[CR] หนีม๊อบไปมาเก๊า ข้ามสะพาน HZMB บินกับ Royal Jordanian

สวัสดีค่ะ วันนี้มีรีวิวมาเก๊ามาฝากค่ะ  มาเก๊าเมืองเล็กๆที่เราไม่ได้ตั้งใจไป แต่แล้วเราก็หลงเสน่ห์มาเก๊ากันซะงั้น   ซึ่งเริ่มแรกเราตั้งใจไปไหว้พระที่ฮ่องกง จองตั๋วและที่พักล่วงหน้าไว้หลายเดือน แต่พอใกล้บินสถานการณ์ที่ฮ่องกงก็ยังไม่คลี่คลายสักที อีกทั้ง 1 อาทิตย์ก่อนจะบินนี่สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง  เราและครอบครัวค่อนข้างกังวล เพราะทริปนี้มีเด็ก จนเกือบจะเททริปนี้ทั้งทริปแล้วเชียว  แต่แล้วก็ตัดสินใจยอมทิ้งค่าที่พักที่จองไว้ที่จิมซาจุ่ย (ที่พักจองไว้ 3 คืน ประมาณ  6,300 บาท) และเปลี่ยนไปเที่ยวมาเก๊ากันดีกว่า  เพราะยังไม่เคยไปกันด้วย ที่สำคัญอยากไปลองสัมผัสสะพานข้ามทะเลที่เพิ่งเปิดใช้บริการเมื่อปีที่แล้ว เปลี่ยนความกังวลเป็นความตื่นเต้นแทน  ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าไปมาเก๊ากันดีกว่า  

Day 1 : วันเดินทาง / สะพาน HZMB
Day 2 : Vanetian  / Taipa Food Street / Ama Temple 
Day 3 : Senedo Square  /  Ruins of St. Paul's / Macau Museum /   Monte Fort / Kun Iam Statue / Macau Fisherman's Wharf
Day 4 : สะพาน HZMB  / City Gate Outlet / Che Kung Temple / Tian Tan Buddha / Polin Temple 



เราได้จองตั๋วกับ Royal Jordanian ผ่านแอพ Sky Scanner ได้ราคา 3 คน เกือบๆ 18,000 บาท  จองแล้วมาหาข้อมูล รีวิวสายการบินนี้ก็ไม่ค่อยมี  และบางคนก็ว่าเข็ดการบริการ เอาแล้วสิแฟนจะบ่นไหมเนี่ย  เวลาบินก็ไม่สวย (BKK – HGK 16.15 - 20.05)  แต่ทว่าตอนนั้นก็ราคาดีสุด เมื่อเทียบแล้วราคาพอๆกับ Low Cost  บินๆไปเถอะเนอะ  อย่างน้อยมีหนังดู มีอาหารให้ อย่าไปคิดอะไรมาก 555 
ถึงเวลาขึ้นเครื่อง  ตอนแรกคิดว่าจะดีเลย์ซะแล้ว  เพราะมาถึงเกต มีเครื่องสายการบินอื่นจอดเสียอยู่  เห็นเครื่องของ RJ ขับวนๆไปมุมอื่นรอเกตว่าง  กัปตันและลูกเรือก็มายืนรอจะเข้าเกตแล้วด้วย ใจคอชักบ่อดี  จะย้ายเกตพวกเราไหมหนอ  แต่แล้วเลยเวลาบอร์ดดิ้งไปไม่มาก เครื่องบินลำนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากเกต  แล้ว RJ ของเราก็พร้อมที่เกต   พร้อมออกเดินทางดีเลย์ไปประมาณ 5 นาที    วันนี้เราได้บินกับ Boing 787-8  Dream Series  ก็โอเคนะ เครื่องใหม่ มีจอทีวี ความกว้าง สำหรับคนสูง 172 อย่างเรานั่งพอสบาย  มีติงนิดนึงตรงที่ผ้าห่มไม่ได้เปลี่ยนใหม่ น่าจะใช้ต่อจากไฟลท์ที่บินมาจาก Amman ประเทศจอร์แดนเลย  เพราะผ้าห่มที่เราได้ถูกแกะใช้แล้ว ไม่มีซองหุ้ม  

พอขึ้นเครื่องลูกเรือก็จะเดินแจกหูฟัง  หูฟังพอใช้ได้ค่ะ  แต่เจ็บหูนิดนึง นั่งดูหนังไปเพลินๆ  มีให้เลือกพอสมควรค่ะ


อาหารบนเครื่องน่าจะโหลดมาจากครัวการบินไทย  รสชาติดีอยู่ค่ะ  แต่ไม่มีเมนูให้เลือก 



ทานข้าว  จิบไวน์ ดูหนังไปจบ  1 เรื่อง แป๊บเดียวก็ถึงสนามบินฮ่องกง บินถึงตรงเวลา 20.05 น  กัปตันลงได้นิ่มนวลดี  ภาพรวมของ RJ ถือว่าบริการดีตามมาตรฐาน   ผู้โดยสารไฟลท์นี้ส่วนใหญ่เป็นคนฮ่องกงค่ะ 

เมื่อถึงเดินตามป้ายจนผ่าน ตม.  เราจะข้ามไปฝั่งมาเก๊าด้วยรถกันเลย   เดินตามป้ายไปที่  Bus Terminus  เพื่อไปรถบัสสาย B4 ไป HZMB Hongkong Port  ค่าโดยสารคนละ 6$  ทริปนี้เราไม่ได้ใช้ Octopus Card เพราะรอบก่อนคืนไปแล้ว  และแพลนว่าอยู่มาเก๊าเป็นส่วนใหญ่เลยไม่ได้ซื้อค่ะ  เลยไปแตกเงินที่ร้านสะดวกซื้อ    เราต้องหยอดเงินให้พอดีนะคะ ไม่มีทอน  แต่หยอดเกินได้ค่ะ  เรามา 3 คน หยอดไป 20 เหรียญ



HZMB Hongkong Port  อยู่ไม่ไกลสนามบินค่ะ นั่ง B4 ไปสุดสาย  แต่เหมือนนั่งรถวนๆอยู่ในสนามบินจนไม่คิดว่ามาถึงแล้ว  เห็นคนลงหมดรถนั่นแหละค่ะเลยรีบลง เพราะไปนั่งชั้นสองมีแค่ครอบครัวเรา  คนอื่นๆเขานั่งชั้นล่างกันหมด  (ขอโทษที่ภาพไม่ชัดนะคะ รีบไปหน่อย) 



จากจุดนี้เดินตามป้ายไปเพื่อผ่าน ตม. อีกรอบค่ะ  แล้วจึงไปซื้อตั๋ว ราคาคนละ  65 HKD 


บรรยากาศภายในอาคาร HZMB Hongkong Port  กว้างขวางดีค่ะ   แต่มาค่ำๆ ดูเหงาๆไปหน่อย  ภาพนี้เป็นเครื่องซื้อบัตรอัตโนมัติค่ะ  และมีเคาน์เตอร์จำหน่ายด้วยเจ้าหน้าที่ก็มีค่ะ  



จะมีป้ายบอกเป็นระยะค่ะ  เดินตามป้าย  เราไปมาเก๊าไปทางขวาค่ะ  จูไห่ไปทางซ้าย



เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ไม่หลงค่ะ   มีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรอีกครั้ง







รถบัสเป็นบัสมือสอง สภาพดีค่ะ  แต่นั่งหลังตรงไปนีส  เลือกนั่งฝั่งขวานะคะ  จะได้มองวิวทะเล ชัดกว่าอีกฝั่ง เพราะฝั่งซ้ายจะมีถนนอีกฝั่งคั่นค่ะ   มาถึงมืดแล้วมองวิวไม่ค่อยเห็นวิวแต่ก็ได้เห็นความอลังการของสะพานข้ามทะเล ที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุด ตลอดทางสามารถเล่น 4G ได้ตลอด  เราใช้ Sim2Fly ของ AIS ค่ะ  ใช้ได้ต่อเนื่องทั้งฮ่องกง มาเก๊า   นั่งกันเพลินๆ 40 นาทีก็มาถึงฝั่งมาเก๊าแล้วค่ะ 



เดินไปตามป้ายเพื่อผ่าน ตม. ฝั่งมาเก๊าค่ะ 


เมื่อผ่าน ตม.แล้ว  เดินไปตามป้ายเพื่อไปรถสาธารณะ จากจุดนี้มีรถฟรีไปท่าเรือหรือจุดอื่นๆนะคะ   แต่เราเลือกต่อแทกซี่เพื่อความสะดวกในการหาโรงแรม  ค่าแทกซี่รวมแล้ว 80 MOP (ค่าโดยสาร 60 MOP + ชาร์จ 20 MOP)




ถึงแล้วค่ะที่พักของเรา  Fu Hua Hotel   เช็คอินง่ายดีค่ะ ไม่มีมัดจำอะไรเพิ่มเติม  รอบๆที่พักเป็นย่านชอปปิ้ง มีร้านอาหารหลายร้าน และฝั่งตรงข้ามเป็น Supermarket  ค่ะ (ดีงาม) 




เราจองเป็นห้อง 3  เตียง  ราคา 3 คืน 9,833 บาท   ราคาค่อนข้างสูงค่ะ   สภาพห้องไม่กว้างมากแต่ก็ไม่อึดอัด   แต่ห้องน้ำดูเก่าไปหน่อย  มีอ่างอาบน้ำแต่อุดน้ำไม่ได้ค่ะ  เลยไม่กล้าแช่น้ำกันเลย กลัวว่าจะเปิดที่อุดน้ำไม่ได้ค่ะ  










ปลั๊กไปภายในห้องค่ะ  สามารถใช้ปลั๊กสามตาของบ้านเราเสียบได้เลยค่ะ  


ชอบที่นี่ตรงเตียงนอนนุ่มมากค่ะ แต่ไม่ยุบ จัดว่านอนสบายอยู่ เพราะพวกเราเป็นพวกนอนยาก  ส่วนใหญ่นอนแปลกที่ไม่ค่อยหลับ  แต่เตียงที่นี่ดูดวิญญาณมากกกกก  หมอนนุ่มกำลังดี     ในห้องไม่มีกลิ่นบุหรี่ แต่ข้างนอกกลิ่นแรงบางจุดค่ะ    


Day2  เตียงดูดวิญญาณหนักมาก ตื่นสายกันยกทีม  ชมวิวซะหน่อย 



พร้อมแล้ว  ออกเดินทางได้ .....   แต่ท้องหิวซะแล้ว  เดินมาไม่ไกลโรงแรม เจอร้านบะหมี่เลยเข้าไปลองชิมดู อร่อยดีนะ  
จานนี้เนื้อเปื่อย  อร่อยมากกก








โปรแกรมเที่ยวของเราแก๊งหอยทากทัวร์ เราไม่ได้แพลนอะไรไว้ล่วงหน้า  เพราะเปลี่ยนจากทริปฮ่องกงมามาเก๊ากระทันหัน  โปรแกรมแรกของวันนี้  เราจะไป  Venetian กันก่อนแล้วกัน  จากโรงแรมเดินไปประมาณ 350 เมตร ไปขึ้นรถเมล์ สาย 25 นั่งไปประมาณ 15 ป้าย ไปลงป้าย  City of Dream (ไม่ต้องนับป้ายนะคะ ดู google map ตามไปง่ายมากค่ะ  ฝั่งตรงข้ามเป็น Venetian เด่นมาก  
เห็นตึกนี้เตรียมลงได้แล้วค่ะ  



รถเมล์จะจอดป้ายหน้า City of Dream 


ฝั่งตรงข้ามเป็น Venetian 


ข้ามถนนชมวิวไป




 

ด้านหน้ามีเราไม่เข้าค่ะ  หลงทางมาเข้าด้านข้างซึ่งเป็นทางเข้าโรงแรม  แต่เข้าไปได้ค่ะ  ไป Shopping Mall ชั้น 3 ค่ะ 


ถึงแล้วจ้า.... คาสิโนสักตาดีมั้ย  แฮร่ๆๆๆ  ... ดูตังในกระเป๋า  อย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่าาาาา ....








เดินผ่าน Food Court   อาหารน่าทานดีนะ  แต่เพิ่งทานกันมา อดเสียตังเลย ...






ได้เวลาถ่ายรูป 
























ไม่ถ่ายห้องน้ำเดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึง  


เดินหลงไปหลงมา หาทางออกชักไม่เจอ  พอจะกลับถึงค่อยเจอทางเข้าโถงใหญ่  อลังการ สวยงาม