สวัสดีพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ
ดิฉันของปรึกษาเรื่องการเข้ารับการรักษาของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แถวย่านสาทร
เนื่องจากช่วงเดือนมีนาคม ดิฉันได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเนื่องจาก อาการลื่นล้ม แต่ตัวดิฉันเองมีประกันอุบัติเหตุของบริษัทประกัน ซึ่งถ้ามีอุบัติเหตุจะเข้ารับการรักษาตลอดไม่เคยมีปัญหา ***เพราะไกล้บ้าน (ส่วนถ้าเจ็บป่วยจะใช้บริการเอกชนย่านคลองเคยเนื่องจากมีประกันสังคม) จนมาครั้งนี้ เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันลงทะเบียนเข้ารับการรักษาปกติ ยื่นบัตรประกัน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนให้ทางเค้าเตอร์ รพ. แล้วเค้าก็ถ่ายเอกสารคู่กัน พร้อมกรอกประวัติ แจ้งอาการว่าเป็นอะไรมา ส่งตัวเข้าห้องการรักษาพบหมอฉุกเฉิน ทำการรักษา
คุณหมอถามว่าเป็นอะไรมา: ดิฉันบอกว่าเจ็บข้อศอกเพราะลื่นล้มและข้อศอกลง แกว่งแขวนละปวดๆ
คุณหมอถามต่อว่า ทำไมถึงลื่นล้ม: ดิฉันตอบว่าวิ่งแล้วเหมือนภาพตัดเลยล้มลงไป
หลังจากนั้นคุณหมอก็มีการตรวจแขน พาแกว่งแขน หมอบอกว่าอาจจะแค่เส้นเอ็นอักเสบ ไม่น่าจะถึงขั้นกระดูกหัก เลยไม่ส่งไปเอ็กเรย์ แต่ส่งไปห้องฉุกเฉิน ทำการตรวจต่อ มีการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เจาะเลือด บลาๆ (โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าการรักษาขั้นตอนนี้ มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากประกันอุบัติเหตุ)
มาถึงเวลาชำระเงิน
แคชเชียร์การเงิน รพ. : มีใบเสร็จแจ้งมาว่า ค่ารักษาพยาบาลของดิฉัน 11,000 บาทค่ะ
ดิฉันบอกว่า : ประกันของดิฉันครอบคลุมวงเงิน 20,000บาทนะคะ ถ้าไงทำเรื่องเก็บกับประกันเลย
แคชเชียร์การเงิน รพ. : อ่อ ค่าใช้จ่ายนี้ นอกเหนือประกันครับ
ดิฉัน : อ่าวหรอค่ะ ทำไม พยาบาลหรือแพทย์ที่ให้การรักษาไม่เห็นแจ้งเลยค่ะ
แคชเชียร์การเงิน รพ. :แพทย์ไม่ได้มีหน้าที่มานั่งชี้แจ้งค่ารักษาครับ
ดิฉัน : ไม่ใช่ว่าแพทย์ไม่มีหน้าที่ พนง. และ พยาบาลเต็มโรงพยาบาลไปหมด ทำไมไม่มีใครแจ้งเลยค่ะ
แคชเชียร์การเงิน รพ. :ก็ผมบอกแล้วไง ว่าเขาไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น (สตั้นกับคำตอบแพร้บ)
ดิฉัน : แล้วค่าใช้จ่าย 11,000 บาท หักจากที่รักษาประกันไปบางส่วนยังค่ะ เพราะดิฉันยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุแนบมาด้วย
แคชเชียร์การเงิน รพ. : ยังครับ เดี๋ยวทำลดหนี้ให้ 3,000 เหลือ 8,000 บาทครับ (ทำไมไม่ลดตั้งแต่แรก งงป่ะ?)
ดิฉัน : อ่าวถ้าดิฉันไม่ทวงถามก็คิดราคาเต็มหรอค่ะ แปลกๆนะคะคุณ รบกวนขอคุยกับผู้รับผิดชอบงานตรงนี้หน่อยค่ะ (ช่วงเวลา22.00น. ดึกพอสมควร)
แคชเชียร์การเงิน รพ. : ตะโกนเสียงดังหาเพื่อน พนง. ว่า เรียก Supervisor มาหน่อย ลูกค้าจะไม่จ่ายเงิน (lobby ของโรงพยาบาล คนตรึม ทุกคนมองมาที่ดิฉันค่ะ)
ดิฉัน : เอิ่ม เดี๋ยวนะคะ ไม่ใช่จะไม่จ่ายค่ะ รบกวนระวังคำพูดหน่อย แค่อยากสอบถาม ว่าทำไม อะไร ยังไง
Supervisor : สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหม
ดิฉัน : มีค่ะ ดิฉันแค่อยากสอบถามว่า มาเข้ารับการรักษา โดยประกันอุบัติเหตุ แต่โดนเรียกเก็บเงินสดเพิ่มเติม ทำไมเป็นแบบนี้ค่ะ
Supervisor : อ่อ เคสนี้คือประกันอุบัติเหตุไม่รับผิดชอบค่ะ นอกเหนือจากการประกัน เพราะมีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและเจาะเลือด
ดิฉัน : ทำไมไม่มีใครแจ้งเลยค่ะว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จะยินยอมรักษาไหม เอกสารแจ้งการรักษาก็ไม่มีให้เซ็นใดๆ
(พี่สาวดิฉันผ่าติดที่รพ.จุฬา เกินประกับสังคม 165บาท ทางรพ.ก็มีหนังสือแจ้งนะคะ)
Supervisor : เนื่องจากเคสนี้เป็นเคสฉุกเฉินค่ะ
ดิฉัน : ดิฉันเข้าใจนะคะ ว่าฉุกเฉิน แต่ดิฉันไม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางสมอง มีสติสัมปชัญญะ ครบถ้วน พูดคุยได้ปกติ หรือว่าถ้าไม่สะดวกแจ้งทางสามีดิฉันได้ค่ะ เค้านั่งรอหน้าห้องฉุกเฉิน
Supervisor : อันนี้ดิฉันแจ้งได้แค่ว่าแพทย์และพยาบาลไม่มีหน้าที่มาชี้แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายจริงๆค่ะ
ดิฉัน : เอิ่ม รู้สึกเหนื่อย เพราะเจ็บแผล เป็นห่วงลูกหมาที่คอนโดด้วยเพราะดึกแล้ว จึงตกลงไว้ว่า เดี๋ยวขอจ่าย5,000บาทก่อนนะคะ พรุ่งนี้ขอคุยต่อกับทางผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ค่ะ #ที่ไม่จ่ายหมดเพราะกลัวเรื่องเงียบ ซึ่งเป็นการเก็บค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่แจ้งทางผู้เข้ารับการรักษาว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ คิดให้ดีๆนะคะ ว่าทำไมถึงไม่แจ้ง และไม่ลดราคาจากค่าประกันตั้งแต่แรก คุณเอะใจกันไหม ว่าการคิดเงินแปลกๆ
***ก็ทำการจ่ายเงินอะไรไปปกติ***
เช้าวันรุ่งขึ้น โทรติดตาม ส่งเรื่องไปทาง Customer service คอมเพลนเรื่องการทำงานของ พนง.ที่ตะโกนบอกว่า ลูกค้าจะไม่จ่ายตัง(ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด ไม่ควรทำให้ลูกค้าอายนะคะ Service mind ใช้ให้เป็นในการทำงานบริการ )/ และSupervisor ที่ให้คำตอบไม่ได้ว่าทำไมไม่แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายนอกเหนือค่ารักษาของประกันอุบัติเหตุ
เหตุเกิดช่วงเดือน มีนาคม เมษา พฤษภาคม 3เดือน Customer service ก็ไม่มีคำตอบใดๆให้ เลยส่งต่อเรื่องไปยังแผนกรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เข้าใช้บริการ มิถุนายน อะรับเรื่องให้ เล่าเหตุการณ์ใหม่ต่างๆ
สิ่งที่ดิฉันต้องการคือคำตอบว่า
1. ทำไมไม่แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับตัวลูกค้าที่เข้ารับบริการ
2. ยอดการรักษา 8,000 ดิฉันจ่ายไป 5,000 ดิฉันต้องจ่ายเพิ่มอีก3000ไหม เพราะทางโรงพยาบาลเองก็มีความผิดเช่นกันที่ไม่แจ้งค่ารักษา หรือว่าทางโรงพยาบาลมีคำตอบที่ดีกว่านี้ไหม (ขอแค่ชี้แจ้งให้ฟังว่า ทำไมถึงเก็บเงินเพิ่มแล้วไม่แจ้ง มันจะดีกว่าคำตอบที่บอกว่า แพทย์และพยาบาลไม่มีหน้าที่ตรงนี้...)
3. ทางรพ. ไม่มีการติดตามงานใดๆ ซึ่งอยากทราบความคืบหน้าต้องโทรหาเอง แล้วก็ต้องลุ้นด้วยว่า เค้าจะรับสายไหม ติดต่อยากมากกับคุณคนนี้ที่รับเรื่อง เดือนนึงโทรไป ติด2 ครั้ง
4. ทางรพ. ไม่แจ้งว่า ยอดที่ค้างจ่าย3,000 จะต้องจ่ายต่อไหม ดิฉันเกรงว่า จะมีรายชื่อผู้เป็นหนี้ของรพ. เพราะถ้าต้องจ่าย จะเข้าไปจ่าย เนื่องจากย่ายที่อยู่มาแล้ว ก็ไม่มีการให้คำตอบใดๆ
***ล่าสุดวันนี้ วันที่ 30ตุลาคม ระยะเวลาผ่านไป7 เดือน ดิฉันโทรไปหาทางรพ.อีกรอบว่า
สวัสดีค่ะ คุณ..... ดิฉันตามเรื่องหน่อยค่ะ ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
พนง รพ. : อ่อ เรื่องของคุณหรอค่ะ ดิฉันคุยกับทางผู้ใหญ่แล้วว่า ค่าใช้จ่าย5000ที่จ่ายมาแล้วจำเป็นต้องจ่าย แต่3000 ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วค่ะ เพราะเป็นความผิดจากทาง รพ.ด้วยที่ไม่มีการแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า
ดิฉัน : อ่อ ทางรพ.สรุปแล้ว ทำไมไม่มีการแจ้งดิฉันเลยค่ะ เพราะเอาจริงๆ ก็กังวลนะคะ ว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มไหม เพราะถ้าเงียบไปแบบนี้ ถ้าทางรพ. ขึ้นชื่อดิฉันว่าเป็นหนี้ค้างจ่าย ถึงขึ้นขึ้นโรงขึ้นศาล ส่งจดหมายมาที่พักเก่า ใครจะทราบค่ะ
พนง รพ. : เอ่อ ..... อึกๆ ....อักๆ ตอบไม่ได้
ดิฉัน : รบกวนขอหนังสือที่ออกจากรพ. แบบเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ ไม่เอาปากเปล่า เหนื่อยที่จะตามแล้วค่ะ เวลาผ่านมาเนิ่นนาน เงินไม่เยอะ แต่อยากให้เรื่องจบนะคะ เพราะว่า ยืดเยื้อมานานเกินไป มันบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และเรื่องการบริการ ดิแนติดต่อคุณยากมากเลยค่ะ เพราะว่าโทรไปกี่ทีก็ต้องลุ้นว่าจะรับไหม แจ้งชื่อเบอร์โทรไว้ก็ไม่เคยโทรกลับ เหนื่อยจังเลยค่ะ
เอาเป็นว่าจบๆเรื่องนี้ไปได้ก็ดีนะคะ รบกวนส่งหนังสือมาทางอีเมลล์ดิฉันค่ะ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเรื่องระหว่างดิฉัน และ รพ.จบแล้ว ไม่ทราบว่าจะส่งหนังสือให้วันไหนค่ะ
พนง รพ. : เอ่อ ..... อึกๆ ....อักๆ
ดิฉัน : ขอคำตอบที่แน่นอนค่ะ ไม่เอาผลัดวันประกันพรุ่ง
พนง รพ. : พรุ่งนี้ค่ะ
ดิฉัน :อ่อ สอบถามอีกนิดนึง ว่า พนง.ที่เป็นแคชเชียร์การเงิน ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอับอาย โดนใบเตือนหรือยังค่ะ
พนง รพ. : อันนี้เป็นเรื่องให้แผนกของเขาค่ะ หัวน่าเขาน่าจะตักเตือนกันเอง
ดิฉัน : ไม่ได้มีการเซ็นรับทราบการตักเตือน จากพนง.หรอค่ะ
พนง รพ. : ไม่มีค่ะ
(มาถึงจุดนี้ละคงไม่ถามต่อ แล้วนะคะ เหนื่อย เลิกยุ่ง พอ จบซะที เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่มี่คำตอบใดๆ)
คำถามที่ต้องการจะถามเพื่อนๆ ในพันทิปว่า
1. มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง แล้วจัดการกับมันอย่างไร
2. จริงหรือที่ เข้ารับการรักษา ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ เนื่องจากเป็นเคสฉุกเฉิน
3. ทางโรงพยาบาล ไม่เคยเยียวยาความรู้สึกใดๆ ของลูกค้า ไม่มีการติดตามเรื่อง ลูกค้าต้องติดตามเรื่องเอง
4. มีข้อกฏหมายใด ที่จะเอาผิดกับการกระทำที่ไม่ตรงไปตรงมาของโรงพยาบาลได้บ้าง
โรงพยาบาลดัง.... เจอมากับตัว
ดิฉันของปรึกษาเรื่องการเข้ารับการรักษาของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แถวย่านสาทร
เนื่องจากช่วงเดือนมีนาคม ดิฉันได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเนื่องจาก อาการลื่นล้ม แต่ตัวดิฉันเองมีประกันอุบัติเหตุของบริษัทประกัน ซึ่งถ้ามีอุบัติเหตุจะเข้ารับการรักษาตลอดไม่เคยมีปัญหา ***เพราะไกล้บ้าน (ส่วนถ้าเจ็บป่วยจะใช้บริการเอกชนย่านคลองเคยเนื่องจากมีประกันสังคม) จนมาครั้งนี้ เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันลงทะเบียนเข้ารับการรักษาปกติ ยื่นบัตรประกัน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนให้ทางเค้าเตอร์ รพ. แล้วเค้าก็ถ่ายเอกสารคู่กัน พร้อมกรอกประวัติ แจ้งอาการว่าเป็นอะไรมา ส่งตัวเข้าห้องการรักษาพบหมอฉุกเฉิน ทำการรักษา
คุณหมอถามว่าเป็นอะไรมา: ดิฉันบอกว่าเจ็บข้อศอกเพราะลื่นล้มและข้อศอกลง แกว่งแขวนละปวดๆ
คุณหมอถามต่อว่า ทำไมถึงลื่นล้ม: ดิฉันตอบว่าวิ่งแล้วเหมือนภาพตัดเลยล้มลงไป
หลังจากนั้นคุณหมอก็มีการตรวจแขน พาแกว่งแขน หมอบอกว่าอาจจะแค่เส้นเอ็นอักเสบ ไม่น่าจะถึงขั้นกระดูกหัก เลยไม่ส่งไปเอ็กเรย์ แต่ส่งไปห้องฉุกเฉิน ทำการตรวจต่อ มีการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เจาะเลือด บลาๆ (โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าการรักษาขั้นตอนนี้ มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากประกันอุบัติเหตุ)
มาถึงเวลาชำระเงิน
แคชเชียร์การเงิน รพ. : มีใบเสร็จแจ้งมาว่า ค่ารักษาพยาบาลของดิฉัน 11,000 บาทค่ะ
ดิฉันบอกว่า : ประกันของดิฉันครอบคลุมวงเงิน 20,000บาทนะคะ ถ้าไงทำเรื่องเก็บกับประกันเลย
แคชเชียร์การเงิน รพ. : อ่อ ค่าใช้จ่ายนี้ นอกเหนือประกันครับ
ดิฉัน : อ่าวหรอค่ะ ทำไม พยาบาลหรือแพทย์ที่ให้การรักษาไม่เห็นแจ้งเลยค่ะ
แคชเชียร์การเงิน รพ. :แพทย์ไม่ได้มีหน้าที่มานั่งชี้แจ้งค่ารักษาครับ
ดิฉัน : ไม่ใช่ว่าแพทย์ไม่มีหน้าที่ พนง. และ พยาบาลเต็มโรงพยาบาลไปหมด ทำไมไม่มีใครแจ้งเลยค่ะ
แคชเชียร์การเงิน รพ. :ก็ผมบอกแล้วไง ว่าเขาไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น (สตั้นกับคำตอบแพร้บ)
ดิฉัน : แล้วค่าใช้จ่าย 11,000 บาท หักจากที่รักษาประกันไปบางส่วนยังค่ะ เพราะดิฉันยื่นบัตรประกันอุบัติเหตุแนบมาด้วย
แคชเชียร์การเงิน รพ. : ยังครับ เดี๋ยวทำลดหนี้ให้ 3,000 เหลือ 8,000 บาทครับ (ทำไมไม่ลดตั้งแต่แรก งงป่ะ?)
ดิฉัน : อ่าวถ้าดิฉันไม่ทวงถามก็คิดราคาเต็มหรอค่ะ แปลกๆนะคะคุณ รบกวนขอคุยกับผู้รับผิดชอบงานตรงนี้หน่อยค่ะ (ช่วงเวลา22.00น. ดึกพอสมควร)
แคชเชียร์การเงิน รพ. : ตะโกนเสียงดังหาเพื่อน พนง. ว่า เรียก Supervisor มาหน่อย ลูกค้าจะไม่จ่ายเงิน (lobby ของโรงพยาบาล คนตรึม ทุกคนมองมาที่ดิฉันค่ะ)
ดิฉัน : เอิ่ม เดี๋ยวนะคะ ไม่ใช่จะไม่จ่ายค่ะ รบกวนระวังคำพูดหน่อย แค่อยากสอบถาม ว่าทำไม อะไร ยังไง
Supervisor : สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหม
ดิฉัน : มีค่ะ ดิฉันแค่อยากสอบถามว่า มาเข้ารับการรักษา โดยประกันอุบัติเหตุ แต่โดนเรียกเก็บเงินสดเพิ่มเติม ทำไมเป็นแบบนี้ค่ะ
Supervisor : อ่อ เคสนี้คือประกันอุบัติเหตุไม่รับผิดชอบค่ะ นอกเหนือจากการประกัน เพราะมีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและเจาะเลือด
ดิฉัน : ทำไมไม่มีใครแจ้งเลยค่ะว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จะยินยอมรักษาไหม เอกสารแจ้งการรักษาก็ไม่มีให้เซ็นใดๆ
(พี่สาวดิฉันผ่าติดที่รพ.จุฬา เกินประกับสังคม 165บาท ทางรพ.ก็มีหนังสือแจ้งนะคะ)
Supervisor : เนื่องจากเคสนี้เป็นเคสฉุกเฉินค่ะ
ดิฉัน : ดิฉันเข้าใจนะคะ ว่าฉุกเฉิน แต่ดิฉันไม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางสมอง มีสติสัมปชัญญะ ครบถ้วน พูดคุยได้ปกติ หรือว่าถ้าไม่สะดวกแจ้งทางสามีดิฉันได้ค่ะ เค้านั่งรอหน้าห้องฉุกเฉิน
Supervisor : อันนี้ดิฉันแจ้งได้แค่ว่าแพทย์และพยาบาลไม่มีหน้าที่มาชี้แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายจริงๆค่ะ
ดิฉัน : เอิ่ม รู้สึกเหนื่อย เพราะเจ็บแผล เป็นห่วงลูกหมาที่คอนโดด้วยเพราะดึกแล้ว จึงตกลงไว้ว่า เดี๋ยวขอจ่าย5,000บาทก่อนนะคะ พรุ่งนี้ขอคุยต่อกับทางผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ค่ะ #ที่ไม่จ่ายหมดเพราะกลัวเรื่องเงียบ ซึ่งเป็นการเก็บค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่แจ้งทางผู้เข้ารับการรักษาว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ คิดให้ดีๆนะคะ ว่าทำไมถึงไม่แจ้ง และไม่ลดราคาจากค่าประกันตั้งแต่แรก คุณเอะใจกันไหม ว่าการคิดเงินแปลกๆ
***ก็ทำการจ่ายเงินอะไรไปปกติ***
เช้าวันรุ่งขึ้น โทรติดตาม ส่งเรื่องไปทาง Customer service คอมเพลนเรื่องการทำงานของ พนง.ที่ตะโกนบอกว่า ลูกค้าจะไม่จ่ายตัง(ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด ไม่ควรทำให้ลูกค้าอายนะคะ Service mind ใช้ให้เป็นในการทำงานบริการ )/ และSupervisor ที่ให้คำตอบไม่ได้ว่าทำไมไม่แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายนอกเหนือค่ารักษาของประกันอุบัติเหตุ
เหตุเกิดช่วงเดือน มีนาคม เมษา พฤษภาคม 3เดือน Customer service ก็ไม่มีคำตอบใดๆให้ เลยส่งต่อเรื่องไปยังแผนกรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เข้าใช้บริการ มิถุนายน อะรับเรื่องให้ เล่าเหตุการณ์ใหม่ต่างๆ
สิ่งที่ดิฉันต้องการคือคำตอบว่า
1. ทำไมไม่แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับตัวลูกค้าที่เข้ารับบริการ
2. ยอดการรักษา 8,000 ดิฉันจ่ายไป 5,000 ดิฉันต้องจ่ายเพิ่มอีก3000ไหม เพราะทางโรงพยาบาลเองก็มีความผิดเช่นกันที่ไม่แจ้งค่ารักษา หรือว่าทางโรงพยาบาลมีคำตอบที่ดีกว่านี้ไหม (ขอแค่ชี้แจ้งให้ฟังว่า ทำไมถึงเก็บเงินเพิ่มแล้วไม่แจ้ง มันจะดีกว่าคำตอบที่บอกว่า แพทย์และพยาบาลไม่มีหน้าที่ตรงนี้...)
3. ทางรพ. ไม่มีการติดตามงานใดๆ ซึ่งอยากทราบความคืบหน้าต้องโทรหาเอง แล้วก็ต้องลุ้นด้วยว่า เค้าจะรับสายไหม ติดต่อยากมากกับคุณคนนี้ที่รับเรื่อง เดือนนึงโทรไป ติด2 ครั้ง
4. ทางรพ. ไม่แจ้งว่า ยอดที่ค้างจ่าย3,000 จะต้องจ่ายต่อไหม ดิฉันเกรงว่า จะมีรายชื่อผู้เป็นหนี้ของรพ. เพราะถ้าต้องจ่าย จะเข้าไปจ่าย เนื่องจากย่ายที่อยู่มาแล้ว ก็ไม่มีการให้คำตอบใดๆ
***ล่าสุดวันนี้ วันที่ 30ตุลาคม ระยะเวลาผ่านไป7 เดือน ดิฉันโทรไปหาทางรพ.อีกรอบว่า
สวัสดีค่ะ คุณ..... ดิฉันตามเรื่องหน่อยค่ะ ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
พนง รพ. : อ่อ เรื่องของคุณหรอค่ะ ดิฉันคุยกับทางผู้ใหญ่แล้วว่า ค่าใช้จ่าย5000ที่จ่ายมาแล้วจำเป็นต้องจ่าย แต่3000 ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วค่ะ เพราะเป็นความผิดจากทาง รพ.ด้วยที่ไม่มีการแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า
ดิฉัน : อ่อ ทางรพ.สรุปแล้ว ทำไมไม่มีการแจ้งดิฉันเลยค่ะ เพราะเอาจริงๆ ก็กังวลนะคะ ว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มไหม เพราะถ้าเงียบไปแบบนี้ ถ้าทางรพ. ขึ้นชื่อดิฉันว่าเป็นหนี้ค้างจ่าย ถึงขึ้นขึ้นโรงขึ้นศาล ส่งจดหมายมาที่พักเก่า ใครจะทราบค่ะ
พนง รพ. : เอ่อ ..... อึกๆ ....อักๆ ตอบไม่ได้
ดิฉัน : รบกวนขอหนังสือที่ออกจากรพ. แบบเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ ไม่เอาปากเปล่า เหนื่อยที่จะตามแล้วค่ะ เวลาผ่านมาเนิ่นนาน เงินไม่เยอะ แต่อยากให้เรื่องจบนะคะ เพราะว่า ยืดเยื้อมานานเกินไป มันบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และเรื่องการบริการ ดิแนติดต่อคุณยากมากเลยค่ะ เพราะว่าโทรไปกี่ทีก็ต้องลุ้นว่าจะรับไหม แจ้งชื่อเบอร์โทรไว้ก็ไม่เคยโทรกลับ เหนื่อยจังเลยค่ะ
เอาเป็นว่าจบๆเรื่องนี้ไปได้ก็ดีนะคะ รบกวนส่งหนังสือมาทางอีเมลล์ดิฉันค่ะ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเรื่องระหว่างดิฉัน และ รพ.จบแล้ว ไม่ทราบว่าจะส่งหนังสือให้วันไหนค่ะ
พนง รพ. : เอ่อ ..... อึกๆ ....อักๆ
ดิฉัน : ขอคำตอบที่แน่นอนค่ะ ไม่เอาผลัดวันประกันพรุ่ง
พนง รพ. : พรุ่งนี้ค่ะ
ดิฉัน :อ่อ สอบถามอีกนิดนึง ว่า พนง.ที่เป็นแคชเชียร์การเงิน ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอับอาย โดนใบเตือนหรือยังค่ะ
พนง รพ. : อันนี้เป็นเรื่องให้แผนกของเขาค่ะ หัวน่าเขาน่าจะตักเตือนกันเอง
ดิฉัน : ไม่ได้มีการเซ็นรับทราบการตักเตือน จากพนง.หรอค่ะ
พนง รพ. : ไม่มีค่ะ
(มาถึงจุดนี้ละคงไม่ถามต่อ แล้วนะคะ เหนื่อย เลิกยุ่ง พอ จบซะที เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่มี่คำตอบใดๆ)
คำถามที่ต้องการจะถามเพื่อนๆ ในพันทิปว่า
1. มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง แล้วจัดการกับมันอย่างไร
2. จริงหรือที่ เข้ารับการรักษา ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ เนื่องจากเป็นเคสฉุกเฉิน
3. ทางโรงพยาบาล ไม่เคยเยียวยาความรู้สึกใดๆ ของลูกค้า ไม่มีการติดตามเรื่อง ลูกค้าต้องติดตามเรื่องเอง
4. มีข้อกฏหมายใด ที่จะเอาผิดกับการกระทำที่ไม่ตรงไปตรงมาของโรงพยาบาลได้บ้าง