DADDY HELMETS 

จากจุดเริ่มต้นการขับขี่ จนมาถึงปัจจุบัน ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆสำหรับทุกคนที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
และ หมวกกันน็อค เป็นปราการด่านแรก ที่นักขับขี่หลายๆท่าน ต้องพินิจคิดถึงเป็นอย่างแรกๆ
คิดถึงอะไรบ้างล่ะ ??
1 - รูปทรง
2 - การใช้งาน 
3 - ราคา 
ซึ่งทั้งสามอย่างที่กล่าวมา แต่ละคนย่อมมีวิธีตัดสินใจและเลือกสรรค์หมวกกันน็อคของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป
ในวันนี้ ทางทีม just-ride-it ได้มีโอกาสทดสอบการใช้งานหมวกกันน็อครุ่นใหม่ 
ที่ทาง PANDA RIDER https://www.facebook.com/PandaRiderDotCom/ กำลังจะนำเข้ามาจำหน่ายในเร็ววันนี้
อ่ะบอกไปเลยละกันว่า พฤศจิกายน มาแน่นอน 
แต่ก่อนจะมาวางจำหน่ายนั้น เราได้รับหมวกที่เป็นตัว DEMO มาทดลองใส่ใช้งานครับ ระยะทางและเวลาสั้นๆ 
บทความนี้จึงใช้คำว่า รีวิว มิได้ ขอใช้คำว่า พรีวิว แทนแล้วกัน
เดี๋ยวมันจะยาวไป เกริ่นนำทีไรไหลตลอด ตัดเข้ามาที่ตัวหมวกกันน็อคกันเลยดีกว่า 
หมวกกันน็อค DADDY HELMETS ที่ได้ลองสอดใส่ในครานี้คือรุ่น Gemini ครับ 

ซึ่งจริงๆเป็นรุ่นที่มีวางจำหน่ายก่อนหน้านี้แล้วล่ะ และรุ่นก่อนหน้าตอนนี้มีจัดโปรราคาพิเศษอยู่ด้วย 
เนื่องจากเจ้า GEMINI รุ่นใหม่ที่กำลังจะจัดจำหน่ายเปิดตัวมาด้วยราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่าเดิม 
เพิ่มเติมด้วยของแถมที่จัดว่าจบในคราวเดียว เช่นบลูทูธ

ในบทความนี้เรื่องบลูธูทผมขอข้ามไปเลยแล้วกันครับ เพราะจริงๆตัวหมวกเองเบื้องต้นบอกได้อย่างนึงว่าคุณภาพเกินจากราคาขายไปไกล
จนบางทีก็แอบสงสัยว่านี่พี่ๆขายเอามันส์กันหรือเปล่า

มากล่าวถึงเฉพาะเรื่องหมวกเพียงอย่างเดียวว่าในราคา 2,490-2,590เนี่ย
มันคุ้มค่ามากพอกับเงินที่รออยู่ในกระเป๋าท่านๆหรือไม่อย่างไร
เพราะอย่างที่ทราบกันดีครับว่า ปัจจุบันหมวกกันน็อค ราคาราวๆนี้มีจำหน่ายมากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ 
และด้วยงาน ภารกิจหลายๆอย่างที่ผมทำทุกวันนี้ ผมโชคดีอย่างนึงคือมีโอกาสได้ทดลองสอดใส่ หมวกกันน็อคหลายรุ่น หลายยี่ห้อ 
ก็ขอเปรียบเปรยแบบไม่อ้างอิงถึงยี่ห้อใดๆละกัน แต่อ้างอิงถึงราคาก็พอ
ราคา+คุณภาพของรุ่น GEMINI เวอร์ชั่นใหม่เนี่ย เทียบเคียงได้กับหมวกกันน็อคราคา ครึ่งหมื่น ได้สบายๆครับ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง วัสดุ ต่างๆ หรือมาตรฐานความปลอดภัย
ผ่านมาตรฐาน ECER22-05 ซึ่งมาตรฐานตัวนี้บางคนบอกว่ามันบ้านๆ สู้นู่น นี่ นั่นไม่ได้
อันที่จริงมันเป็นมาตรฐานระดับที่สูงอยู่ครับ วิธีทดสอบเพื่อรับรองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ECE เป็นการรับรองมาตรฐานหมวกนิรภัยที่ได้รับการยอมรับจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และการแข่งต่างๆ เช่นกัน การทดสอบ ECE จะเข้มงวดและค่อนข้างทันสมัย โดยการทดสอบพื้นฐานจะเหมือนกับ DOT และ Snell ทั้งหมดอยู่แล้ว แต่จะมีการทดสอบพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือ
การดูดซับแรงกระแทกโดยการวางหมวกกันน็อกลงบนพื้นแบน
วัสดุสายรัดคางถูกทดสอบแรงดึงที่มากกว่า 670 ปอนด์
การทดสอบความทนทานของหมวกต่อการเสียดสีกับพื้นถนน
หากต้องการได้รับการรับรอง ECE ผู้ผลิตจะต้องส่งชุดการผลิตจำนวน 50 ชุดสำหรับการทดสอบอิสระ การทดสอบจะกระทำในห้องทดลองของบุคคลที่สามโดยมีพยานทั้งจากผู้ผลิตและ ECE เพื่อให้การรับรอง
รหัส R ย่อมาจาก Regulation หมายเลข 22 ส่วน 05 คือในส่วนของใช้งานกับรถจักรยานยนต์ โดยมาตรฐานการตรวจสอบจะเทียบเท่ากับ DOT แต่จะมีความละเอียดมากกว่า 
และที่สำคัญมี มอก ด้วยนะ ปั๊ดโถ่วววว เดี๋ยวจะหาว่าไม่ผ่านมาตรฐานของประเทศไทย


ชิลด้านหน้า หนาแต่ไม่หลอกตา 
ไม่หลอกตาในที่นี้หมายถึงเมื่อเลื่อนชิลหน้าลงมาปิดภาพที่เห็นจะไม่เกิดการบิดเบี้ยว เส้นถนนตรงๆมองไปแล้วมันไม่โค้งอันนี้ถือว่าผ่าน 
เดี๋ยวก่อนนนน ชิลหน้ารอบนี้มีติด PinLock กันฝ้ามาให้จากโรงงานเลยด้วยนะ ใครไม่ชอบอยากถอดออกทีหลังก็ได้
แต่ทำไมเค้าถึงติดมาให้เลยล่ะ ไม่แยกเป็นแพ็คเกจมาให้ติดเอง 
สองพันครึ่ง ย้ำ ราคาสองพันครึ่ง ... 
การที่ติดพินล็อคมาให้เลยก็ถือเป็นการลดต้นทุนแพ็คเกจ เพื่อที่จะสามารถทำราคาหมวกออกมาให้อยู่ในเรตนี้ได้
อันนี้ในเรื่องของแง่มุมธุรกิจนั่นแล 
อ่อเรื่องพินล็อคมีข้อสังเกตเล็กน้อยครับ ตัวที่ติดมาขอบพินล็อคจะทำมุมตกกระทบกับแดดช่วงสายและบ่ายอยู่บ้าง 
มุมหักแหแสงเข้าเบ้าตาพอดีคือมันจะเรืองแสงคล้ายไปนีออนจนแอบๆแสบตาแต่ก็แค่ช่วงเวลานึงไม่นานเท่าไหร่หากไม่ชอบตรงจุดนี้ก็ถอดๆไปได้
แว่นกันแดดด้านในก็ไม่หลอกตาเช่นกันเลื่อนลงมาได้เยอะแสงลอดน้อย เพราะบางรุ่นเลื่อนมาได้แค่นิดเดียว 
แสงที่ลอดเข้ามาก็เยอะจนทำให้การใช้แว่นด้านในแทนที่จะสะดวกกลายเป็นชวนหงุดหงิด
ระบบล็อค ระบบเลื่อน ใช้งานง่าย







นวมด้านใน สอดใส่สบายเหมือนไม่ใช่วันนั้นเลยค่ะ 
ตรงนี้ออกตัวเลยว่ารุ่นก่อนหน้าตัวผมหัวผมเองค่อนข้างมีปัญหากับนวมด้านในแต่ก็เป็นเฉพาะคนนะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน
คือเนื้อผ้าที่บุมันบาดแก้มบาดหูอยู่บ้างหากไม่ได้ใส่โม่งหรือผ้าบัฟ ใส่นานๆแอบบีบขมับต้องคอยจอดพักหัวเป็นระยะ
แต่พอเป็นตัวใหม่ เข้!!!! ดีงามมม งานฟิตติ้งดีขึ้นจนรับรู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สอดใส่ นวมนุ่มแต่กระชับเข้ากับรูปทรงหัวของผมที่มีสมองน้อยๆได้ดี
และเปลือกหมวกมีขนาดตามนวมที่เปลี่ยน ซึ่งรุ่นก่อนหน้าเปลือกหมวกมีแค่ไซส์เดียว 
ลวดลายก็สวยดีด้วย อารมณ์แบบภายนอกก็ดูดีภายในก็ดูเด่น ตอดรับสรีระของศรีษะได้อย่างพอดี
สายรัดคางแบบ DD RING 
นวมถอดซักได้
แผ่นปิดใต้คาง
มีเบ้าสำหรับบลูทูธ ซึ่งเซาะไว้ลึกพอสมควรครับ รองรับกับหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงตัวที่แถมมาด้วยเช่นกัน 







เรื่องการเก็บเสียงลมและแอโร่ไดนามิค
นี่อาจจะเป็นเรื่องเดียวที่ทุกครั้งผมไม่เคยแจ้งและไม่ค่อยกล่าวถึง เพราะหูใครหูมันจริงๆ 
แต่จากที่ลองใช้งานก็มีเสียงลมเข้าบ้าง(เอาจริงๆใส่ใบไหนกี่บาทผมก็ได้ยินเสียงลมเข้าทุกรุ่นอ่ะ 555) 
ส่วนแอโร่ไดนามิคทำมได้ดีตั้งแต่รุ่นก่อนแล้วครับ ใครที่เคยใช้งานมาคงจะทราบแหล่ะ
ลู่ลมได้ดีจนถึงความเร็วสูง หากเกิน140ขึ้นไปก็มีแรงต้านลมบ้าง 
แต่ก็ไม่ได้ต้านรุนแรงนัก หันซ้าย-ขวา หน้ายังไม่สะบัดตามแรงลม อันนี้ค่อนข้างน่าพอใจมากกับหมวกราคานี้ 
รูระบายลมใช้งานได้จริงแอร์โฟลด้านในดีครับ เหมาะกับอากาศหนาวเมืองไทยมากๆ(เมืองไทยหนาวตอนไหนบ้างงง)
วิงด้านหนังเดี๋ยวก็มีของเล่นหลากสีมาให้เลือกตกแต่ง





เบื้องต้นที่จะพรีวิวให้ได้ทราบกันก็มีเพียงเท่านี้ครับ
กับหมวกกันน็อคราคา สองพันครึ่ง ซึ่งคุณภาพเทียบได้กับหมวกราคาครึ่งหมื่นเลยทีเดียว
และมีของแถมเป็นบลูทูธคุณภาพเอาเรื่องอยู่แหล่ะ แต่ไม่กล่าวถึงละกันเพราะมันดูเอาเปรียบหากเทียบกันกับรุ่นอื่นที่ราคาไล่กัน
บทความนี้จึงมุ่งเน้นความสำคัญไปที่ตัวหมวกกับราคามากกว่าของแถมครับ คือของมันดีอ่ะ ว่ากันง่ายๆแบบนี้เลยดีกว่า
สุดท้ายไม่ต้องเชื่อที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดหรอกครับ 
ทางที่ดีไปลองด้วยตัวเองซะ ชอบหรือไม่ตัดสินใจด้วยตัวเอง บทความนี้เป็นแค่ส่วนนึงให้คุณๆได้พิจรณา
เพราะหัวของเราไม่เท่ากัน ตังค์ในกระเป๋าก็เช่นกัน ฮืออออ