสาร2ชุดนะคะ เพราะสถานทูตจะเก็บตัวถ่ายเอกสาร1ชุด อีกชุดจะให้ทางเยอรมันค่ะ*

เอกสำร/หลักฐำนที่ใช้ประกอบกำรยื่นคำร้องขอวีซ่ำ ได้แก่ (ฉบับจริง พร้อมสำเนำ 2 ฉบับ):
  
1.หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งาน พร้อมสาเนาหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว 2 ฉบับ ในบางกรณีอาจต้องใช้หนังสือเดินทางเล่มเก่า
  
2.รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก  2 ใบ - หลังรูปให้เขียนชื่อนามสกุล เลขพาสปอร์ต (เผื่อรูปหาย เขาจะได้รู้ว่าเป็นของคนไหน)
  
3.แบบฟอร์มคาร้องขอวีซ่าประเภท National Visa ที่กรอกข้อความครบถ้วน 2 ฉบับ
  แบบฟอร์มสำหรับวีซ่าเพื่อการพำนักระยะยาวในประเทศเยอรมนี อิเล็กทรอนิกส์
กรุณาตอบคาถามทุกข้อ และกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ พร้อมลงลายเซ็น
  ข้อมูลตามมาตรา 13 และ 14 ระเบียบข้อบังคับ (สหภาพยุโรป) 2016/679 (ระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล)
  ใบยืนยันรับทราบระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล
  
4.ใบลงทะเบียนเรียนของโรงเรียนภาษา (เวลาเรียนไม่ต่ากว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) - ให้แฟนขอกับโรงเรียนแล้วระบุเลยว่าจะใช้เป็นหลักฐานขอวีซ่า
  
5.หลักฐานการศึกษาทุกระดับที่ผ่านมา - เรายื่นเฉพาะป.ตรีฉบับภาษาอังกฤษค่ะ เพราะอย่างอื่นอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
  
6.หลักฐานการประกอบอาชีพที่ผ่านมา (หนังสือรับการทางาน ฯลฯ) - เราเคยทำงานออฟฟิศนั้งแต่อายุ22-27 กับ4บริษัท แต่เรายื่นใบรับรองการทำงานที่บริษัทออกให้ตอนเราลาออก 3 บริษัทล่าสุดเท่านั้น พยายามใช้ฉบับภาษาอังกฤษนะคะ แต่ถ้าเขาออกให้เป็นไทยก็ลองยื่นดูค่ะ
  
7.หนังสือเขียนแสดงเหตุผล/แรงจูงใจหรือจุดมุ่งหมายในการเรียนภาษาเยอรมัน - ตอนแรกเราพิมพ์ภาษาอังกฤษทั้งของเราและแฟน แต่2สัปดาห์ต่อมาสถานทูตโทรมาว่าทางเยอรมันขอเป็น “ภาษาเยอรมัน” ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาให้แฟนพิมพ์เป็นเยอรมันไปเลยค่ะ เขียนเล่าประมาณว่าจบอะไรมา เคยทำงานไรบ้างหรืออยากทำอะไรทำไมอยากไปเรียนที่เยอรมันทำไมไม่เรียนที่ไทย เรียนแล้วจะใช้พัฒนาอะไรได้บ้าง หลังจากเรียนจะทำงานอะไร(ระบุชื่อที่เรียน ระยะเวลาเรียนด้วยนะคะ)
  
8.หลักฐานการเงิน เช่น- หนังสือรับรองค่าใช้จ่ายและภาระผูกพันอย่างเป็นทางการตามมาตรา 66-68 ของกฎหมายว่าด้วยการพานัก

หรือ
- หลักฐานแสดงรายได้และทรัพย์สินของบิดา มารดา (เช่น หนังสือรับรองจากธนาคาร หนังสือรับรองการทางานฯลฯ) หรือ
- หลักฐานการเงินของตนเอง *เราใช้สลิปเงินเดือนแฟนเท่านั้นค่ะ ขอสัก6เดือนล่าสุด ตัวนี้เราให้แฟนเซ็น(รับรองความถูกต้อง)ด้วยค่ะ เพราะพิมพ์จากบริษัทเขาแล้วมันดูเหมือนสำเนา และเรามีใบเชิญแบบทางการใบสีเหลืองๆ เรียกว่า Verpflichtungserklärung ให้ดูด้านหลัง ซ้ายล่าง purpose of stay ต้องเป็น Sprachkurs 
  
9.หลักฐานแสดงระดับควำมรู้ภำษำเยอรมัน (เช่น หนังสือรับรองการเข้าชั้นเรียนภาษาจากสถาบันสอนภาษาในประเทศไทย หรือประกาศนียบัตรด้านภาษา) -เราสอบA1แล้ว เราเรียนที่เยอรมันตอนมาเยี่ยมแฟนค่ะ (ตอนนั้นอยู่เกือบ3เดือน เลยเรียนA1 2เดือนเต็ม แบ่งเป็น a1.1 และ a1.2 อย่างละเดือน แล้วสอบได้เลย คะแนนเต็ม100ได้เกือบ90 อิอิ)

เอกสารที่ต้องเอาจากแฟน อย่างใบเชิญทางการต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น ไหนๆเขาต้องส่งตัวจริงมาละก็ให้เขาส่ง เอกสารจากที่เรียนภาษา(คอสเรียนพร้อมใบเสร็จ) ใบเงินสลิปเงินเดือนเขาพร้อมลายเซ็น หนังสือแรงจูงใจแฟนเราอยากยื่นด้วย แต่ใครจะยื่นเฉพาะของผู้ขอวีซ่าก็ได้นะคะ (เขาก็เขียนเล่าว่าทำไมอยากให้เราเรียนภาษาที่นู่น จะเรียนที่ไหนระยะเวลาขนาดไหน) ครั้งแรกยื่นเป็นอังกฤษค่ะ แฟนก็เซ็นท้ายหนังสือด้วย (ทำเหมือนจดหมายทางการอะค่ะ เรียนสถานทูต เรื่อง ขอวีซ่าเรียนภาษาเยอรมัน type D แล้วก็เล่ารายละเอียด ตอนจบก็ sincerely yours แล้วก็เซ็น) ลองหาแนวpattern ในเน็ตดูค่ะ หน้าตาหนังสือจะเหมือนพวกจดหมายที่เรายื่นสถานทูตตอนขอวีซ่าเที่ยวหรือเยี่ยมเยียนนั่นแหละค่ะ แค่เนื้อหาเปลี่ยน) 📌เราส่งให้ดูไม่ได้นะคะเพราะมันอยู่ในคอม แล้วเราไม่ได้เอาคอมมาด้วย ตอนนี้เราอยู่เยอรมันแล้วค่ะ)

บางทีคิวสัมภาษณ์แน่นมากทำให้รอนาน ถ้าไม่อยากรอนานระหว่างเตรียมเอกสารก็ลองเข้าไปดูคิวไว้ค่ะ ถ้าคิดว่าเอกสารจะเตรียมเสร็จแล้วก็กดจองเลย จะได้ไม่ต้องรอนานค่ะ แล้ววีซ่าระยะยาวบางวันมีแค่1เคาเตอร์ทำงานค่ะ ทำให้คิวยาวมากกกกกกก *ถ้าไปวันนั้นไม่ได้ขอให้กดยกเลิกล่วงหน้าค่ะ อย่าปล่อยให้คิวหลุดเฉยๆไม่งั้นจะมีปัญหาตอนจองคิวครั้งถัดไป*

ได้คิวแล้วให้ไปถึงก่อนล่วงหน้าตามที่เว็บแจ้งนะ 15-30นาที เพราะพอใกล้ๆนัดเรา จะสามารถไปรอข้างในได้แล้วกดบัตรคิวได้เลย (คิวที่นั่งรออยู่ข้างในยาวมาก เก้าอี้แทบไม่พอ)

ผ่านการแสกนกระเป๋าเข้ามาตัวอาคาร ให้กดบัตรคิวที่เครื่องมันจะรถบุว่า วีซ่าระยะยาว เคาเตอร์13 

นั่งรอสวยๆ เราคนนอนดึกตื่นสาย ก็จะมานั่งสัปหงกค่ะ เพี้ยนขำหนักมาก

ถึงคิวยื่นเอกสารทุกอย่าง ทั้งตัวจริง สำเนา คำถามจะประมาณว่า *ให้ตอบตรงประเด็น ไม่ต้องตอบยืดยาวนะคะไม่งั้นจะเจอเบรคหน้าแหก 5555* เราได้เคาเตอร์เบอร์12

เจ้าหน้าที่ : มาทำอะไรคะ
เรา : ขอวีซ่าระยะยาว เรียนภาษาเยอรมันค่ะ

เจ้าหน้าที่ : เคยเรียนภาษาเยอรมันไหม เรียนที่ไหน
เรา : เรียนที่เยอรมันค่ะ (เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการชื่อสถาบัน ตอบแค่นี้พอ)

เจ้าหน้าที่ : เรียนจบอะไรมาคะ จบเมื่อไร
เรา : จบปริญญาตรีบัญชี ที่มหาวิทยาลัยxxx เมื่อ7ปีที่แล้วค่ะ (จำปีไม่ได้5555)

เจ้าหน้าที่ : เคยทำงานไหม ที่ล่าสุดทำนานแค่ไหน ทำงานอะไร
เรา : ที่ล่าสุดทำกับ xxx ทำ5เดือนค่ะ ทำบัญชี

เจ้าหน้าที่ : ทำไมอยากเรียนภาษาเยอรมัน
เรา : อยากเรียนเพราะ บลาๆๆๆ จะเอาไปใช้บลาๆๆๆๆ

เจ้าหน้าที่: เรียนภาษาเสร็จแล้วจะนำมาพัฒนาอะไรที่ไทย
เรา : จะใช้ทำงานด้าน บลาๆๆๆตอบไปค่ะ ช่วงที่พูดก็อย่าพูดเร็วมากเพราะเจ้าหน้าที่จะจบตามที่เราพูด

คำถามน่าจะประมาณนี้ค่ะ ไม่เยอะ เร็วจนแฟนเราตกใจ เจอเจ้าหน้าที่ไม่ถึง25นาทีเสร็จ
จ่ายเงิน 75€ เขาจะเก็บเงินไทยตอนนั้นคือ 2700 บาท
แล้วเจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารตัวจริงให้เช่น พาสปอร์ต ใบประกาศa1 ใบเชิญสีเหลือง คอสเรียนพร้อมใบเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะแม็คใบสีขาวไว้กับพาสปอร์ตแผ่นสุดท้าย จะระบุวันที่เรายื่นวีซ่า และเลขคำขอของเรา และพูดว่า รอผล8สัปดาห์ หลังจากนั้นถ้าไม่มีการตืดต่อไป โทรมาสอบถามตามเบอร์ในใบนี้

เรายื่น 4 กันยา 2019 วันที่ 23 กันยา เจ้าหน้าที่น่าจะคนที่สัมภาษณ์เราโทรมาว่า ทางเยอรมันจอหนังสือแรงจูงใจเป็นภาษาเยอรมัน และขอแค่ของเราไม่ได้ขอของแฟน .. เราถามว่า “ส่งทางเมล์ได้ไหม” เจ้าหน้าที่บอก “ให้มาติดต่อด้วยตัวเองดีกว่าถ้าอยู่กทม. เพราะถ้าส่งทางเมล์กลัวว่าจะไม่เห็น” เพราะเขาใช้เมล์รวมค่ะ เป็นเมล์ที่โชว์ในเว็บสถานทูตนั่นแหละ ให้รีบไปยื่นเพราะเขาจะรีบแสกนส่งให้ทางเยอรมัน

เราไปยื่นวันที่ 24 กันยา ไม่ต้องจองคิวทางเน็ตหรืออะไร ให้เดินทางไปสถานทูตเลยแล้วบอกยามว่ามายื่นเอกสารเพิ่มเติม เข้าไปตัวอาคารก็กกบัตรคิวเคาเตอร์เบอร์13 เหมือนเดิม

เราแจ้งว่ามายื่นหนังสือแรงจูงใจค่ะ เราพิมพ์ไป2แผ่นพร้อมลายเซ็น และยื่นพาสปอร์ตให้ด้วย
เจ้าหน้าที่เช็คในระบบตามใบขาวๆที่แม็คกับพาสปอร์ต แล้วพูดว่า “เข้าใจละ” เสร็จค่ะ กลับมารอที่บ้านต่อ
ระหว่างนั้นมันใกล้วันเกิดเราละ

ปูเสื่อประมาณวันที่10ตุลาโทรหาสภานทูตตามเบอร์ที่ได้ เขาแจ้งว่าต้องโทรมาตอน13.00-15.00 เท่านั้น
บ่ายนิดๆโทรไปแล้วแจ้งชื่อนามสกุลและเลขคำขอวีซ่า (ที่เขาเขียนไว้บนกระดาษทีทเขาแม็คกับพาสปอร์ต) 

เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า “ยังไม่ถึง8สัปดาห์เลยค่ะคุณ” 
เราเลยแจ้งว่า “พอดีอยากไปก่อนวันเกิด (เราเกิด18ตุลา) ถ้างั้นไปขอวีซ่าเยี่ยมเยียนก่อนได้ไหมคะ” 
เจ้าหน้าที่ตอบเสียงดังฟังชัดว่า “ไม่ได้ค่ะคุณ คุณต้องรอตัวนี้อยู่ดี”
... จบบทสนทนา รอต่อไป

เช้าวันที่16ตุลา ทางเยอรมันส่งเมล์หาแฟนว่า ให้มาทำเชิญใหม่ เพราะใบเชิญครั้งแรกที่เรายื่นไปมันสำหรับวีซ่าระยะสั้น เพราะมันเขียนว่า Besuch (แปลว่าเยี่ยมเยียน) และระบุว่าอยู่ได้ไม่เกิน90วัน แฟนเราไปทำภายในวันนั้น ซึ่งมันตรงวันเสาร์เขาเปิดถึงแค่เที่ยง

อันใหม่ที่เราได้มันระบุว่า Sprachkurs (แปลว่าคอสเรียนภาษา) ตรงระยะเวลาพำนักเขียนว่า Dauer des Sprachkurses (แปลว่า ขึ้นอยู่กับคอสเรียน)

แฟนเรามีการบ่นนะคะ เพราะตอนแฟนทำใบแรก แฟนบอกชัดว่า จะใช้ขอวีซ่าระยะยาวเรียนภาษา แต่เจ้าหน้าที่คนที่ทำวันนั้นบอกว่า มันมีแต่pattern นี้ แต่มาวันนี้อีกคนบอกมันใช้ไม่ได้ต้องเสียเวลาไปทำใหม่ และเสียเงินอีก29€ เจ้าหน้าที่ก็ขอโทษนางค่ะ เพราะคนที่ทำคนแรกไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไร

ให้แฟนส่งตัวจริงมาค่ะ แบบด่วน แฟนส่งวันนั้นเลย แต่ไทยในวันหยุดนักขัตฤกษ์ เราได้เอกสาร24ประมาณ11โมงเช้า dhl โทรมาส่งของ

ให้แฟนตามกับทางเยอรมันเรื่อยๆค่ะ เพราะไทยบอกให้ตามกับเยอรมันเลย จะช้าเร็วคือการทำงานของเยอรมันเรามาแฟรงก์เฟิร์ตค่ะ ซึ่งช้ามากกกกกก เพราะอำเภอใหญ่ เอกสารเขาเยอะมากกกกก งานเขาเยอะมากกกก ยิ่งอำเภอใหญ่ยิ่งช้าค่ะ เพราะคนทำงานน้อยกว่าเอกสาร เขามีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ

จะมีจุดพีค .. ยาวหน่อย ต้องแบ่งข้อความ เอิ้กกกเพี้ยนปักหมุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่