จะเลือกอย่างไรดี ระหว่าทำตามใจตัวเอง กับ ตามใจแม่ ดีครับ?

ผมคิดคำตอบของคำถามนี้มา 9 ปีแล้วครับ คือตอนนี้ผมอายุ 20+ คือคิดตั้งแต่อายุ 10++ 
คือตอนอายุ 10++ ผมได้ป่วยเป็นโรคนึงซึ่งต้องนอน รพ. ไป 7 เดือนกว่า ดรอปเรียนไปแต่ไม่เป็นไร จะบอกไว้ก่อนคือแม่เป็นคนรักผมมากครับตอนนั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดแม่ผมได้ทุ่มสินทรัพย์ ทั้งหมดเพื่อรักษาผมแต่ว่าพอรักษาออกมาร่างกายผมก็ไม่เป็นเหมือนเดิมครับ
     อาการที่เป็นอยู่จนถึงปัจจุบัน
1.อ่อนแรง 2.ตรงบริเวณขาตั้งแต่เข่าลงไปมีอาการรู้สึกชาตลอดเวลาไม่สามารถเหยียบพื้นที่มีพวกเศษแข็ง ๆ ได้เพราะจะมีอาการเจ็บเหมือนเข็มทิ่มเป็นทั้ง
                    2 ข้าง ทำให้เวลาเดินไปไหนต้องใส่รองเท้าตลอดเพราะรองเท้ามันจะลดแรงกระแทกและจะไม่มีเศษแข็งมาคอยติดเท้า
3.เหนื่อยง่ายเพราะร่างกายขาดบางสิ่งบางอย่างไปทำให้เวลาในการใช้ชีวิตแต่ละวันต้องใช้ความพยายามกว่าคนอื่นเป็นอย่างมาก (หรือผมคิดเอาเองหรือป่าวก็ไม่รู้ ขอโทษทีนะครับที่ผมอาจพิมพ์เหมือนดูถูกความพยายามในการใช้ชีวิตของคนอื่น)

ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษามหาลัย ชีวิตประจำวันของผมจะประมาณนี้ครับ ตื่นขึ้นมาใช้เวลาในการไปมหาลัยประมาณ 1 ชม. ถ้าถามว่าทำไมไม่หามหาลัยไกล้ ๆ ก็เพราะว่ามหาลัยนี้ใกล้สุดละครับ บ้านผมมันอยู่ระหว่า 2 มหาลัยพอดีเลยเลือกมาที่นี่แทน เรียนตามตาราง กลับบ้านก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. พอกลับถึงบ้านผมต้องนอนเพราะเหนื่อยมากต้องนอนบนเตียงเลยประมาณ 1 ชม.ถึงผมจะลุกขึ้นมาทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ต่อถ้าวันไหนมีเรียนทั้งวันตอนระหว่าคาบผมต้องหาที่ล้มตัวนอนเลยครับเพราะเหนื่อยมากที่นั่นได้ได้เพราะเจ็บก้นครับเพราะผมผอมมาก สูงประมา 2 เมตร หนักประมาณ 60 กก. กระดูกออกหมดครับออกก้นพอเวลานั่งโต๊ะไม้นาน ๆ แล้วจะเจ็บก้นครับ ช่วงนี้ผมนอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม ตื่น 7-8 โมง ผมมีความรู้สึกว่าตั้งแต่ผมใช้ชีวิตมา 9 ปีผมก็เหนื่อยขึ้นเรื่อย ๆ ครับตอนนี้บ้านก็ลำบากเพราะต้องส่งผมเรียน คือเขาอยากให้ผมเรียนครับแต่ผมรู้สึกว่าผมเหนื่อยมากในการเรียนแต่ละวันคือการเดินทางสำหรับผมมันเหนื่อย ทุกวันนี้แม่ผมก็ยังรักผมมากอยู่ดีครับ ผมคิดทุกวันว่าถ้าวันที่ผมอยู่ รพ. ผมตัดใจ(ผมคิดตัดใจตั้งแต่ตอนนั้นละครับ) แต่แม่ผมเขาไม่อยากให้ผมตัดใจเขาอยากให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อ ผมเลยมีกำลังใจในการอยู่ต่อ แต่ว่าตั้งแต่ที่กลับมาบ้านดูความเป็นอยู่ลำบากมากขึ้นครับไม่เหมือนก่อนที่ผมเขา รพ. สิ่งที่เคยมีก็ขายไปหมดแถมยังเป็นหนี้อีกตังหาก แม่แลกทุกอย่างแล้วได้ผมที่กลับมาแล้วเจ็บอ่อด ๆ แอ็ด ๆ แถมใช้การไม่ได้ไปเรียนก็ไม่ได้เรียนเก่งกว่าเขาตามมาตรฐานไม่ตกแถมจบไปก็ไม่รู้จะไปทำงานอะไรเพราะร่างกายเป็นแบบนี้ ผมใช้ชีวิตทุดวันนี้ผมเหนื่อยมากเลยครับผมบอกตรง ๆ ผมคิดเสมอว่า ถ้าผมยอมตายตั้งแต่ป่วยบ้านก็จะไม่ลำบากขนาดนี้ ขายนี่ขายหมดจริง ๆ แต่โลกนี้ไม่มีคำว่าถ้าถ้ามีจริง ๆ ตอนนั้นผมจะเลือกทางยอมแพ้แล้วให้จากไปเร็ว ๆ ถ้าตอนนั้นผมจากไปเร็ว ๆ ตอนนี้ทุกคนคง ลิมผมและใช้ชีวิตอย่างไม่ยากเท่าวันนี้ ทุกวันนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดีหาเงินยากลำบาก เพื่อรักษาผม แถมตอนนี้ผมเข้ามหาลัยก็ต้องใช้เงินอีกเพราะกู้กองทุนไม่ได้ ผมเคยกู้กองทุนที่ รร. เก่าแล้วมามหาลัยนี้กองทุนที่ผมกู้ไม่มีสาขาที่ผมเรียนผมก็ไม่สามารถกู้ต่อได้ แถมยังเปลี่ยนกองทุนไม่ได้อีกด้วยเพราะเคยมีประวัติกู้กองทุนอื่นไปแล้ว ทำให้ค่าใช้จ่ายที่บ้านเพิ่มขึ้นอีกแล้วการเรียนมหาลัยนี้ก็ต้องใช้เงินเป็นแสนกว่าจะจบ ผมมีพี่อยู่ 1 คนตอนนี้ก็ทำงานแล้วแต่รายได้ที่เข้ามาในครอบครัวก็มากกว่ารายจ่ายอยู่ดี ผมมีความคิดตลอดว่าผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ผมก็คิดถึงแม่ที่อยากให้ผมอยู่ต่อ 
และนี่คือคำถามที่ผมหาคำตอบมา 9 ปีแล้วครับ ถ้าผมสามารถจบชีวิตตอนนี้จะช้าไปหรือไม่เพราะเงินค่าเทอมผมก็สามารถเอามาใช้ในครอบครัวได้ผมคิดเสมอว่าผมจะตายตอนนี้หรืออีก 10 ปีมันก็ไม่ต่างกันเพราะร่างกายผมมันก็เหมือนหมดอายุไขของมันแล้วครับ ผมก็เคยหลอกถามแม่เล่น ๆ ว่าไม่อยากอยู่อยากตายแล้วแม่ก็จะตอบแบบติดตลกว่าหาเงินให้กู 20 ล้านก่อนค่อยตาย (เงินที่เขาเสียเพื่อรักษาผมไม่น้อยเลยนะครับประมาณ 2 ล้านได้ตอนนั้นถึงจะใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่ยาบางตัวก็ต้องซื้อเองซึ่งแพงมาก)
                                                     
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่