ปลาย นักสืบจำเป็น - File 18 : คนตายในอพาร์ตเม้นต์ [บทเฉลย]

ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

- 3 -
 

                “คงใกล้จะถึงเวลาที่ผมสรุปคดีนี้แล้ว” สารวัตรเอกวิทย์พูดขึ้นมา

                ดูเหมือนว่าสารวัตรจะได้ข้อมูลพอที่จะสรุปคดีนี้แล้ว เขาถึงพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ

                “แต่สารวัตรแน่ใจหรือคะ ..ว่าที่คิดมันจะถูกต้อง” ปลายฝนเอ่ยถาม

                “แน่ใจสิครับ ผมได้ข้อมูลมากพอที่จะเปิดเผยความจริงแล้ว” สารวัตรยืนยันอย่างเชื่อมั่น

                “งั้นก็แล้วแต่คุณ ฉันเองก็รู้ความจริงของเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน” 

                “อืม...” สารวัตรเอกวิทย์มองหน้า “ก็ดีครับ แต่ยังไงผมจะเป็นคนไขคดีนี้เอง คุณจะนั่งฟังด้วยก็ได้ครับ” 

                “ค่ะ” นักเขียนสาวเพียงพยักหน้า ปล่อยให้สารวัตรเอกวิทย์ดำเนินการต่อไป

                ดังนั้น ไม่นานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงถูกตำรวจเรียกตัวให้มารวมกันที่ห้องหนึ่งภายในอพาร์ตเม้นต์ที่ใช้แทนห้องสอบสวน โดยทางตำรวจได้เรียกตัวนายวรุฒเพื่อนของผู้ตาย นางวนิดาผู้ดูแลอพาร์ตเม้นต์ นางสาวเอมิตาผู้พักห้อง 204 และนายเอกชัยผู้พักห้อง 205 มาร่วมฟังด้วย

                “เอาล่ะ ...ผมรู้ความจริงของคดีนี้แล้ว ผมจะไขคดีนี้ให้ทุกคนฟัง” สารวัตรเอกวิทย์เกริ่น

                มีเสียงฮือฮาจากผู้เกี่ยวข้องตอบรับทันที พวกเขาย่อมอยากรู้ความจริงของเรื่องนี้อยู่แล้ว

                “ตอนนี้เราทราบแล้วว่านายอดิศรตายได้อย่างไร และใครเป็นคนฆ่า” สารวัตรพูดขึ้นต่อ เขามองปลายฝนนักเขียนหญิงที่นั่งอยู่ แล้วค่อยหันไปมองคนอื่น “คดีนี้เป็นการตายของนายอดิศร ซึ่งได้ตายภายในห้องของตัวเองที่ปิดล็อกอยู่ทุกด้าน ทั้งประตูหน้าห้อง และประตูหลังตรงระเบียง จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นฆาตกรรมในห้องปิดตายก็ได้ เพราะไม่มีใครเข้าไปฆ่าแล้วออกมาจากห้องนี้ได้ ...แต่ในความเป็นจริงแล้ว..มันไม่ใช่!! เพราะว่าฆาตกรอยู่ในห้องกับผู้ตายตั้งแต่ทีแรกแล้ว!!”

                ทุกคนส่งเสียงตอบรับการพูดของสารวัตรขึ้นอีก มีเพียงปลายฝนเท่านั้นที่นั่งนิ่งรอคอยสารวัตรกล่าวสืบต่อ

                แล้วก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นมา เป็นนายเอกชัยผู้พักห้อง 205 เขาพูดว่า

                “อย่าเพิ่งนะครับคุณสารวัตร ถ้าฆาตกรอยู่ในห้องกับผู้ตาย แล้วตอนนี้ไปไหนล่ะ ...จะบอกว่าหนีออกไปหรือครับ ...มันก็ไม่น่าใข่ เพราะห้องถูกปิดล็อกทุกด้าน ไม่มีทางที่จะหนีไปได้เลย”

                “หึ.. คุณอย่าเพิ่งโวยวายไป รอฟังผมอธิบายต่อนะครับ” สารวัตรหันบอกนายเอกชัย “อย่างที่ผมบอก ฆาตกรอยู่ในห้องตั้งแต่ทีแรกแล้ว แต่เราไม่รู้เท่านั้น”

                “ยังไง?” นายเอกชัยรวมทั้งคนอื่นยังงง

                “เอาอย่างนี้ ผมจะบอกล่ะกัน ว่าทำไมผมถึงคิดว่ามีฆาตกรอยู่ในห้อง”

                ทุกคนนิ่งรอสารวัตรเอกวิทย์พูดต่อ

                “ที่ผมคิดว่าฆาตกรอยู่ในห้อง มันมาจากเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่บ่งชี้ไปเช่นนั้น ...หนึ่งก็คือ ถุงดำใบใหญ่ที่พบในห้อง” สารวัตรเอกวิทย์หันหน้าไปหานางวนิดา “คุณวนิดาครับ ผมขอถามคุณหน่อยครับ ว่าตอนที่คุณเจอคุณอดิศรก่อนที่ตายนั้น เขาถือถุงดำใบใหญ่นี้มาใช่มั้ยครับ?” 

                เขาหยิบถุงดำใบที่ว่าขึ้นมา ชูให้นางวนิดาดู

                “น่าจะใช่นะ” นางวนิดาตอบทันที “ฉันเห็นเขาถือเข้ามาในอพาร์ตเม้นต์ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างหนักด้วย เพราะเห็นเขาคอยใช้มืออีกข้างพยุงอยู่เรื่อย ๆ ...และตอนถือมาเขาสวมถุงมือด้วยนะ เป็นถุงมืออย่างหนาซะด้วย”

                “อืม.. ครับ นี่คือเหตุผลแรก ต่อไปเป็นอย่างที่สองคือ เสียงร้องที่คุณเอมิตาได้ยิน” คราวนี้สารวัตรหันหน้าไปหานางสาวเอมิตาผู้พักห้อง 204 บ้าง “คุณเอมิตาครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณเหมือนกัน คุณมั่นใจมั้ยว่าได้ยินเสียงร้องจริง ๆ”

                “ค่ะ ฉันค่อนข้างมั่นใจ เพราะเสียงร้องนี้ดังแหลมขึ้นมามากว่าเสียงอื่น” เอมิตาบอก

                “เรื่องนี้คือเหตุผลที่สอง” สาวัตรเอกวิทย์พยักหน้ารับ ฉีกยิ้มขึ้นมาอีก “ต่อไปเรามาที่เหตุผลที่สามกันต่อ ซึ่งก็คือ กล่องอเนกประสงค์ที่พบภายในห้อง”

                เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล่องอเนกประสงค์ที่ว่านี้ออกมาให้ทุกคนดู

                นายตำรวจมองกล่องอเนกประสงค์นั้น แล้วเอ่ยขึ้นต่อ “ทุกคนจะเห็นได้ว่ากล่องใบนี้มีขนาดใหญ่ แถมยังมีจุดหนึ่งที่ดูแปลก ๆ ด้วย นั่นก็คือ การเจาะรูที่กล่อง”

                “นั่นสิ มันเจาะไว้ทำไม?” นางวนิดาถามขึ้นบ้าง

                สารวัตรยิ้มรับ “เหตุที่เจาะรูไว้ ก็เพราะนายอดิศรต้องเอาของสิ่งหนึ่งใส่ในกล่องนี้ ซึ่งถ้าไม่เจาะแล้ว ของสิ่งนั้นจะอยู่ในกล่องนี้ไม่ได้”

                “มันคืออะไร?”

                สารวัตรเอกวิทย์ยังนิ่ง ไม่ตอบไปตรง ๆ เพียงพูดขึ้นว่า “เรื่องนั้น คำตอบอยู่ในเหตุผลที่สี่” เขากวักมือให้ลูกน้องส่งของบางอย่างขึ้นมา เป็นรูปถ่ายสองใบ แล้วเอาให้ผู้ฟังดู “ทุกคนดูรูปนี้นะครับ”

                รูปถ่ายสองใบนั้น เป็นรูปถ่ายเกล็ดสัตว์ที่พบในผ้าพันคอและลำคอผู้ตาย ส่วนอีกรูปเป็นรูปคราบรอยเลื้อยที่พบภายในห้อง

                นายตำรวจพูดต่อ “จากรูปจะเห็นนะครับว่าพบเกล็ดสัตว์บางอย่างและรอยคราบเหมือนสัตว์เลื้อยในห้อง อย่างนี้ทุกคนพอรู้รึยังครับว่า อะไรที่อยู่ในห้องกับนายอดิศร”

                “งูใช่มั้ยครับ” นายวรุฒเพื่อนผู้ตายพูดขึ้น

                “ถูกต้องครับ จากเหตุผลที่ผมบอกมาทั้งหมด มันก็หมายถึงงูนั่นแหละ ถุงดำใบใหญ่ที่พบก็คือ ถุงที่ใส่งูไว้ เสียงร้องของนายอดิศรก็คือ ช่วงที่เขาโดนงูรัดคอ กล่องเจาะรูก็คือ กล่องที่นายอดิศรเอาใส่งูที่จะเลี้ยง และเกล็ดและคราบรอยเลื้อยที่พบก็มาจากตัวงู ซึ่งมันก็เป็นงูเหลือม” 

                ว่าแล้วสารวัตรก็ส่งสายตาให้ตำรวจลูกน้องนำงูที่จับได้ขึ้นมาให้ทุกคนดู ซึ่งงูที่พบเป็นงูเหลือม ลำตัวยาวหนึ่งเมตรกว่า ๆ ได้ แต่ตอนนี้มันไม่อาจเลื้อยไปได้ เพราะว่ามันตายแล้ว  

                “งูเหลือมตัวนี้ผมพบอยู่ในรูระบายน้ำภายในห้องน้ำของห้อง 205 ...“ สารวัตรพูดพลางนำร่างงูนั้นโชว์ให้ทุกคนดู ที่แท้สิ่งที่อยู่ในรูระบายน้ำคืองูเหลือมนั่นเอง ”...นายอดิศรคงนำงูเหลือมเข้ามาเลี้ยงภายในห้อง เขานำงูนั้นใส่ถุงดำใบใหญ่เข้ามาในอพาร์ตเม้นต์ เพื่อไม่ให้ใครเห็น และคงตั้งใจจะเลี้ยงงูในกล่องเจาะรูใบนี้ เขาอาจจะไปเล่นกับงู เอาพาดคอ แต่คงประมาทเกินไปจนถูกงูรัดคอจนเสียชีวิต เสียงร้องของเขาน่าจะดังขึ้นช่วงนี้แหละครับ หลังจากนั้นงูฆาตกรก็เลื้อยไปซ่อนในรูระบายเอง”

                ดูท่าสารวัตรเอกวิทย์จะสรุปว่าฆาตรในคดีนี้คือ งูตัวนี้แน่ๆ ตอนนี้แต่ละคนจึงค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่าฆาตกรจะเป็นงูไปได้

(มีต่อครับ)
              
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่