คนส่วนใหญ่มักจะพิจารณาเรื่องรูปลักษณ์ ยี่ห้อ สมรรถนะ ราคา เทคโนโลยี หรืออะไรก็ตามที่ตนเองพอจะหาข้อมูลได้ แต่คนที่ไม่เคยมีรถหรือยังขับรถมาไม่หลากหลายพออาจยังไม่ได้รับทราบถึงข้อมูลบางประการ ที่ผมจะพูดถึงคือเรื่องความสูงใต้ท้องรถจากพื้นว่ามันสำคัญไฉน
กลุ่มที่ 1.รถเก๋งทั่วไป รถเก๋งสปอร์ต รถอีโคคาร์
- พวกนี้มักมีระดับความสูงใต้ท้องรถไม่มาก ปัญหาคือเมื่อมีการเฉี่ยวชนจะเกิดรอยได้ง่าย ที่แน่ๆกันชนของคุณไม่รอดแน่นอนจะเป็นรอยทันที คนที่ขับรถในกลุ่มที่ 1 นี้ต้องใช้ความระมัดระวังมากเวลาจะจอดเทียบข้างทาง หรือขับผ่านทางต่างระดับต่างๆ ถ้าชนสุนัข แมว รถของคุณก็มักจะเกิดริ้วรอยตามมาเสมอ
กลุ่มที่ 2.พวกรถ PPV Crossover รถปิกอัพ
- พวกนี้มีระดับความสูงใต้ท้องรถที่มากกว่า แถมล้อใหญ่ด้วย จะสามารถหลีกเลี่ยงริ้วรอยต่างๆเวลาเฉี่ยวชนได้ดีกว่า อย่างเวลาจะจอดข้างทางถ้าคุณเผลอขับชิดเกินไป อย่างน้อยล้อรถก็ยังเป็นด่านแรกที่ไปโดนขอบถนน หรือถ้าชนสุนัข ด้วยระดับที่สูงของตัวรถกันชนของคุณก็จะไม่เสียหายอะไรมาก หรืออาจจะไม่เป็นอะไรเลย อย่างรถในกลุ่มที่ 1 นั้นเวลาคุณขับไปชนสุนัข กันชนด้านหน้าอาจไม่เป็นอะไร ถ้าสุนัขไม่ตายมันอาจล้มกลิ้งตัวแล้วมีโอกาสที่ฟันหรือเล็บเท้าของมันจะไปเสียดสีกับกันชนรถในด้านอื่นแทน ทีนี้แหละมีเซ็งครับ
ผมไม่ได้บอกว่าไม่ควรซื้อรถในกลุ่มที่ 1 เพียงแค่จะแชร์ข้อมูลที่ค่อนข้างสำคัญให้เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะรถในกลุ่มที่ 2 มักมีราคาแพงกว่า บางคนอาจมีข้อจำกัดทางการเงิน ถ้าต้องซื้อรถในกลุ่มที่ 1 ก็ควรใช้ความระมัดระวังมากสักหน่อย
ขอแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันแรกของตัวเอง
กลุ่มที่ 1.รถเก๋งทั่วไป รถเก๋งสปอร์ต รถอีโคคาร์
- พวกนี้มักมีระดับความสูงใต้ท้องรถไม่มาก ปัญหาคือเมื่อมีการเฉี่ยวชนจะเกิดรอยได้ง่าย ที่แน่ๆกันชนของคุณไม่รอดแน่นอนจะเป็นรอยทันที คนที่ขับรถในกลุ่มที่ 1 นี้ต้องใช้ความระมัดระวังมากเวลาจะจอดเทียบข้างทาง หรือขับผ่านทางต่างระดับต่างๆ ถ้าชนสุนัข แมว รถของคุณก็มักจะเกิดริ้วรอยตามมาเสมอ
กลุ่มที่ 2.พวกรถ PPV Crossover รถปิกอัพ
- พวกนี้มีระดับความสูงใต้ท้องรถที่มากกว่า แถมล้อใหญ่ด้วย จะสามารถหลีกเลี่ยงริ้วรอยต่างๆเวลาเฉี่ยวชนได้ดีกว่า อย่างเวลาจะจอดข้างทางถ้าคุณเผลอขับชิดเกินไป อย่างน้อยล้อรถก็ยังเป็นด่านแรกที่ไปโดนขอบถนน หรือถ้าชนสุนัข ด้วยระดับที่สูงของตัวรถกันชนของคุณก็จะไม่เสียหายอะไรมาก หรืออาจจะไม่เป็นอะไรเลย อย่างรถในกลุ่มที่ 1 นั้นเวลาคุณขับไปชนสุนัข กันชนด้านหน้าอาจไม่เป็นอะไร ถ้าสุนัขไม่ตายมันอาจล้มกลิ้งตัวแล้วมีโอกาสที่ฟันหรือเล็บเท้าของมันจะไปเสียดสีกับกันชนรถในด้านอื่นแทน ทีนี้แหละมีเซ็งครับ
ผมไม่ได้บอกว่าไม่ควรซื้อรถในกลุ่มที่ 1 เพียงแค่จะแชร์ข้อมูลที่ค่อนข้างสำคัญให้เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะรถในกลุ่มที่ 2 มักมีราคาแพงกว่า บางคนอาจมีข้อจำกัดทางการเงิน ถ้าต้องซื้อรถในกลุ่มที่ 1 ก็ควรใช้ความระมัดระวังมากสักหน่อย