จากปัญหาเรื่องโดนแฮ็คบัตรเครดิตหลายๆรายล่าสุด แนะนำ Virtual / Prepaid Credit Card ค่ะ

จากประสบการณ์ตรงที่ผ่านมา เพิ่งทำบัตรเครดิตใบแรกก็โดนแฮ็กซะแล้วค่ะ มีอยู่เดือนนึงไม่ได้ใช้บัตรซื้อของตามห้างร้านเลย แต่มีซื้อของออนไลน์อยู่ 3 เวบ แล้วต้องกรอกข้อมูลบัตรลงไปทั้งหมด หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจลับอยู่ ก็มี SMS เข้ามาค่ะ ว่ามีการใช้จ่ายเงินในบัตร 5000 บาท พอได้สติก็โทรอายัดเลยค่ะ หลังจากอายัดแล้วทาง call center ก็แจ้งว่ามีการทำรายการอีกหลายครั้งแหนะ โชคดีนะอายัดทัน ไม่งั้นจะให้น้าไปยัดแทนละถ้าอายัดไม่ทัน
 
กลับมานั่งคิดหรือเพราะว่าเรากรอกข้อมูลซื้อของออนไลน์ไปข้อมูลบัตรเราเลยรั่วไหล เพราะตอนไปรูดตามห้างร้านไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย พอซื้อของออนไลน์ครั้งแรกเท่านั้นแหละเจอดีเลย
 
เอาหล่ะทีนี้พออายัดบัตรแล้ว ได้สติแล้ว ก็รออีเมลเอกสารปฏิเสธการทำรายการทันที กรอกข้อมูลส่งอีเมลกลับให้ จนท. ดำเนินการตรวจสอบ 1 รอบบิล ในที่สุดก็ได้เงินคืนเข้ามาค่ะ แต่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนนะคะระหว่างที่เกิดเรื่อง

ทีนี้ค่ะหลังจากเกิดเรื่องนั้น services ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมออนไลน์ ดิชั้นใช้ Virtual / Prepaid Credit Card หรือ บัตรเครดิตเสมือนจริงแบบเติมเงินผูกทั้งหมดเลยค่ะ

ฉะนั้นขอแนะนำเลยค่ะให้ใช้ Virtual / Prepaid Credit Card  หรือ บัตรเครดิตเสมือนจริงแบบเติมเงินในการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือจะขอบัตรแข็งมาใช้ก็ได้นะคะเผื่อไปซื้อของตามห้างร้านค้า (แต่ส่วนใหญ่น่าจะใช้ Debit Card กัน)

ของที่มี่ใช้อยู่คือ WeCard ของ true money wallet ค่ะ
1. มีชื่อเจ้าของบัตร มีหมายเลขบัตร มี cvv เหมือนบัตร Physical (บัตรเครดิตแข็งที่เราๆใช้รูดกันนี่แหละค่ะ)
2. ใช้จ่ายได้เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป แต่ต้องมี credit ในบัตรก่อน คือต้องเติมเงินเข้าไป ใช้เท่าไหร่ เติมเท่านั้น
3. ส่วนตัวมีใช้ผูกกับ PSN PlayStation Spotify Amazon ค่ะ คิดว่าใช้ได้หมดทุก services นะเพราะเป็นบัตรเครดิตเหมือนกัน

ข้อดีนะคะ มีเงินก็ใช้ ไม่มีเงินก็ไม่ใช้ค่ะ ไม่มีหนี้เพิ่ม (เหมือนที่ตอนนี้ก็เป็นอยู่ค่ะ T_T) โดนแฮ็กก็ไม่มีเงินให้ใช้อยู่ดี เพราะเติมเท่าที่ใช้ ไม่เติมก็มีติดบัตรไว้หลัก 10 - 100 บาท คือเป็นเศษเหลือจากการซื้อของค่ะ

ปล. 1. ถ้าบัตร WeCard ของ true money wallet มันจะใช้วงเงินเดียวกันกับ wallet นั้นเลยนะคะ ถ้ามีเงินใน wallet ก็ใช้ได้เลยค่ะ ถ้าไม่มีก็เติมค่ะ
ปล. 2. คิดว่าหลายๆธนาคารรวมถึงผู้ให้บริการ e-wallet น่าจะมีให้บริการอยู่ ลองติดต่อสอบถามข้อมูลธนาคารนั้นๆได้ตามสะดวกเลยนะคะ
ปล. 3. หลายคนตกใจค่ะบัตรเครดิตเราโดนแฮ็กได้ยังไง มันมีทางแน่นอนค่ะ ถ้าเราลองตั้งสตินึกคิด มันมีหลายทางมากเช่น กดลิงค์ตามอีเมลแล้วกรอกข้อมูลบัตรลงไปซึ่งลิงค์นั้นเป็นลึงค์ปลอมค่ะ หรือกรอกข้อมูลบัตรลงบนเวบไซต์ที่ทำการซื้อของโดยตรงและคนร้ายจะแอบเอาข้อมูลของเราไปออกไปได้ค่ะในกรณีที่เวบนั้นๆไม่น่าเชื่อถือหรือมีความปลอดภัยน้อย หรือถ่ายเอกสาร/ถ่ายภาพบัตรเครดิตด้านหน้าและด้านหลังแล้วส่งต่อให้กับบุคคลอื่นๆไปดำเนินการแทน

ขอบคุณค่ะพร้อมส่งจูบให้ผู้ชาย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่