ผมขอบอกก่อนว่า ชื่อกระทู้ที่ท่านอ่านแล้วสะกิดใจให้ท่านคลิกเข้ามาในกระทู้นี้ จริงๆ แล้วเป็น "คำกวี" อย่างแท้จริง เป็นชื่อที่อ่านแล้วได้เสียงที่ไพเราะและมีความหมายที่งดงาม ซึ่งประโยคที่ว่า "ไฟศิลป์จะเริงโลมสรีระร่างศิลปิน 90" นี้ กวีผู้ลูกนามว่า "ศักดิ์สิริ มีสมสืบ" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2559 ประพันธ์ขึ้นให้แก่คุณแม่ "ชุมสาย มีสมสืบ" ผู้ที่ล่วงลับคืนสู่ธรรมชาติไปแล้วเมื่อเวลา 00.00 น. ของวันที่ 23 ตุลาคม 2562
ตัวผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานนี้ แล้วผมต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เพียงแค่งานศพธรรมดาอย่างที่ทุกท่านคิด แต่เป็นการแสดงผลงานศิลปะภาพวาด ณ ฌาปนสถาน ของคุณยายชุมสาย มีสมสืบ วัย 90 ปี จัดแสดงพร้อมกับผลงานของศิลปินผู้หลานที่มีนามว่า "รินคม มีสมสืบ" วัย 10 ขวบ จัดแสดงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ วัดมะปราง ต.โพนางดำออกบ้านงิ้ว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
ผมขออนุญาตบันทึกภาพบรรยากาศ(เพียงบางส่วน)ของงานในวันนั้นเอาไว้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้วายชนม์ และเพื่อเป็นสำเนาบันทึกความทรงจำของผู้ที่ยังคงอยู่ทั้งหลายด้วย ตัวผู้วายชนม์คุณยายชุมสาย มีสมสืบนั้นเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่คนในวงการวรรณกรรมรักและเคารพเป็นอย่างมากด้วย ตัวท่านเคยมีผลงานเขียนมากมาย อาทิเช่น เรื่อง "เปิดกรุครัวเก่า" , "ดึกแล้วคุณขา" ฯลฯ โดยช่วงปลายชีวิตของท่านนั้น ท่านได้รักการวาดภาพ ได้วาดภาพต่างๆ เอาไว้กว่า 240 ภาพ จึงเป็นที่มาของการจัดแสดงภาพวาดฯ ในครั้งนี้
ว่าแล้วก็ไปชมภาพบรรยากาศโดยรวมกันก่อนครับ
ประวัติของผู้วายชนม์
ชุมสาย มีสมสืบ
วันเกิดตามแจ้งเกิดทางการ วันที่ 3 เม.ย. 2472
วันเกิดตามจริง 3 ธ.ค. 2471
ลูกที่ 2 ใน 3 คนของตาผ่านยายเชื้อ
เดิมชื่อชุ่มเรียนประถมที่โรงเรียนวัดมะปราง แล้วไปเรียนต่อการช่างสตรีชัยนาทในช่วงปีที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่งเรือยนต์จากบ้านไปเรียนที่ตัวจังหวัด สมัยนั้นยังไมมีเขิ่อนเจ้าพระยา จบมาเป็นครูประถมที่.ร.ร.ในตัวตำบลโพนางดำ ใน พ.ศ. 2501 ย้ายภูมิลำเนาไปสร้างก่อตั้งโรงเรียนเอกชนกับสามีที่ อ.ไพศาลี( ยุคนั้นเป็นต.โคกเดื่อ) มีสามีชื่อ บุญลือ มีบุตรด้วยกัน 4 คน คือ สาธิต กิตติศักดิ์ ธรรมนูญ ศศิธร
เป็นแม่เป็นครู เป็นนักอ่าน ( รับนิตยสารสกุลไทย มิตรครู วิทยาสาร ชาวกรุง)
เป็นช่างทำดอกไม้ เป็นช่างเย็บปักถักร้อย มีจักรซิงเกอร์และจักรพ้าบ
เป็นนัดวาดรูป มีผลงานมากกว่า 200 ชิ้น จัดแสดงผลงานภาพวาดเดี๋ยว 5 ครั้ง จัดแสดงร่วมกับศิลปินท่านอื่นเป็นกลุ่มอีกหลายครั้ง
เป็นนักขียน เป็นกวี เขียนบทกลอนมากมาย มีผลงานรวมเล่มคือ "ดึกแล้วคุณขา" "เปิดกรุครัวเก่า" ได้รับรางวัลจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ได้รับรางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์ ประจำปี 2553
เป็นวิทยากรเป็นผู้นำกิจกรรมชุมชนหลายกิจกรรม
คืนสู่ธรรมชาติเวลา 00.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2562
แด่ ชุมสาย มีสมสืบ
ยิ้มน้อยน้อยสงบงามทุกยามพบ
ใจสงบตาประกายชุมสายสมัย
เป็นแม่ผู้ก่อแรงรักสลักใจ
เป็นศิลปินผู้ไร้ซึ่งตัวตน
เป็นนักอ่านสารพันสารพัด
เป็นนักร้อยถ้อยถนัดสมเหตุผล
เป็นนักเย็บถักร้อยแผ่นดินดล
เป็นนักฟังอิ่มกมลในดนตรี
เป็นผู้หญิงยิ่งใหญ่ใจงามงด
เป็นภรรยาผู้หมดจดมีศักดิ์ศรี
เป็นแม่ของลูกลูกปลูกชีวี
เป็นนารีชุมสายผู้ใจทะนง
จากริมเจ้าพระยาวัดมะปราง
วันนี้ออกเดินทางไม่มีหลง
สาธุบุญสาธุธรรมงามดำรง
ชุมสายตรงสู่สัมปรายในทางทอง
ชมัยภร แสงกระจ่าง
27 ตุลาคม 62
ไฟศิลป์จะเริงโลมสรีระร่างศิลปิน 90
วันเกิดตามแจ้งเกิดทางการ วันที่ 3 เม.ย. 2472
วันเกิดตามจริง 3 ธ.ค. 2471
ลูกที่ 2 ใน 3 คนของตาผ่านยายเชื้อ
เดิมชื่อชุ่มเรียนประถมที่โรงเรียนวัดมะปราง แล้วไปเรียนต่อการช่างสตรีชัยนาทในช่วงปีที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่งเรือยนต์จากบ้านไปเรียนที่ตัวจังหวัด สมัยนั้นยังไมมีเขิ่อนเจ้าพระยา จบมาเป็นครูประถมที่.ร.ร.ในตัวตำบลโพนางดำ ใน พ.ศ. 2501 ย้ายภูมิลำเนาไปสร้างก่อตั้งโรงเรียนเอกชนกับสามีที่ อ.ไพศาลี( ยุคนั้นเป็นต.โคกเดื่อ) มีสามีชื่อ บุญลือ มีบุตรด้วยกัน 4 คน คือ สาธิต กิตติศักดิ์ ธรรมนูญ ศศิธร
เป็นแม่เป็นครู เป็นนักอ่าน ( รับนิตยสารสกุลไทย มิตรครู วิทยาสาร ชาวกรุง)
เป็นช่างทำดอกไม้ เป็นช่างเย็บปักถักร้อย มีจักรซิงเกอร์และจักรพ้าบ
เป็นนัดวาดรูป มีผลงานมากกว่า 200 ชิ้น จัดแสดงผลงานภาพวาดเดี๋ยว 5 ครั้ง จัดแสดงร่วมกับศิลปินท่านอื่นเป็นกลุ่มอีกหลายครั้ง
เป็นนักขียน เป็นกวี เขียนบทกลอนมากมาย มีผลงานรวมเล่มคือ "ดึกแล้วคุณขา" "เปิดกรุครัวเก่า" ได้รับรางวัลจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ได้รับรางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์ ประจำปี 2553
เป็นวิทยากรเป็นผู้นำกิจกรรมชุมชนหลายกิจกรรม
คืนสู่ธรรมชาติเวลา 00.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2562